สวัสดีค๊า ❤
วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักผ่อน
กับโรงแรมทำเลดีใจกลางกรุงเทพ
เหมาะมากกกกกกก สำหรับสาย ช็อปปิ้ง
ที่นี่ก็คือ Amari Watergate Bangkok
โรงแรมอยู่ย่านประตูน้ำ
และใกล้แหล่งช็อปปิ้งมากกกกกกก
ทั้งขายปลีก-ขายส่ง ไม่ว่าจะเป็น
Platinum Fashion Mall, Pantip Plaza,
นอกจากนั้นยังใกล้ Central World,ดองกี้
เดินถึงกันหมด มีแสนหมดแสนแน่ๆ
ปกติทุกท่านอาจจะคุ้นชินกับ
Amari Watergate Bangkok
ในเรื่อง Buffet ใช่มะ
น่าเสียดายที่ตอนนี้บุฟเฟ่ต์ยังไม่เปิดให้บริการ
แต่อิ้มจะพามาพักผ่อนกับโปรใหม่
“สเตย์ลิเชียส” ( Staylicious )
กินหรู อยู่สวีท ที่ อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
ไหนๆ ก็ออกเดินทางไกลไม่ได้
ไปต่างจังหวัดก็ไม่ได้
ก็มาพักผ่อนในกรุงเทพ
ชมวิวเมืองสวยๆ แทนก็แล้วกันนะคะ
ซึ่งแพ็คเกจ “สเตย์ลิเชียส” ( Staylicious )
อิ้มว่าเค้าตอบโจทย์มากกกก
กินหรู อยู่สวีทสมชื่อ
สัมผัสประสบการณ์ที่แสนพิเศษนี้
ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท++
( 4,120 บาทสุทธิ) สำหรับ 2 ท่าน
( หรือพักมากกว่า 2 ท่าน
เพิ่มท่านละ 900 บาท++ สำหรับผู้ใหญ่ /
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักและทานอาหารฟรี)
สิทธิพิเศษที่จะได้รับก็คือ
– พักผ่อนในห้องสวีท 2 ห้องนอน
โฉมใหม่ที่ตกแต่งในบรรยากาศอบอุ่น
– อาหารมื้อค่ำแบบ 3 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน
ที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์
และสปาร์คกลิ้งไวน์ 2 แก้ว
อย่างเป็นส่วนตัวที่ห้องพัก
– พักเต็มอิ่ม 36 ชั่วโมงจุกๆ
– สามารถเช็คอินเข้าพักได้ตั้งแต่เวลา 8:00 น.
และเลทเช็คเอาท์ไม่เกิน 20.00 น.
– เสิร์ฟอาหารเช้าที่ปรุงสดใหม่
พร้อมเสิร์ฟตรงถึงห้องสวีทของคุณ
– สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกออนิกซ์ รีวอร์ด
เรียกว่าคุ้มค่ามากกก ราคาแบบนี้ต้องจองแล้วค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/amariwatergate/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
อมารี
โรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์อมารี
สะท้อนให้เห็นถึงรากฐานวัฒนธรรม
ความเป็นไทยสมัยใหม่
และแรงบันดาลใจจากแนวคิดสร้างสรรค์
รูปแบบใหม่ๆ ของแต่ละพื้นที่ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล
โรงแรมภายใต้แบรนด์อมารีแต่ละแห่ง
ได้รับการตกแต่งด้วยลวดลายและสีสัน
ที่เป็นเอกลักษณ์
สะท้อนให้เห็นผ่านสถาปัตยกรรม
การออกแบบ ศิลปะ อาหาร
และการบริการแบบไทยสมัยใหม่
โรงแรมในเครือของอมารี
มีทั้งในไทยและต่างประเทศ
ตั้งแต่เมืองตากอากาศชายทะเลอันสวยงาม
ไปสู่เมืองหลักที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
อาทิ หัวหิน พัทยา ภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุย
กรุงเทพฯ บุรีรัมย์
ธากา (ประเทศบังกลาเทศ) มัลดีฟส์
ยะโฮร์ บาห์รู (ประเทศมาเลเซีย)
กอลล์ (ประเทศศรีลังกา)
วังเวียง(ประเทศลาว)
หยางซั่ว (ประเทศจีน)
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
สามารถเยี่ยมชมผ่านทางเว็บไซต์ http://www.amari.com
อย่างที่กล่าวไปค่ะ ว่าอมารีแต่ละที่นั้น
จะตกแต่งตามสถาปัตยกรรม
การออกแบบ ศิลปะ อาหาร
และการบริการแบบไทยสมัยใหม่
ตามทำเลของแต่ละพื้นที่
อย่างที่ Amari Watergate Bangkok
อยู่ประตูน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อโรงแรม
และไม่ว่าจะเดินทางไปไหน
เราจะได้เห็นการตกแต่ง
ที่ร้อยเรียงเรื่องราวของสายน้ำ
และย่านการค้าต่างๆ
มาเรียงร้อยเรื่องราว
และตกแต่งผสมผสานกับ Concept ของโรงแรม
ได้อย่างลงตัว
ในเรื่องของทำเล จัดว่าดีงามมากกกก
สายช็อปปิ้งควรมาพักสุดๆ
โรงแรมอยู่ย่านประตูน้ำ
และใกล้แหล่งชอปปิ้งที่หลากหลาย
ทั้งขายปลีก-ขายส่ง Central World,
Platinum Fashion Mall,
Pantip Plaza, Gaysorn Plaza
สายช็อปคือควรค่ามากกกมาถึงแล้วก็เตรียมตัวเข้าไปเช็คอินด้านในกันค่ะ Amari Watergate Bangkok
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
พอเข้ามาเช็คอินปุ๊ป เค้าก็เริ่มกระบวนการ
มาตรการป้องกันโควิดเลยค่ะ
แน่นอนสิ่งที่ทุกคนต้องมีคือ Mask นะคะ
ถ้าไม่มี Mask เค้าไม่ให้เค้าพักนาจา
ส่วนของพนักงาน
ทุกคนที่นี่จะใส่ Mask หมด
และมีการตรวจวัดไข้
ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานทุกครั้ง
ส่วนของลูกค้า
ก่อนเช็คอิน
จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก
ทั้งการวัดไข้,และมีเจลกอออล์ให้ตามจุดต่างๆ
และมีกรอกข้อมูลนิดหน่อย
เช็คอินไทยชนะ ก็เสร็จเรียบร้อยทางโรงแรมได้มีการยกระดับมาตรฐานการบริการ
ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
ภายใต้โครงการ “ออนิกซ์ คลีน”
เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านเข้าพักได้อย่างสบายใจ
ตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงAmari Watergate Bangkok
เพิ่งถูกรีโนเวทมาเมื่อไม่นานนี้เองนะคะ
ภายในดูหรูหรา โทนสีมีความเรียบหรู ดูมีสไตล์ล็อบบี้ที่นี่จะสูงโปร่ง มาพร้อมโคมไฟหยดน้ำ
ที่มีมากกว่า 500 ดวง
ส่องแสงระยิบระยับ
ราวกับให้เห็นถึงความเคลื่อนไหว
และความคึกคักของย่านประตูน้ำนอกจากล็อบบี้จะมีความสูงโปร่ง โอ่โถงแล้ว
ยังมีความกว้างขวาง
แบ่งแยกสัดส่วนต่างๆ ได้อย่างดีเลยค่ะมีมุมเช็คอินหลายโซน
และมีจุดพื้นที่เว้นระยะห่างระหว่างเช็คอิน เราก็จะได้ทาน
Welcome Drink เย็นๆ ชื่นใจนอกจากจะมีมุมนั่งรอหลายจุดแล้ว
เค้ายังมีมุมสำหรับใช้คอมพิวเตอร์และมุมนั่งอ่านหนังสือ ก่อนเข้าห้องพัก
อิ้มขอพามาทานมื้อกลางวันสักหน่อยค่ะ
เราเลือกทานกันที่ Cascade เป็นห้องอาหารของโรงแรม
ห้องอาหาร CASCADE (คาสเคด)
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม
ติดกับส่วนของ Lobby
ซึ่งเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ในตัว
แขกที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมาทานได้
ตอนนี้ถือเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม
เค้าให้บริการแบบ All Day Dining
ตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึงค่ำบรรยากาศภายใน เครื่องดื่มต่างๆ ขนม และอาหาร
บอกเลยว่าราคาไม่แพงสายชา TWG ต้องเลิ้บบบบ สำหรับเมนูอาหาร
สามารถแสกนได้ที่โต๊ะเลยค่ะ สะดวกสบายมากเครื่องดื่มมีให้เลือกทานมากมาย
แต่มาถึงช่วงกลางวัน อากาศร้อนๆ
อิ้มแนะนำทานพวกเมนูโซดาค่ะ สดชื่นมากกสำหรับอาหารมื้อเที่ยงอิ้มทานเมนูง่ายๆ
Quinoa Salmon Poke Bowl
จานนี้สายเฮลตี้ต้องเลิฟ
อร่อยแถมรักษาสุขภาพด้วยค่ะของพี่บรีสเป็นข้าวผัดต้มยำ
เสิร์ฟพร้อมปลาทอดและไข่ต้มยางมะตูม
จานนี้ รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องมาก
เปรี้ยว เผ็ด เค็ม ครบรสอิ่มฟินง่ายๆ สบายๆ สำหรับมื้อกลางวัน ทานเสร็จก็เตรียมตัวขึ้นห้องกันนะคะ
Amari Watergate Bangkok
เค้ามีโครงการ “ออนิกซ์ คลีน” (ONYX Clean)
เข้าพักอย่างมั่นใจไร้กังวล
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป
ยกระดับมาตรฐานการบริการ
ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
ซึ่งโครงการออนิกซ์ คลีน” (ONYX Clean)
จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ให้กับแขกผู้เข้าพัก
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึงโรงแรม
จนถึงวันเดินทางกลับ
โดยร่วมมือกับเอ็กโคแล็บ (Ecolab)
ผู้นำในการให้บริการด้านเทคโนโลยี
ด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับพนักงาน
และแขกของโรงแรม
ซึ่งเราจะเห็นตั้งแต่ตอนเข้าเช็คอิน
และก่อนเข้าห้องแบบนี้ค่ะ
หลังจากที่ทำความสะอาดห้อง
และมีการฆ่าเชื้อแล้ว
เค้าจะติดสติ๊กเกอร์ไว้แบบนี้
เพื่อให้ลูกค้าที่มาเช็คอิน
ได้สัมผัสและเปิดห้องได้เป็นคนแรกค่ะอิ้มจะพามาพักผ่อนกับโปรใหม่
“สเตย์ลิเชียส” ( Staylicious )
กินหรู อยู่สวีท ที่ อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
ไหนๆ ก็ออกเดินทางไกลไม่ได้
ไปต่างจังหวัดก็ไม่ได้
ก็มาพักผ่อนในกรุงเทพ
ชมวิวเมืองสวยๆ แทนก็แล้วกันนะคะ
ซึ่งแพ็คเกจ “สเตย์ลิเชียส” ( Staylicious )
อิ้มว่าเค้าตอบโจทย์มากกกก
กินหรู อยู่สวีทสมชื่อ
สัมผัสประสบการณ์ที่แสนพิเศษนี้
ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท++
( 4,120 บาทสุทธิ) สำหรับ 2 ท่าน
( หรือพักมากกว่า 2 ท่าน
เพิ่มท่านละ 900 บาท++ สำหรับผู้ใหญ่ /
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักและทานอาหารฟรี)
สิทธิพิเศษที่จะได้รับก็คือ
– พักผ่อนในห้องสวีท 2 ห้องนอน
โฉมใหม่ที่ตกแต่งในบรรยากาศอบอุ่น
– อาหารมื้อค่ำแบบ 3 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน
ที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์
และสปาร์คกลิ้งไวน์ 2 แก้ว
อย่างเป็นส่วนตัวที่ห้องพัก
– พักเต็มอิ่ม 36 ชั่วโมงจุกๆ
– สามารถเช็คอินเข้าพักได้ตั้งแต่เวลา 8:00 น.
และเลทเช็คเอาท์ไม่เกิน 20.00 น.
– เสิร์ฟอาหารเช้าที่ปรุงสดใหม่
พร้อมเสิร์ฟตรงถึงห้องสวีทของคุณ
– สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกออนิกซ์ รีวอร์ด
มาเริ่มชมห้องพักกันค่ะ
ห้องที่ได้ในแพ็คเกจจะเป็นห้องสวีท 2 ห้องนอน
ที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทใหม่
เปลี่ยนโฉมใหม่ตกแต่งในบรรยากาศอบอุ่น
ในโทนสีเขียว เฉดสีเขียว teal ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
เหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ท
อิ้มจะพามาชมห้องนอนเล็กกันก่อนนะคะ
ส่วนแรกที่เข้ามาจะเป็นมุมตู้เสื้อผ้า
ซึ่งตรงตู้เสื้อผ้า เค้าก็จะทำเป็นเหมือนราวเหล็ก
คล้ายๆ กับราวแขวนผ้าของแม่ค้า ย่านนี้
เพิ่มดีเทลความเป็นประตูน้ำ
เข้ากับความหรูหราได้อย่างลงตัวภายในตู้เสื้อผ้าจะมีชุดคลุมอาบน้ำ ตู้เซฟ ตรงข้ามกันจะเป็นห้องน้ำลายหินอ่อน
เรียบแต่โก้มาก
แยกส่วนต่างๆ ได้ดี
มีอ่างล้างหน้าแบบ His and Her
มาพร้อมกระจกไฟ LED ถูกใจสาวๆ
แต่งหน้าได้อย่างเพลิดเพลิน
ฝั่งซ้ายมือเป็น Shower และขวามือคือโซนสุขภัณฑ์ถัดมาจะเป็นเตียงนอนแบบ Twin ค่ะ ในห้องคือมูดแอนด์โทนดีมากกกก มองเห็นวิวเมืองสวยๆ มีทีวีจอใหญ่ให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงต่างๆ ระหว่างห้องนอนเล็ก
จะมีประตูแบบ Connecting room
เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลาง
ซึ่งเป็นห้องครัวและห้องนั่งเล่นเปิดประตูจากห้องเล็กมาจะเห็นภาพแบบนี้เลยค่ะ ห้องนี้จะเป็นส่วนกลางระหว่างสองห้องนอน
เค้ามีเครื่องซักผ้าให้ด้วยนะ
เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อนแบบ Long Stayตรงข้ามกันจะเป็นโซนครัว
มีตู้เย็นขนาดใหญ่ ไมโครเวฟ อ่างล้างจาน
มีโต๊ะทานอาหารแบบเริ่ดๆด้านหลังจะมีชา กาแฟ ให้บริการฟรี ถัดมาจะเป็นห้องนั่งเล่น ตกแต่งด้วยชุดโซฟาขนาดใหญ่ที่ดูทันสมัย
และสีที่ดูคุมโทนกับภายในห้อง
มาพร้อมวิวเมืองด้านนอกที่มีความสวยงามเข้าไปชมในห้องนอนกันบ้างค่ะ
ส่วนแรกจะเป็นตู้เสื้อผ้า
มีชุดคลุมอาบน้ำ ตู้เซฟ เตารีด
และราวแขวนผ้าเกร๋ๆถัดมาจะเป็นห้องน้ำ
ความพิเศษก็คือมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ตัว ชิวๆ
มีอ่างล้างหน้าแบบ His And Herมี โซน Shower ที่มีให้ทั้งฝักบัว
และ Rain Shower อาบแบบสะใจ
ด้านข้างมีกระจกกั้นเปนสุขภัณฑ์ที่มีสายชำระอเมนิตี้ที่ใช้จะเป็นของ Breeze Spa มาชมในส่วนของห้องนอนกันบ้างค่ะ
มีเตียงนอนขนาดใหญ่ มีทีวีอิ้มชอบมุมโซฟาเบดที่ออกแบบมา
ให้รับกับริมหน้าต่าง
นั่งชมวิวเมืองได้ทั้งวันโทนสีห้องก็ดูสบายตา น่าพักผ่อน พักผ่อนในห้องสวยๆ แบบนี้ดีต่อใจสุดๆ ค่ะ ชมห้องพักเสร็จแล้วไปชมส่วนอื่นๆ กันต่อนะคะ
แนะนำมาที่ชั้น 8
เพราะเป็นศูนย์รวมของ facility ต่างๆ
กิจกรรมในโรงแรมที่อิ้มไม่ค่อยพลาด
นั่นก็คือการทำสปา
ยิ่งในเครือของอมารีเป็น Breeze Spa
เป็นแบรนด์ที่อิ้มไว้ใจในคุณภาพมากทีเดียวค่ะBreeze Spa
เป็นแบรนด์สปาชั้นนำ
ที่บำบัดด้วยศาสตร์และทรีตเมนต์
มากมายให้เลือกสรรได้ตามความต้องการ
บรีซ สปา มีทรีตเม้นต์ให้เลือกตามความชอบ
ตั้งแต่การนวดตัวแบบอโรมา
ที่เป็นซิกส์เนเจอร์ของแบรนด์เอง
การขัดผิว ทรีตเมนต์ดูแลผิวหน้าซึ่งเป็นของเยอรมัน
ไปจนถึงโปรแกรมสปาแบบครึ่งวัน
อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นพิเศษ
ในแต่ละเดือนอีกด้วยภายในก็จะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ของแบรนด์จำหน่ายด้วย
ส่วนตัวอิ้มชอบสครับ และพวกอโรม่ามาก
ซื้อกลับบ้านทุกครั้งที่มาใช้บริการเลยค่ะ
ความพิเศษก็คือ Breeze Spa
จะมีทุกๆ แบรนด์ของอมารี
ซึ่ง ในทุกๆ ที่ก็จะมีกลิ่นเฉพาะของตัวเองก่อนเข้ารับบริการ
เค้าจะนำแบบสอบถามกรอกข้อมูลต่างๆ
เช่นเราต้องการนวดแบบไหน
มีโรคประจำตัวอะไรไหม
หลังจากนั้นก็ทานเครื่องดื่มก่อนรับบริการ
ซึ่งเป็นน้ำอัญชัญค่ะ
พอบีบมะนาวจะกลายเป็นสีม่วง
สร้างความสดชื่น
กระปรี้กระเปร่าก่อนรับบริการสำหรับทรีตเม้นท์ที่อิ้มเลือกทำในวันนี้
นั่นก็คือ Signature Mood Massage
เป็นซิกเนเจอร์ทรีตเมนต์
ที่เป็นเอกลักษณ์คือ
การนวดผ่อนคลายตามอารมณ์
( Mood Massage )
ทรีตเมนต์ตามความรู้สึก
ที่ต้องการหลังจากได้รับการนวดแล้ว
ซึ่งจะได้รับการออกแบบเทคนิคการนวด
และเทคนิคการบำบัดร่างกาย
ที่เหมาะสมกับแต่ละทรีตเมนต์
ร่วมกับการใช้น้ำมันหอมระเหย
มีทั้ง 60 และ 90 นาที
สามารถเลือกนวดได้ตามความรู้สึกที่ต้องการ
ซึ่งมีให้เลือก 5 แบบดังนี้
– Dreamy (ดรีมมี่) เคลิบเคลิ้มและผ่อนคลาย
ผสมผสานการนวดด้วยหินร้อน
และการใช้น้ำมันหอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์
ดอกกระงงา และดอกคาโมมายล์
ที่ช่วยให้ร่างกายและระบบประสาท
ได้ผ่อนคลายอย่างล้ำลึก
เหมาะสำหรับผู้เหนื่อยล้า
จากการเดินทางที่ยาวนานบนเครื่องบน
ผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ
– Serene (ซีรีน) ไร้กังวล
นำเอาเทคนิคการนวดที่เน้นความลื่นไหล
และจังหวะการนวดที่เนิบนาบและต่อเนื่อง
เพื่อสร้างความสมดุลย์ให้กับระบบประสาท
และระบบการไหลเวียนโลหิต
เพื่อให้รู้สึกสบายกาย
และจิตใจสงบนิ่งอย่างไร้กังวล
– Rejuvenated (รีจูวะเนท) –เปล่งประกาย
ทรีตเมนต์เพื่อกระตุ้นการทำงาน
ของระบบน้ำเหลือง
เพื่อเร่งกระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย
ที่สะสมความเครียดและมลพิษ
เพื่อให้ผิวเปล่งประกาย และดูอ่อนเยาว์
– Invigorated (อินวิกกะเรท) – มีชีวิตชีวา
ด้วยเทคนิคการนวดที่เน้นกล้ามเนื้อชั้นลึก
ที่มักมีความตึงเครียดสะสม
อยู่จากอริยาบถที่ไม่ถูกต้อง
ลดอาการตึงปวด
เรียกความกระฉับกระเฉงกลับมาอีกครั้ง
– Energised (เอเนอไจซ์) เติมพลัง
การนวดไทยแบบโบราณ
ยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงภูมิปัญญาล้ำค่าของไทย
ที่สืบทอดการบำบัดจากอดีตสู่ปัจจุบัน
นำเอาการนวดไทย
ผสมกับการนวดประคบ
ด้วยสมุนไพรมากกว่า 10 ชนิด
และเทคนิคการยืดเส้น
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
คืนความยืดหยุ่นให้กับข้อต่อต่างๆซึ่งทรีตเม้นท์ต่างๆ จะมีกลิ่นเฉพาะตัว เลือกได้แล้วเราก็มาเตรียมตัว
เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องทรีตเม้นท์กันค่ะ
ห้องทรีตเม้นท์ที่อิ้มทำจะมีอ่างจากุชชี่
และเป็นแบบเตียงคู่วันนี้อิ้มเลือกเป็นนวด Invigorated
เป็นการนวดที่จะเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
เค้าจะมีเทคนิคโดยการนวดกล้ามเนื้อชั้นใน
ร่วมกับน้ำมันหอมระเหย
ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของระบบโลหิต
และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนของบรีสเลือกเป็นแบบ Energised
ช่วยฟื้นฟูพลังด้วยสติภูมิปัญญาไทย
ตัวนี้จะเป็นการผสานการนวดแผนไทย
และการใช้ลูกประคบจากสมุนไพรนานาชนิด
ที่คงคุณค่าจากอดีตถึงปัจจุบัน
เน้นการยืดเส้น ช่
วยคลายความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อใครชอบทำสปาบอกเลยว่าห้ามพลาด
ทรีตเม้นท์ที่เราทั้งคู่เลือกคือดีงามมาก
รู้สึกผ่อนคลาย รีแลกซ์ขึ้นเยอะเลยค่ะทำสปาเสร็จก็ออกมาชมสระว่ายน้ำกันหน่อยค่ะ เป็นสระว่ายน้ำท่ามกลางวิวเมือง สระมีความน่าเล่นมากกก บริเวณ สระเค้ามีต้นไม้ล้อมรอบ เพิ่มความสบายตา ดูสดชื่นมากทีเดียวค่ะ พอมีต้นไม่มาอยู่ท่ามกลางสระว่ายน้ำแบบนี้
เหมือนโอเอซิสน้อยๆ ใจกลางเมืองสระน้ำสีฟ้า ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
ชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุดหากใครอยากนั่งริมสระ
แต่ไม่ชอบความวุ่นวาย
เค้าก็มีโซนคาบาน่า นั่งชิวๆเห็นว่ายน้ำสวยๆ แบบนี้
บอกเลยอดใจไม่ได้ ><ขอว่ายน้ำชิวๆ สักหน่อยแล้วกันค่ะ และสำหรับสายสุขภาพเค้าก็มีฟิตเนส
อยู่ที่ชั้นเดียวกันรอให้บริการอุปกรณ์ต่างๆ คือจัดเต็มมากกก แล้วในชั้นนี้เค้ายังมีพื้นที่สวนลอยฟ้า
เหมาะสำหรับการจัดงาน งานแต่งงาน
จัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้อีกด้วยค่ะยามเย็น อิ้มแนะนำ Executive Lounge
สำหรับใครที่จองห้องพักแบบ Executive Club
หรือ Executive Suites
จะสามารถเข้ามาใช้บริการ
ส่วนของเอ็กเซ็คคิวทีฟ เลาจน์
ที่ตั้งอยู่บนชั้น 32 ได้ด้วยนะคะ
มีค็อกเทล คานาเป้ต่างๆ ให้บริการน่าเสียดายวันที่อิ้มไปอากาศไม่เป็นใจ
ไม่งั้นเราจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ
จาก Executive Loungeบรรยากาศดีมากจริงๆ ส่วนมื้อเย็นใครที่จองแพ็คเกจมา
เค้าจะเสิร์ฟมื้อค่ำแบบ 3 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน
พร้อมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์
และสปาร์คกลิ้งไวน์ 2 แก้ว
อย่างเป็นส่วนตัวที่ห้องพักสั่ง appetizer, main course ,
และ Dessert ได้อย่างละ 1 เมนู
appetizer ที่แนะนำก็จะมี
Roasted Pumpkin SoupChicken Caesar Salad Nachos Platter main course ที่แนะนำก็จะมี
Pork FilletSalmon Spaghetti Arabiatta หรือจะเป็นเมนูไทยๆ
อย่างผัดไทยกุ้งก็อร่อยถูกปาก
โดยรวมอิ้มชอบนะ อาหารเค้าอร่อย จานใหญ่
รสชาติถูกปากปิดท้ายด้วยของหวาน
Chocolate Cakeหรือ Blueberry Cheesecake เป็นมื้อค่ำที่สะดวกสบาย
แถมได้ความเป็นส่วนตัวมีความโรแมนติกเบาๆ ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง อิ่มแล้วก็อาบน้ำ แช่ Bathtub ผ่อนคลาย ก่อนนอน ขอนอนกอดแฟนอุ่นๆ
ชมวิวเมือง และแสงสีไฟรอบๆเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกและสมบูรณ์แบบจริงๆ สำหรับอาหารเช้า
ช่วงนี้เป็นแบบ New Normal
เค้าก็มีบริการ In Room Breakfast น๊าา
สั่งได้เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะชอบทานเมนูไหนสามารถรีเควสได้เลยนะคะ มีครบครัน ทั้งหลากหลายเมนูไข่
ทั้ง Egg Benedictไข่กระทะ Scrambled egg ชีส โคลคัท ก็มีให้หมด ขนมปัง แพนเค้ก พร้อมเสิร์ฟ เป็นมื้อเช้าที่แฮปปี้มาก ตื่นยามเช้ารับวันใหม่
กับการทานอาหารชมวิวเมืองดีต่อใจที่สุด
2วัน1 คืน ที่ Amari Watergate Bangkok
ทำอิ้มแฮปปี้มาก ชิวๆ สบายๆ เดินทางใกล้ๆ
เป็นตัวเลือกที่ดีในการ Staycation เลยค่ะส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์
ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip