Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya

สวัสดีค๊าา วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักผ่อนที่
Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya
( เมอเวนพิค สยาม โฮเทล นาจอมเทียน พัทยา )
โรงแรมยอดฮิต ขวัญใจใครหลายๆ คน
เพราะทุกพื้นที่ของที่นี่เต็มไปด้วยความสุข

เรียกว่าเป็นโรงแรมที่ครบเครื่อง
จัดจ้านในย่านนาจอมเทียนมาก
มาดูข้อดีของที่นี่กันค่ะ
อย่างแรกเลย
เค้าสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การพักผ่อน
ไม่ว่าคุณจะมาแบบคู่รัก กลุ่มเพื่อน ครอบครัว
หรือมาคนเดียวก็ยังได้
ส่วนตัวอิ้มชอบที่นี่มาก
ยิ่งเวลามาพักผ่อนกับคนรักยิ่งอบอุ่นหัวใจ
เราสามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
นั่งมองตากัน คุยกัน พักผ่อนได้ทั้งวัน
ทานข้าว ทานขนม แช่อ่างนอนดูดาว
แบบไม่ต้องออกไปไหน
ส่วนมื้อเย็น แนะนำ Romantic Dinner
ทานอาหารกับคนพิเศษ
ในบรรยากาศสุดโรแมนติกและเป็นส่วนตัว
นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินไปพร้อมๆ กัน
เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดีที่สุดเลยค่ะ

ต่อมาคือทำเล
โรงแรมอยู่ติดทะเลเลย
หน้าโรงแรมเป็นหาดส่วนตัว เงียบสงบ มาก
นอกจากนั้นห้องพักทุกห้องของโรงแรม
มองเห็นวิวทะเลทั้งหมด
มีอ่างอาบน้ำทุกห้อง
รวมถึงระเบียงขนาดใหญ่
สามารถนั่งสบตากับวิวทะเลได้ทั้งวัน

หากใครอยากมาพักที่นี่
อิ้มแนะนำให้จองห้องพักแบบรวมคลับเล้าจน์มา
หรือจองเป็นโปรรวมคลับมาเลย
เพราะว่า ปังมากกกกก
จะมีบริการพิเศษเพิ่มเติมที่ Panarama Club Lounge
เช้าก็มีอาหารเช้าให้ทาน
บ่ายก็มีของว่าง Afternoon Tea
ขนม เค้ก กาแฟ ชา ทานกันแบบ 2 ชั่วโมงเต็ม
และช่วงเย็นกับ ” Evening Cocktails “
ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-19.00 น.
ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พร้อมทาปาส ทานกันจุกๆ 2 ชั่วโมงเต็ม

ส่วนใครไม่ได้จองคลับมาก็อย่าน้อยใจไป
สำหรับแขกมาพักที่นี่ไม่ว่าจะห้อง type ไหน
ก็มาทานช็อคโกแลตฟรี
กับ Chocolate Hour 1 ชั่วโมงเต็ม
ทานกันแบบฟินๆ เลยจ้า
และอิ้มอยากแนะนำ กับห้องอาหาร
T55 New York Grill Room (สเต็กเฮ้าส์)
เค้ามีเนื้อดรายเอจ (Dry-aged)
หลากหลายประเภทชวนให้ลิ้มลอง
บอกเลยเป็นสวรรค์บนลิ้นของคนรักเนื้อ
เนื้อหลากหลายรายการคือดี อร่อยจริง ฟินสุด

และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย
ก็คือสระว่ายน้ำของเค้าค่ะ
สระว่ายน้ำน่าเล่นมาก
Lagoon Pool ของเค้ามาพร้อม สไลเดอร์ 2 ตัว
น้ำตกจำลอง และ
Wet Zone ที่มาพร้อมสัตว์จำลองพ่นน้ำมหาสนุก
และตอนนี้เค้าเพิ่ม Playground
สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง
พร้อมสไลเดอร์บก และเครื่องเล่นอีกมากมาย
ถูกใจสายครอบครัวแน่นอน

นอกจากนั้นสายโซเชียลยังมีมุมเกร๋ๆ
ที่น่าเช็คอินอีกหลายมุม
อัพเคทลงโชเชียลทีเพื่อนอิจฉาแน่นอน
#มาที่นี่ดาวติ๊กตอกต้องเกิด

เอาหล่ะค่ะ นี่เป็นแค่ข้อดีที่อิ้มสรุปมา
เดี๋ยวไปชมกันดีกว่า
ว่าที่นี่จะน่าพักขนาดไหน
ในรีวิวนี้เลยค่ะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ต
th-th.facebook.com/movenpickpattaya/

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@psstorytrip

Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya
( เมอเวนพิค สยาม โฮเทล นาจอมเทียน พัทยา )
ตั้งอยู่ที่หาดนาจอมเทียน
ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของพัทยา
ที่เต็มไปด้วยความสงบเงียบและเป็นส่วนตัว
ตัวโรงแรมตั้งเด่นเป็นสง่ามากก
การเดินทางก็สะดวกสบาย
ง่ายแสนง่าย
หากมาจากกรุงเทพ ให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์
ที่ตัดใหม่ขับมาสุดทางก็ถึงโรงแรมเลย
สะดวก สบายเกินไปไหมเนี่ย ><

โรงแรมยอดฮิต ขวัญใจใครหลายๆ คน
เพราะทุกพื้นที่ของที่นี่เต็มไปด้วยความสุข
เรียกว่าเป็นโรงแรมที่ครบเครื่อง
จัดจ้านในย่านนาจอมเทียนมาก
ความดีงามอีกอย่างก็คือ
ทำเลของโรงแรมอยู่ติดทะเลเลย
หน้าโรงแรมเป็นหาดส่วนตัว เงียบสงบ มาก
มาถึงแล้วก็มาเช็คอินกันค่ะ
และแน่นอนใครจะออกมาเที่ยวพักผ่อน
ในโรงแรม รีสอร์ต ช่วงนี้
ก็ต้องเลือกที่ ที่ปลอดภัย
และไว้ใจในการป้องกันโรค Covid-19

ซึ่งที่ Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
พอเข้ามาเช็คอินปุ๊ป เค้าก็เริ่มกระบวนการ
มาตรการป้องกันโควิดเลยค่ะ
พนักงานทุกคนที่นี่จะใส่ Mask หมด
และมีการตรวจวัดไข้
ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานทุกครั้ง

ส่วนลูกค้าก่อนเช็คอิน
จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก
โดยมีจอสแกนอุณหภูมิร่างกาย
และมีเจลแอลกอฮอล์ให้ตามจุดต่างๆ
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
หลังจากนั้นก็เดินสวยๆ ไปเช็คอินได้เลย
ห้องพักทุกห้องของโรงแรม
มองเห็นวิวทะเลทั้งหมด
มีอ่างอาบน้ำทุกห้อง
รวมถึงระเบียงขนาดใหญ่
สามารถนั่งสบตากับวิวทะเลได้ทั้งวัน
Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya
เป็น ตึกสูง 35 ชั้น
ประกอบด้วยห้องพัก 7 ประเภท ทั้งหมด 262 ห้อง
1) ห้องดีลักซ์วิวทะเล ขนาด 47-50 ตรม.
2) ห้องพรีเมี่ยมวิวทะเล ขนาด 50-55 ตรม.
3) ห้องแฟมิลี่ วิวทะเล
ขนาด 67-71 ตรม. (มีเตียงสองชั้น)
4) ห้องจูเนียร์ สวีท ขนาด 67-71 ตรม.
5) ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท
ขนาด 83-90 ตรม. (มีห้องรับแขก)
6) ห้องแฟมิลี่ สวีท ขนาด 120 ตรม. (2 ห้องนอน)
7) ห้องเพรสซิเนท์เชี่ยล สวีท
ขนาด 154 ตรม. (ห้องใหญ่ที่สุดและมีเพียงห้องเดียว)

ซึ่งวันนี้อิ้มพักผ่อนที่
ห้องเอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท
เหมาะสำหรับคู่รัก
ที่ต้องการมาพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวมาก
ขนาดห้อง 83-90 ตร.ม.
ห้องนี้มีความพิเศษ เพราะกว้างขวาง
เป็นห้องมุม เพราะฉะนั้นจะได้ทั้ง City View
และ Seaview มีห้องน้ำ ห้องแต่งตัว
ห้องนอน และห้องนั่งเล่น
แยกออกจากกันเป็นสัดเป็นส่วน

เริ่มที่ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet
ชอบห้องแต่งตัวแบบนี้จัง
ถัดมาจะเป็นโซนห้องน้ำ ซึ่งกว้างขวางมาก
ส่วนแรกจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบ his and her
มีของใช้ในห้องน้ำให้ครบครัน
ชอบในความที่เค้ามี bath gel ให้ตีฟอง
ใส่ใจในรายละเอียดมากๆ
Amenity ที่ใช้ในห้องน้ำ
จะเป็นของแบรนด์ Thann
ซึ่งเป็นแบรนด์โปรดปราณของอิ้มมาก
และเค้าไม่ได้ให้ในขวดเล็กๆ นะ
ใส่ขวดใหญ่ ใช้กันได้แบบเต็มที่
ให้มาขวดใหญ่แบบนี้ อิ้มฟินนน
และนี่คืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
สามารถแช่ตัวได้ 2 คน จะชม city view ก็ได้
หรือชมวิวทะเลก็ได้ เพลินใจสุดๆ
ตรงข้ามกันเป็นโซนสุขภัณฑ์และโซน shower
แยกออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน
ถัดมาจะเป็นห้องนอนค๊าาา
ปลายเตียงมีทีวีด้วยน๊าาา
เตียงนุ่มนอนแล้วรู้สึกความดูดวิญญาณ
มีมุมโซฟา นั่งเล่นชมวิวทะเลเกร๋ๆ
แสงอ่อนๆ ยามเย็นเป็นอะไรที่ดีต่อใจ
มินิบาร์ ชา กาแฟ น้ำเปล่าทานฟรี
อย่างอื่นเสียเงินนะจ้า
ถัดจากห้องนอนจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
และยังมีทีวีให้ดูไปอีกกกก
เท่ากับห้องนี้มีทีวีสองเครื่องแล้วนะ
ชอบโซฟา มุมนี้เห็นวิวทะเลแบบเต็มตา
นางแบบนั่งยิ้มให้ทะเลแล้วหนึ่ง
ด้านนอกมีระเบียงขนาดใหญ่
ชมวิวชิลทะเลได้ทั้งวัน
ต่อมาขอพามาชม
ห้องเพรสซิเนท์เชี่ยล สวีท ขนาด 154 ตรม.
(ห้องใหญ่ที่สุดและมีเพียงห้องเดียว)
เปิดมาด้านในคือต๊าชชชชชชมาก
ตกแต่งละมุน คุมโทน
ใช้สีเทา น้ำตาลอ่อน และสีฟ้า
ให้ความรู้สึกเหมือนคลื่นและทะเล
ส่วนแรกจะเป็นตู้เย็นและมุมมินิบาร์
ส่วนตัวมาคือห้องน้ำ
แยกสัดส่วนได้ดี
และที่อิ้มชอบมากคือเรื่องโทนสี ละมุนได้อีก
มีอ่างอาบน้ำให้แช่ตัวผ่อนคลายด้วยค่ะ
ห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet
ถัดมาจะเป็นห้องนอน มาพร้อมทีวีขนาดใหญ่
และมีมุมพักผ่อน มุมโต๊ะทำงาน
ถ้าได้ทำงานกับวิวแบบนี้
จะตั้งใจทำงานที่สู้ดดดดด
ถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่น
โซฟาคืออลังมาก
ในส่วนของวิวนั้น พาโนราม่าแบบเต็มตาสุดๆ
ชอบวิวแบบนี้จัง
มองทะเลได้แบบเต็มตา
ชมห้องพักเสร็จแล้ว มาชมส่วนอื่นๆ กันบ้างค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่น่าเล่นมาก
Lagoon Pool
สระน้ำแบบคลอรีนลึก1.2 เมตร
สระเด็กลึก 60 ซม
มาพร้อม สไลเดอร์ 2 ตัว
น้ำตกจำลอง และ
Wet Zone ที่มาพร้อมสัตว์จำลองพ่นน้ำมหาสนุก
และตอนนี้เค้าเพิ่ม Playground
สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง
พร้อมสไลเดอร์บก และเครื่องเล่นอีกมากมาย
ถูกใจสายครอบครัวแน่นอน
ความใส่ใจในรายละเอียดก็คือ
มีชูชีพของน้องหนูๆ ให้ด้วย
น่ารัก ดีเทลสุดๆ
สไลเดอร์นี้ผู้ใหญ่ก็เล่นได้นะจ้า
อันนี้สวนน้ำของน้องๆ หนูๆ
Wet Zone ที่มาพร้อมสัตว์จำลองพ่นน้ำมหาสนุก
สระว่ายน้ำช่วงนี้เปิดทุกวันแล้วนะคะ
ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00น.- 20.00น.
ตรงนี้มีบาร์ให้บริการด้วยค่ะ
เล่นน้ำไปสั่งเครื่องดื่มทานไป คือดีย์ คือชิลลล
ความอลังการของโรงแรมนี้
มีมุมให้นั่งพักผ่อนริมหาด
สามารถมานั่งชมวิว ถ่ายภาพเช็คอินได้
รีแลกซ์ที่สุด
ใครอยากมาพักที่นี่
อิ้มแนะนำให้จองห้องพักแบบรวมคลับเล้าจน์มา
หรือจองเป็นโปรรวมคลับมาเลย
เพราะว่า ปังมากกกกก
จะมีบริการพิเศษเพิ่มเติมที่ Panarama Club Lounge
เช้าก็มีอาหารเช้าให้ทาน
บ่ายก็มีของว่าง Afternoon Tea
ขนม เค้ก กาแฟ ชา ทานกันแบบ 2 ชั่วโมงเต็ม
และช่วงเย็นกับ ” Evening Cocktails “
ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-19.00 น.
ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พร้อมทาปาส ทานกันจุกๆ 2 ชั่วโมงเต็ม

Panorama Club Lounge ตั้งอยู่ที่ชั้น 3
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00น.
• 06.00น.-10.30น. – Breakfast
ให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์
และเมนูไข่แบบตามสั่ง
• 14.00น.-16.00น. – Afternoon Tea
ให้บริการชา กาแฟ คุ๊กกี้ ขนม เค้ก ไม่อั้น 2 ชั่วโมง
• 17.00น.-19.00น. – Evening Cocktails
ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมทาปาส
ไม่อั้น 2 ชั่วโมง
(ปัจจุบันทางโรงแรมฯ
ยังคงงดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในห้องอาหารและคลับเลาจน์
ตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรค จ.ชลบุรี)

ก่อนเข้าใช้บริการก็มีการตรวจวัดอุณหภูมิ
และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
ด้านในมีมุมนั่งหลายมุมเลยค่ะ
ที่อิ้มชอบมาก คือมุมวิวกระจกแบบนี้
เห็นวิวได้แบบเต็มตา
พวกเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้นี้
หยิบทานฟรีได้ตลอดทั้งวัน
ช่วงบ่ายก็มีของว่าง Afternoon Tea
ขนม เค้ก กาแฟ ชา ทานกันแบบ 2 ชั่วโมงเต็ม
อิ้มเพลิดเพลินมากกก
งื้ออออ ดูสวยและรวยมากสุดๆ 5555
ช่วงเย็นกับ ” Evening Cocktails “
ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-19.00 น.
ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พร้อมทาปาส ทานกันจุกๆ 2 ชั่วโมงเต็ม
(แต่ช่วงนี้งดเสิร์ฟแอลกอฮอล์
มีเฉพาะเครื่องดื่มอื่นๆ และของว่างเท่านั้น)
ได้ไม่อั้น แทบอิ่มมื้อเย็นไปเลยค่า
อิ้มถูกใจสิ่งนี้
มาต่อกับส่วนอื่นของโรงแรมค่ะ
Red Coral Lounge (ล็อบบี้ เลาจน์)
ให้บริการเค้ก ชา กาแฟและเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน
ตั้งอยู่ที่ชั้น L เปิดให้บริการทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 01.00 น.
ส่วนใครไม่ได้จองคลับมาก็อย่าน้อยใจไป
สำหรับแขกมาพักที่นี่ไม่ว่าจะห้อง type ไหน
ก็มาทานช็อคโกแลตฟรี
กับ Chocolate Hour 1 ชั่วโมงเต็ม
ทานกันแบบฟินๆ เลยจ้า
แล้ว Chocolate ที่นี่
คือร่อยทุกเมนูเลยน๊าาาา
2 ชั่วโมง ทานกันจนอื่ม จนฟิน
และมาที่นี่ห้ามหลาด ไอศครีม Movenpick น๊าา
อร่อยละมุนมาก
นอกจากนั้นเค้าก็ยังมีขนมและเครื่องดื่มอื่นๆ ให้บริการ
เอแกลร์ที่นี่อร่อยมาก ต้องลองนะคะ
ฟินทุกไส้
ทานคู่กับชาร้อนๆ หอมๆ ดีต่อใจสุดๆ
และอิ้มอยากแนะนำ กับห้องอาหาร
T55 New York Grill Room (สเต็กเฮ้าส์)
เค้ามีเนื้อดรายเอจ (Dry-aged)
หลากหลายประเภทชวนให้ลิ้มลอง
บอกเลยเป็นสวรรค์บนลิ้นของคนรักเนื้อ
เนื้อหลากหลายรายการคือดี อร่อยจริง ฟินสุด
T55 New York Grill Room (สเต็กเฮ้าส์)
ตั้งอยู่ที่ชั้น L
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 23.00 น.
ใครชอบทานเนื้อจะรู้เลยว่า
การทานเนื้อดรายเอจ (Dry-aged)
คือการพิถีพิถัน
และควรค่ากับการมาลองสักครั้งในชีวิต
ที่นี่เค้ามีตู้หมักบ่มเนื้อ หรือการ Dry Aging
การ Dry Aging
จะเป็นเนื้อที่ผ่านกระบวนการบ่ม
เพื่อเปลี่ยนสภาพเนื้อ
ให้มีรสสัมผัสที่นุ่มลึกมากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยการเก็บรักษาเนื้อ
ไว้ในห้องเย็นขนาดใหญ่
ด้วยอุณหภูมิต่ำประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส
ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป
เพื่อให้เอนไซม์ในเนื้อตามธรรมชาติ
ทำปฏิกิริยากับตัวของมันเอง
ในการสลายเนื้อเยื่อ
และส่วนที่เป็นพังผืด
เปลี่ยนโครงสร้างของเนื้อ
จนกลายเป็นเนื้อที่นุ่มและมีรสชาติเข้มข้น
หอมหวน
จึงทำให้สเต็กที่นี่อร่อยมากกกกกกกกกกก
แบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย
ใครชอบเนื้อแบบไหนเลือกทานได้เลย
Tomahawk ที่นี่ก็เด็ด ชิ้นใหญ่ๆ จุกๆ 1 กิโลเต็มๆ
เลือกเมนูได้แล้วก็รอที่โต๊ะเลยค่ะ
สั่งเครื่องดื่มดีๆ มาทานคู่กับอาหารอร่อยๆ
อิ้มเลือกทาน virgin mojito
และ พี่บรีส Mango smoothie
และความดีเทลไปอีกคือ
ใครที่สั่งสเต็ก
เราสามารถเลือกมีดสเต็กลายที่เราชอบได้
เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทาน
นอกจากนั้นการทานสเต็กที่นี่
จะเสริฟมาพร้อมกับเกลือ และ ซอสแบบพิเศษ
แบบต่างๆ
โดยเค้าจะให้เราเทสก่อนว่าชอบแบบไหน
เริ่มต้นด้วยสลัดจานนี้
ตรงก้อนใหญ่ๆ ตรงกลาง คือชีสนะคะ
ทานแล้วสดชื่นมาก
ต่อมาเป็น MARROW BONE
หรือไขกระดูกวัว
เรียกว่าเป็นแหล่งกำเนิดของรสชาติที่เข้มข้น และอร่อย
มีคอลลาเจนสูง
ไขกระดูกมีลักษณะเหมือนวุ้น
เป็นเมนูที่หากินได้ค่อนข้างยากในไทย
แต่ที่นี่มีให้ทาน
เค้านำไปกริล และปรุงรส
จะบอกว่าอิ้มเลิฟเมนูนี้มาก
เข้มข้น ละมุน
แนะนำให้ทานตอนที่เค้าเสิร์ฟมาร้อนๆ
เพราะจะมีความ หอม นุ่ม ละลายในปาก
แต่ถ้าปล่อยให้เย็นจะกลายเป็นไขทันที
เดอะเบสสสสส ฟินสุด
ต่อมาเป็น Rib eye
เชฟกริลได้กำลังดี เนื้อนุ่ม หอม
จิ้มแค่เกลือเบาๆ ก็พอ
เนื้อดี บางทีไม่ต้องจิ้มอะไรก็อร่อย
โอ้ยยย สวรรค์ชัดๆ
จานนี้เป็น Snow fish
เชฟทำได้ดี ปลาสด หวาน หอม
ทานคู่กับซอสฉ่ำๆ คือเริ่ดดด
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานค่ะ
ส่วนห้องอาหารเช้า
ห้องอาหารทวิสต์ (Twist all-day dining)
ให้บริการอาหารเช้าและมื้ออื่นๆ ตลอดทั้งวัน
เมนูหลากหลายทั้งไทยและเทศ
ตั้งอยู่ที่ชั้น G
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น.
ในมื้อเช้าเค้าพร้อมกลับมาให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์
ไลน์อาหารคือจัดเต็ม มีทุกอย่าง
อาหารไทยอร่อย ทานเช้า
สามารถอิ่มถึงเที่ยงได้เลย

ตรงนี้เป็นซีเรียล นม สมูทตี้ต่างๆ
ผลไม้ตามฤดูกาล
มีไอศกรีมให้ทานด้วยน๊าาา
น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชากาแฟ
โยเกริ์ตอีกกกก
ขนมปังนานาชนิด
salad bar
แฮม ชีส โคลคัท
Side dish ต่างๆ
ซุมิโซะก็มี
อาหารอินเดีย
ข้าวต้มและโจ๊ก
เครื่องเคียงข้าวต้มคือหลากหลายสุดด
มีไลน์อาหารของน้องๆ หนูๆ ด้วยค่ะ
ความใส่ใจอ่ะเน๊อะ
hot dish station
เมนูตรงนี้จะเปลี่ยนไปแบบไม่ซ้ำวันนะคะ
เมนูแกงไทยต่างๆ อร่อยทุกเมนู
อาหารคือหลากหลายจริงอะไรจริง
มีพวกติ่มซำ ซาลาเปาให้ทานด้วยค่ะ
มุมนี้เป็นก๋วยเตี๋ยว
สั่งได้ตามชอบ มีให้ทานเยอะมาก
บะหมี่แห้งอร่อยสุดๆ
สำหรับยามเช้า
ใครไม่อยากลงไปทานอาหารข้างล่าง
สามารถสั่งมาทานในห้องได้เช่นกัน
ทานมื้อเช้าในบรรยากาศส่วนตัว
ใครมากับแฟนแนะนำ
Romantic Dinner
ทานอาหารกับคนพิเศษในบรรยากาศพิเศษ
มีความเป็นส่วนตัว รู้สึกสวีทมากก
ชมพระอาทิตย์ตกไปพร้อมๆ กัน
ชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด
ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม
เค้าจะมีเป็น Set เมนูไว้สามารถเลือกได้
ว่าอยากทานแบบไหน และคอร์สราคาเท่าไหร่
ในส่วนของอิ้มที่ทาน ประมาณนี้
บรรยากาศตอนนั้นคือรีแลกซ์มาก
ได้ใช้เวลากับพี่บรีสได้เต็มที่
อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปนานๆ นะ
ปิดท้ายด้วยของหวาน แสนอร่อย
ส่วนตัวอิ้มชอบที่นี่มาก
ยิ่งเวลามาพักผ่อนกับคนรักยิ่งอบอุ่นหัวใจ
เราสามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
นั่งมองตากัน คุยกัน พักผ่อนได้ทั้งวัน
ทานข้าว ทานขนม แช่อ่างนอนดูดาว
แบบไม่ต้องออกไปไหน
ส่วนมื้อเย็น แนะนำ Romantic Dinner
ทานอาหารกับคนพิเศษ
ในบรรยากาศสุดโรแมนติกและเป็นส่วนตัว
นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินไปพร้อมๆ กัน
เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดีที่สุดเลยค่ะ
ส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ