สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาทุกท่าน
ไปพักผ่อนที่
The Riverie by Katathani
โรงแรม 5 ดาว สวยหรูหรา บรรยากาศดี
อยู่เกาะกลางแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย
The Riverie by Katathani
เป็นโรงแรม 5 ดาวในเครือ “กะตะธานี”
เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจในคุณภาพได้เลย
ภายในโรงแรม มีความสวย งดงาม
ตกแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัย
โดดเด่นด้วยการผสานวัฒนธรรมของล้านนา
ซึ่งเราจะเห็นได้ตามจุดต่างๆ ของโรงแรม
ตั้งแต่เราเข้ามาเช็คอิน
และถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นโรงแรมใหญ่
แต่พอเรามาพักผ่อนจริงๆ
จะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ
ด้วยพื้นที่ ที่กว้างขวาง มีหลายมุมให้พักผ่อน
ลูกค้าจึงกระจายไปยังมุมต่างๆ ทำให้ไม่อึดอัด
มีพื้นที่ให้รีแลกซ์มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นมุมสระว่ายน้ำ มุมศาลาเรือนแก้ว
มุมเดินเล่นริมน้ำ
มีสวนดอกไม้สวยๆ ให้ชมอย่างเพลิดเพลิน
และมีมุมสำหรับถ่ายภาพสวยๆ
สายเช็คอินจะฟินที่สุดค่ะ
ด้วยความเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว
ที่นี่เป็นโรงแรมที่ครบครันมาก
ทั้งเรื่อง บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก
และห้องอาหารซึ่งมีถึง 3 แบบ 3 สไตล์
ให้ได้เลือกทาน
ได้แก่ ห้องอาหารบลอสซั่ม
ห้องอาหารหลักที่ให้บริการแบบ All Day Dining
ตั้งแต่มื้อเช้า
ที่ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติ
แต่ช่วงนี้ด้วยสถานการณ์
เค้าจึงเสิร์ฟแบบ a la carte buffet สั่งได้ไม่อั้น
ส่วนตัวชอบอาหารเช้าที่นี่มากกก
อาหารหลากหลายและอร่อย
ที่สำคัญคือจะมีอาหารพื้นเมืองทุกๆ วัน
สลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
เช่น ข้าวซอย น้ำพริกหนุ่ม
และอาหารขึ้นชื่อ ต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย
ก็มีให้ทานในไลน์อาหารเช้าด้วยค่ะ
ห้องอาหารไชน่า การ์เด้น ห้องอาหารจีน
ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและความอร่อย
ซึ่งเค้าจะเปิดเป็น 2 รอบ
มื้อกลางวัน , และมื้อเย็น
ใครสนใจมาทานแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนนะคะ
และอีกห้องอาหารนึง
ซึ่งอยู่บน Rooftop Bar
นั่นก็คือ ห้องอาหารเดอะพีค ไวน์ แอนด์ กริลล์
ห้องอาหารสุดโรแมนติก
ตั้งอยู่ชั้นบนสุด ซึ่งด้านบนนี้
เรียกว่าเป็นจุดที่ชมวิวที่สวยที่สุดของโรงแรม
ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตก
บรรยากาศโรแมนติกมาก
เหมาะกับการพาคนที่คุณรักมาทาน Dinner
ในบรรยากาศสุดประทับใจ
ส่วนทำเลที่ตั้งของโรงแรมก็เรียกว่าดีงาม
เพราะอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงราย
และห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง
ประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น
เดินทางสะดวกสบายมากค่ะ
และอีกอย่างนึงที่อิ้มชอบที่นี่มาก
เค้าจะใส่ใจในรายละเอียด
เราสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู
เพราะเค้าจะจัดมุมถ่ายภาพสวยๆ
ให้เข้ากับทุกเทศกาล
และห้ามพลาดกับช่วงหน้าหนาว
กับงาน “มหัศจรรย์แห่งแสง ( Garden Of Light)”
จะมีงานประดับไฟนับล้านดวง ริมแม่น้ำกก
มีเพียงปีละครั้ง
สามารถมาเที่ยวชมความสวยงาม
ได้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64 ไปจนถึง 28 ก.พ. 65 เลยค่ะ
และนอกจากจะพาเที่ยวโรงแรม
ท้ายรีวิวอิ้มจะพาไปเช็คอิน
ชิลกับ 5 คาเฟ่ชื่อดังของเชียงราย
จะมีที่ไหนกันบ้างตามไปชมในรีวิวกันเลยค่ะ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางโรงแรม
https://th-th.facebook.com/theriverie/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@psstorytrip
The Riverie by Katathani
ทำเลที่ตั้งของโรงแรมก็เรียกว่าดีงาม
เพราะอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงราย
และห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง
ประมาณ 10 กิโลเมตร เท่านั้น
เดินทางสะดวกสบายมากค่ะที่นี่เป็นโรงแรม 5 ดาวร่วมสมัย
มาตรฐานระดับสากล
ทัดเทียมรีสอร์ทชั้นนำของเอเชีย
ที่นี่ไม่เพียงอยู่ริมแม่น้ำกก
แต่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำกก
ใจกลางเมืองจังหวัดเชียงราย สวยงามมากทีเดียวค่ะไม่ว่าจากมุมไหนเราก็จะมองเห็นโรงแรมสีขาว
โดดเด่นเป็นสง่าได้อย่างงดงามThe Riverie (เดอะ ริเวอร์รี)
เป็นการผสมคำภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ
นั่นคือ “River” + “วารี” ที่แปลว่าแม่น้ำ
ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากที่ตั้งของโรงแรม
ที่เป็นเกาะกลางแม่น้ำกกแค่มาถึงด้านหน้าของโรงแรม
ก็รู้สึกถึงความอลังการแล้วค่ะทางเดินเข้าล็อบบี้จากชั้นล่างยิ่งอลังการ
สวยงาม ทุกรายละเอียดการตกแต่งของโรงแรม
ก็จะเน้นแบบ Classic Contemporary
ใช้การผสมผสานระหว่างความทันสมัย
ควบคู่กับกลิ่นไอล้านนา
มีความสวยงาม และดีเทลเยอะมาก
โดยจะมีสัญลักษณ์ของโรงแรมคือ
หม้อดอกบูรณฆฎะ
ที่ถือว่าเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง
อุดมสมบูรณ์
มีหม้อบูรณฆฎะมาประดับบนหัวเตียง
เพื่อเป็นการอวยพรให้แขกผู้มาเยือน
ความเจริญงอกงาม ความสุข ความร่มเย็น
บริเวณตัวตึกใกล้สระว่ายน้ำก็จะมีหอระฆัง
และเรือนแก้วที่สวยงาม
บริเวณล็อบบี้ที่โอ่โถง มีบุษบก
ซึ่งประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์
มณฑปขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง
ซึ่งถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงราย
ช่วงที่มาเช็คอิน
สามารถแวะมาสัการะได้นะคะล็อบบี้ของโรงแรมสวยงามและดูโอ่อ่า มีมุมนั่งรอเช็คอินหลายจุด
รวมถึงมีล็อบบี้เลาจน์ให้บริการใครที่มาเที่ยวช่วงนี้ ก็มั่นใจได้เลย
เพราะ The Riverie by Katathani
เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองเชียงราย
ที่มาพร้อมมาตรการในการควบคุม
การแพร่ระบาดโรคเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างรัดกุม โดยที่นี่ได้รับสัญลักษณ์ SHA
หรือ Amazing Thailand Safety and Health Administration
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงมาตรฐาน
การท่องเที่ยวปลอดภัยด้านสุขอนามัย
มาพักผ่อนได้อย่างสบายใจเลยค่ะอิ้มชอบมุมนี้มากค่ะ
นั่งชมวิวแม่น้ำกกได้อย่างเพลิดเพลิน
สวยทั้งกลางวันและกลางคืนเดี๋ยวเรามาเริ่มชมห้องพักกันนะะค
The Riverie by Katathani
มีห้องพักให้เลือกพักถึง 271 ห้อง 6 รูปแบบ
– Deluxe Room
– Deluxe Garden
– Deluxe River
– Family Suite
– Riverie Suite และ Royal Suite
ซึ่งอิ้มจะพาไปชมทั้งหมด 3 แบบ ตามอิ้มมาเลยค่ะ
ห้องนี้เป็น Deluxe River
มีทั้งหมด 80 ห้อง
ถือว่าเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโรงแรม
ภายในเป็นห้องพักวิวแม่น้ำ
ที่มีขนาด 36 ตารางเมตร
ขนาดกว้างขวางทีเดียวจากภาพนี้เราจะเห็นได้ว่า
มีสัญลักษณ์ของโรงแรมคือ
หม้อดอกบูรณฆฎะ
ที่ถือว่าเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง
อุดมสมบูรณ์ ประดับบนหัวเตียง
เพื่อเป็นการอวยพรให้แขกผู้มาเยือน
ความเจริญงอกงาม ความสุข ความร่มเย็น
โทนสีของห้องเน้นไปทางโทนสีสว่าง
สีขาว สีทอง ให้ความหรูหรา และสบายตาอิ้มชอบมุมนี้มากค่ะ สามารถนั่งมองวิวแม่น้ำกก
และธรรมชาติโดยรอบได้ทั้งวันไม่มีเบื่อภายในห้องน้ำก็กว้างขวางสะดวกสบาย ต่อมาเป็น Family Suite
ห้องนี้มีขนาด 62-75 sqm. มีทั้งหมด 18 ห้อง
เหมาะสำหรับสายครอบครัวมาก
ภายในแยกสัดส่วนได้อย่างชัดเจน
ส่วนแรกของห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น
และมีเตียงแบบ 2 ชั้นให้มีห้องน้ำ 1 ห้องอยู่ด้านนอก ถัดมาจะเป็นห้องนอนหลักค่ะ
เค้ามีมุมนั่งชมวิวภูเขาด้วย ดีต่อใจสุดๆในส่วนของเตียงนอนค่ะ
มีโคมไฟสวยๆ ประดับอยู่ทั้งสองข้าง สวยงามมากมีมุมโต๊ะอเนกประสงค์ สามารถนั่งทำงาน
หรือเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ภายในห้องน้ำแยกสัดส่วนได้ดี
มี bath tub ให้แช่ตัวผ่อนคลายมาถึงห้องที่อิ้มพักค่ะ
Riverie Suite ขนาด 70-100 ตารางเมตร
มีทั้งหมด 26 ห้อง
เป็นห้องที่สวยงาม และมีพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก
ส่วนแรกของห้องเป็นห้องนั่งเล่นด้านนอกมีบัลโคนี่ซึ่งกว้างขวาง
มองเห็นวิวได้แบบพาโนราม่าด้านในจะเป็นห้องนอน โดยรวมเค้าจะตกแต่งคล้ายๆ กัน
จะต่างกันที่ความกว้าง
และเลย์เอาท์ต่างๆ ของห้องนั้นๆอิ้มชอบเตียงนอน โคมไฟ ภาพบนหัวเตียง
ทุกอย่างดูลงตัว สวยงดงามไปหมดและปลายเตียงจะเป็นบานกระจก
มองวิวทิวทัศน์ได้จากเตียงนอนเลยค่ะอีกฝั่งนึงจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ ในส่วนของห้องน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งแรกเป็นโซนของสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และโซน showerตรงข้ามกันเป็นอ่างอาบน้ำ
นอนแช่น้ำอุ่นได้อย่างเพลิดเพลินด้านนอกระเบียงห้องที่อิ้มพัก มองเห็นวิวสุดลูกหูลูกตา ดื่มกาแฟ ได้อย่างสดชื่น รับบรรยากาศยามเช้า ชอบฟิลแบบนี้จัง อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ
ชอบที่ตื่นมาแล้วเจออะไรแบบนี้
ชอบที่เห็นธรรมชาติอยู่รอบตัวสิ่งดีๆ เริ่มต้นที่ The Riverie จริงๆ ค่ะ จากห้องที่อิ้มพัก สามารถมองเห็นวิววัดห้วยปลากั้ง
ด้านหลังมี background เป็นภูเขา และไอหมอก
สวยงามมากทีเดียวมองเห็นวิวแม่น้ำกก สระว่ายน้ำ และมองเห็น หอระฆัง (THE BELL TOWER)
อีกหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมไทย (ล้านนา)
ซึ่งสื่อถึง การตื่นเข้าถึงสัจธรรมและ
ให้ความรู้สึก
ตื่นเช้ามาแล้วพบกับความสงบและสันติสุขชมห้องพักเสร็จแล้ว
เดี๋ยวเรามาชมส่วนอื่นๆ กันต่อนะคะ
หากพักที่โรงแรมและไม่อยากออกไปข้างนอก
แต่กลัวว่าจะเบื่อ
บอกเลยว่าพักที่นี่ ไม่ต้องกลัวเหงา
เพราะกิจกรรมเยอะมาก
ไฮไลท์อีกอย่างนึงของ
The Riverie by Katathani
ก็คือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
รายล้อมด้วยสวนสวยบริเวณสระว่ายน้ำนี้มีทั้งสระผู้ใหญ่
มุมสไลเดอร์ และ เครื่องเล่น สำหรับน้องๆ หนูๆ
รวมไปถึงพูลบาร์
ที่ให้บริการเครื่องดื่มอร่อยๆ ช่วงกลางวันเห็นสไลเดอร์แล้วอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยค่ะ ชอบมุมหอระฆังมาก อิ้มว่าดูสวย
งามและเงียบสงบพูลบาร์ค่ะ หากเล่นน้ำร้อนๆ
ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นทาน ชื่นใจๆ ได้เลยต่อมาจะเป็นคิดส์คลับ สำหรับน้องๆ หนูๆ ค่ะ มีมุมนี้สามารถรีเควสทำสปาได้นะคะ เดินเลยคิดส์คลับมาหน่อยจะเป็น Melon Shop
ภายในมี ขนม เครื่องดื่ม ของฝาก ขอที่ระลึก
เสื้อผ้า เครื่องประดับ จำหน่ายอยู่มากมายหลายอย่างมีงาน Hand Made สวยๆ จากกลุ่มชาวบ้าน
สวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะเสื้อผ้ามีทั้งแบบล้านนา และร่วมสมัย ราคาไม่แพงด้วยนะคะ ลายแบบนี้น่ารักเชียว ต่อมาขอพูดถึงมุมถ่ายภาพซะหน่อย
ที่นี่เค้าจะใส่ใจในรายละเอียด
เราสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู
เพราะเค้าจะจัดมุมถ่ายภาพสวยๆ
ให้เข้ากับทุกเทศกาล
อย่างช่วงปกติจะเป็นสวนดอกไม้สวยๆ
สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ส่วนช่วงหน้าหนาว
จะมีงาน “มหัศจรรย์แห่งแสง ( Garden Of Light)”
จะมีงานประดับไฟนับล้านดวง ริมแม่น้ำกก
มีเพียงปีละครั้ง
สามารถมาเที่ยวชมความสวยงาม
ได้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64 ไปจนถึง 28 ก.พ. 65 เลยค่ะมุมไหนก็สวย ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง ถ่ายภาพได้หลากหลายมุมเลยค่ะ มุมนี้ดูสดชื่นมากก เดินเล่นริมน้ำ ช่วงหน้าหนาวนี้
แนะนำให้ตื่นเช้าหน่อยค่ะ
ถ้าอากาศดีๆ เราจะได้เห็นไอหมอกลอยเหนือน้ำ
บรรยากาศดี สวยงามากค่ะเดินเล่นชมบรรยากาศกันเหนือ่ยแล้ว
น่าจะหิวแน่ๆ เลย
เดี๋ยวอิ้มพาไปทำความรู้จักกับห้องอาหารที่นี่ต่อค่ะด้วยความเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว
ที่นี่เป็นโรงแรมที่ครบครันมาก
ทั้งเรื่อง บริการ สิ่งอำนวยความสะดวก
และห้องอาหารซึ่งมีถึง 3 แบบ 3 สไตล์
ให้ได้เลือกทาน
ได้แก่ ห้องอาหารบลอสซั่ม
ห้องอาหารหลักที่ให้บริการแบบ All Day Dining
ตั้งแต่มื้อเช้า
ที่ให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติ
แต่ช่วงนี้ด้วยสถานการณ์
เค้าจึงเสิร์ฟแบบ a la carte buffet สั่งได้ไม่อั้น
ส่วนตัวชอบอาหารเช้าที่นี่มากกก
อาหารหลากหลายและอร่อย
ที่สำคัญคือจะมีอาหารพื้นเมืองทุกๆ วัน
สลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
เช่น ข้าวซอย น้ำพริกหนุ่ม
และอาหารขึ้นชื่อ ต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย
ก็มีให้ทานในไลน์อาหารเช้าด้วยค่ะห้องอาหารนี้สวยมาก
อิ้มชอบที่เค้าเป็นกระจกใสสูงโปร่งแบบนี้
ทำให้แขกที่มาทาน ไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหน
ก็สามารถเห็นวิวแม่น้ำที่นั่งทานอาหารมีทั้งด้านนอก และ ด้านในห้องแอร์
เลือกนั่งได้ตามชอบเลยค่ะอาหารเช้าที่นี่บอกเลยว่าดีต่อใจ
มาแบบจัดเต็มและอร่อยทุกเมนู
ข้าวต้มเครื่อง กับแต่ละจานอร่อยจริงจัง
เสิร์ฟมาขนาดกำลังพอดี
และจาน ชาม ที่เสิร์ฟมา ก็สวยงาม
ใส่ใจในรายละเอียดมากตัวกับข้าวก็สลับไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกัน โจ๊กอร่อย เครื่องแน่นมากค่ะ ใครชอบทาน ABF ก็มีให้เลือกทานน๊า และอาหารขึ้นชื่อ ต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย
อร่อยม๊ากก ทานได้ไม่อั้นด้วยค่ะข้าวซอยเสิร์ฟมาสวยงาม แนะนำให้บีบมะนาวนิดๆ
ใส่เครื่องเคียงให้ครบ จะฟินมากชุดน้ำพริกหนุ่มค่ะ เสิร์ฟมาแบบกำลังน่ารัก
มีไส้อั่วให้ทานด้วยค่ะเป็นมื้อเช้าที่สมบูรณ์แบบ
มาเหนือก็ได้ทานอาหารเหนือยามเช้าหากแดดไม่ร้อนมาก
มานั่งทานอาหารด้านนอกได้นะคะ
เย็นสบาย และได้สูดอากาสสดชื่นส่วนมื้อกลางวันและเย็น
เค้าก็มีอาหารหลากหลาย
แบบ A la carte เมนูให้เลือกทาน
มาที่นี่ อิ้มอยากให้ลองชุดขันโตก
อาหารพื้นเมืองแบบเน้นๆมีเกือบครบเลยค่ะ ทั้งแกงฮังเล ลาบคั่ว
น้ำพริกหนุ่ม แคปหมู ไส้อั่ว หมูยอ แหนม ผักเคียงทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ ถูกใจอิ้มมาก ส่วนใครไม่ทานอาหารพื้นเมือง
ก็ทานอาหารอื่นๆ ทั่วไปได้ค่ะ
อาหารจานเดียวที่นี่ ก็อร่อยไม่แพ้กับอาหารเมืองเลย
ต้มข่าไก่ รสชาติกลมกล่อมผัดไท กุ้งแม่น้ำ กุ้งตัวโต
ผัดไท ห่อไข่เสิร์ฟมาอย่างสวยงามจานนี้อิ้มชอบมาก
ด้วยความที่คุณแม่เป็นคนเชียงราย
ไปทีไรก็จะวนอยู่กับอาหารเมืองตลอด
จานนี้เป็นข้าวผัดริเวอร์รีค่ะ
เป็นข้าวผัด เสิร์ฟคู่กับน้ำพริกหนุ่มและเครื่องเคียง
อร่อยมากก พูดแล้วอยากทานอีกกระเพราเนื้อสับ เข้ม ข้น ถึงเครื่อง ต่อมาเป็น
ห้องอาหารไชน่า การ์เด้น ห้องอาหารจีน
ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพและความอร่อย
ซึ่งเค้าจะเปิดเป็น 2 รอบ
มื้อกลางวัน , และมื้อเย็น
ใครสนใจมาทานแนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนนะคะด้านในมีที่นั่งหลายโซนค่ะ
หากมากันหลายคนก็สามารถจองล่วงหน้าก่อนได้อิ้มเลือกนั่งมุมนี้ค่ะ เห็นวิวแม่น้ำสวยงามมาก เค้ามีทั้งแบบ a la carte และ แบบ buffet อิ้มทานเป็น a la carte ค่ะ สั่งมาหลายเมนู อร่อยทู้กอย่าง
มากันสองคนแทบเกลี้ยงโต๊ะเลยค่ะติ่มซำ และอาหารจีนที่อร่อย และคุณภาพดีมาก
ไม่แพ้ร้านดังๆ ใน กรุงเทพเลย
อยากใครไปเที่ยวเชียงราย
แล้วคิดถึงอาหารจีนอร่อยๆ แนะนำเลยค่ะ
ไม่ได้พักก็แวะมาทานได้นะและอีกห้องอาหารนึง
ซึ่งอยู่บน Rooftop Bar
นั่นก็คือ ห้องอาหารเดอะพีค ไวน์ แอนด์ กริลล์
ห้องอาหารสุดโรแมนติก
ตั้งอยู่ชั้นบนสุด ซึ่งด้านบนนี้
เรียกว่าเป็นจุดที่ชมวิวที่สวยที่สุดของโรงแรม
ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตก
บรรยากาศโรแมนติกมาก
เหมาะกับการพาคนที่คุณรักมาทาน Dinner
ในบรรยากาศสุดประทับใจช่วงเย็นสวยงามที่สุดเลยค่ะ มานั่งชิลด้านนอก หรือด้านในก็ได้ค่ะ กระซิบว่าด้านนอกคือโรแมนติกมากกก
เห็นทะเลหมอกช่วงเย็นด้วยนะคะอาหารก็คุณภาพดี มีทั้ง แซลม่อน เนื้อต่างๆ ฟัวกราส์
อร่อยมากๆ คุ้มราคาสุดๆอ้อๆ อิ้มขอแถม Lobby Lounge
อยู่ติดกับล็อบบี้เลย
มานั่งทานกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมได้เลยนะคะนั่งมุมนี้คือวิวอลังการมาก
ชอบมุมนี้จังปิดท้าบส่วนของโรงแรม
ด้วยภาพวัดห้วยปลากั้ง หลังฝนตกใหม่ๆ
มีหมอกสวยๆ ท่ามกลางขุนเขาและนอกจากจะพาเที่ยวโรงแรม
ท้ายรีวิวอิ้มจะพาไปเช็คอิน
ชิลกับ 5 คาเฟ่ชื่อดังของเชียงราย
มาเริ่มที่ที่แรก
ร้าน Cafe Lista
ร้านคาเฟ่เล็กๆ
ที่อยู่ท่ามกลางทุ่งนา
รายล้อมไปด้วยภูเขา
เหมือนธรรมชาติโอบกอดคาเฟ่แห่งนี้ไว้
บรรยากาศน่ารักมาก
มาเชียงรายแล้วต้องห้ามพลาดมุมถ่ายภาพเยอะสุดๆ สวรรค์บนดิน ฟาร์ม แอนด์ โฮมสเตย์
ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักการดื่มชาเลยค่ะ
นอกจากคาเฟ่ เค้ายังมีโฮมสเตย์ให้บริการด้วย
ร้านน่ารัก อบอุ่น ดูเงียบสงบซึ่งในความเล็กๆ น่ารักของคาเฟ่นี้
แฝงเอาไว้ด้วยความยิ่งใหญ่ในรสชาติ
เพราะทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
ไม่ว่าจะเป็นใบชาจากชาวเขาแท้ๆ
ที่ทางร้านไปรับตรงมาจากแหล่งผลิตเลย
หรือจะเป็นขนมนมเนยต่างๆ
ที่ทำกันแบบ โฮมเมด
และชาร้านนี้ก็ดังมากๆ
ส่งขายทั่วประเทศเลยค่ะอิ้มรู้จักชาของที่นี่ เพราะได้ไปทานที่ภูเก็ต
เลยตั้งใจว่า เชียงรายจะต้องมาทานชาร้านนี้ให้ได้ยิ่งมาทานที่ร้านก็ทำให้อิ้มยิ่งหลงรัก
อันนี้รสใหม่ อิ้มซื้อกลับบ้านหลายซองเลยค่ะที่นี่เค้าจะเบลนชา ด้วยกรรมวิธีที่ที่ละเอียดอ่อน
มีการชั่งตวง ชาแต่ละชนิด ใช้น้ำชงไม่เหมือนกัน
และอุณหภูมิ ก็ต้องคงที่ มีความดีเทลมาก
ชาที่อิ้มชอบก็คือ Namaskar
มีกลิ่นดอกคาโมมายด์อ่อนๆ รสสัมผัสนุ่มสบาย
หวานเบาๆ ชุ่มคอเครื่องดื่มที่นี่จะเน้นไปทางชา ส่วนขนมก็มีกรุบกริบ
เมนูนี้อร่อยมาก Lemon Curd Cheesecake
ทานกับชาคือฟินมีไอศกรีมให้ทานด้วย
ถ้วยนี้เป็น Jasmine green tea
หอมมะลิในรสชาติชาเขียวคือดีต่อใจอิ้มรักชาร้านนี้มาก อยากให้ทุกคนได้มาลอง ต่อมา
Couple Cups เป็นคาเฟ่เล็กๆ
แสนจะน่ารักกลางเมืองเชียงรายภายในเน้นโทนขาวๆ ไม้ๆ ให้ฟิลแบบดูอบอุ่น โฮมมี่ๆ เมนูแนะนำ ก็ Dirty เลยค่ะ
ของเค้าอร่อย กลมกล่อม ไม่หวานมากใครไม่ทานกาแฟ ก็แนะนำ Yuzu soda เมนูสุดสดชื่น
ส่วนขนมก็ ชีสเคกหน้าไหม้เลยค่ะAbonzo Coffee Roaster ใจกลางเทืองเชียงราย
ร้านนี้จะออกเท่ห์ๆ หน่อย
เป็นปูนเปลือย สไตล์ลอฟท์ เข้ากับที่นั่งสีดำสนิทจริงๆ ร้านนี้คือว่าเป็นร้านกาแฟขึ้นชื่อของเชียงรายเลยนะคะ
จุดเริ่มต้นเค้ามีร้านอยู่ที่ดอยช้าง
เป็นร้านที่ได้รับความนิยมสูง
จึงมาขยายสาขาในเมือง
เพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวเดินทางไม่ยากภายในมีทั้งเครื่องดื่ม และขนมให้เลือกทาน เมนูยอดฮิตของอิ้มก็คือ Dirty ของที่นี่ก็อร่อยดีค่ะ
ไม่หวานมาก ละมุน กลมกล่อมจริงๆ อิ้มอยากทานเมนูอื่นๆ แต่หมด
สั่งไปสั่งมาเลยได้เมนูนี้แทนKORE LAB คาเฟ่เปิดใหม่สไตล์เกาหลีนิดๆ
ร้านโทนขาวดำ ที่สำคัญคาเฟ่สไตล์โมเดิร์นนี้
เป็นของนักร้องหนุ่มหล่อมากความสามารถ
“แกงส้ม – ธนทัต อรรถชัย”ด้านในจะเป็นกาแฟแบบ
Specialty Coffee คุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้เป็นร้านสวยๆ เก่ๆ อีกที่ ที่น่ามาเช็คอินค่ะ ส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com