Cross Vibe Bangkok Sukhumvit

สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักผ่อน
ชิลๆ สบายๆ Staycation
ที่ Cross Vibe Bangkok Sukhumvit กันค่ะ

Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
เดิมทีได้ใช้ชื่อ
X2 Vibe Bangkok Sukhumvit Hotel
แต่ตอนนี้ทั้งเครือ X2
และ X2 Vibe ได้เปลี่ยนชื่อ
เป็นเครือ Cross Hotels & Resorts
ทั้งหมดแล้วเพื่อความทันสมัย
และสร้างแบรนด์ใหม่
ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
และตอบโจทย์ความต้องการ
ของลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น
โดยจะเพิ่มดีเทล ใส่สิ่งต่างๆ เข้าไปมากมาย
ยกตัวอย่างเช่น
จะมี DJ Breakfast อันนี้คือเริ่ด
รับประทานเช้าเคล้าเสียงเพลง
พร้อมเครื่องดื่ม Bloody Mary
เป็นเครื่องดื่ม Signature
ช่วยให้ร่างกายถูกปลุกให้สดชื่นในตอนเช้า
พร้อมลุยกับวันใหม่อีกครั้ง
Quest of the Day กิจกรรมประจำวัน
Social Hub พื้นที่แฮงค์เอ้าต์
ที่เราสามารถนั่งเม้าพูดคุย
อ่านหนังสือ กับเพื่อน ๆ ได้
IG Accessories
พร๊อพสำหรับถ่ายรูปต่าง ๆ
เรียกว่าดีงามมากค่ะ

Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
เป็นโรงแรมสุดชิค
อยู่บนถนนสุขุมวิท แถวย่านอ่อนนุช
ใกล้สถานี BTS อ่อนนุชเพียง 300 เมตร
สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเที่ยวได้ง่ายๆ
แถวๆ นี้มีห้างสรรพสินค้า โรงหนัง
ร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่น่ามาเช็คอิน
เยอะแยะไปหมด สะดวกครบครันมาก
ภายในโรงแรมแบ่งห้องพักออกเป็น 2 สไตล์
คือส่วนโรงแรมมีความชิค ทันสมัย
และโซน Residence
ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการพัก long stay
ห้องสวย ละมุน ฟิลอบอุ่น
เหมือนกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้าน
นอกจากนั้นที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำ
ฟิตเนส สปา รวมไปถึงออนเซ็น
(ซึ่งช่วงนี้ปิดให้บริการ)
Facilities ครบครันมากๆ
เห็นแบบนี้แล้วอาจจะคิดว่าราคาแรง
จะบอกว่าราคานี่ที่นี่สุดปัง
ราคาพันกว่าบาท รวมอาหาร 3 มื้อ
และมื้อเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย คุ้มไปอีกจ้าาา
ซึ่งอิ้มโปรโมชั่นดีๆ มาฝากกันด้วยน๊า
เอาหล่ะ
เดี๋ยวไปชมบรรยากาศที่นี่พร้อมๆ กันในรีวิวนี้นะคะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/crossvibe.bkksukhumvit/

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@psstorytrip

Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ในซอยสุขุมวิท 52
ทำเลดีงามมากกกก
หากนั่งรถไฟฟ้ามา อาจจะเดินเข้ามา 150 เมตร
ใครขับรถมาก็ไม่ต้องกังวล
ร.ร. มีที่จอดรถมากมาย สะดวกสบายมาก
Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
เป็นโรงแรมขนาด 145 ห้องพัก
ซึ่งเค้าจะมี 2 ตึก
แบ่งเป็นโซน Hotel และ โซน Residence
Facilities ทั้งหมดจะอยู่ที่ตึก Hotel
ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ฟิตเนส
สปา และออนเซ็น
การมาพักที่นี่ก็สามารถรีเควสได้เลย
ว่าอยากพักตึกไหน
เพราะถึงโรงแรมเดียวกัน
แต่ทั้ง 2 ตึกคือ Feeling ต่างกันมาก
Hotel Building
แบ่งเป็น 3 room type
– standard
– superior
– suite
ฝั่ง residence
สามารถมาพักรายเดือนได้
เข้ามาภายในห้องแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มีโซนครัวเล็กๆ มีมุมรับแขก
ได้ฟิลเหมือนอยู่บ้านจริงๆ
ซึ่งโซนเรสสิเด้นนี้
เหมาะกับแขกที่มาพักผ่อนแบบ Long Stay
หรือเป็นเดือน
และยังเหมาะกับผู้ที่สนใจเช่าอยู่แบบรายปี
ตอนนี้ราคา Long Stay คือดีมากกก
มีราคาพิเศษ ยิ่งช่วงนี้ยิ่งพิเศ๊ษ พิเศษค่ะ
แบ่งเป็น 4 room type เช่นกัน
– studio
– one bedroom
– two Bedroom
– three bedroom หรือ duplex
มาถึงแล้วก็เข้าเช็คอินที่ล็อบบี้กันก่อนนะคะ
ก็เริ่มด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ
ในหลายๆจุดของโรงแรม
จะมีเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้ล้างมือ
ปลอดภัย สบายใจ เมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
หลังจากนั้นก็กรอกเอกสารคัดกรองโควิด
เอกสารเข้าเช็คอิน แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย
นั่งทาน เวลคัมดริ้งค์ สวยๆ ได้เลยค่ะ
อิ้มชอบล็อบบี้ของที่นี่มาก เพดานสูงโปร่ง
มีหน้าต่างเป็นบานกระจก
ทำให้มีแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้บ้าง
มีมุมต้นไม้สีเขียว รู้สึกสบายตา
อิ้มชอบมุมนี้ เป็นการนั่งเช็คอินที่ผ่อนคลายมากๆ
จะบอกว่าราคานี่ที่นี่สุดปัง
ราคาพันกว่าบาท รวมอาหาร 3 มื้อ
และมื้อเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย คุ้มไปอีกจ้าาา
ซึ่งอิ้มโปรโมชั่นดีๆ มาฝากกันด้วยน๊า
โปร Staycation
ราคา 1,790 บาท
รวมอาหาร 3 มื้อ สำหรับ 2 ท่านค่ะ
🔥🔥จ่าย 1,790 บาทราคานี้สำหรับ 2 ท่าน
หารกันตกคนละ 895 บาทเท่านั้น ❗❗❗
และนี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับ ✔
⭐ ห้องพัก Standard & Studio room
⭐ อาหาร 3 มื้อ คือเช้าเป็น A la Carte buffet
ทานได้ตั้งแต่เวลา 07:00 – 10:30 น.
⭐ อาหารกลางวัน เป็นอาหารจานเดียว
เลือกได้คนละ 1 เมนู
ทานได้ตั้งแต่เวลา 11:00 – 14:00 น.
⭐และไฮไลท์ อาหารเย็น All You Can Eat
หรือเรียกว่าบุฟเฟ่ต์จร้าา สั่งอาหารจากเมนู
ทำร้อนๆ เสิร์ฟจานต่อจานไม่ทำทิ้งไว้
เครื่องดื่มคือโค้กและน้ำเปล่าไม่อั้น
ทานอาหารจุกๆ
แบบไม่มีอะไรมากั้น 90 นาที
⭐ สระว่ายน้ำระบบเกลือ
ถ้าห้องที่อิ้มพัก Upgrade เพิ่ม 300 บาท
หรือจะเป็นห้อง Suite / One bedroom
จะเพิ่ม 500 บาท
จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 20 ธันวาคม ค่ะ
ราคานี้ใช้ได้ทุกวันไม่มีชาร์จเพื่ม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
📩 Facebook @Crossvibebangkok
📞หรือสามารถโทรจองได้ที่ 02 331 9091
💻Email: STAY@crossvibebkksukhumvit.com
📲 Line: https://bit.ly/Crossvibebangkok_Line

มาเริ่มชมห้องพักกันเลยน๊า
ขอเริ่มต้นที่ฝั่ง Hotel กันก่อน
Hotel Building
แบ่งเป็น 3 room type
– standard
– superior
– suite
อิ้มมาพักตามโปร แต่อัพเกรดห้อง เพิ่ม 300 บาท
ก็จะได้ห้องที่ขนาดกว้างขึ้น
แถมมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยค่ะ
ห้องนี้ก็คือ Superior ขนาดห้อง 38 ตร.ม.
ขนาดคือกว้างขวาง
ออกแบบสัดส่วน สีสัน ของห้อง
ดูเท่ห์ และมีสไตล์ ให้ฟิลมานอนโรงแรมเกร๋ๆ

ส่วนแรกของห้องถูกออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้า
มีสลิปเปอร์ bathrobe ร่ม ไดร์เป่าผม
รวมไปถึงตู้เซฟ
ถัดมาจะเป็นโต๊ะอเนกประสงค์
สามารถนั่งทำงาน และเป็นโต๊ะเครื่องแป้งในตัว
สะดวกสบายมาก
ด้านหลังจะเป็นห้องน้ำค่ะ
แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกได้ดี
มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยค่ะ
ในส่วนของเตียงนอนนั้นนนน น่านอนมากก
มีมุมนั่งพักผ่อนน่ารักๆ อีก
และด้านนอกมีบัลโคนี่ให้ออกไปนั่งชิลสูดอากาศ
มุมนี้ก็นั่งจิบกาแฟยามเช้าได้
มุมนี้ก็นั่งชิลทำงานได้
ชอบการพักผ่อนแบบนี้จัง
เตียงนอนนุ่ม หลับสบายมากกก
ชอบที่ได้แช่อ่างแบบนี้ รีแลกซ์สุดๆ
ชมห้องที่อิ้มพักแล้ว มาชมห้องอื่นกันต่อนะคะ
มาเริ่มชมห้องพักกันค่ะ
ห้อง Standard มาในพื้นที่ 28 SQ.M.
ห้องนี้จะมาในโปร Staycation
ราคา 1,790 บาท
รวมอาหาร 3 มื้อ สำหรับ 2 ท่านค่ะ
อิ้มว่าขนาดใช้ได้มาก ถ้าเทียบกับราคา
โทนสีที่ใช้ในห้องเป็นสีเทา
ทำให้ห้องดูมีความสุขุมนุ่มลึก และน่าค้นหา
เพิ่มความสดชื่นด้วยสีเขียว
เติมความสว่างด้วยสีขาว
ทำให้ภายในห้องดูสบายตา และดูน่าพักผ่อน
ถึงเป็นห้อง Standard และเป็นห้องเริ่มต้น
แต่ข้าวของเครื่องใช้
และสิ่งอำนวยความสะดวก
ครบครันใช้ได้เลยค่ะ
เตียงเค้าจะมีให้เลือกทั้งแบบ King และ Twin นะคะ
โดยรวมภายในห้องก็น่าพักผ่อนมาก
ภายในห้องน้ำค่ะ
ห้องสุดท้ายของฝั่ง Hotel
ห้อง Suite (ขนาด 40 ตรม.)
และแยกสัดส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอน
ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น
ถัดมาจะเป็นห้องนอน
ภายในห้องน้ำค่ะ
มาต่อกันที่ฝั่ง Residence ค่ะ
ฝั่ง residence
สามารถมาพักรายเดือนได้
เข้ามาภายในห้องแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มีโซนครัวเล็กๆ มีมุมรับแขก
ได้ฟิลเหมือนอยู่บ้านจริงๆ
ซึ่งโซนเรสสิเด้นนี้
เหมาะกับแขกที่มาพักผ่อนแบบ Long Stay
หรือเป็นเดือน
และยังเหมาะกับผู้ที่สนใจเช่าอยู่แบบรายปี
ตอนนี้ราคา Long Stay คือดีมากกก
มีราคาพิเศษ ยิ่งช่วงนี้ยิ่งพิเศ๊ษ พิเศษค่ะ
แบ่งเป็น 4 room type เช่นกัน
studio
one bedroom
two Bedroom
three bedroom หรือ duplex

เริ่มต้นที่ห้อง STUDIO
ห้องนี้ก็ร่วมกับโปรโมชั่น “Staycation”
สามารถเลือกพักห้อง Standard
ที่ Hotel Building หรือจะพัก Studio room
ที่ ฝั่ง Residence ก็ได้ ตามชอบเลยค่ะ
ห้อง studio นี้มีขนาด 28 SQ.M
ตกแต่งโทนสี ขาวและน้ำตาล
ซึ่งทั้งสองตึก
จะตกแต่งต่างกันออกไปโดยชัดเจน
ฝั่ง Residence จะตกแต่งได้อบอุ่น
ใช้โทนสีไปทาง Minimal มูจิ สบายตา
ให้ฟิลเหมือนพักผ่อนที่บ้าน
อิ้มชอบตรงที่เค้ามีมุมครัวให้นี่แหละค่ะ
ฟิลเหมือนอยู่บ้านจริงๆ เลย
มีตู้เย็นขนาดใหญ่ให้ด้วย
ใครมาพัก long stay บอกเลยว่าฟินนน
ภายในห้องน้ำค่ะ
ต่อมาเป็น One Bedroom
เลย์เอาท์ห้องจะคล้ายกับ Suite ฝั่ง Hotel
แต่การตกแต่งจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เค้าใช้พื้นที่ในห้องได้เยี่ยม แบ่งสัดส่วนได้ดี
ภายในมีครบทั้ง
ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน
โทนสีมีความมินิมอล สบายตา
ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น
มีมุมโต๊ะทำงานเล็กๆ
ตรงข้ามกันจะเป็นครัว มีอุปกรณ์ครบครัน
ทั้งตู้เย็น ไมโครเวฟ ซิ้งค์ล้างจาน
กาน้ำร้อน จานชามช้อนซ้อมต่างๆ
ถัดมาจะเป็นห้องนอนค่ะ
ฟิลแอทโฮมสุดดดดด
ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยค่ะ
ต่อมาเป็น room type สูงสุด
ของฝั่ง Residence
Three Bedroom หรือ Duplex
เป็นแบบ 3 ห้องนอน
มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น
ใครมากับครอบครัว กลุ่มเพื่อน
สัมมนาเล็ก ๆ หรือ ปาร์ตี้เม้าท์มอยด์
ห้องนี้เหมาะจริงอะไรจริง
ยิ่งเค้ามีโปรโมชั่นสำหรับกลุ่มเพื่อน
บอกเลยว่าคุ้มมาก

ความเกร๋ก็คือเค้าแบ่งเป็น 2 ชั้น
ซึ่งชั้นล่างประกอบไปด้วย
ห้องนั่งเล่น ขนาดใหญ่
มาพร้อมโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6 ท่าน
มีห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอน 1 ห้อง
ชอบครัวเค้าจัง อยากยกไปไว้ที่บ้าน 5555
ห้องน้ำที่อยู่ด้านล่างค่ะ
ห้องนั่งเล่นมาพร้อมสมาร์ททีวีขนาดใหญ่
ถัดมาจะมี 1 ห้องนอนอยู่ชั้นล่าง
มีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำ คือดีงาม
สำหรับด้านบนจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอนค่ะ
มาชม master bedroom กันก่อน
ห้องคือใหญ่มากก
โซนแรกจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องแต่งตัว
มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน
มาพร้อมอ่างอาบน้ำด้วยจ้า
ถัดมาจะเป็นห้องนอน
กว้างขวางสุดๆ
ห้องนอนสุดท้ายจะอยู่บนชั้นสองเช่นกัน
ห้องจะมีขนาดกระทัดรัด
และมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน
คือใครมากับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
ห้องนี้คือคุ้ม และสิ่งอำนวยความสะดวกคือเริ่ด
อิ้มชอบที่ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
ไม่ต้องแย่งกันใช้ ดีงามสุด
มาชม facility อื่นๆ กันบ้างค่ะ
ที่นี่ยังมี ฟิตเนส สปา รวมไปถึงออนเซ็น
(แต่ช่วงนี้ปิดให้บริการ)
เปิดให้บริการเฉพาะสระว่ายน้ำ
ซึ่งเค้ามีจำกัดผู้ใช้งาน
เพื่อรักษามาตรการป้องกันโควิดค่ะ
สระว่ายน้ำเค้ามีทั้งโซนด้านนอกและด้านในร่ม
ส่วนในร่มมีจากุซซี่ให้แช่ตัวด้วยน๊าา
อาบแดดแพร้บบบบ
ได้ว่ายน้ำแบบนี้ ฟินมากกกก
ชั้นจะพาเธอลอย ล่องไปในอวกาศ ><
แนะนำให้สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาทาน
ดีต่อใจที่สุดดดด
อิ้มสะดวกแบบนี้
ถัดมาจะเป็น Onsen ค่ะ
แต่น่าเสียดายมากช่วงนี้ Onsen ยังไม่เปิดนะ
ต้องรอรัฐบาลประกาศอีกที
ถึงจะเปิดใช้งานได้ค่ะ

ห้อง Onsen
ปกติจะเข้ามาถ่ายภาพไม่ได้นะคะ
ต้องทำการขออนุญาติจากทางโรงแรมก่อน
ซึ่งออนเซ็นของที่นี่ก็จะแยกห้องชายหญิง
และต้องถอดเสื้อผ้าหมดทุกครั้ง
ล้างตัวให้สะอาดก่อนเข้ารับบริการ

เงื่อนไขและกฎเกณฑ์
เหมือนเวลาเราไปแช่ที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ
สำหรับ Japanese Onsen
อุณหภูมิน้ำจะอยู่ที่ 45 องศา
แช่เพื่อเพื่อเปิดรูขุมขนช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
เห็น onsen แบบนี้ คิดถึงญี่ปุ่นจริงๆ
ต่อมาจะเป็น Yan Spa
ซึ่งมีคอร์สให้เลือกทำหลากหลาย
แต่ช่วงนี้ปิดให้บริการเช่นกัน
ร่างกายต้องการรีแลกซ์
อยากให้กลับมาเปิดไวๆ จังเลยค่ะ
ต่อมาจะเป็นฟอร์คคาเฟ่ (4K Café)
เป็นห้องอาหารหลัก
และห้องอาหารเดียวของโรงแรม
ให้บริการแบบ All Day dinning
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้า ไปจนถึงค่ำ
อาหารก็มีให้เลือกทานมากมายทั้งไทยและนานาชาติ
ห้องอาหารมีที่นั่งหลากหลาย
ทั้งมุมด้านใน และมุม Open Airs ด้านนอก

แขกที่ไม่ได้พักก็สามารถแวะมาทานได้นะคะ
ถ้าซื้อโปรแพ็คเกจ “Staycation”
ราคาคือรวมอาหาร 3 มื้อเลย
⭐ อาหาร 3 มื้อ คือเช้าเป็น A la Carte buffet
ทานได้ตั้งแต่เวลา 07:00 – 10:30 น.
⭐ อาหารกลางวัน เป็นอาหารจานเดียว
เลือกได้คนละ 1 เมนู
ทานได้ตั้งแต่เวลา 11:00 – 14:00 น.
⭐และไฮไลท์ อาหารเย็น All You Can Eat
หรือเรียกว่าบุฟเฟ่ต์จร้าา สั่งอาหารจากเมนู
ทำร้อนๆ เสิร์ฟจานต่อจานไม่ทำทิ้งไว้
เครื่องดื่มคือโค้กและน้ำเปล่าไม่อั้น
ทานอาหารจุกๆ
แบบไม่มีอะไรกั้น 90 นาที

มาดูที่มื้อเช้ากันค่ะ ชา กาแฟ เครื่องดื่ม
สั่งทานได้เลย เป็น A la Carte buffet
อาหารเช้าก็มีหลากหลายค่ะ
เมนูไข่ต่างๆ
ขนมปัง สลัด โยเกิร์ต
สั่งทานได้หมดเลย ดีงามมาก
อาหารกลางวัน เป็นอาหารจานเดียว
เลือกได้คนละ 1 เมนู
ทานได้ตั้งแต่เวลา 11:00 – 14:00 น.
ใครไม่อิ่ม สั่งอาหารเพิ่มได้
ราคาไม่แรง แถมรสชาติอร่อยถูกปาก
หมูกระเทียมอร่อย หมูนุ่มถูกใจ
กระเพราเนื้อข้าวคลุก จัดจ้าน ถึงเครื่อง
ฟินกันไปสำหรับมื้อกลางวันค่ะ
และไฮไลท์ก็คือมื้อเย็นค๊าาา
อาหารเย็น All You Can Eat
หรือเรียกว่าบุฟเฟ่ต์จร้าา สั่งอาหารจากเมนู
ทำร้อนๆ เสิร์ฟจานต่อจานไม่ทำทิ้งไว้
เครื่องดื่มคือโค้กและน้ำเปล่าไม่อั้น
ทานอาหารจุกๆ
แบบไม่มีอะไรกั้นยาวๆ 90 นาที
แล้วอาหารที่เค้าเสิร์ฟคือคุณภาพดีมาก
บอกเลยว่าแค่มาทานมื้อเย็นก็คุ้มแล้ว
มีเมนูให้เลือกทานทั้งของทานเล่น
ซุป สลัด พาสต้า พิซซ่า อาหารจานหลัก
อาหารจานด่วน รวมไปถึงของหวาน
แถมมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลมให้ทาน
ปังปุริเย่มาก พูดเลย
มื้อเย็นอิ้มทานแบบจุกๆ เลยค่ะ
แซลมอนแซ่บ จานนี้ต้องสั่ง
อร่อยมากกก ทานได้ไม่อั้น
สปาเกตตี้คาโบนาร่าเบคอน
อกไก่ห่อเบคอน เสิร์ฟพร้อมมันบด
พิซซ่าเปปเปอโรนี
สเต็กพอร์คชอป เสิร์ฟพร้อมมันบด
ข้าวปลาทูพริกสด เมนู signature ของที่นี่เลย
ใครมาต้องห้ามพลาดดด
หลังจากสั่งชุดแรกมาแล้วไม่อิ่ม
ก็ลุยสั่งต่อเซตที่สอง
ปลาหมึกทอด ซอสวาซาบิมายองเนสนี่ก็เด็ด
ปิเปี๊ยะสดก็มี
ปีกไก่ทอดซอสบาร์บีคิวก็มา
ครอสพาสต้าต้มยำซีฟู้ดก็เด็ด
ปิดท้ายด้วยของหวาน
ฟินมากกกกกกกก อิ่มมากกกก
และการเข้าพัก
Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
ความดีงามยังไม่จบแค่โปร Staycation
ตัวโรงแรมเค้าทำเลดีมากกก
อยู่บนถนนสุขุมวิท แถวย่านอ่อนนุช
ใกล้สถานี BTS อ่อนนุชเพียง 300 เมตร
สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเที่ยวได้ง่ายๆ
แถวๆ นี้มีห้างสรรพสินค้า โรงหนัง
ร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่น่ามาเช็คอิน
รวมไปถึง วัด วาอาราม
ซึ่งมาแถวนี้
อิ้มแนะนำให้มาไหว้พระ ขอพร
ที่วัดมหาบุศย์ (แม่นาคพระโขนง)
ที่วัดนี้มีพระให้สักการะ รวมไปถึงเทพเจ้าต่างๆ
มาทำสังฆทาน หรือปล่อยนก ปล่อยปลาก็ได้
และอย่าลืมไปไหว้ ย่านาค ขอพรเรื่องต่างๆ ได้ค่ะ
เสร็จแล้วก็แวะมาคาเฟ่ต่อ
ซึ่งแถวนี้คาเฟ่เยอะมาก ไว้รอบหน้า
อิ้มจะมาเก็บรวบรวมแบบเป็นเรื่องเป็นราวให้

แต่รีวิวนี้ขอแนะนำ 1 ร้าน นั่นก็คือ
SINGLE LANE Specialty Coffee
ร้านกาแฟสไตล์ออสซี่ในย่านพระโขนง
ร้านน่ารักมากๆ
แต่ช่วงนี้เค้าไม่ให้นั่งทานที่ร้าน
เสิร์ฟเฉพาะ take away เท่านั้น
กาแฟที่โดดเด่นที่สุดของร้าน
ต้องยกให้ Single Origin
ที่นำเข้าจากออสเตรเลียทั้งหมด
เสิร์ฟเฉพาะเมนูอเมริกาโน่ กาแฟดริป
และช็อตเอสเปรสโซเท่านั้น
มีเมนูให้เลือกทานเยอะมากกก
ขนมก็มีให้ทาน
อิ้มลองเป็น Dirty Kat
กาแฟนมสุดเข้มข้นและครีมมี่
เสิร์ฟพร้อมคิทแคท
แก้วนี้เค้าใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์ไทย
เชียงใหม่-เชียงราย
คั่วกลาง เลยมีรสชาติไม่แรงมาก
แต่พอทานกับคิทแคทลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
แก้วนี้เป็น Mango Cold Brew
ทานแล้วสดชื่น ใครชอบมะม่วงต้องสั่ง
และ Orange Tonic
ส่วนร้านอาหารที่ใกล้โรงแรม
และมีชื่อเสียงโด่งดังมาก นั่นก็คือ Best beef
ร้านปิ้งย่างแบบบุฟเฟ่ต์ใจกลางเมืองกรุงเทพ
มีทั้งเนื้อวัวสาระพัดเมนู เนื้อหมู ซีฟู้ด นานาชนิด
น้ำจิ้มมีให้สามแบบ ดีทุกถ้วย
ถ้วยสีดำ เหมือนน้ำจิ้มยากินิคุ
ถ้วยแดง น้ำจิ้มแจ่ว
ถ้วยเขียว ซีฟู้ด
ราคาคนละสามร้อยกว่าบาท
แต่เนื้อคุณภาพดีมากกกกก
สายเนื้อต้องมาลองงง
เนื้อเน้นๆ สายเนื้ออย่างฟิน
ทาเนยหอมๆ นำเนื้อไปย่างเบาๆ ดีต่อใจที่สุด
เรียกว่ามาพักผ่อน
ที่ Cross Vibe Bangkok Sukhumvit
ตอบโจทย์ความต้องการมาก
ทั้งโปร Staycation
ที่คุ้มค่าคุ้มราคา รวมถึงทำเล
ที่ออกไปไหนมาไหนได้แบบสะดวกสบาย
หากใครเหงาๆ เบื่อๆ
มาเที่ยวในกรุงเทพ สักคืนสองคืน
ก็ชิลไม่แพ้ ไปต่างจังหวัด
แถมได้ฟิล เที่ยวชิคๆ ในเมือง เริ่ดไปอีกค่ะ
ส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์
ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip