สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาไปพักผ่อน
ที่ The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket
พูลวิลล่าสุดหรู ที่ใครหลายๆ คนหลงรัก
ซึ่งอิ้มเองก็ชอบที่นี่มาก
ครั้งนี้มาพักผ่อนเป็นครั้งที่ 2
บอกเลยว่าประทับใจไม่เปลี่ยนแปลง
อิ้มรักในความเงียบสงบ
ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
และรักในความความสะดวกสบาย
ถึงอยู่บนเกาะก็ยังมีความ Luxury
ตอบโจทย์ความต้องการในการพักผ่อนของอิ้มมาก
The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket
เป็นรีสอร์ทสุดหรูตั้งอยู่บนเกาะนาคาใหญ่
ของจังหวัดภูเก็ต
การเข้าพักที่นี่ ต้องนั่งเรือข้ามฝั่งมา
เหมือนกับว่า เราได้ทิ้งความวุ่นวายจากโลกภายนอก
ไว้ที่ฝั่ง และมุ่งหน้าสู่เกาะนาคา
พาหัวใจไปพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
อิ้มได้มีเวลารีแลกซ์มากมาย
ทั้งนั่งมองทะเลกับวิวแบบพาโนราม่า
เชื่อไหมคะว่า วิวแบบนี้มองได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
นอกจากนั้นยังได้ทานอาหารอร่อยๆ
ผ่อนคลายกับการทำสปา
ได้มีเวลาพูดคุยกับคนรัก
เติมเต็มความสุขได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แนะนำว่า หากมาที่นี่ ควรพักอย่างน้อย 3วัน2คืน
จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ค่ะ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://th-th.facebook.com/thenakaisland
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่
อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม
แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe
กดไลก์ กดแชร์ได้เลยนะค๊าาา ❤❤❤
The Naka Island, a Luxury Collection Resort & Spa Phuket
เป็นรีสอร์ตที่ตั้งอยู่บนเกาะยาวใหญ่
จังหวัดภูเก็ต
รีสอร์ตห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 25 นาที
และการเข้าพักที่นี่
จะต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทข้ามเกาะมา
จากท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า
ใช้เวลาข้ามเรือมาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
บนเกาะยาวใหญ่นี้ ภายในพื้นที่เอง
นอกจากจะมีรีสอร์ตแล้วก็จะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ด้วย
แต่เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น
เพราะฉะนั้น The Naka Island
จึงเป็นรีสอร์ตเดียวในเกาะ
จะว่าไปก็ดูคล้ายกับตั้งอยู่ในทำเลพื้นที่
เหมือนเกาะส่วนตัวภายในเกาะนาคาใหญ่
มีชุมชนเล็กๆ บนเกาะด้านฝั่งตะวันออกของจังหวัดภูเก็ต
เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการเลี้ยงมุก
ตลอดจนมีร้านขายมุก
ร้านอาหารทะเลไว้บริการ
มีกิจกรรมทางทะเล
บนเกาะมีชายหาดสามารถพักผ่อนว่ายน้ำได้
การเดินทางสามารถไปได้ตลอดปี
จริงๆ หากไม่ได้พักที่ เดอะนาคา
ก็สามารถข้ามมาเที่ยวได้
แต่อิ้มแนะนำเลยนะคะ
ว่าควรมาพัก จะได้สัมผัสธรรมชาติ
และวิถีชีวิตของชาวบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นเกาะที่สวยงาม มีความเงียบสงบมาก หากใครเช่ารถมาจากสนามบิน
สามารถมาจอดที่ท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่าได้เลย
ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
จากนั้นจะมีน้องพนักงานสแตนด์บายรออยู่ที่ซุ้มไม้
เมื่อเรามาถึงเดินไปตรงนั้นได้เลยค่ะ
น้องพนักงานจะมารับสัมภาระ
และพาเราไปยังสปีดโบ๊ท
เพื่อเดินทางสู่รีสอร์ตจริงๆ แล้วที่นี่ไม่ได้ไกลจากฝั่งเลยค่ะ
มองด้วยตาก็เห็นแล้ว
และนั่งสปีดโบ๊ทมาเพียง 5 นาที
ก็ถึงรีสอร์ตแล้วค่ะ
ภาพที่เห็นอยู่บนสปีดโบ๊ทนั้น
เป็นภาพวิลล่าหลังน้อยใหญ่
ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
เรียงรายริมท้องทะเล
สวยงาม ดูเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆมาถึงแล้วก็จะมีสะพานไม้
ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์
ใครมาก็ต้องถ่ายภาพ เป็นที่ระลึก
และมีรถกอล์ฟจอดสแตนด์บายอยู่ก่อนจะเดินทางเข้าห้อง อิ้มก็ขอแชะภาพสักหน่อย หน้าหาดของรีสอร์ต
น้ำทะเลใสมาก มีลมพัดเย็นสบาย
น้องๆ ที่อยู่รีสอร์ตเล่าให้ฟังว่า
บางทีในช่วงกลางคืน
จะมีชาวบ้านมาตกหมึก ตกปลา
เรียกว่าเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์มากทีเดียวเมื่อเดินทางมาถึง
สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือการตีฆ้องและอธิษฐาน 2 ครั้ง
ตามตำนานเรื่องเล่าของเกาะนี้
ที่นี่มีเรื่องเล่าว่า
นานมาแล้วมีพญานาคตัวหนึ่ง
ท่องไปทั่วทะเลอันดามัน
และเมื่อเห็นบริเวณที่สวยงาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณเกาะนาคาตั้งอยู่ในขณะนี้
มองแล้วมีทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวพังงา
พญานาคเลยตัดสินใจว่า
นี่คือที่ที่เขาจะนอนพัก
สำหรับวันเวลาที่เหลืออยู่ของเขา
เมื่อพญานาคในตำนานได้ล่วงลับไปแล้ว
เขาเลยกลายสภาพ
เป็นเกาะหินก้อนหินและทราย
หลายปีที่ผ่านมา
เนื่องจากการพังทลายของดินและสภาพอากาศ
ทำให้ดินแดนแห่งนี้
แยกออกเป็นสามเกาะเล็ก ๆ
ซึ่งยังสามารถพบเห็นได้ในทุกวันนี้
เช่นเกาะแรด (หัวพญานาค)
เกาะนาคาใหญ่ (เกาะของรีสอร์ทที่เป็นลำตัวพญานาค)
และเกาะนาคาน้อย (หางพญานาค)
นั่นเองค่ะ
การตีฆ้อง 2 ครั้งก็เพื่อเป็นเกียรติแก่พญานาค
โดยครั้งที่ 1 เป็นการกล่าวสวัสดี
และแจ้งให้ทราบว่าได้เดินทางมาถึงเกาะแล้ว
ดังนั้นพญานาค
ก็จะดูแลแขกในระหว่างการเข้าพัก
และครั้งที่สองที่ให้เราอธิฐาน
กล่าวคำปรารถนา
โดยพญานาคที่จะช่วยให้มันเป็นจริง
ส่วนเวลาเดินทางกลับก็ต้องตีอีกครั้ง
เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางกลับอย่างปลอดภัย
และขออำลาอันอบอุ่น
และขอบคุณพญานาค
สำหรับวันพักผ่อนที่น่าประทับใจ
ในช่วงปกติ เราจะทำการเช็คอินในล็อบบี้นี้
แต่ช่วงนี้เป็นยุคโควิด
เค้าเปลี่ยนไปเช็คอินในห้องแทนค่ะ
he Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
พอเข้ามาเช็คอินปุ๊ป เค้าก็เริ่มกระบวนการ
มาตรการป้องกันโควิดเลยค่ะ
แน่นอนสิ่งที่ทุกคนต้องมีคือ Mask นะคะ
ถ้าไม่มี Mask เค้าไม่ให้เค้าพักนาจา
ส่วนของพนักงาน ทุกคนที่นี่จะใส่ Mask หมด
และมีการตรวจวัดไข้ ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานทุกครั้ง
ส่วนของลูกค้า ก่อนเช็คอิน
จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก
ทั้งการวัดไข้,และมีเจลกอออล์ให้ตามจุดต่างๆ
และมีกรอกข้อมูลนิดหน่อย
เช็คอินไทยชนะ ก็เสร็จเรียบร้อยพื้นที่ของรีสอร์ตกว้างถึง 60 ไร่
การเดินทางไปวิลล่าจึงต้องอาศัยรถบักกี้ค่ะ
แต่ส่วนตัวอิ้มก็เดินบ่อยนะ เช่นเดินไปห้องอาหาร
เดินไปสระว่ายน้ำ ก็รู้สึกว่าไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่
แถมได้เดินออกกำลังกายด้วยค่ะ
ห้องพักที่นี่ก็จะมีหลากหลายแบบเลยนะ
ห้องเริ่มต้นก็จะเป็น Deluxe room
แต่ห้องพักหลักๆ จะเป็น Pool Villa แบ่งเป็น
Tropical Pool Villa ,
Seaview pool villa , Beachfront pool villa
และ Roomtype สูงสุดก็คือ
Royal Horizon Pool Villa
สำหรับวันนี้อิ้มเข้าพักใน
Seaview pool villa ค่ะ
หน้าตา Seaview Pool Villa ของอิ้มก็จะประมาณนี้Seaview pool villa
เป็นวิลล่าขนาด 450 ตารางเมตร
พื้นที่ใช้สอยกว้างมากทีเดียวค่ะ
แบ่งสัดส่วนออกได้ชัดเจน
นอกเหนือจากห้องนอน ก็จะมีสระว่ายน้ำ สวน
มีเก้าอี้ชายหาดไว้นั่งเล่น
และศาลา คือนอน รับลมทะเล
พักผ่อนได้อย่างชิลมากกกกกเมื่อเปิดประตูมาปุ๊ป
เราจะเจอกับมุมนั่งเล่นรับลมทะเล
เป็นมุมที่อิ้มชอบมาก นอนมุมนี้ได้ทั้งวันถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ
มุมแรกจะเป็น มินิบาร์ ชา กาแฟ ตู้เย็นถัดไปจะเป็นเตียงนอน
ที่นี่จะตกแต่งแนวๆ ทรอปิคอล
ก็จะเน้นสถาปัตยกรรม
และวัฒนธรรมดั้งเดิมจากท้องถิ่น
นำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวอิ้มชอบวิวแบบนี้จากห้องนอนมาก
เห็นแล้วผ่อนคลายสุดๆเพราะแบบนี้ไงคะ อิ้มถึงหลงรัก
และมาพักผ่อนที่นี่เป็นครั้งที่ 2ภายในวิลล่า
จะสอดแทรกมุมพักผ่อนเอาไว้เต็มไปหมด
จะเลือกนั่งชิวมุมไหนก็ได้เลย
ตามชอบค่ะนอกจากมุมศาลาด้านหน้าแล้ว
อิ้มยังชอบมุมโต๊ะทำงานมุมนี้มาก
มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา
บางทีความสุข
ก็มาในรูปแบบการนั่งมองวิวเฉยๆ
รู้สึกสงบ และได้ผ่อนคลายมากๆความพิเศษและไม่เหมือนใครของที่นี่
ก็เห็นจะเป็นส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ
ที่ถัดจากห้องนอนจะมีทางเดิน
ที่เชื่อมต่อไปยังห้องแต่งตัวและห้องอาบน้ำ
บริเวณนี้จะไม่มีผ้าม่านกั้น
ทำให้เราได้รู้สึกและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดสิ่งอำนวยความสะดวกจัดว่าครบครันมาก มีอ่างล้างหน้าแบบ His And Her มีซาวน่าให้บริการ ผลิตภัณฑ์และอเมนิตี้ที่ใช้เป็นของแบรนด์ THANN ออกจากห้องน้ำ ด้านนอกนี้จะมีอ่างอาบน้ำ Outdoor
และทางเดินเชื่อมต่อไปยัง
บริเวณด้านหน้าและสระว่ายน้ำส่วนตัวอิ้มขอเรียกว่า ประตูสวรรค์ เดินออกมาสุดทางเราจะเจอมุมนี้ค่ะ
เห็นแบบนี้แล้วถูกใจมากกกหันกลับไปยังวิลล่า จะมี Sun Bed
พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดสระว่ายน้ำอาจจะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก
แต่รับรองว่าถ้าแช่แล้วคือฟินมากกกสระแบบนี้แช่มองวิวได้ทั้งวัน ด้านนอกก็มีมุมนั่งริมสระว่ายน้ำอีกจุดนึงค่ะ สำหรับบรรยากาศยามเย็นของวิลล่าหลังนี้
บอกเลยว่าโรมแนติกมากกใครมากับแฟนคือจะอินสุดๆ
สามารถมองวิวพระอาทิตย์ตกได้จากบนเตียงปล่อยให้เวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างช้าๆ แสงสุดท้ายของวันสวยงามเสมอ ช่วงเย็นแนะนำให้แช่น้ำมองพระอาทิตย์ตก
จะได้รับความฟินไปอีกสิบเท่าแต่หากถามว่าอยากมาพักที่นี่
แล้วไม่มีงบพัก Pool Villa
อิ้มขอแนะนำ 2 Type นี้ค่ะ
เป็นห้องพักที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่นาน
ตอบโจทย์คนที่อยากมาพักผ่อนแบบเงียบสงบ
และเป็นส่วนตัวห้องนี้จะมีขนาดกว้างขวาง
เปิดมาจะเจอกับห้องรับแขกขนาดใหญ่รูปทรงของห้องนี้จะเป็นลักษณะทางยาว เดินตรงมาส่วนส่วนกลางจะเป็นตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำขนาดกว้างขวาง แยกเป็นสัดส่วน ส่วนอีกห้องนึง
จะเป็นห้องที่สร้างใหม่เช่นกันภายในห้องตกแต่งได้น่าอยู่มาก สัดส่วนของห้องกำลังพอดีไม่ซับซ้อน มีมุมนั่งพักผ่อน แบบเรียบง่าย ภายในห้องน้ำ ต่อมาเป็นอีก Type นึง
ที่อิ้มอยากแนะนำ
Type นี้สำหรับคนที่มีงบอยากพักพูลวิลล่า
แต่ไม่เน้นมองวิวทะเล
ก็จะเป็นวิวสวนแทน
Type นี้ชื่อว่า
Tropical Pool Villa 1 Bedroom Villaการตกแต่งจะเหมือน Seaview Pool Villa ที่อิ้มพัก
จะแตกต่างกันตรงเรื่องของวิวเท่านั้นเลย์เอาท์ทุกอย่างการจัดวาง เหมือนกันมากก ใครไม่ซีเรื่องวิวทะเล
ห้องนี้ก็น่าอยู่มากน๊าาาปิดท้ายการชมห้องพักด้วย
Royal Horizon Room Type สูงสุดของที่นี่เป็นวิลล่าหลังใหญ่สวยงามเวอร์วัง สระว่ายน้ำนี่ใหญ่มากค่ะ
นึกว่าสระส่วนกลางของรีสอร์ต ><สระว่ายน้ำของห้องนี้เรียกว่าสวยงามมาก มองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนราม่า สวยแบบไม่มีอะไรมากั้นจริงๆ อยากหยุดเวลาไว้ สวยสะกดใจ ใครมีกำลังเหลือ แนะนำพักห้องนี้ค่ะ
จะฟินหนักมากมาชมสระส่วนกลางของรีสอร์ตบ้างค่ะ สระส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ติดกับ
ห้องอาหารต้นไทร และ Rum Chapelเป็นสระแบบ Infinity Pool เห็นวิวทะเลได้แบบเต็มตา ถามว่าหน้าหาดของรีสอร์ตสวยไหม ให้ภาพนี้เป็นคำตอบค่ะ อ้อๆๆๆๆ ช่วงเวลาบ่าย2-5 โมงเย็น
บริเวณสระว่ายน้ำหลัก
เขาแจกไอติมฟรีจร้า
ไอติมเป็นโฮดเมดสลับเปลี่ยนรสชาติ
ไปเรื่อยๆ อร่อยมากกกส่วนกิจกรรมที่เค้ามีให้ฟรีๆ
ก็มีพวกจักรยาน พายคายัค พาย subเล่นได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ ให้ชมภาพบรรยากาศสระว่ายน้ำยามเย็นบ้าง และอีกกิจกรรมนึง
ที่อิ้มเลิฟมากๆ นั่นก็คือการทำสปา
สปาที่นี่ขึ้นชื่อมาก
เค้ามีทรีตเมนต์ทางพฤกษศาสตร์
ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
แต่ละทรีตเมนต์ดำเนินการโดยนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ
ใครพักที่นี่ต้องห้ามพลาดนะคะก่อนทำทรีตเมนต์ก็จะมีขนมอร่อยๆ ให้ทาน บรรยากาศภายในสปา ร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่โอบล้อม ภายในห้องสปา เงียบสงบ สวยงาม บรรยากาศน่ารีแลกซ์มาก สวยงามผ่อนคลาย สำหรับช่วงเช้า
ถ้าใครไม่อยากออกไปทานมื้อเช้าที่ห้องอาหาร
สามารถสั่ง Floating Breakfast
แบบนี้มาทานได้นะค๊าาในเซ็ตสามารถเลือกเลยว่าอยากทานอะไร อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่าง
และความดีงามคือ ยามเช้ามีสเต็กเสิรืฟด้วยค่ะขนมปังคือจัดเต็มมมม อิ่มท้องแถมได้รูปสวย อัพลงโซเชี่ยลอีก
ดีต่อใจสุดๆนอกจาก Floating แล้ว
เรายังสามารถสั่งอาฟเตอร์นูนที
มาทานที่ห้องได้เช่นกันในยุค New Normal แบบนี้
ไปเที่ยวพูลวิลล่า อิ้มว่าสะดวกที่สุดแล้วค่ามาชมห้องอาหารกันต่อนะคะ
สำหรับอาหารเช้าในมื้อปกติ
เค้าจะให้บริการที่ห้องอาหาร Tonsai
อยู่ติดกับ Main Pool
ซึ่งให้บริการแบบ All Day Dinning
แต่ในมื้อเช้าช่วงนี้
เค้าให้บริการเป็นแบบ A La Carte เมนู
สามารถทานได้ไม่อั้นเหมือนเดิมค่ะเมนูก็มีหลากหลายและอร่อยเหมือนเดิม ส่วนมื้อกลางวัน ก็จะเป็นอาหารไทย
อาหารพื้นเมืองภูเก็ต
นอกจากนั้นยังมีขนมหวานอร่อยๆ
ให้ได้ลองทานด้วยค่ะใครมาทานกลางวันแนะนำสั่งมะม่วงปั่น
เย็นสดชื่นมากกกและที่อิ้มอยากแนะนำก็คือ
ห้องอาหาร Rum Chapel
เป็นห้องอาหารเปิดใหม่แกะกล่อง
เป็นห้องอาหารสวย บรรยากาศดี
ติดกับ Main Pool ของรีสอร์ต
สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างงดงามภายในให้บริการอาหาร
และเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบอาหารของเค้าจะออกแนวฟิวชั่น
คนไทยทานได้แน่นอนMy grill ห้องอาหารดินเนอร์ที่ดีที่สุด
ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า My grill
ก็จะเน้นเป็นเมนูแนวปิ้งย่าง
และมีพวกอาหารอิตาเลี่ยนให้ทาน
ราคาจะสูงหน่อย
แต่แลกกับบรรยากาศอิ้มว่าคุ้มค่ะบรรยากาศห้องอาหารนี้คือดีมากจริงๆ
เหมาะสำหรับพาแฟนมาดินเนอร์
ใช้เวลาร่วมกันพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสุดโรแมนติก แต่ละเมนูของเค้าคืออร่อยมาก จานนี้คือเดอะเบสท์ ใครมาพักที่นี่ห้ามพลาดนะคะ ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย อย่างที่อิ้มเกริ่นไปตอนต้น
ว่าที่นี่มีชุมชนอยู่ด้วย
ซึ่งถ้าพักที่รีสอร์ต ก็สามารถมาเยี่ยมชมชุมชนได้
ผู้คนที่นี่น่ารักและเป็นกันเอง
อยู่กันแบบเรียบง่าย มีความสุขกับชีวิต
โดยที่ไม่ต้องไขว่ขว้าอะไร
บางทีชีวิตแบบนี้ก็น่าอิจฉานะคะมาพักผ่อนที่นี่ไม่เคยทำให้อิ้มผิดหวัง
เก็บเกี่ยวความสุขได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆส่งท้ายความสุขในรีวิวด้วยภาพนี้นะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกไลค์ ทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com