สวัสดีค๊า วันนี้อิ้มจะพาไปพักผ่อน
Design Resort สุดหรู บรรยากาศดี
ติดทะเล พัทยากันที่นี่ก็คือ
Veranda Resort Pattaya Na Jomtien – Mgallery
หากใครกำลังหา
ที่พักมาผ่อนคลาย บำบัดหัวใจ
และยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ
ขับรถเพียง 2 ชั่วโมงนิดๆ ที่นี่คือตอบโจทย์มาก
Veranda Resort Pattaya Na Jomtien – Mgallery
ตั้งอยู่แถวนาจอมเทียน
มาในคอนเซ็ปต์ของ Lifestyle By The Sea
พักผ่อนชิลล์ๆ ริมทะเล
บรรยากาศภายในก็จะสบายๆ มีความรีแลกซ์
มุมไฮไลท์ของที่นี่ อิ้มยกให้สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำหินอ่อนแบบ อินฟินิตี้พูล
มาพร้อมเก้าอี้ดีไซน์เกร๋
ที่ใครมาแล้วไม่มาเช็คอินมุมนี้ถือว่ามาไม่ถึง
นอกเหนือจากการถ่ายภาพ
อิ้มชอบดีไซน์ของสระว่ายน้ำมาก สวยงามทุกจุด
เวลาเราลงไปว่ายน้ำในสระอินฟินิตี้พูลแบบนี้
ก็ยิ่งทำให้เหมือนเราว่ายน้ำอยู่กลางทะเล
ดีต่อใจที่สุด
ส่วนของห้องพักจะแบ่งเป็นสองส่วน
คือส่วน รีสอร์ตและเรสสิเด้นท์
มีหลากหลาย type หลายแบบ
ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า
ทั้งสายคู่รัก ครอบครัว แฟมิลี่
ใครงบเยอะแนะนำพักรีสอร์ต
เพราะจะอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหาร
และห้องพักบาง Room type
ก็เห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวทะเลแบบเต็มตา
ส่วนใครงบไม่มาก แนะนำพักโซนเรสสิเด้นท์
เพราะราคาห้องพัก
เริ่มเพียงสองพันกว่าบาทเท่านั้น
แต่สามารถใช้ Facilities ของทางรีสอร์ตได้ทั้งหมด
ภายในห้องก็ดีงาม กว้างขวาง น่าอยู่ ใช้ได้เลยค่ะ
แต่อาจจะไกลส่วนกลางไปสักนิดเท่านั้นเอง
และใครชอบทำสปาต้องฟินแน่นอน
เพราะเค้ายกแบรนด์สปาชั้นนำ
อย่าง Let’s Relax Spa มาอยู่ที่นี่ด้วย
มาพร้อมกับทรีตเมนต์สูตรพิเศษ
ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน
จากสมุนไพรธรรมชาติ 100%
เพื่อเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย
และช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้อย่างดี
นอกจากนั้นยังเป็นสมุนไพรที่อ่อนโยน
เหมาะสมกับผิวพรรณทุกประเภท
ไม่ว่าผิวหรือร่างกาย
เผชิญปัญหาจากการอาบแดด
หรือต้องการเพิ่มความผ่อนคลายให้กับร่างกาย
Let’s Relax Spa ก็สามารถตอบโจทย์
ทุกความต้องการได้เป็นอย่างดี
สำหรับห้องอาหารเค้าก็มีทั้งร้านอาหารและบาร์
ส่วนที่อยากแนะนำคือ
1.I Sea Sky
ห้องอาหาร และ Rooftop Bar วิวเทพ
ถ้าอากาศดีจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยมาก
และมีมุมสะพานกระจก
มองเห็นวิวทะเลในมุมสูงแบบสุดลูกหูลูกตา
บรรยากาศสวยงาม
เหมาะกับการพาคนรัก
มาดื่มดำดินเนอร์ในบรรยากาศพิเศษ
อีกห้องอาหาร นึงจะเป็นห้องอาหารหลักที่ชื่อว่า
THE DECK เปิดให้บริการแบบ All-day Dining
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึงค่ำ อาหารก็มีหลากหลายสไตล์
สั่งทานกันได้แบบเพลิดเพลิน
ติดกันกับโรงแรมจะมีคาเฟ่ชื่อว่า Skoop Beach Café
คาเฟ่น่ารักๆ ริมทะเล ซึ่งหากไม่ได้เข้าพัก
ก็แวะมาทานได้น๊า มีทั้งโซนห้องแอร์และ ริมทะเล
มีขนมและเครื่องดื่มให้ทานเยอะมาก
ใครสายคาเฟ่บอกเลยต้องมาเช็คอินค่ะ
เอาหล่ะเดี๋ยวตามอิ้มไปพักผ่อนกันต่อ ในรีวิวนี้นะคะ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ต
https://th-th.facebook.com/verandaresortpattaya/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@psstorytrip
Tik Tok : https://www.tiktok.com/@psstorytrip
รีสอร์ทอยู่ในซอยนาจอมเทียน 4
การเดินทางสามารถใช้เส้นมอเตอร์เวย์
หรือเปิด GPS มาก็ได้สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญทาง
หากมาถึงแล้วดรอปกระเป๋า
แล้วเดินลงมายังล็อบบี้ได้เลยค่ะ
ล็อบบี้ที่นี่จะอยู่ชั้นล่าง
ตาม Concept ที่ว่าอยู่ใต้โลกท้องทะเล
ภายในจะมีที่นั่ง เหมือนโขดหินต่างๆ
ให้โทนสีเป็นสีน้ำตาล เหมือนหาดทราย
และด้านบนเพดาน
ยังมีฝูงปลากระเบนขนาดใหญ่ ที่ว่ายไปมา
ออกแบบได้สวยงามและละเอียดมากค่ะ
ทานเวลคัมดริ้งค์ให้ชื่นใจกันสักนิด
สีฟ้าสดใสเหมือนสีของน้ำทะเล
ส่วนที่พักด้านในจะแบ่งเป็นสองส่วน
คือส่วน รีสอร์ตและเรสสิเด้นท์
ใครงบเยอะแนะนำพักรีสอร์ท
เพราะจะอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหาร
และห้องพักบาง Roomtype
ก็เห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวทะเลแบบเต็มตา
ส่วนใครงบไม่มาก แนะนำพักโซนเรสสิเด้นท์
เพราะราคาห้องพัก
เริ่มเพียงสองพันกว่าบาทเท่านั้น
แต่สามารถใช้ Facilities ของทางรีสอร์ตได้ทั้งหมด
ภายในห้องก็ดีงาม กว้างขวาง น่าอยู่ ใช้ได้เลยค่ะ
แต่อาจจะไกลส่วนกลางไปสักนิด
และวิวบางห้องไม่เห็นทะเล
ตรงล็อบบี้จะมี
THE GLASS ROOM – ESPRESSO BAR
คาเฟ่เก๋ๆ ที่ถูกออกแบบให้เสมือนเรือดำน้ำ
เหมือนเราอยู่ใต้โลกท้องทะเลจริงๆ
ภายในมีทั้งขนมและเครื่องดื่มให้เลือกทาน
สำหรับห้องพักจะแบ่งเป็น 2 ส่วน
คือรีสอร์ท และ เรสสิเด้นท์
แบ่งตามประเภทได้ดังนี้
Veranda Resort
– Seascape (King)
– Seascape (Double Queen)
– Seascape Ocean View
– Sea Breeze
– Ocean Front
– Family Pool Suite
– Sky Pool Villa
Veranda Residence
– 1-Bedroom Residence
– 2-Bedroom Residence
– 3-Bedroom Sky Ocean View
– Pool Villa 3 Bedroom
อิ้มขอพามาชมในส่วนของ โซนเรสสิเด้นท์
กันก่อนนะคะ
เริ่มต้นที่ 1-Bedroom Residence
(ขนาด 32.30-34.50 SQM)
ออกแบบและตกแต่งออกมาได้น่าอยู่น่าพักผ่อน
ฟิลแอทโฮมมากๆ ค่ะ
ส่วนแรกจะให้ฟิลครัวเล็กๆ มีอุปกรณ์ต่างๆ
ไมโครเวฟ อ่างล้างจาน ครบครัน
มีโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ท่านให้ด้วยค่ะ
ถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่น
และห้องนอน 
ภายในห้องน้ำ 
อีกห้องจะเป็น 2-Bedroom Residence
เป็น 1 เตียงใหญ่ และเตียง 2 ชั้น
ใครมากับครอบครัวใหญ่อิ้มแนะนำห้องนี้เลยค่ะ
ส่วนแรกเป็นครัวเช่นกัน มีตู้เย็นขนาดใหญ่ให้ด้วย
สะดวกสบายมากกก
ส่วนห้องนั่งเล่นเค้าก็กว้างขวาง
มีบัลโคนี่ออกไปชมวิว ชิลทะเลด้วยนะคะ
นอกจากนั้นยังมีโต๊ะทานอาหารให้ด้วย ดีงามสุดๆ
มาดูห้องนอนกันต่อค่ะ 
ห้องนอนเล็ก สำหรับน้องๆ หนูๆ 
มีห้องน้ำในตัวเลย 
ห้องนอนหลักค่ะ 
มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน 
กลับมาที่โซนรีสอร์ตค่ะ
เริ่มที่ FAMILY POOL SUITE
ห้องขนาด 79 ตรม สายครอบครัว แนะนำห้องนี้
สะดวกสบายมากกกก มีห้องนอน 2 ห้อง
ทั้งห้องคุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นเตียงคิง
และห้องคุณหนูที่เป็นเตียง 2 ชั้น
และที่สำคัญ ห้องนี้มีสระว่ายน้ำอยู่ที่ริมระเบียง
ดีต่อใจที่สุด
ส่วนแรกของห้องเป็นมุมนั่งเล่นค่ะ
มีโซฟาตัวยาวนอนเอนกายได้อย่างเพลิดเพลิน 
ต่อมาเป็นห้องน้องๆ หนูๆ 
และห้องนอนหลัก ของคุณพ่อ คุณแม่ 
ด้านนอกสามารถเปิดประตู
แล้วเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย สะดวกสบายมากกก
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำค่ะ 
มีอ่างอายน้ำแช่ตัวด้วย 
ด้านนอกสระว่ายน้ำก็ขนาดใหญ้เลยค่ะ
แช่ตัว เล่นได้สบายๆ
SEA BREEZE
ห้องนี้กว้างขึ้นมาด้วยขนาด 45 ตรม
ภายในห้องกว้างขวาง มี Bathtub
และมี Balcony พร้อม Day Bed
นั่งชมวิวชิลๆ รับลมทะเล ฟินสุดๆ
ส่วนแรกของห้องจะเป็นห้องน้ำค่ะ
ห้องนี้จะมีความเซ็กซี่นิดๆ
เหมาะสำหรับคู่รัก เพราะมีอ่างอาบน้ำอยู่ด้านนอก
ห้องนี้จะมีความเงียบสงบ
เห็นวิวสวนและต้นไม้ สดชื่น สบายตา
มาถึงห้องที่อิ้มพักค่ะ Ocean Front
ขนาด 40 ต.ร.ม. ซึ่งอยู่ด้านหน้าตึก
Room type นี้จะมีแค่ 10 ห้องเท่านั้น
ความพิเศษของห้องนี้ก็คือ วิวสวยมาก
เห็นทั้งสระว่ายน้ำและวิวทะเลแบบเต็มคา
ห้องกว้างขวาง เตียงนอนขนาด 8 ฟุต
นอนสบายมากกกก
เตียงกว้างๆ แบบนี้เลยค่า
มีน้อน ปลาหมึกให้นอนกอดด้วยนะ
อิ้มชอบโทนสีห้องแบบนี้มาก ดูแล้วสบายตาสุดๆ 
ภายในห้องน้ำแยกสัดส่วนได้ดีมากค่ะ 
ความพิเศษของห้องนี้ก็จะมีอ่างอาบน้ำ
อยู่บริเวณมุมห้อง ห้องนี้จะไม่มีระเบียง
แต่จะเป็นประตูกระจกใสกั้น มองเห็นวิวทะเล
และสระว่ายน้ำได้อย่างเต็มตา
วิวแบบนี้ดีต่อใจที่สุด 
มองจากเตียงก็ยังเห็นวิวทะเลจ้า ชอบจัง 
วิวแบบนี้มองได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ 
สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก
ได้จากภายในห้องเลยค่ะ
ช่วงเย็นแสงพระอาทิตย์ตกสวยมาก 
มีความโรแมนติกสุดๆ 
ชมห้องพักเสร็จแล้วมาชมส่วนอื่นกันต่อนะคะ
มุมไฮไลท์ของที่นี่ อิ้มยกให้สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำหินอ่อนแบบ อินฟินิตี้พูล
มาพร้อมเก้าอี้ดีไซน์เกร๋
ที่ใครมาแล้วไม่มาเช็คอินมุมนี้ถือว่ามาไม่ถึง
นั่งสวยๆ มองวิวแบบเผลอๆ ก็ได้แล้ว 180 ภาพ 555 
มีจากุชชี่ให้แช่ตัวด้วยนะคะ 
นอกเหนือจากการถ่ายภาพ
อิ้มชอบดีไซน์ของสระว่ายน้ำมาก สวยงามทุกจุด
เวลาเราลงไปว่ายน้ำในสระอินฟินิตี้พูลแบบนี้
ก็ยิ่งทำให้เหมือนเราว่ายน้ำอยู่กลางทะเล
ดีต่อใจที่สุด
อิ้มชอบในทุกๆ มุมของสระว่ายน้ำเลยค่ะ
มองทางไหนก็เพลินตา เพลินใจ
นั่งเล่นมุมนี้ เหมือนอยู่ในห้องส่วนตัว
พร้อมกับวิวทะเลสวยๆ
มีทางเดินไปริมทะเลด้วยค่ะ
มุมนี้อิ้มว่าถ่ายภาพสวยเช่นกัน
ใครชอบนั่งชิลๆ มองวิวทะเลต้องมุมนี้ค่ะ 
และใครชอบทำสปาต้องฟินแน่นอน
เพราะเค้ายกแบรนด์สปาชั้นนำ
อย่าง Let’s Relax Spa มาอยู่ที่นี่ด้วย
ราคาก็ดีงาม จับต้องได้ 
ก่อนทำสปาก็จะมีการ ATK เพื่อความปลอดภัยนะคะ 
พอได้ผลตรวจก็มาเริ่มเลือกทรีตเม้นท์กัน 
Let’s Relax Spa
มาพร้อมกับทรีตเมนต์สูตรพิเศษ
ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน
จากสมุนไพรธรรมชาติ 100%
เพื่อเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย
และช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้อย่างดี
นอกจากนั้นยังเป็นสมุนไพรที่อ่อนโยน
เหมาะสมกับผิวพรรณทุกประเภท
ไม่ว่าผิวหรือร่างกาย
เผชิญปัญหาจากการอาบแดด
หรือต้องการเพิ่มความผ่อนคลายให้กับร่างกาย
Let’s Relax Spa ก็สามารถตอบโจทย์
ทุกความต้องการได้เป็นอย่างดี
บรรยากาศภายใน เงียบสงบ
มีเสียงเพลงเปิดเบาๆ คลอๆ
รู้สึกเงียบ สงบ มีสมาธิ อย่างเห็นได้ชัด
อิ้มชอบมุมที่นั่ง และเพดานด้านบน
มองเห็นแสงไฟเล็กๆ ซึ่งเป็น Fiber optic stars
เหมือนเห็นดาวระยิบ ระยับบนท้องฟ้า
ทรีตเม้ท์เค้ามีให้เลือกทำเยอะมากค่ะ 
อิ้มเลือกเป็นอโรม่า 60 นาที
เค้าก็จะมีน้ำมันมาให้เลือก
ซึ่งน้ำมันก็มีหลายกลิ่น หอมมากๆ เลือกไม่ถูกเลยค่ะ
สุดท้ายไปจบที่ Relaxing
เพราะได้กลิ่นแล้วรู้สึกผ่อนคลายที่สุด
จากนั้นก็รับ Welcome Drink
พร้อมกรอก ข้อมูลและประวัติส่วนตัว
หลังจากนั้น
เค้าก็จะให้เราเข้ามายังห้องทรีตเม้นท์ค่ะ
ซึ่งห้องที่อิ้มทำจะมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
รวมถึงอ่างอาบน้ำ เรียกว่าเป็นห้องที่ครบครันมาก
บรรยากาศในห้องทรีตเมนท์ก็รีแลกซ์มาก
ด้วยกลิ่นละมุนของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ
พร้อมเสียงเพลงเพราะๆ เบาสบาย
เพลิดเพลินและผ่อนคลายตั้งแต่สัมผัสแรก
นวดเสร็จเค้าก็มีเครื่องดื่มร้อนๆ พร้อมขนม
มาให้ทานเพื่อปรับสมดุลร่างกาย
ต้องบอกว่ารีแลกซ์สบายตัวมาก
เทอราพิสที่นี่เก่ง
และผ่านการเรียนรู้ทั้งในด้านทฤษฎี
และฝึกฝนด้านปฏิบัติมาอย่างดีเยี่ยม
เชี่ยวชาญด้านการนวดบำบัดอย่างแท้จริง
รอบหน้าอิ้มมาแถวนี้
จะต้องพาร่างกายกลับมาผ่อนคลายอีกแน่นอน
มาชมห้องอาหารกันบ้างค่ะ
ขอเริ่มที่ THE DECK
เปิดให้บริการแบบ All-day Dining
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึงค่ำ
อาหารก็มีหลากหลายสไตล์
สั่งทานกันได้แบบเพลิดเพลิน
ห้องอาหาร THE DECK จะอยู่ชั้นล่างสุด
ของอาคารโซนหน้าสุดค่ะ
มีมุมชิงช้าให้นั่งเล่นด้วยนะ 
ในช่วงนี้เค้าจะเสิร์ฟอาหารเช้า
เป็นแบบ a la carte buffet
เนื่องจากเป็นเรื่องของความปลอดภัย
ข้อดีของการเสิร์ฟแบบนี้ก็คือทำจานต่อจาน
เสิร์ฟ ร้อนๆ ส่วนตัวอิ้มก็ชอบแบบนี้นะ
และไม่ต้องกลัวจะน้อยไปไหม
เราสามารถสั่งทานได้เรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่มเลยค่ะ
อิ้มถูกใจสิ่งนี้ >< หมูปิ้งพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว 
และมีอาหารไทยแบบจานเดียว
กระเพราทะเลคือเครื่องแน่น จัดจ้านมาก
อิ่มฟินกันไปสำหรับมื้อเช้าค่ะ 
มื้ออื่นๆ ก็มีทั้งเมนูไทย อินเตอร์
รสชาติอร่อย ราคาพอจับต้องได้
คอหมูทอด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วคือทานเพลินมาก 
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
กลมกล่อม ไข่แดงเน้นๆ ปลาหมึกแน่นๆ
ตัวซอสบอกเลยเข้มข้นมาก
ต้มยำทะเล เครื่องเยอะ รสชาติจัดจ้าน
ถูกปากคนไทยแน่นอน
ต่อมาจะเป็น I Sea Sky
ห้องอาหาร และ Rooftop Bar วิวเทพ
ถ้าอากาศดีจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยมาก
และมีมุมสะพานกระจก
มองเห็นวิวทะเลในมุมสูงแบบสุดลูกหูลูกตา
บรรยากาศสวยงาม
เหมาะกับการพาคนรัก
มาดื่มดำดินเนอร์ในบรรยากาศพิเศษ
ยามเย็นถ้าอากาศดี
เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ
โรแมนติกมากกกก
มุมสะพานกระจก บอกเลยต้องมาเช็คอิน 
ยืนมุมนี้คือวิวสวยมาก
เห็นทะเลแบบสุดลุกหูลูกตา
ใครกำลังหาร้านอาหารพาแฟนมาดินเนอร์แนะนำเลยค่ะ 
เป็นมื้อเย็นสุดพิเศษท่ามกลางบรรยากาศพิเศษ 
ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง 
ติดกันกับโรงแรม
จะมีคาเฟ่ชื่อว่า Skoop Beach Café
คาเฟ่น่ารักๆ ริมทะเล ซึ่งหากไม่ได้เข้าพัก
ก็แวะมาทานได้น๊า
มีทั้งโซนห้องแอร์และ ริมทะเล
มีขนมและเครื่องดื่มให้ทานเยอะมาก
มุมนี้คือคิ้วท์เวอร์ 
น่ารัก ละมุนไปหมด 
ทานขนมอร่อยๆ มองวิวทะเลสวยๆ
หลงรักบรรยากาศแบบนี้ที่สุด
บอกเลยใครสายคาเฟ่บอกเลยต้องมาเช็คอินค่ะ 
ส่งท้ายสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ 
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์
ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip
https://www.tiktok.com/@psstorytrip
psstorytrip 