Devasom Khao Lak Beach Resort and Villas

สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาทุกท่าน
กลับไปพักผ่อน ที่รีสอร์ตสุดหรู
Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas

ทำไมถึงกลับมาพักผ่อนที่นี่อีกครั้ง
เรียกว่า “หลงรัก” น่าจะถูกค่ะ
อิ้มหลงรักที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น
ด้วยความที่ว่าสัมผัสแรกตอนที่มาถึง
เหมือนเวลาหยุดนิ่ง เพราะภายใน เงียบสงบ
มีเรื่องราวและคอนเซ็ปเป็น
เมืองตะโกลา (ตะกั่วป่า)
ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าอันรุ่งเรืองในอดีต
ทำให้เรารู้สึกอิน
บวกกับดีไซน์ที่โดดเด่น
ตกแต่งด้วยงานสถาปัตยกรรมย้อนยุค
นำกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย
ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรม
จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้อย่างประณีตลงตัว
และชื่อของรีสอร์ตคือ เทวาศรม
เป็นคำผสมระหว่าง เทวา และ อาศรม
ซึ่ง มีความหมายว่า
ที่อยู่ของเหล่าเทวดา
ทุกจุดภายในรีสอร์ตมีดีเทลมาก
ยิ่งภายในห้องพัก ยิ่งทำให้หลงไหล
เหมือนราวกับได้พักผ่อนอยู่ในดินแดน
แห่งสวงสวรรค์
ครั้งก่อนอิ้มรู้สึกว่า
พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
เหมือนได้ปล่อยวาง หยุดเวลา
ทิ้งเรื่องราววุ่นวายเอาไว้ ได้ชั่ว ขณะ
จึงสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า
จะพาร่างกายและหัวใจ
กลับมาพักผ่อนที่นี่อีกครั้ง

ครั้งนี้อิ้มมาพักกับบรีสสองคน
อยากมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้เต็มที่
อยากอยู่เงียบๆ ท่ามกลางธรรมชาติ
อยากมีช่วงเวลาพิเศษ
และอยากสวีท
จึงเลือกพัก Beach Front Pool Villa
เพราะตอบโจทย์ของเรา
Beach Front Pool Villa
พูลวิลล่าสุดหรูสุดโรแมนติกริมชายหาด
ภายในวิลล่า กว้างขวาง สวยงาม
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
วิลล่าแต่ละหลังของที่นี่ออกแบบไม่เหมือนกัน
ซึ่งหลังที่อิ้มพัก เค้าแยกห้องนั่งเล่น
และห้องนอนออกเป็นสัดส่วน
สระว่ายน้ำเป็นแนวยาวทอดตัวสู่ชายหาด
มีความเป็นส่วนตัว
ยามเช้าแค่คุณตื่นนอนและเปิดผ้าม่าน
ก็จะได้เห็นวิวทะเลสวยๆ สงบๆ
ช่วงเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์ตก
จากในห้องได้เลย
นอกจากนั้นที่อิ้มชอบมากๆ คือ
มีทางเดินเท้าเปล่าตรงไปยังหาดทราย
สัมผัสทรายนุ่มๆ มองวิวทะเลสวยๆ
อยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติ
ได้ใช้ชีวิตแบบบีชไลฟ์ได้อย่างเต็มที่

นอกจากนั้นการมาพักที่นี่
ไม่ได้มีแค่รีแลกซ์ภายในห้องชมวิวแค่อย่างเดียว
เรายังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมาย
ทั้งว่ายน้ำ ในสระว่ายน้ำสีฟ้าสดใส
ปลายสุดเป็นน้ำทะเลสีคราม
สลับกับทรายและท้องฟ้า
ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
เป็นภาพที่อิ้มชอบมาก
นอกจากนั้นยังมี คายัค ให้บริการ
มีฟิตเนส สำหรับคนรักสุขภาพ
และมีเทวาศรม สปา แอนด์ เวลเนส
ที่ออกแบบขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากศาสตร์
โบราณแห่งการบำบัดแบบไทย
และปรัชญาตะวันออก
เรื่องการรักษาสมดุลของร่างกาย
จิตใจและไปจนถึงจิตวิญญาณ
ด้วยวิธีการและส่วนผสมจากธรรมชาติ
มีทรีตเม้นต์ดีๆ ให้ได้ลองทำ
และผ่อนคลายร่างกาย
ปิดท้ายด้วยการลองทานอาหาร
แสนอร่อยของรีสอร์ต
ที่ห้องอาหาร Beach Grill
ล่าสุดได้รับรางวัล MICHELIN Plate
ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่
ปรุงอย่างพิถีพิถัน
และ ห้องอาหาร Takola
ห้องอาหารไทยแบบพรีเมี่ยม
ที่ได้รับรางวัล Bib Gourmand
ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา
เรียกว่า มาพักที่นี่
เติมเต็มวันหยุดพักผ่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ

เอาหล่ะเดี๋ยวตามอิ้มไปพักผ่อนกันต่อ
ในรีวิวนี้นะคะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางโรงแรม
th-th.facebook.com/devasomkhaolak/

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com

Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas
ห่างจากสนามบินภูเก็ตโดยการขับรถยนต์
ประมาณ 1.15 นาที
ใครอยากชิลๆ แวะ นู่น นี่ นั่น
แนะนำให้เช่ารถมา
แต่ถ้าหากใครอยากรีแลกซ์
และใช้เวลาอยู่รีสอร์ตได้อย่างเต็มที่
อิ้มแนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของรีสอร์ต
มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยค่ะ

Devasom Khao Lak Beach Resort
ตั้งอยู่ บนหาดคึกคัก
อ.เขาหลัก จังหวัดพังงา
ภายในมีพื้นที่กว้างขวางถึง 18 ไร่
ตัวรีสอร์ตติดแม่น้ำซึ่งจะทอดไหลยาวสู่ท้องทะเล
บรรยากาศสวยงามและเงียบสงบมาก
ช่วงนี้ทะเลยิ่งสวย
อากาศดีมาก อยากให้ทุกท่านมาพักผ่อนกันค่ะ
รีสอร์ตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
มีผืนป่า โอบล้อม
ทำให้ภายใน เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว
Devasom Khao Lak Beach Resort
ถูกสร้างด้วย Concept เมืองตะโกลา (ตะกั่วป่า)
ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าอันรุ่งเรืองในอดีต
สมัยก่อนพื้นที่นี้
ถูกใช้เชื่อมต่อระหว่างการค้าจากเปอร์เซีย
อินเดีย สู่สุวรรณภูมิ
ดังนั้นจึงเป็นแรงบันดาลใจ
ให้ที่นี่ถูกจำลองให้เหมือนในยุคอดีต
ตกแต่งงานสถาปัตยกรรมย้อนยุค
นำกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทย
ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมจากเอเชียใต้
และสถาปัตยกรรมตามแบบอารยธรรมที่สาบสูญ
ถูกนํามาร้อยเรียง
กับดีไซน์ร่วมสมัยอย่างกลมกลืน
กลายเป็นห้องพักหรูหรา
ท่ามกลางธรรมชาติผสานอารยธรรม

บริเวณรีสอร์ตแขกยังจะได้ชมเฟอร์นิเจอร์
และของตกแต่งจากทั่วเอเชีย
ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นของสะสมส่วนตัว
ของเจ้าของรีสอร์ตเองด้วยค่ะ

เมื่อมาถึงรีสอร์ตและก้าวเข้ามายังล็อบบี้
ที่บรรยากาศสุดแสนจะคลาสสิก
เราจะได้รับการต้อนรับที่แสนจะอบอุ่น
และเหมือนเวลาค่อยๆ หมุนช้าลง
เพราะเราได้ย่างก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งสวรรค์
ล็อบบี้ที่นี่เป็นแบบ open air
มีมุมให้นั่งรอเช็คอินหลายจุด
รอหว่างนั่งรอเช็คอิน
และฟังน้องพนักงาน
อธิบายส่วนต่างๆ ของรีสอร์ต
ก็มีเวลคัมดริ้งค์เย็นๆ มาเสิร์ฟ
เป็นน้ำอัญชัญมะนาว
ทานแล้วสดชื่นมาก
หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว
น้องพนักงานจะพาเราไปยังห้องพัก
ซึ่งที่นี่เค้าจะมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ
ก่อนเดินทางเข้าไปยังรีสอร์ตจะต้องผ่าน
shambhala
อุโมงค์แห่งเวลาสู่เมืองแห่งสวรรค์
เป็นอุโมงค์ช่องทางเดินสู่ห้องพัก
ตกแต่งด้วยอิฐจัดให้มีเสน่ห์ของแสงและเงา
ที่จะเปลี่ยนไปตามเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
เปรียบเสมือนเราทิ้งความทุกข์ไว้เบื้องหลัง
และก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งสวรรค์
แขกที่เข้าพักทุกคน
จะต้องตีฆ้องคนละ 1 ครั้ง
ก่อนเดินเข้าไปยังตัวรีสอร์ต
เป็นความหมายว่า
เรากำลังจะเข้าไปเยือนดินแดนแห่งสรวงสวรรค์
เป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ทำให้แขกหลายคน
รู้สึกตื่นเต้น
ที่จะได้เริ่มเข้าสู่ดินแดนที่น่าหลงไหล
หลังจากนั้น
เราจะเดินเข้าไปในประตูโบราณ
เป็นประตูที่สวยงามมาก
จากการสอบถาม
จึงได้ทราบว่าเค้าได้นำประตูนี้มาจากอินเดีย
ได้ฟังก็รู้สึกเลยว่า
เค้าดีเทลและใส่ใจในทุกๆ จุดจริงๆ

และทุกครั้งที่เดินมาถึงที่นี่
เราจะรู้สึกเสมือนได้ผ่านเข้าไป
สู่สถานที่พิเศษที่เวลาหมุนย้อนกลับ
เป็นความสงบและสวยงามที่ยากจะอธิบาย
เข้ามาแล้วเดี๋ยวอิ้มจะพาไปชมส่วนต่างๆ
ของรีสอร์ตกันนะคะ
ภายใน Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas
ได้แบ่งห้องพักออกเป็น Room type ต่างๆ ดังนี้
ห้อง ซีไซด์ แกรนด์ ดีลักซ์ 24 ห้อง
ซีไซด์ จูเนียร์ สวีท พร้อมจากุซซี่ 21 ห้อง
ซีไซด์ พูลพาราไดซ์ สวีท 12 ห้อง,
บีช พูล วิลล่า 4 ห้อง
และบีชฟร้อนท์ พูลวิลล่า 4 ห้อง
บีชฟร้อนท์แฟมิลี่พูลวิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้อง
ขนาดสองห้องนอน 2 ห้อง
เทวาศรม สกาย วิลล่า
ห้องพักระดับสูงสุดของรีสอร์ต มี 2 ห้อง

ครั้งที่แล้วอิ้มพัก
Seaside Pool Paradise
จะอยู่บนอาคารชั้นสองริมน้ำ
มี Plunge pool ให้ได้แช่ตัว
ชมวิวชิลทะเล
ห้องพักจะอยู่ที่อาคารนี้ทั้งหมดเลยค่ะ
ครั้งก่อนก็ว่าห้องพักสวยงามมากแล้ว
แต่ครั้งนี้อิ้มจะพาไปสัมผัสบรรยากาศฝั่งวิลล่ากันบ้าง
โดยเริ่มจากห้องที่อิ้มพัก
บีชฟร้อนท์ พูลวิลล่าค่ะ

Beach Front Pool Villa
พูลวิลล่าสุดหรูริมชายหาด
อิ้มเลือกมาพักกับบรีสสองคน
เพราะอยากเติมเต็มช่วงเวลาความสุขให้กัน
หรือถ้าพูดตรงๆ ก็คืออยากมาสวีทนั่นเอง
พิมพ์ไปเขินไปอ่ะ 5555 ><

ภายในวิลล่า กว้างขวาง สวยงาม
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
บีชฟร้อนท์ พูลวิลล่าของที่นี่
มีทั้งหมด 4 หลัง
ซึ่งวิลล่าแต่ละหลังออกแบบไม่เหมือนกัน
หลังที่อิ้มพัก
เค้าแยกห้องนั่งเล่น
และห้องนอนออกเป็นสัดส่วน
สระว่ายน้ำเป็นแนวยาวทอดตัวสู่ชายหาด
มีความเป็นส่วนตัว
ยามเช้าแค่คุณตื่นนอนและเปิดผ้าม่าน
ก็จะได้เห็นวิวทะเลสวยๆ สงบๆ
ช่วงเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์ตก
จากในห้องได้เลย
นอกจากนั้นที่อิ้มชอบมากๆ
คือมีทางเดินเท้าเปล่าตรงไปยังหาดทราย
สัมผัสทรายนุ่มๆ
มองวิวทะเลสวยๆ อยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติ
ได้ใช้ชีวิตแบบบีชไลฟ์ได้อย่างเต็มที่

สำหรับพื้นที่ภายใน
ต้องบอกว่ากว้างขวางมาก
บีชฟร้อนพูลวิลล่าแต่ละหลัง
มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 150 ตารางเมตร
ไปจนถึง 160 ตารางเมตรเลยนะคะ

และนี่คือวิลล่าของอิ้ม
หลงรักตั้งแต่แรกเห็น
สวยงามมากกกกก
ส่วนแรกของวิลล่าจะเป็นห้องนั่งเล่น
ที่แบ่งแยกออกมาอีกฝั่งนึง
คือนั่งสบตากับวิวทะเลได้อย่างเต็มที่
ส่วนต่อมาคือภายในห้องนอน
ภายในดีไซน์สวยงามมาก
ไม่ว่าจะเรื่องของเตียงนอน โทนสี
รายละเอียดตามพนัง งานไม้
ดีเทลสุดๆ เลยค่ะ
ส่วนที่อิ้มชอบมากในวิลล่าหลังนี้
ก็คือพนังกระจกใสแบบพาโนราม่า
มองเห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มตา
สวยงามมากทีเดียวค่ะ
ในส่วนของมินิบาร์ ชา กาแฟ ในตู้เย็น
และขนมเครื่องดื่มต่างๆ
เป็น complimentary ทานได้ฟรี
รวมถึงแอลกอฮอล์ด้วยนะ
เค้าจะเติมให้ทุกวันเลยค่ะ
ถัดจากห้องนอนจะเป็นห้องน้ำนะคะ
ซึ่งกว้างขวางมาก
มีโซน Shower สุขภัณฑ์
รวมไปถึง Bathtub ให้แช่ตัวผ่อนคลาย
อ่างล้างหน้าแบ่งเป็น 2 อ่างแบบ His And Her
ระหว่างกลางของอ่างล้างหน้า
จะมีหน้าต่างบานน้อย
หากเปิดออกมาเราเห็นวิวแบบนี้ ><
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ
เป็นแบรนด์ของรีสอร์ตทั้งหมด
มีมาให้อย่างครับครัน
และสาวๆ บอกเลยว่าต้องกรีสสสให้สุดเสียง
เพราะเค้ามี Dyson Supersonic
ไดร์เป่าผมสุดไฮเทค ให้ได้ใช้ด้วยนะ
ดีงามมาก
ชมภายในห้องเสร็จแล้ว
มาชมบรรยากาศด้านนอกกันบ้างค่ะ
สระว่ายน้ำของห้องนี้มีขนาดยาว
แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เป็นสระหินอ่อน บวกกับสระน้ำสีฟ้าสดใส
สวยงาม น่าเล่นมากๆ
บรรยากาศโดยรวมวิลล่าที่อิ้มพักค่ะ
ด้านนอกมีเก้าอี้ให้นอนชิล ชมวิวทะเลด้วยนะ
ช่วงเย็นๆ เราสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก
ได้จากภายในห้องเลยค่ะ
ไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็สวยไปหมด
นอกจากนั้นที่อิ้มชอบมากๆ
คือมีทางเดินเท้าเปล่าตรงไปยังหาดทราย
สัมผัสทรายนุ่มๆ
มองวิวทะเลสวยๆ อยู่ใกล้ๆ ธรรมชาติ
ได้ใช้ชีวิตแบบบีชไลฟ์ได้อย่างเต็มที่
เป็นยามเย็นที่ทำให้อิ้มมีความสุขมากทีเดียว
มาต่อกันที่ บีช พูล วิลล่า
มีทั้งหมด 4 ห้อง
มีแฟนเพจถามอิ้มกันมามาก
ระหว่าง บีช ฟร้อน กับ บีชพูลวิลล่า
ว่าแตกต่างกันยังไง แตกต่างกันมากไหม
คำตอบอยู่ตรงนี้ค่ะ

บีชพูลวิลล่าจะไม่ได้ติดทะเล
แต่มองเห็นวิวทะเลนะคะ
ตัววิลล่าจะอยู่ด้านหลัง บีชฟร้อนอีกทีนึง
ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น
ต่อมาเป็นห้องแต่งตัวและห้องน้ำ
ถัดไปเป็นมุมโต๊ะทำงาน และห้องนอน
การตกแต่งและโทนสี
จะคล้ายกันทุกห้องเลยค่ะ
ด้านนอกจะมีสระว่ายน้ำ
และมีทางเดินไปยังทะเล
ต่อมาเป็น เทวาศรม สกาย วิลล่า
ห้องพักระดับสูงสุดของรีสอร์ต มี 2 ห้อง
เรียกว่าเป็นวิลล่าที่สวยงาม
ครบครันมาก
มี Dining room
ด้านนอกมีมุมนั่งพักผ่อน
มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
มีห้องนั่งเล่น
มีห้องนอน 2 ห้อง
ห้องนอนแรก
เห็นวิวทะเล และสระ ชัดเจนมาก
ภายในห้องน้ำ
มีจากุชชี่ให้ด้วยค่ะ
ต่อมาเป็น Master Bedroom
ห้องนอนหลักจะอยู่ริมสุด
มีความเงียบสงบ
ไฮไลท์ของห้องนี้ก็คือ จากุชชี่ที่อยู่กลางห้อง
ด้านหลังเป็น Shower และโซนสุขภัณฑ์
ใครมากับครอบครัว
และกลุ่มเพื่อนที่ต้องการความสงบ
แนะนำวิลล่านี้เลยค่ะ
ตอบโจทย์มาก
ชมห้องพักเสร็จแล้ว
เราไปชมส่วนอื่นๆ ของรีสอร์ตกันบ้างนะคะ
ภายในเทวาศรม
มีมุมพักผ่อนหลายจุด
และยังมีมุมเงียบๆ อย่างห้องสมุด
ให้เรามานั่งหาหนังสือดีๆ สักเล่ม
หรือจะมานั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ
ในอีกมุมสงบก็ได้เช่นกัน
กิจกรรมต่างๆ ภายใน
ก็มีมากมาย
และที่อิ้มไม่อยากให้พลาด
นั่นก็คือการทำสปา
เทวาศรม สปา แอนด์ เวลเนส
ที่ออกแบบขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากศาสตร์
โบราณแห่งการบำบัดแบบไทย
และปรัชญาตะวันออก
เรื่องการรักษาสมดุลของร่างกาย
จิตใจและไปจนถึงจิตวิญญาณ
ด้วยวิธีการและส่วนผสมจากธรรมชาติ
มีทรีตเม้นต์ดีๆ ให้ได้ลองทำ
และผ่อนคลายร่างกาย
ภายในห้องทรีตเม้นท์
ด้วยความที่เรามาเป็นคู่
อิ้มจึงเลือก ESCAPE FOR TWO 90 MINS
แพ็คเกจนี้จะมีการแช่ Bath
ต่อด้วยการนวดอโรมาเทอราพี
โดยใช้น้ำมันผสมพิเศษ
เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่
เป็นทรีตเม้นท์ที่ทำให้รีแลกซ์มากค่ะ
หลังจากจบทรีตเม้นท์
เค้าก็จะเสิร์ฟน้ำขิงร้อนๆ เพื่อปรับสมดุลให้ร่างกาย
พร้อมขนมผิงให้ทาน
อีกหนึงมุมรีแลกซ์ยอดฮิต
นั่นก็คือสระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ตค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่สีฟ้าสดใส
อยู่ติดริมชายหาด
สระว่ายน้ำสีฟ้า สลับกับผืนทราย
ปลายสุดเป็นน้ำทะเลสีคราม
ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
ตัดกับท้องฟ้าสีสดใส
เป็นภาพที่อิ้มชอบมาก
บ่งบอกได้ถึงความเป็นเทวาศรม ได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะพักที่นี่จะได้รับความสุขอย่างหาที่สุดไม่ได้
รอบๆ สระว่ายน้ำ มีมุมให้นั่งพักผ่อนหลายจุด
จะว่ายน้ำเล่น
หรือนั่งเฉยๆ ชมวิวก็ดีต่อใจทั้งนั้น ว่าไหมคะ
อิ้มชอบมุมนี้ค่ะ
รู้สึกว่าสวยงาม และสงบมาก
ติดกับสระว่ายน้ำหลัก
จะเป็นสระว่ายน้ำสำหรับน้องๆ หนูๆ
ส่วนกิจกรรมบริเวณริมสระว่ายน้ำนี้
จะมีบริการพายเรือ Kayak
และ Paddle board
มีเจ้าหน้าที่สแตนบายด์ตลอด
ใครสนใจจะเล่น ติดต่อได้เลยค่ะ
อีกมุมนึงที่อิ้มอยากแนะนำ
ใครอยากเห็นวิวทะเลและสระว่ายน้ำในมุมสูง
แนะนำขึ้นมาบนประภาคาร
สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ตั้งแต่ชั้น 2
และถ้าให้สวยจริงๆ ต้องขึ้นมาที่ชั้น 3
ชั้นบนสุดเลยค่ะ
เห็นวิวทะเลแบบสุดลูกหูลูกตา
บ่ายๆ ก็สามารถเดินชิลหน้าหาดได้
บรรยากาศสบายๆ
แนะนำสักหลังบ่ายสาม
แดดจะเริ่มไม่ร้อนแล้วค่ะ
ถ่ายภาพคู่กันหน่อย ><
และด้านล่างของประภาคาร
ก็จะมีฟิตเนสให้บริการ
สำหรับสายสุขภาพ
ต่อมาจะพาไปชมห้องอาหารกันบ้างนะคะ
ที่นี่จะมีห้องอาหารอยู่ 2 แห่ง
แห่งแรกก็คือ
ห้องอาหาร ตะโกลา
เป็นห้องอาหารหลัก
ให้บริการอาหารแบบออลเดย์ไดนิ่ง
ห้องอาหารตะโกลา
ห้องอาหารไทย
ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถัน
ผสมผสานความร่วมสมัย
และเอกลักษณ์แห่งเมืองตะโกลา
ได้อย่างลงตัว
พร้อมเสิร์ฟหลากหลายความอร่อยตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ชวนดื่มด่ำและตกหลุมรักบรรดาจานพิเศษ
ปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นดี สดใหม่ ใส่ใจคุณภาพ
ที่สำคัญยังแฝงด้วยเรื่องราว
และมนต์เสน่ห์แห่งรสชาติต้นตำรับ
รังสรรค์โดยทีมเชฟชาวไทยเปี่ยมประสบการณ์

ห้องอาหารนี้จะอยู่ชั้นล่างสุด
อาคารเดียวกับล็อบบี้
และด้วยความพิถีพิถัน
ในการรังสรรค์ทุกจานอร่อยอย่างแท้จริง
‘ห้องอาหารตะโกลา’
จึงได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 ร้านอาหาร
ในจังหวัดพังงาที่ได้รับรางวัล
‘Bib Gourmand’ MICHELIN Guide Thailand 2021
ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพดี
ผ่านการจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน
พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบคุ้มค่าในราคาย่อมเยา
(ราคาไม่เกิน 1,000 บาท
สำหรับอาหาร 3 คอร์ส
ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก
และของหวาน ไม่รวมเครื่องดื่ม)
จากการคัดสรรของคู่มือ
‘MICHELIN Guide’
ฉบับประเทศไทยประจำปี 2564
เป็นรางวัลการันตีความอร่อยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องอาหาร
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้าค่ะ
ในยุค New Normal แบบนี้
เค้าก็จะจัดไลน์บัฟเฟ่ต์ได้เบาๆ
โดยจัดเป็นพอชชั่นเล็กๆ แบ่งเป็นจานๆ
สามารถหยิบไปทานได้เลย
เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส
และนอกจากนั้น
ยังสามารถสั่งอาหารจานหลักบางรายการ
ผ่านเมนูอาหารได้อีกด้วย
สั่งได้ไม่อั้นนะคะ
อ้อๆๆ ที่นี่เค้ามีเมนูเฮลตี้ด้วยนะ
ถูกใจสายรักสุขภาพแน่นอน
ในไลน์บัฟเฟ่ต์คือเค้าจัดอาหารได้สวยงาม
และพิถีพิถันมาก
เดี๋ยวเรามาชมไลน์อาหารกันนะคะ
น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มยามเช้า
สลัด
ซีเรียลต่างๆ
โยเกิร์ต และน้ำมะพร้าว
ขนมหวาน
วาฟเฟิล
แซลมอนรมควัน
โคลคัท ต่างๆ
ชีส
ขนมปัง
Hot Dish เปลี่ยนไปในทุกๆ วัน
บางวันมีขนมจีนด้วยนะคะ
Eggs Station
Side Dish ต่างๆ
นอกจากในไลน์
เราสามารถสั่งอาหารอื่นๆ จากเมนูได้
ทานได้ไม่อั้นเลยค่ะ
ฟินยามเช้า
แต่หากใครพักพูลวิลล่าแบบอิ้ม
แนะนำว่าไม่ต้องมาทานที่ห้องอาหารก็ได้
แค่ตื่นเช้า ชมวิวทะเลจากห้องนอน
แช่ Bath เบาๆ
และสั่ง Floating มาทานที่ห้อง
ก็จะได้อีกบรรยากาศนึงค่ะ
กลับมาต่อที่ห้องอาหารตะโกลานะคะ
ในส่วนของมื้ออื่นๆ
จะให้บริการอาหารไทย
อาหาร จะมีเป็นอาหารใต้ ท้องถิ่น
ซึ่งทางร้านอาหาร”ตะโกลา”
จะนำหาวัตถุดิบจากท้องถิ่น
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรอบอีกด้วย
อันนี้น่าชื่นชมมาก

สำหรับมื้อกลางวัน
อิ้มแนะนำทาน เซ็ต
Takola Journey
เป็นอาหารไทยพื้นถิ่นแบบดั้งเดิม
Takola Journey Thai Tasting Menu
มีให้บริการทุกวัน
สำหรับมื้อกลางวันที่ห้องอาหาร Takola
ตั้งแต่เวลา 12.00 – 18.00 น
1,800 ++ บาทต่อชุดสำหรับ 2 ท่าน

ในเซ็ตก็มีอาหารประมาณนี้เลย
บอกได้เลยว่า 2 คนคืออิ่ม
ทาน 3-4 คนยังได้เลยค่ะ

ในเซ็ตจะเสิร์ฟ ‘ข้าวดอกข่า’
ข้าวพันธุ์พื้นเมืองเฉพาะถิ่น
ที่มีแหล่งปลูกดั้งเดิมอยู่ในจังหวัดพังงา
อุดมด้วยวิตามินที่ดีต่อสุขภาพ
แถมยังช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนอีกด้วย
‘น้ำพริกตะโกลา’
อาหารประจำถิ่นภาคใต้สูตรพื้นบ้าน
ขนานแท้รสเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่อง
ซึ่งเชฟได้เพิ่มมิติของรสชาติ
ให้โดดเด่นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ด้วยการนำวัตถุดิบต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม กะปิชั้นดี
กุ้งแห้ง พริกขี้หนูสวน ฯลฯ
ซึ่งเชฟได้ย่างกะปิจนสุกหอม
ก่อนนำมาโขลกกับกุ้งเสียบ
เสิร์ฟเคียงสารพัดผักต้ม ผักสด
ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก
จัดจ้านถึงเครื่องจริงๆ
สกุณาชมสวน”
ขนมจีบไทยโบราณ
กุ้งชุบแป้งทอดผสานกับมันฝรั่งบด
ใช้ความวิจิตรบรรจงประดิษฐ์
เป็นตัวนกอย่างสวยงาม
‘หมูฮ้อง’
หนึ่งในเมนูพื้นบ้าน
ที่ได้รับการถ่ายทอดสูตร
อันเป็นเอกลักษณ์ตำรับท้องถิ่น
โดดเด่นด้วยกลิ่นอบเชยหอมอ่อน ๆ
และความอร่อยของหมูสามชั้นนุ่มชุ่มฉ่ำ
ที่เชฟหมักด้วยเครื่องหมักต่างๆ
ผสานกรรมวิธีการปรุง
สุดพิถีพิถันนานกว่า 2 ชั่วโมง
จนได้ ‘หมูฮ้อง’
น้ำขลุกขลิกหวานเค็มกลมกล่อมกำลังดี
กลิ่นอายแบบจีนดั้งเดิม
โดยหมูฮ้องถือเป็นอาหารหลัก
ประจำครัวของชาวจีนฮกเกี้ยน
ที่อพยพมาอาศัยอยู่ในแถบภาคใต้
ซึ่งคำว่า ‘ฮ้อง’ หมายถึง
การต้มให้เข้าเนื้อนั่นเอง
‘แกงปูใบชะพลู’
มีความเข้มข้นจัดจ้านหอมนัวกะทิและเครื่องแกง
ที่รวมพลังกับเนื้อปูสดหวาน
ซึ่งทางรีสอร์ตได้ซื้อปูสด ๆ
คัดคุณภาพมาจากชาวประมงบ้านน้ำเค็ม
และชุมชนละแวกใกล้เคียง
รวมถึงใช้ใบชะพลูปลอดสาร
ที่ได้จากสวนเล็ก ๆ ที่รีสอร์ตปลูกขึ้นเอง
มารังสรรค์ทำเป็นแกงปู สุดอร่อย
ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองชิม
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน
ส่วนมื้อเย็นอิ้มติดใจอาหารพื้นถิ่น
เลยสั่งแกงส้ม มาทาน
รสชาติ เข้มข้น ถึงเครื่องมาก
ปกติเค้าจะใส่ยอดมะพร้าว
แต่เราชอบถั่วฝักยาวมากกว่า
เชฟใจดีจึงเปลี่ยนวัตถุดิบให้ค่ะ
อีกเมนูเป็นหมูผัดกะปิ
หอมเครื่องแกง เครื่องผัดมาก
ในช่วงเย็นก่อนจะไปทานอาหารอีกห้องนึง
อิ้มขอแนะนำกิจกรรม บีช ไลฟ์อีกนิดนะคะ
นั่นก็คือ Beach picnic
ชิลยามเย็นกับบรรยากาศริมทะเลสุดโรแมนติก
จูงมือคนที่คุณรัก
ไปสร้างประสบการณ์พิเศษๆ กันค่ะ
จูงไม่มา งั้นขอลากแทน ><
เค้าจะจัดเซ็ทให้เราแบบนี้เลย
น่ารักมาก
มีเครื่องดื่ม ให้ทาน
พร้อมผลไม้ คานาเป้
ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
มันดีที่สุดจริงๆ
ช่วงเวลาที่แสนพิเศษ
อีกกิจกรรมนึงยามเย็น
ก็คือ beach Signature Set ค่ะ
อันนี้เค้าจะไม่ได้ตั้งซุ้มให้
แต่จะปูผ้าให้นั่งชิลๆ
ใช้ชีวิตริมชายหาดได้อย่างเต็มที่
ในเซ็ตจะมีเครื่องดื่ม
และของว่างสำหรับ 2 ท่าน
ดื่มให้กับช่วงเวลาที่แสนพิเศษ ><
ห้องอาหารที่ 2 ก็คือ
เทวาศรม บีช กริล แอนด์ บาร์
เป็นห้องอาหารริมทะเล
ล่าสุดได้รับรางวัล MICHELIN Plate
ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่
และปรุงอย่างพิถีพิถัน
ห้องอาหารนี้จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ
และริมทะเล ตกแต่งได้สวยงาม
เอาใจผู้ที่ชื่นชอบอาหาร
เคล้าบรรยากาศริมทะเลด้วยค็อกเทล
ในยามเย็น
และอาหารเมดิเตอเรเนียน
แบบฟิวชันที่เปี่ยมไปด้วยสีสัน
อาหารตะวันตก
และพิซซ่าอบใหม่จากเตาถ่านไม้
ห้องอาหารนี้เปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเที่ยง
ไปจนถึงมื้อค่ำ
อิ้มเลือกทานห้องอาหารนี้ในมื้อเย็น
เพราะบรรยากาศโรแมนติกสุด
มาดูเมนูที่อิ้มทานกันค่ะ

Mushroom Cappuccino
Caesar Salad
Sea Bass With Matsutake Mushrooms
Chargrilled Tuna With Avocado Salsa
ปิดท้ายมื้ออาหาร
ด้วยของหวานแสนอร่อย
อย่างข้าวเหนียวมะม่วง
และ Creme Brulee
อิ้มมาพักผ่อนที่นี่
ในระยะเวลา 3วัน2 คืน
เต็มอิ่มกับความสุขระดับนึงเลยค่ะ
ใจอยากจะพักที่นี่เป็นเดือนๆ เลย
เพราะอิ้มรู้สึกว่าได้ชาร์ตแบตให้ร่างกาย
และหัวใจได้อย่างเต็มที่
คืนความสุขให้ชีวิตได้ดีจริงๆ
กลับมาพักเป็นครั้งที่ 2
ก็ยังประทับใจไม่เสื่อมคลาย

ไว้มีโอกาสเราต้องได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่ 3 แน่นอน
ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อของฝาก
ในร้านขายของที่ระลึกของรีสอร์ต
อยู่ใกล้ๆ ล็อบบี้ เลยค่ะ
ส่งท้ายความสุขในรีวิว
ด้วยภาพเหล่านี้นะคะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกไลค์ ทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ