สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพามาพักผ่อนที่
Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
รีสอร์ตในหัวหินสุดเงียบ สงบ บรรยากาศดี
เหมาะกับการพาคนรักมาพักผ่อนบำบัดจิตใจ
เดิมทีทุกท่านอาจจะเคยรู้จักที่นี่ในชื่อ ASARA รีสอร์ต
ตอนนี้เค้ารีแบรนด์ใหม่ ภายในก็รีโนเวทใหม่
และเพิ่มความเป็นมาตรฐานระดับ 5 ดาว
ของ Mövenpick เข้าไป
พอรวมกับความไฮเอน ที่อัสสราเคยมีไว้
จึงเป็นรีสอร์ต 5 ดาวในหัวหิน
ที่หลายคนประทับใจ รวมถึงอิ้มเองด้วย
จึงกลับมาพักผ่อนที่นี่อีกครั้งนึงค่ะ
Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
เป็นรีสอร์ตหรูในหัวหิน ที่ภายในกว้างขวาง
ข้อดีของที่นี่คือติดทะเล บรรยากาศดีมาก
และมีต้นไม้เยอะ ร่มรื่น เงียบสงบ
ห้องพักหลากหลายประเภทให้พักผ่อน
ตั้งแต่ห้องสวีทและวิลล่า
ซึ่งมีทั้งหมด 96 ห้อง
มอบความรู้สึกหรูหราแบบเป็นส่วนตัว
ครั้งนี้อิ้มเลือกพักผ่อน Private Pool Villa
วิลล่าส่วนตัวซึ่งมีขนาด 150 ตารางเมคร
กว้างขวางมาก มีความ private
เหมาะกับการพาคนรักมาพักผ่อน
จัดสรรพื้นที่ได้ดี มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน
ด้านนอกมีพื้นที่นั่งเล่น สนามหญ้า
มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
ภายในห้องน้ำ กว้างขวาง
มี Bath tub ให้แช่ตัว สวีทกับแฟน
รวมถึง โซนอาบน้ำแบบ outdoor
ให้ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรมที่ห้ามพลาด
นั่นก็คือการทำสปา Asara Spa
สปาที่ได้มาตรฐาน ตกแต่งสวยงาม
therapist ที่นี่น่ารักมาก
ใส่ใจในรายละเอียด
สอบถามความต้องการของลูกค้าชัดเจน
ว่าต้องการนวดแบบไหน
นวดเสร็จแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
และรีแลกซ์มาก ฝีมือ therapist เค้าดีจริงๆ
อีกไฮไลท์นึงของที่นี่ก็คือ
พอเค้าเปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ Mövenpick
สิ่งที่ขาดไม่ได้และเป็นหน้าตาของแบรนด์นี้เลย คือ
” บุฟเฟ่ต์ช็อคโกแลตฟรี “
ที่ห้องอาหาร ก้ามปู
ตั้งแต่ช่วง 15.00 น. – 16.00 น.
จะเน้นช็อคโกแลตเป็นหลัก
มีทั้งฟองดูว์ ผลไม้สด มาร์ชแมลโลว์ คุกกี้ เค้ก
คนรักช็อคโกแลตบอกเลยฟิน
สำหรับห้องอาหาร เค้าก็จะมี
ห้องอาหาร ก้ามปู (Kampu)
ภายในให้บริการ
แบบ All Day Dinning ตั้งแต่มื้อเช้า ไปจนถึงมื้อค่ำ
มีอาหารฝรั่งเศสชั้นดี
อาหารไทยดั้งเดิมให้เลือกทาน
และอาฟเตอร์นูนที ขนมอร่อยๆ ให้ทาน
และห้องอาหาร
Baan Dum Oceanfront Seafood
ร้านอาหารทะเลหัวหินที่ต้องมาเช็คอินให้ได้!!!!
ส่วนตัวอิ้มเคยมาทานแล้วติดใจ
เป็นร้านอาหารที่มีความสบายๆ สไตล์โลว์คอล
บรรยากาศดี ติดทะเล
เปิดตั้งแต่กลางวันไปจนถึงค่ำ
ราคาไม่แรง รสชาติถึงเครื่อง
แรงบันดาลใจของอาหารที่นี่
มาจากรสชาติท้องถิ่นของหัวหิน
ปลาและอาหารทะเลสด ๆ คือจุดเด่นของที่นี่
เค้าจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศสดใหม่ทุกวัน
จากตลาดในท้องถิ่น
มาทำเป็นเมนูหลากหลาย
ให้ทุกท่านได้มาทาน
เรียกว่ามาหัวหินห้ามพลาดนะคะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/MovenpickHuaHin
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
ตั้งอยู่ที่ หัวหินซอย 5 ตั้ง GPS แล้วขับมาได้เลยค่ะ
เข้ามาถึงเราจะเห็นล็อบบี้ขนาดใหญ่
มีความโอ่โถง ใหญ่โต เวอร์วัง อลังการงานสร้างมากๆ
ถึงแล้วก็ขับรถเข้าไป Drop กระเป๋าได้เลยค่ะสวยงามตั้งแต่ทางเข้า ล็อบบี้ที่นี่จะเป็นแบบ open air สูงโปร่ง มีมุมนั่งรอเช็คอินหลายจุด Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
มีพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ ตกแต่งสไตล์ทรอปิคอล
รีสอร์ท ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ และดอกไม้นานาชนิด
ภายในเงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อน
ชาร์ตแบตให้ร่างกายและหัวใจ
ห้องพักมีหลากหลายประกอบไปด้วย
ห้องสวีท 42 ห้อง และ Pool Villa 54 หลัง
พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางตั้งแต่ 120 ถึง 400 ตรม.
ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกประเภท
ส่วนห้องพักจะแบ่งเป็น Roomtype ต่างๆ ดังนี้
– JUNIOR SUITE
– TERRACE SUITE
– PRIVATE POOL VILLA
– 2 BEDROOM VILLA WITH PRIVATE POOL
– 2 BEDROOM VILLA OCEANFRONT
– PRESIDENTIAL VILLA OCEANFRONT
เดี๋ยวอิ้มพามาชมห้องพักกันนะคะ
หลักๆ เค้าจะแบ่งห้องพักเป็น 2 โซน
จะเป็นวิลล่า และ สวีท
เดี๋ยวอิ้มพามาชมห้องสวีทกันก่อนนะคะโซนนี้จะล้อมรอบด้วยต้นไม้ และสระบัว ห้องที่อิ้มจะพามาชมก็คือ
Terrace Suite (Lagoon View)
ตัวอาคารจะแบ่งเป็น 2 ชั้น
จะแบ่งเป็น 2 room type
– JUNIOR SUITE
– TERRACE SUITE
อิ้มจะพาไปชม TERRACE SUITE
ตัวห้องจะอยู่ที่ชั้นสองกันก่อนนะคะ
TERRACE SUITE
ภายในจะมีพื้นที่ใช้สอยถึง 120 ตารางเมตร
กว้างขวางมากกกส่วนแรกของห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น
มีประตูเปิดออกไปยัง Terrace ด้านนอกได้ถัดมาจะเป็นห้องนอน มีประตูเชื่อมต่อไปยังส่วน terrace เช่นกัน ถัดมาด้านหลังจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำและห้องแต่งตัว
ซึ่งกว้างขวางมากกก
ฝั่งนึงจะเป็นตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งนึงจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีอ่างอาบน้ำอยู่ส่วนกลาง
ฝั่งขวามือเป็นห้องสุขภัณฑ์
ซ้ายมือเป็น Shower และด้านนอก
มีโซน Shower แบบ Outdoor ด้วยนะคะความพิเศษของห้องนี้นั่นก็คือ Terrace ขนาดกว้างขวาง มองชมวิว นั่งชิลได้อย่างเพลิดเพลินใจ ต่อมาจะเป็น TERRACE SUITE
เช่นกัน แต่เป็นแบบชั้นล่างค่ะและแบบที่อิ้มพามาชมเป็นเตียงทวิน นะคะ เอาจริงๆ ขนาดเป็นเตียงทวิน
ก็เป็นเตียงที่ไซส์ใหญ่ทีเดียวห้องน้ำคือกว้างขวาง ดีงาม ด้านนอกที่เป็นโซน Shower ค๊าา Sexy ไปอีก ด้านนอกที่เป็นระเบียงก็จะวิวประมาณนี้ โซนฝั่งนี้อิ้มก็ว่าสงบเงียบดีนะคะ
ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องมีสระว่ายน้ำในห้อง
ฝั่งนี้ก็น่าสนใจทีเดียวแมโซนนี้คือยังมีสระว่ายน้ำ
ไม่ต้องเดินไปเล่นที่สระใหญ่ก็ได้มาชมวิลล่าที่อิ้มพักบ้างค่ะ วันนี้อิ้มเข้าพัก
Private Pool Villa
หรือ One Bedroom Pool Villa
วิลล่าส่วนตัวซึ่งมีขนาด 150 ตารางเมคร
กว้างขวางมาก มีความ private
เหมาะกับการพาคนรักมาพักผ่อน
จัดสรรพื้นที่ได้ดี มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน
ด้านนอกมีพื้นที่นั่งเล่น สนามหญ้า
มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
ภายในห้องน้ำ กว้างขวาง
มี Bath tub ให้แช่ตัว สวีทกับแฟน
รวมถึง โซนอาบน้ำแบบ outdoor
ให้ได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างแท้จริงส่วนแรกของวิลล่าจะเป็นห้องนั่งเล่น
ด้านนอกมีประตูเชื่อมต่อไปยังบัลโคนี่
เป็นพื้นที่ของสวนและสระว่ายน้ำห้องนั่งเล่นมี ทีวี และมุมมินิบาร์ต่างๆ ถัดมาจะเป็นห้องนอนค่ะ
ที่อิ้มชอบมากๆ ก็คือ จะมีประตู 2 ฝั่ง
ฝั่งนึงสามารถเปิดออกไปชมวิวสวน
และอีกฝั่งนึงเปิดออกไปจะลงสระว่ายน้ำได้เลย
เรียกว่าตื่นนอนปุ๊ป ลงสระว่ายน้ได้ปั๊ป
สะดวกสบายมากอิ้มว่าข้อดีของการมาพักพูลวิลล่าช่วงนี้
คือการเป็นส่วนตัว และค่อนข้างปลอดภัย
เพราะเราก็จะรีแลกซ์อยู่ในพื้นที่ตรงนี้
ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันถัดมาก็จะเป็นห้องแต่งตัว และห้องน้ำ
ซ้ายมือจะเป็นอ่างล้างหน้าอีกฝั่งนึงจะเป็นตู้เสื้อผ้า ฝั่งขวามือเป็นสุขภัณฑ์ อีกฝั่งเป็นโซน Shower และด้านนอกมี outdoor shower ให้ด้วยค๊าา ผลิตภัณฑ์ที่มช้ในห้องน้ำเป็น
แบรนด์ของรีสอร์ตทั้งหมดชอบวิลล่าแบบนี้จัง มีความรีแลกซ์มากกกก มีพื้นที่สวนด้วยค่ะ สดชื่นสบายตาสุดๆ ในห้องมีกิจกรรม Create your own drink ด้วยนะคะ อิ้มจะลองทำเครื่องดื่มในแบบของอิ้มดู
เดี๋ยวดูกันว่ารอดไม่รอด 5555งู้ยยยยย เสร็จแล้วค่า ขอตั้งชื่ว่า Sunset น๊าาา
เพราะแก้วนี้สีเหมือนท้องฟ้า
เวลาพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
สีสวย แถมรสชาติอร่อยอีกต่างหาก อิอิชมห้องพักเสร็จแล้วมาชมส่วนอื่นกันต่อนะคะ
สปาที่นี่ก็คือ Asara SpaAsara Spa ให้บริการทรีทเมนต์หลากหลาย
ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นนวดแผนไทย นวดน้ำมัน
สครับผิว ทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้า
โดยพนักงานมากประสบการณ์
ที่จะช่วยให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
และคืนความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดีบรรยากาสผ่อนคลาย สวยงาม เงียบสงบ ก่อนเข้ารับบริการ
จะมีการซักถามประวัติ และอาการต่างๆ
รวมถึงเราชอบนวดแบบไหน เน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ
ใส่ใจในรายละเอียดมากเค้ามีห้องทรีตเม้นท์หลากหลายห้อง
และเป็นห้องที่กว้างขวางส่วนแรกจะเป็นมุมพักผ่อน ด้านในห้องทรีตเม้นท์ ด้านนอกจะเป็นห้องน้ำ Shower ห้องแต่งตัว มี bath tub ให้ด้วยค่ะ therapist ที่นี่น่ารักมาก
ใส่ใจในรายละเอียด
สอบถามความต้องการของลูกค้าชัดเจน
ว่าต้องการนวดแบบไหน
แต่ช่วงนี้ตัวเลือกในการนวดค่อนข้างจำกัด
เนื่องจากกฎของรัฐบาล
อิ้มจึงนวดเป็นอโรม่าปกติ 60 นาที
นวดเสร็จแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
และรีแลกซ์มาก ฝีมือ therapist เค้าดีจริงๆสำหรับสายสุขภาพ เค้าก็มีฟิตเนสให้บริการ มาต่อกันที่สระว่ายน้ำของรีสอร์ตค่ะ
สระแรกจะอยู่โซนห้อง Suite
แต่ตัว main pool จะอยู่หน้าหาด
ติดกับห้องอาหารก้ามปูเลยค่ะเห็นสระแบบนี้ อากาศแบบนี้
อยากลงว่ายน้ำเลยทีเดียวด้านหลังห้องอาหารก้ามปูจะมีสระบัว
ซึ่งมีปลาคาร์ฟตัวใหญ่เต็มไปหมด
และมีต้นไม้ปกคลุม
ช่วงเช้าๆ หรือ เย็นๆ
สามารถมาเดินเล่นหรือถ่ายภาพมุมนี้ได้ค่ะช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
อิ้มแนะนำว่าให้มานั่งชิลๆ ที่ Ocean Bar
บาร์ริมทะเลบรรยากาศสุดโรแมนติก
ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดไฮไลท์ เป็นมุม Signature
ที่ใครมาแล้วจะต้องมาแชะภาพ
เก้าอี้ทรงกลม ขนาดใหญ่ ริมทะเล สีสันสะดุดตา
นั่งชิลๆ ลมเย็นๆ มองทะเลเอื่อยๆ
และก็สามารถสั่งเครื่องดื่ม มานั่งจิบ
จะมีอะไรฟินไปกว่านี้ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง อิ้มถูกใจสิ่งนี้ เวลาไหนก็รีแลกซ์ ชอบที่รีสอร์ตอยู่ติดทะเล บรรยากาศดี เงียบสงบ พาคนรักมาเดินเล่นคือฟินที่สุดค่ะ หากใครมาพักที่นี่
แนะนำให้ตื่นเช้า มาชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นแสงสวย ฟ้าสวยมาก รู้สึกถึงความสดชื่น ตื่นรับวันใหม่ ยามเช้าใครไม่อยากออกมาทานอาหารด้านนอก
ก็สามารถรีเควสสั่งไปทานในิลล่าได้แบบอิ้มค่ะชอบขนมปังและเบเกอรี่ที่นี่มาก ยามเช้าทานอาหารเบาๆ คือดี แต่หากใครไม่ชอบทานในห้อง
หรือกลัวจะมีเมนูน้อยและไม่อิ่ม
ก็สามารถไปทานอาหารเช้า
ที่ห้องอาหารหลักได้ค่ะ
สำหรับห้องอาหาร เค้าก็จะมี
ห้องอาหาร ก้ามปู (Kampu)
ภายในให้บริการ
แบบ All Day Dinning ตั้งแต่มื้อเช้า ไปจนถึงมื้อค่ำ
มีอาหารฝรั่งเศสชั้นดี
อาหารไทยดั้งเดิมให้เลือกทาน
และอาฟเตอร์นูนที ขนมอร่อยๆ ให้ทาน
ห้องอาหารจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย
สะดวกสบายมากสำหรับมื้อเช้าในช่วงนี้
ก็จะเป็นแบบ มินิบุฟเฟ่ต์ โดยการใช้บริการ
จะเว้นระยะห่าง และมีการใส่ถุงมือ
ตลอดจนจำกัหผู้เข้าใช้บริการไลน์อาหารถือว่ามีให้เลือกหลากหลาย เชื่อไหมคะว่านานแล้วนะ
ที่อิ้มไม่ได้เห็นรีสอร์ตต่างๆ จัดไลน์อาหารเช้าแบบนี้
พูดไปก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆส่วนนี้จะเป็นผลไม้ ซีเรียลต่างๆ ชีส ขนมปัง เบเกอรี่ต่างๆ แนะนำให้ลอง
เพราะทางรีสอร์ตทำเอง อร่อยมากเครื่องดื่มต่างๆ สลัดเบาๆ ยามเช้า แฮม โคลคัท Egg Station และ Side dish Hot Dish สลับ สับเปลี่ยนเมนูไปในทุกๆ วัน มีทั้งอาหารไทย อินเตอร์ ด้านนอกมีก๋วยเตี๋ยวด้วยค่ะ ช่วงบ่ายอิ้มแนะนำให้ทานอาฟเตอร์นูนที
ขนมที่นี่อร่อยทู้กกอย่างจิบชาอุ่นๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ อิ้มถูกใจสิ่งนี้ อีกไฮไลท์นึงของที่นี่ก็คือ
พอเค้าเปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ Mövenpick
สิ่งที่ขาดไม่ได้และเป็นหน้าตาของแบรนด์นี้เลย คือ
” บุฟเฟ่ต์ช็อคโกแลตฟรี “
ที่ห้องอาหาร ก้ามปู
ตั้งแต่ช่วง 15.00 น. – 16.00 น.
จะเน้นช็อคโกแลตเป็นหลัก
มีทั้งฟองดูว์ ผลไม้สด มาร์ชแมลโลว์ คุกกี้ เค้ก
คนรักช็อคโกแลตบอกเลยฟินเป็นช่วงเวลาที่แขกในรีสอร์ตทุกคนรอคอย
รวมถึงตัวอิ้มเองด้วย 5555คือขนมที่อยู่ตรงนี้ทานได้ฟรีหมดเลย
คือดีต่อใจมากกกกกและบราวนี่ที่นี่บอกเลยว่าห้ามพลาดดดด โอ้ยยยย หลากหลาย นานาชนิด คุ๊กกี้ก็มีน๊าาาา อิ้มว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่น่ารักมากๆ ได้ทานขนมหวานอร่อยๆ กับคนรัก
มีความมุ้งมิ้งค์ คือดีต่อใจและช่วงเย็นที่ห้องอาหารก้ามปู
เค้าก็มีบริการจัด Private Dinner ด้วยนะคะช่วงเย็นทาน Seafood BBQ ริมทะเล
ฟินกับบรรยากาศใน Set Seafood BBQ เค้าก็มีซีฟู้มาให้แแบบจุกๆ
ทั้ง – Black Tiger Prawn
– Rock Lobster
– Thai marinated Calamari
– Green Lip Mussels
– Sea Bass In Banana Leaf
– Grilled Vegetable Skewersกริลมาหอมๆ น่าทานมากกก และวัตถุดิบสด
น้ำจิ้มซีฟู้ดคือแซ่บเสิรืฟพร้อมข้าวผัด สลัดผัก ทานกันสองคนบอกเลยว่าอิ่มมากกก ช่วงเวลาที่แสนพิเศษกับคนพิเศษ จริงๆ ความสุขของชีวิตคู่
ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายนัก
รู้ว่าคู่ของเราชอบหรือไม่ชอบอะไร
แบบไหนกันที่ทำให้คู่ของเรามีความสุข
การทำกิจกรรมที่พอใจและมีความสุขร่วมกัน
ได้นั่งพูดกันสั้นๆ มองตากัน จับมือกัน
เท่านี้ก็เติมพลังให้ชีวิตคู่ได้อย่างเต็มเปี่ยมและหากใครไม่ชอบบรรยากาศหน้าหาด ก็สามารถมาจัด Private dinner มุมนี้
หรือ Private Dinner ในวิลล่าชองเราก็ได้ค่ะห้องอาหารก้ามปูเค้าโด่งดังเรื่องอาหารฝรั่งเศส
และเมนูอินเตอร์ ซึ่งจากการทานหลายๆ เมนู
ก็ทำให้อิ้มไม่ผิดหวังเลยค่ะ
จานแรกเป็น
ทูน่านิซัวสลัด (Tuna Nicoise Salad)
ทูน่าคือดี สุกกำลังดี ถูกใจอิ้มมากซุปครีมกุ้ง (Lobster Bisque)
ตัวนี้เข้มข้นหอมมัน กลมกล่อม มีเนื้อ Lobster
และ on top ด้วยคาเวียร์
อ้อ เมนูนี้เค้าจะเสิร์ฟแบบแยกน้ำซุป
เวลาทาน ค่อยๆ เทซุปลงไป
จะทำให้ได้ทานร้อนๆ ซุปไม่แข็งตัวจับเป็นก้อน
ดีงามมากค่ะเส้นแองเจิลแฮร์ผัดเนื้อปู
( Chili Crab Angel Hair Pasta)
จานนี้อิ้มเลิฟมาก
ตัวเส้นเล็ก เชฟปรุงมาได้สุกกำลังดี
มีเนื้อปูแบบแน่นๆ
On top ด้วย อิคุระ
พร้อมรสชาติ เผ็ดๆ ของพริก
โรยเกลือนิดๆ อร่อยอราบมากกกกเนื้อปลากระพงนึ่ง กับหอยหลอดและโชริโซ่
(Sherry Steamed Seabass)
จานนี้ทำอิ้มเซอร์ไพร์ส
เพราะส่วนตัวไม่ค่อยทานสเต็กปลากระพงเท่าไหร่
แต่พอลองจานนี้ติดใจมาก
ตัวปลากระพงสดหวาน ไม่คาวเลยค่ะ
และตัวหอยหลอดเค้านำไปทอด
มีกระเทียมนิดๆ หอมๆ
เวลาทานพร้อมกันชูรสชาติของปลากระพงได้ดีมากปิดท้ายจานหลัก
เนื้อแก้มวัวแองกัสตุ๋นไวน์แดง
(Braised Augus Beef Cheeks)
เนื้อแก้มนิ่มหนุบเพราะมีเอ็นอยู่ด้านใน
นุ่มละมุน ละลายในปาก หอมกลิ่นเนื้อเบาๆ .
ใครสายเนื้อต้องห้ามพลาดจานนี้
พี่บรีสทานหมดเกลี้ยงเลยค่ะของหวานอิ้มแนะนำ
ช็อกโกแลตลาวา
เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรัมและลูกเกด
คือที่นี่ยืนหนึ่งเรื่องช็อกโกแลตอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นมั่นใจในความฟินได้เลยเค้กแครอทสไตล์สวิส
เสิร์ฟกับไอศครีมชีสมาาสคาร์โปน
ปิดท้ายท้ายมื้ออาหารแสนอร่อยความสุขที่สัมผัสได้ ก่อนนอนคืนนี้ขอแช่ Bath tub กับแฟนสักหน่อย
โรแมนติกจังก่อนเช็คเอาท์กลับอิ้มแนะนำทานอาหารที่
Baan Dum Oceanfront Seafood
ก่อนนะคะ เป็นร้านอาหารหัวหิน
ติดทะเล อยู่ติดโรงแรมเลย
บรรยากาศดีมากก
ร้านอาหารทะเลหัวหินที่ต้องมาเช็คอินให้ได้!!!!
ส่วนตัวอิ้มเคยมาทานแล้วติดใจ
เป็นร้านอาหารที่มีความสบายๆ สไตล์โลว์คอล
ราคาไม่แรง รสชาติถึงเครื่อง
แรงบันดาลใจของอาหารที่นี่
มาจากรสชาติท้องถิ่นของหัวหิน
ปลาและอาหารทะเลสด ๆ คือจุดเด่นของที่นี่
เค้าจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศสดใหม่ทุกวัน
จากตลาดในท้องถิ่น
มาทำเป็นเมนูหลากหลาย
อาหารแต่ละอย่างรสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง
รับรองถูกปากแน่นอน
Baan Dum Oceanfront Seafood
เปิดตั้งแต่กลางวันไปจนถึงค่ำ
ช่วงเย็นๆ จะมีดนตรีสด
ในบรรยากาศสุดชิล ทานอาหารอร่อยๆ
ริมทะล เคล้ากับเสียงเพลง
จะมีอะไรฟินไปกว่านี้
เอาเป็นว่าหากใครมาหัวหิน
แล้วมองหาร้านอาหารอร่อยๆ
บรรยากาศดี อิ้มนะแนะเลยค่ะ
“บ้านดำ โอเชี่ยน ฟร้อน ซีฟู้ด หัวหิน”
เป็นร้านอาหารที่เปิดมานานและมีชื่อเสียง
ทำเลดีเลยค่ะ ร้านอยู่ติดทะเล
มีที่จอดมากมาย เพียงพอกับลูกค้า
หากใครมาไม่ถูก
สามารถเสิร์ช Location จาก Google Map มาได้เลย
จุดสังเกตจะอยู่ที่
หัวหินซอย 5 เลี้ยวเข้ามาปุ๊บ
จะเห็นป้ายร้านขนาดใหญ่ ชัดเจน “บ้านดำหัวหิน”
หาไม่ยากเลยค่ะ
บ้านสีดำสองชั้น ริมหาด
คือที่มาของชื่อร้าน “บ้านดำ”
ซึ่งเป็นบ้านเก้าแก่ตั้งแต่ รัชสมัยของรัชกาลที่ 6 ค่ะ
ใครมาทานช่วงกลางวัน
ก็นั่งทานด้านในบ้านดำได้บรรยากาศโดยรวมของร้านคือดีมาก
อยู่ริมทะเลแบบนี้เลยค่ะโต๊ะที่นั่งเค้าจัดแบ่งอย่างเว้นระยะห่าง
เพื่อลดการสัมผัสและใกล้ชิดถ้าอยากจะเลี่ยงช่วงคนน้อย
แนะนำให้มากลางวันนะคะ
ลูกค้าไม่หนาแน่น
แถมมีมุมกว้างๆ ถ่ายภาพกับท้องทะเลสวยๆทะเลหัวหิน
ในวันที่อากาศดีก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนเลยค่ะถ่ายภาพเตรียมเช็คอินเสร็จแล้ว
มาทานอาหารกันค่ะ
Baan Dum Oceanfront Seafood
เป็นร้านอาหารหัวหิน ติดทะเล
ที่บรรยากาศดีมากก
ร้านอาหารทะเลหัวหินที่ต้องมาเช็คอินให้ได้!!!!
ส่วนตัวอิ้มเคยมาทานแล้วติดใจ
เป็นร้านอาหารที่มีความสบายๆ สไตล์โลว์คอล
ราคาไม่แรง รสชาติถึงเครื่อง
แรงบันดาลใจของอาหารที่นี่
มาจากรสชาติท้องถิ่นของหัวหิน
ปลาและอาหารทะเลสด ๆ คือจุดเด่นของที่นี่
เค้าจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศสดใหม่ทุกวัน
จากตลาดในท้องถิ่น
มาทำเป็นเมนูหลากหลาย
อาหารแต่ละอย่างรสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง
รับรองถูกปากแน่นอน
นอกจากเค้าจะมีอาหารอร่อยๆ
มากมายให้เลือกทาน
เค้าก็มีเมนูเครื่องดื่ม
หลายชนิด พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นเอาหล่ะไม่รอช้า มาเริ่มรีวิวอาหารกันนะคะ
ส่วนตัวเคยมาที่นี่ ครึ่งนึงแล้วประทับใจมากๆ
มาคราวนี้ก็ขอลองเปลี่ยนเมนูทานบ้าง
ดูว่าจะยังอร่อยหมือนเดิมไหม
จานแรกเป็น
“หอยนางรมทรงเครื่อง”
หอยนางรมสดๆ ตัวใหญ่ๆ
เสิร์ฟพร้อมเครื่องมากมายหลายชนิด
หอยนางรมสดหวาน
น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ
ทานพร้อมเครื่องเคียงไปอีก เต็มปากเต็มคำ
ฟินนนนนนนนนต่อมาเป็น พล่าแซลมอน
จานนี้ถูกใจอิ้มมาก นางเอกคือตัวแซลมอน
ซึ่งความสด คือเกรดดี หั่นมาชิ้นหนาพอดีคำ
เค้าคลุกไปกับเครื่องพล่า และเครื่องปรุงทุกอย่าง
คนเบาๆ ไม่ให้แซลมอนเละ
แต่พอทำให้แซลมอนซึมซับเครื่องปรุงเข้าไป
เวลาทานแนะนำให้ตักแซลมอน
พร้อมเครื่องเคียง
รสชาติ ได้ความสดของแซลมอน
ตัวน้ำราดมีรสเปรี้ยวเผ็ดหวาน
หอมมะนาว หอมพริกเผา เต็มปากเต็มคำ
มีความกลมกล่อม ถูกใจมากค่ะดับเผ็ดกันหน่อยด้วยไข่เจียวปู
หน้าตาอาจไม่หวือหวา
เพราะเค้าไม่ได้เอาเนื้อปูมาโรยด้านบนให้ดูสวยงาม
แต่นำเนื้อปูไปผสมด้านใน
เวลาตักทานเนื้อปูเน้นๆโป๊ะแตกทะเล
เมนูที่หาทานง่าย แต่หาที่อร่อยยาก
ซึ่งที่นี่ เป็นรสชาติที่อิ้มถูกใจ
อย่างแรกต้องชมว่าเครื่องทะเลที่ใส่มาคือสด
ถึงจะตัวไม่ได้ใหญ่มากมาย
แต่ช่วยให้น้ำซุปกลมกล่อมมาก
น้ำต้มยำ ต้มจนเดือดหอมกลิ่นข่า ตะไคร้
เวลาทานได้กลิ่นหอมมะนาว
รสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม กลมกล่อม ครบรสแกงส้มพริกนกปลากระพง
ถ้วยนี้ต้องมาลองค่ะ
เป็นอาหารขึ้นชื่อของทางหัวหิน
และร้านบ้านดำ เค้าทำออกมาได้ดี
ปลากระพงชิ้นใหญ่ สดหวาน
น้ำแกงส้มปรุงออกมาได้รสชาติร้อนแรง
เป็นเมนูที่มีรสชาติเข้มข้นด้วยเครื่องแกง
เปรี้ยว เป็ด จัดจ้าน เข้มข้น แซ่บสุดๆ อร่อยมากๆ ค่ะแต่ละเมนูคืออิ้มเลิฟฟฟฟฟ ไม่เคยทำให้ผิดหวังค่ะ
สำหรับร้าน “บ้านดำ โอเชี่ยน ฟร้อน ซีฟู้ด หัวหิน”ส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์
ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip