Green Gallery Boutique Hotel Hua Hin

สวัสดีค่ะ
วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักผ่อน
บ้านพักตากอากาศริมทะเลบรรยากาศสุดคลาสสิกที่
Green Gallery Boutique Hotel Hua Hin

ที่นี่เป็นที่พักติดทะเลสไตล์โคโลเนียลร่วมสมัย
ผสมผสานความวินเทจ
เน้นสีขาว และสีเขียวอ่อน
ที่จะทำให้หัวใจได้ผ่อนคลาย
พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ที่พักติดทะเลบรรยากาศดี
ภายในมีห้องพักมีเพียง 13 ห้อง
อิ้มพัก Bellevue Beachfront Pool Villa
Pool Villa ส่วนตัว
ที่อยู่ริมทะล
ชิลมากกกกก รีแลกซ์สุดๆ บรรยากาศคือ
ตอบโจทย์การมาพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยม

ด้วยความที่เดิมที่นี่เป็น
บ้านพักของหม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล
พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
และหม่อมแสง ศตะรัต
โดยก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศแบบไทย
ผสมรูปแบบโคโลเนียล
ปัจจุบันบ้านพักสองชั้นหลังนี้
ได้รับการตกแต่งใหม่
ในแบบวินเทจประยุกต์กับศิลปะแนวใหม่
จนตอนนี้กลายเป็นที่พักบรรยากาศสบายๆ
และภายในบริเวณส่วนบ้าน
หลังใหญ่สีขาวริมทะเล
ยังมีห้องอาหารและคาเฟ่ริมทะเลชื่อ ลีฟวิ่งรูม บิสโทร
ใครไม่ได้พักก็สามารถแวะมาทานได้
เป็นร้านอาหารที่น่ารัก ขนาดกระทัดรัด
แต่การบริการและรสชาติอาหาร บอกเลยว่าเริ่ด
ภายในมีเครื่องดื่ม อาหารแบบไทยร่วมสมัย
อาหารฝรั่ง กาแฟเเละเค้กโฮมเมด ให้บริการ
เลือกทานกันได้ตามชอบ
ส่วนบรรยากาศและมุมที่นั่ง
มีหลากหลาย
ทั้งโซน indoor glass house ห้องกระจก
outdoor โซน Garden และริมทะเล
สามารถมานั่งทานได้ตั้งแต่มื้อกลางวัน
ไปจนถึงมื้อค่ำ
มานั่งชิลกับบรรยากาศ รับลมเย็นๆ
ท่ามกลางเสียงเพลงแนวเล้าจ์ แจ๊ส
เคล้าไปกับคลื่นเบาๆ
เป็นอะไรที่ดีต่อใจที่สุดเลยค่ะ
มาพักผ่อนที่นี่
เหมือนได้ย้อนวันวานของหัวหิน
ได้กลิ่นอายและบรรยากาศสุดคลาสสิก
มีเสน่ห์ที่สุดเลยค่ะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางโรงแรม
th-th.facebook.com/huahingreengallery/

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@psstorytrip

กรีนแกลอรี่ หัวหิน รีสอร์ท
เป็นที่พักริมทะเล ตั้งอยู่สุดซอยหัวหิน 51
ภายในมีที่จอดรถ สามารถจอดด้านใน
หรือด้านหน้าก็ได้ค่ะ

มาถึงแล้วก็เข้าไปเช็คอินด้านในล็อบบี้ได้เลยค่ะ
ล็อบบี้อาคารไม้สีเขียวอ่อนชั้นเดียว
บรรยากาศดูอบอุ่น

อ้อๆ ที่นี่เป็นโรงแรมที่เป็น Pet Friendly
ต้อนรับสัตว์เลี้ยง สามารถพาหมา แมว มาพักด้วยได้
โดยทางแรมจะรับสัตว์เลี้ยง
น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กิโล
คิดราคาเพิ่ม 500 บาทต่อ 1 ตัว
ที่นี่เป็นที่พักติดทะเลสไตล์โคโลเนียลร่วมสมัย
ผสมผสานความวินเทจ
เน้นสีขาว และสีเขียวอ่อน
ที่จะทำให้หัวใจได้ผ่อนคลาย
พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ที่พักติดทะเลบรรยากาศดี
ภายในมีห้องพักมีเพียง 13 ห้อง
ชิลมากกกกก รีแลกซ์สุดๆ บรรยากาศคือ
ตอบโจทย์การมาพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยความที่เดิมที่นี่เป็น
บ้านพักของหม่อมเจ้าเราหินาวดี ดิศกุล
พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
และหม่อมแสง ศตะรัต
โดยก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศแบบไทย
ผสมรูปแบบโคโลเนียล
ปัจจุบันบ้านพักสองชั้นหลังนี้
ได้รับการตกแต่งใหม่
ในแบบวินเทจประยุกต์กับศิลปะแนวใหม่
จนตอนนี้กลายเป็นที่พักบรรยากาศสบายๆ
อาคารเดิมที่ว่าคือหลังนี้ค่ะ
สำหรับห้องพักที่จะตกแต่งคนละสไตล์เลยนะคะ
แบ่งออกเป็น 13 แบบดังนี้ค่ะ
– Silhouette standard
– Green Family Suit
– Chandelier Standard
– Lighthouse Family Suite
– Urbana pool view
– Coco pool view
– Retronist pool view
– Sea-thru pool view
– Woody sea side view
– Mona Lisa sea side view
– Erotico sea side view
– Blue and white beach front villa
– Bellevue Beachfront Pool Villa

ซึ่งวันนี้อิ้มจะพาไปชมบางส่วนเริ่มที่
Chandelier Standard
ห้องแชนเดอเลีย
เป็นห้องที่ลักษณะดูเรียบง่าย
ด้วยของตกแต่งและผ้าม่านสีเข้ม
ตัดกับสีภายในห้องและเฟอร์นิเจอร์สีขาว
โดยผู้ออกแบบ
ตั้งใจให้สีของผ้าม่านดูคล้ายสีระยิบระยับของน้ำทะเล
ที่เมื่อมองผ่านไปแล้ว
จะเห็นเป็นวิวทะเลจากหน้าต่างภายในห้อง
ขนาดห้อง 30 ตร.ม.
ห้องสำหรับ 2-3 ท่าน
ห้องนี้ไม่อนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก
ภายในน่าพักผ่อน
ให้ฟิลเหมือนมาบ้านพักตากอากาศเลยค่ะ
ห้องน้ำแยกสัดส่วนได้ดี
Lighthouse Family Suite
ห้องไลท์เฮาส์แฟมิลี่สวีท
เป็นห้องที่มีสีสันสดใส
รับกับวิวทะเลที่มองเห็นจากหน้าต่างภายในห้อง
จุดเด่นอยู่ที่ภาพเขียนบนกำแพง
รูปไลท์เฮาท์และปลาวาฬตัดกับฉากหลังที่เป็นทะเล
ห้องนี้จะเป็นห้องแบบ
Connecting room มีสองห้องนอนเชื่อมถึงกัน
เหมาะสำหรับมาเป็นกลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัว
ขนาดห้อง 30 ตร.ม ห้องสำหรับ 4 ท่าน
ห้องนี้ไม่อนุญาติให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก
ห้องนี้สีสันจะโดดเด่นขึ้นมา มีความสดใส น่ารัก
ส่วน Connecting room
อีกห้องจะเป็นเตียงแบบ 2 ชั้น
ภายในห้องน้ำเน้นโทนสีขาวฟ้า ดู สว่าง สดใส
Urbana pool view
ห้องเออบาน่า
เป็นห้องแนวคลาสสิค โมเดิร์นอีกห้อง
ด้วยโทนสีของห้องและเฟอร์นิเจอร์
รวมทั้งผ้าม่านสีน้ำตาล, เขียว
ตัดกับลายเพ้นท์ดอกไม้สีทองบนผนังหัวเตียง
ห้องนี้จึงดูหรูหรา กว้างขวาง
อีกทั้งยังมีระเบียงหน้าห้อง
สำหรับนั่งเล่นบนเก้าอี้ตัวโปรด
ขนาดห้อง 35 ตร.ม.
ห้องสำหรับ 2 ท่าน
ข้อดีของห้องนี้คิดอยู่ติดสระว่ายน้ำเลยค่ะ
อารมณ์เหมือน Pool Access
โดยรวมภายในห้อง
ภายในห้องน้ำ
หน้าห้องก็ลงสระว่ายน้ำได้เลยชิลๆ
Woody sea side view
ห้องในแบบเรโทร
ผนังหัวนอนอิฐเปลือยที่มีศิลปะแบบกราฟิคตี้
พ่นอยู่เกือบเต็มผนังให้อารมฌ์ดิบ มีความอาร์ต
ภายในห้องยังมีช่องหน้าต่างบานใหญ่ติดสระว่ายน้ำ
ไว้ให้นั่งเล่น
หรือจะขึ้นไปนอนเล่นบนดาดฟ้ารับวิวทะเลก็ได้
ขนาดห้อง 25 ตร.ม. ห้องสำหรับ 2 ท่าน
ห้องนี้ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยง
น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม 500.-ต่อตัว ต่อคืน
อิ้มชอบมุมหน้าต่างของห้องนี้มาก
มีความน่ารัก
ภายในห้องน้ำ
ถัดมาที่เตียงนอน
ห้องนี้คือเห็น sea view ด้วยน๊าาา
ชอบที่มองเห็นวิวทะเล
ห้องนี้มีความเกร๋สุดดดด
ขอถ่ายภาพกับุมุมนี้หน่อย
เป็นอีกห้องนึงที่อิ้มชอบมากเลยค่ะ
ด้านบนเค้าจะมีเทอเรส
สามารถมานั่งชิลผ่อนคลาย
รับลมเย็นๆ จากทะเลได้
และห้องที่อิ้มพัก
Bellevue Beachfront Pool Villa
บ้านติดทะเลมีสระว่ายน้ำและจากุ๊ซซี่
เหมาะสำหรับมาพักผ่อนเป็นครอบครัว
หรือเพื่อนๆมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมชายหาด
หรือสระน้ำส่วนตัว
พักได้ 4 ท่าน ห้องขนาด 45 ตรม.
ห้องนี้ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยง
น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม 500.-ต่อตัว ต่อคืน
Pool Villa ส่วนตัว
ที่อยู่ริมทะล
ชิลมากกกกก รีแลกซ์สุดๆ บรรยากาศคือ
ตอบโจทย์การมาพักผ่อนได้อย่างดีเยี่ยม
ภายในห้องเน้นโทนสีขาว มีความมินิมอลเบาๆ
จากห้องนั่งเล่นก็สามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้
สะดวกสบายมากๆ ค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกสัดส่วนได้ดี
มีมุมโต๊ะทำงาน มินิบาร์ และมุมนั่งเล่น
ความเตียงนอนนั้น สีขาว น่ารักละมุนสุดๆ
นอนสบตากับวิวทะเล
อ้อๆ ทีวีที่นี่ เป็นสมาร์ททีวี สามารถดู Netflix ได้ด้วยค่ะ
ชอบห้องนอนแบบนี้
ดูอบอุ่น ละมุน สบายตา
อีกฝั่งนึงจะเป็นมุมนั่งเล่น
ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ามากัน 4 คน
ตรงนี้จะถูกปรับเป็นเตียงนอนค่ะ
แต่นอนตรงนี้ก็เห็นวิวทะเลสวยๆ ได้อย่างเต็มตา
ส่วนที่อิ้มชอบมากๆ ของห้องนี้
คือบัลโคนี่ด้านนอกขนาดใหญ่
สามารถนั่งสบตากับท้องทะเลได้ทั้งวัน
มีเก้าอี้โยกให้นั่งเอนตัว ชิลสุดๆ
รักความสวย สงบ
อิ้มสามารถนั่งมองวิวทะเล แบบนี้ ได้ทั้งวัน
และสำหรับลูกค้าที่เข้าพัก
เค้าจะมีส่วนลดในการทานอาหารที่โรงแรม
รวมถึง Happy Hour ด้วยค่ะ
เวลามาหัวหิน อิ้มแนะนำให้ตื่นเช้า
เพราะเวลาพระอาทิตย์ขึ้น
สวย และ สงบ เหมือนเวลาหยุดเคลื่อนไหวเลยค่ะ
และจากโรงแรมก็สามารถเดินลงไปหน้าหาดได้เลย
ชอบที่ได้เหยียบพื้นทรายนุ่มๆ
รับแสงแดดอ่อนๆ ฟังเสียงลม มองดูทะเล
เป็นความสุขเล็กๆ ที่เติมเต็มใจได้อย่างสมบูรณ์
อ้อๆ ที่นี่เค้าจักรยานให้ยืมใช้ฟรี
ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ
และภายในบริเวณส่วนบ้าน
หลังใหญ่สีขาวริมทะเล
ยังมีห้องอาหารและคาเฟ่ริมทะเลชื่อ ลีฟวิ่งรูม บิสโทร
ใครไม่ได้พักก็สามารถแวะมาทานได้
Living Room Bistro Hua Hin
ร้านอาหารและคาเฟ่ติดทะเล
ในบรรยากาศสไตล์ ชิค-วินเทจ
ริมทะเลสุดซอยหัวหิน 51
เป็นร้านอาหารที่น่ารัก ขนาดกระทัดรัด
แต่การบริการและรสชาติอาหาร บอกเลยว่าเริ่ด
ภายในมีเครื่องดื่ม อาหารแบบไทยร่วมสมัย
อาหารฝรั่ง กาแฟเเละเค้กโฮมเมด ให้บริการ
เลือกทานกันได้ตามชอบ
ส่วนบรรยากาศและมุมที่นั่ง
มีหลากหลาย
ทั้งโซน indoor glass house ห้องกระจก
outdoor โซน Garden และริมทะเล
สามารถมานั่งทานได้ตั้งแต่มื้อกลางวัน
ไปจนถึงมื้อค่ำ
มานั่งชิลกับบรรยากาศ รับลมเย็นๆ
ท่ามกลางเสียงเพลงแนวเล้าจ์ แจ๊ส
เคล้าไปกับคลื่นเบาๆ
เป็นอะไรที่ดีต่อใจที่สุดเลยค่ะ

Living Room Bistro Hua Hin
⏱ เปิดบริการทุกวัน 11.00-23.00 น.
📞โทร. 032-530-485
📍 ริมทะเลสุดซอยหัวหิน 51

แต่ถ้าแขกที่พัก ก็มาทานได้ตั้งแต่มื้อเช้าเลย
ยามเช้าอิ้มนั่งใน โซน indoor glass house ห้องกระจก
บรรยากาศละมุนละไม
น่ารักมากกกกกก
เมนูอาหารเช้าจะสามารถสั่งได้ไม่อั้น
แต่เค้าจะให้สั่งทีละ 1 จานก่อน หากไม่อิ่ม
สามารถสั่งได้เรื่อยๆ ค่ะ
ข้าวต้ม ดี กับข้าวอร่อยสุดๆ
มาตรฐานอาหารคือดีงาม
ตรงนี้เป็นโซน Garden
สามารถนั่งชิลมุมนี้ก็ได้ค่ะ
ได้ฟิลสดชื่นไปอีกแบบ
มุมนี้เคาท์เตอร์บาร์ สีขาวละมุน
และที่นั่งมุมยอดฮิตริมทะเล
ใครอยากได้โซนนี้
แนะนำโทรจองก่อนนะคะ เพราะเต็มเร็วมาก
และจากห้องอาหารก็เดินลงทะเลได้เลย
อ้อๆ ที่นี่เค้าให้น้องหมา น้องแมว
เข้ามาทานได้ด้วย
เค้าจะแยกโซนพิเศษไว้
ใครมีน้องๆ มาทานด้วย แนะนำร้านนี้เช่นกันค่ะ
มาดูเมนูแนะนำ อิ้มขอแยกเป็นประเภทๆ นะคะ
เครื่องดื่ม
⭐️ Mango Moon
⭐️ Fruit Punch
⭐️ Green Gallery
⭐️ Smoothie Lynchee
อาหารยุโรป
⭐️ ซี่โครงหมูบาร์บีคิวเสริฟกับเฟรนช์ฟรายส์
⭐️ พิซซ่าแป้งบางกรอบหน้าลิฟวิ่งรูม
พิซซ่าแป้งบางกรอบหน้าลิฟวิ่งรูม
แป้งบางกรอบ เครื่องเยอะ ชีสแน่น
ซี่โครงหมูบาร์บีคิวเสริฟกับเฟรนช์ฟรายส์
ซี่โครงหมูบาร์บีคิว มีกลิ่นเครื่องเทศเบาๆ พอหอมๆ
รสชาติกลมกล่อม เข้มข้นเข้าถึงเนื้อ
ซี่โครงหมูล่อนไม่ติดกระดูก นุ่มมากก
อาหารไทย
⭐️ ห่อหมกทะเลในลูกมะพร้าวอ่อน
⭐️ แกงคั่วสับปะรดบางเบิดกับหอยแมงภู่
⭐️ ยำส้มโอปูนิ่มทอด
⭐️ น้ำพริกหลนปู

แกงคั่วสับปะรดบางเบิดกับหอยแมงภู่
กลิ่นแกงหอมเตะจมูก
เป็นแกงกะทิชนิดหนึ่งที่ให้รสชาติครบเกือบทุกรสคือ
เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ดนิดๆ
ผสมผสานกับความหวานอร่อย ของสับปะรดบางเบิด
และหอยแมงภู่ตัวโตสดๆ
สามารถนำมาราดลงบนข้าวสวยร้อนๆ
ทานทั้งคำ ฟินมากก
ห่อหมกทะเลในลูกมะพร้าวอ่อน
มีความเข้มข้น กลมกล่อมของพริกแกง
หอมมะพร้าว
และวัตถุดิบทะเลคือสด ตัวโต
อิ้มถูกใจสิ่งนี้
น้ำพริกหลนปู เสิร์ฟพร้อมผักสดนานาชนิด
ไม่เผ็ดมาก เน้นความ เค็ม หวาน และมันเป็นหลัก
เนื้อปูเยอะ สด หวาน เป็นอีกเมนูที่อิ้มติดใจ
ยำส้มโอปูนิ่ม”
มาพร้อมกับความแซ่บ
ด้วยรสชาติที่หลากหลาย
เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม ในเมนูเดียว
บวกกับปูนิ่มทอดกรอบนอกนุ่มใน
ทานคู่กันคือแจ่มเวอร์
ทานอาหารพร้อมบรรยากาศริมทะเลแบบนี้
มีความโรแมนติกที่สุด 😀
บรรยากาศช่วงค่ำ ก็ฟินไม่น้อย
ส่วนตัวชอบทั้งเมนูอาหารไทยและยุโรป
อาหารไทยรสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง
เป็นอาหารไทยร่วมสมัย ที่ทำออกมาได้ดี
และวัตถุดิบเริ่ด ยิ่งเมนูทะเลต่างๆ คือสด มาก
ใครมาเที่ยวหัวหินแล้วหาร้านอาหาร
หรือคาเฟ่น่ารักๆ ทานแนะนำที่นี่เลยน๊าา
และยามเช้า บรรยากาศจากหน้าวิลล่า
พระอาทิตย์ขึ้น มีแสงสาดอ่อนๆ เบาๆ
อิ้มสั่งอาหารเช้ามาทานในห้อง
เพื่อจะชิลกับบรรยากาศ
รัก ความสุข เรียบง่ายแบบนี้
เป็นที่พักที่ทำให้อิ้มหัวใจพองโตมากค่ะ
ส่งท้ายความสุขในรีวิว ด้วยภาพนี้นะค๊าาา

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ