X2 Chiang Mai Riverside

สวัสดีค่ะ
วันนี้อิ้มจะพาทุกท่าน ไปพักผ่อน
ที่ครอสทูเชียงใหม่ ริเวอร์ไซต์ รีสอร์ต
โรงแรมบูติกหรูระดับ 5 ดาว
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่กันค่ะ

บอกเลยว่าใครเป็นแฟนรีสอร์ตในเครือ X2 (ครอสทู)
จะต้องเลิฟกับที่นี่มาก
ซึ่งส่วนตัวแล้ว
อิ้มเป็นคนนึงที่อินกับแบรนด์นี้มาก
เพราะรีสอร์ตในเครือ
เป็น Design Hotel ทั้งหมด
มีความสวยงาม ดีไซน์โดดเด่น
เห็นปุ๊ปก็จะรู้เลยว่าเป็น X2 (ครอสทู)
เรียกว่าถ้ามี X2 ไปเปิดที่ไหน
จะมีอิ้มตามไปเช็คอินทุกแห่งหน 5555
ซึ่ง ครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ต
เป็น Destination ใหม่ล่าสุด
ซึ่งอิ้มก็ไม่พลาดที่จะมาเช็คอินค่ะ

ครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ต
โรงแรมบูติกหรูระดับ 5 ดาว
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ติดริมแม่น้ำปิง
ภายในออกแบบได้ล้ำลึก สวยงามมาก
เค้าได้นำเอาหัวใจทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
และเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาโบราณ
รวมถึงกำแพงเมืองโบราณ
มาออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์
ผสมผสานสไตล์ร่วมสมัย
กับองค์ประกอบล้านนาดั้งเดิมได้อย่างลงตัว

ส่วนกลางรีสอร์ตตกแต่งด้วยอิฐมอญ
ที่สั่งทำมาเป็นขนาดพิเศษ
เป็นเหมือนกำแพงเมืองสูง
โอบล้อมด้วยต้นมะขามสูงใหญ่
อายุกว่าร้อยปี ภายในจึงร่มรื่น
มีสวนสีเขียวสบายตา
ด้านบนมีสระว่ายน้ำที่ดีไซน์โดดเด่น
ยิ่งช่วงกลางคืนมีไฟสวยงามระยิบระยับ
เหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว
โรแมนติกที่สุดเลยค่ะ
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา
จึงทำให้ ครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์รีสอร์ต
เป็นรีสอร์ตที่สวยงาม
มีเอกลักษณ์ และสมบูรณ์แบบ

ภายในมีห้องพักเพียง 29 ห้อง
เป็นห้องสวีททั้งหมด
เรียกว่า เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
เหมาะกับการมาพักผ่อน
ชาร์ตแบตให้ชีวิตเป็นอย่างมาก

ห้องอาหารของรีสอร์ตคือ
Oxygen Dining Room
เป็น fine dining
เราจะได้ทานอาหารสุดหรู
จากการนำวัตถุดิบท้องถิ่น
มารังสรรค์เป็นเมนูพิเศษให้ได้ลิ้มลองทาน
ส่วนอาหารเช้าก็ยังคง Concept X2
เสิร์ฟ Champagne breakfast ไม่อั้น
พร้อมกับเมนูอาหารเช้าแสนอร่อย
เรียกว่าฟินที่สุดค่ะ
เอาหล่ะเดี๋ยวตามอิ้มไปพักผ่อนกันต่อ
ในรีวิวนี้นะคะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางโรงแรม
https://www.facebook.com/X2chiangmairiverside/

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com

ครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์รีสอร์ต
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ติดริมแม่น้ำปิง
ไม่ไกลจากกำแพงเมืองเชียงใหม่
จุดสังเกตุง่ายๆ
จะอยู่ตรงข้ามกับร้านข้าวซอยลำดวนค่ะ
ครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ต
โรงแรมบูติกหรูระดับ 5 ดาว
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ติดริมแม่น้ำปิง
ภายในออกแบบได้ล้ำลึก สวยงามมาก
เค้าได้นำเอาหัวใจทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
และเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาโบราณ
รวมถึงกำแพงเมืองโบราณ
มาออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์
ผสมผสานสไตล์ร่วมสมัย
กับองค์ประกอบล้านนาดั้งเดิมได้อย่างลงตัว
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือจะตกแต่งด้วยอิฐมอญ
ที่สั่งทำมาเป็นขนาดพิเศษ
เป็นเหมือนกำแพงเมืองสูง
สวยงามตั้งแต่ทางเข้าไปยังล็อบบี้
นอกจากนั้นที่นี่ยังได้รับรางวัลมากมาย
ที่การันตีรางวัล 2020 Travelers’ Choice Best of the Best
จาก Tripadvisor
ด้วยคะแนนโหวตจากผู้เข้าพักจริง
และ รางวัล Chiang Mai Design Award 2020
ยังได้รับรางวัลจาก
Asia Pacific Property Awards Architecture
ในสาขา
Best Hotel Architecture Thailand 2018-2019 อีกด้วย
พอเราก้าวมาถึงในส่วนของล็อบบี้
ก็ยังคงซึ่งการตกแต่งโดยใช้เรื่องราว
ของวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง
โดยเรื่องราวของล็อบบี้
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดอุโมงค์
มีแสงและเงาสาดส่อง สวยงามมาก
และความใส่ใจ น่ารักตั้งแต่เริ่มเช็คอิน
ก็คือการต้อนรับที่แสนจะอบอุ่น
เค้ามี Welcome chocolate พิมพ์ชื่อผู้เข้าพัก
ทั้งสองคน
รวมถึงมียาดมกลิ่น Peppermint ให้ด้วยค่ะ
หลังจากเช็คอินแล้ว
เราก็เข้ามายังภายในรีสอร์ตกันค่ะ
ต้องบอกเลยว่าเหมือนหลุดเข้ามายังอีกโลกนึง
ภายในเงียบ สงบ สวยงามดูมีมนต์สเน่ห์มาก
ส่วนกลางรีสอร์ต
และอาคารห้องพักตกแต่งด้วยอิฐมอญ
ที่สั่งทำมาเป็นขนาดพิเศษ
เป็นเหมือนกำแพงเมืองสูง
โอบล้อมด้วยต้นมะขามสูงใหญ่
อายุกว่าร้อยปี ภายในจึงร่มรื่น
มีสวนสีเขียวสบายตา
มุมใต้ต้นมะขาม มี Decoration เก๋ๆ
เป็นบ่อน้ำ
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เป็นความเชื่อของคนเหนือ
ว่าถ้ามีบ่อน้ำอยู่หน้าบ้าน
จะทำให้ชีวิตคนในบ้านให้อุดมสมบูรณ์พูนสุข
รอบๆ บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง
ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องพัก
มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายภาพเยอะเชียวค่ะ
ชอบที่เค้าใช้อิฐแดงในการตกแต่ง
รวมเล่นกับแสงของแดดและเงา
ในส่วนต่างๆ
ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติมาก
แม้แต่ตัวเลขของห้องพัก
ก็ยังมีความเล่นแสงและเงาด้วย
เดี๋ยวเรามาเริ่มชมห้องพักกันนะคะ
ภายในครอสทู เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์รีสอร์ต
มีห้องพักเพียง 29 ห้อง
เป็นห้องสวีททั้งหมด
เรียกว่า เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
เหมาะกับการมาพักผ่อน
ชาร์ตแบตให้ชีวิตเป็นอย่างมาก
ห้องพัก 29 ห้องนี้
ถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังนี้ค่ะ
– Garden View Suite
ขนาดห้อง: 51 ตารางเมตร
– River View Suite
ขนาดห้อง: 51 ตารางเมตร
– Grand Suite with River View
ขนาดห้อง: 65 ตารางเมตร
– Pool Suite
ขนาดห้อง: 178 ตารางเมตร
ห้องพักจะอยู่อาคารหลังเดียวกันทั้งหมด

มาชมห้องเริ่มต้น Garden View Suite กันค่ะ
ขนาดห้อง 51 ตารางเมตร
ถือว่าเป็น type เริ่มต้น ที่กว้างขวางมากทีเดียว
ส่วนแรกของห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้า
ถัดมาเป็นห้องน้ำ
แยกโซนแห้งและเปียกได้ดี
ห้องนี้จะมีลวดลายของปลากัดไทย ตกแต่ง
ให้ดูมีสเน่ห์และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ในส่วนของเตียงนอน
ด้านหลังจะมีพื้นที่ Working Space
ถัดไปเป็นเตียงนอนหันหน้าออกสู่วิวของแม่น้ำปิง
ด้านนอกมีโซฟานั่งชมวิวสวนสวย
มุมด้านนอกก็ยังมีอิฐแดงในการตกแต่ง
มีความดีเทลมาก
ต่อมาเป็น River View Suite
ขนาดห้อง 51 ตารางเมตร
จริงๆ ขนาดจะเท่ากับห้องเริ่มต้นเลยค่ะ
จะแตกต่างกันตรงวิวด้านนอกเท่านั้น
ห้องน้ำเอย โทนสีเอย คล้ายกันหมด
แต่ด้านนอกจะเห็นวิวแม่น้ำปิงชัดเจนกว่า
ต่อมาเป็น Grand Suite with River View
ขนาดห้อง 65 ตารางเมตร
type นี้ห้องกว้างขึ้นมาอีกหน่อย
ความพิเศษของห้องนี้นอกจากไซส์ที่กว้างขึ้นแล้ว
ยังมี bathtub เพิ่มเข้ามา
โทนสีจะเข้มขึ้น
ในส่วนของห้องนอนก็คล้ายกันค่ะ
ต่างกันตรงโซฟา
และมุมเก้าอี้ด้านนอก
ต่อมาเป็นห้องที่อิ้มพัก
Pool Suite เป็น Room type สูงสุด
ขนาดห้อง 178 ตารางเมตร
ห้องแบบนี้มีเพียง 2 ห้องเท่านั้น
ตั้งอยู่ชั้นล่างสุดของอาคาร
ส่วนแรกของห้องจะเป็นตู้เสื้อผ้า
ถัดมาเป็นห้องน้ำ
มาพร้อมอ่างล้างหน้าสองอ่างแบบ his and her
และมี Bathtub ให้นอนแช่ตัว
ผลิตภัณฑ์ที่ให้มามีความดีเทลมาก
เค้าแบ่งเป็น his and her
แต่ถ้าเป็นแฟนกัน ผู้ชาย ผู้ชาย
เค้าก็จะจัดให้เป็น his and his
หรือถ้าแฟนกัน ผู้หญิง ผู้หญิง
ก็จะจัดเป็น her and her ค่ะ
ถัดไปจะเป็นโซน Shower และ โซนสุขภัณฑ์
อ้อๆๆ แอบเห็นแว้บๆ
ว่าตรง bathtub มีเกลือสปาให้ด้วยจ้า
ถัดมาในส่วนของห้องนอนก็จะเหมือนกันค่ะ
แต่พนังของห้องนี้
จะตกแต่งด้วยลวดลายของหางนกยูง
มุมมินิบาร์
มาชมด้านนอกกันค่ะ
ส่วนบัลโคนี่มีโซฟานั่งชิลๆ
ถัดไปจะเป็นสระว่ายน้ำค๊าา
เป็นสระแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวสบายตา
เดินมายังด้านล่างสุด
จะมีพื้นที่นั่งพักผ่อนด้วยค่ะ
ชมห้องพักเสร็จแล้วเราไปชมส่วนอื่นๆ
ของรีสอร์ตกันบ้างนะคะ
บริเวณชั้น 3 ของอาคาร
จะมีห้อง Steam มาใช้บริการได้นะคะ
ต่อมาขอพาขึ้นไปยังบนสุดของอาคาร
ซึ่งเป็นอีกจุดนึงที่เป็นไฮไลท์ของรีสอร์ต
ด้านบนสุดในชั้นดาดฟ้า
เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ และ Gym ค่ะ
Gym ขนาดไม่ใหญ่กำลังพอดีๆ
สายออกกำลังกาย ถูกใจสิ่งนี้
มาชมสระว่ายน้ำกันค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่ดีไซน์สวยมาก
เป็นสระทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างขวาง
วิวของสระว่ายน้ำด้านบน
ทำอิ้มถูกใจมาก
สวยทั้งช่วงกลางวัน
บรรยากาศดีในยามเย็น
ทริปนี้อิ้มมีนางแบบพิเศษด้วยน๊า
น่ารักสุดๆ
นอนชิลรับบรรยากาศ
ชมวิวแม่น้ำปิงสวยๆ
ยิ้มหวาน >< งู้ยยย ใจละลายเลยค่ะ
พ่ามมมม เปลี่ยนนางแบบกลับมาเป็นอิ้มบ้าง 555
มุมนี้ปังอยู่น๊าาา
ในส่วนของสระว่ายน้ำช่วงกลางคืน
ที่นี่เป็นรีสอร์ตที่เดียวในเชียงใหม่
ที่มีระบบไฟเบอร์ออปติกในสระว่ายน้ำ
มีไฟสวยงามระยิบระยับ
เหมือนว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว
โรแมนติกที่สุดเลยค่ะ
ยิ่งช่วงค่ำ ยิ่งเห็นไฟชัดขึ้น
โรแมนติกมากกก
ส่วนกิจกรรมยามเย็น
อิ้มแนะนำพายเรือคายัคริมแม่น้ำปิง
และปั่นจักรยาน ริมน้ำ
หรือจะจูงจักรยานมาถ่ายภาพเฉยๆ ก็ได้
ถือเป็นกิจกรรมอีกอย่างนึงค่ะ ><
ชมภาพบรรยากาศช่วงค่ำ
ของรีสอร์ตกันอีกสักหน่อย
ช่วงกลางคืนก็สวยงามไม่แพ้กัน
มาชมในส่วนของห้องอาหารกันบ้างค่ะ
ภายในจะมี 2 ห้องอาหาร
ห้องแรกก็คือ
เดอะ ไลบรารี่ บาร์ แอนด์ คาเฟ่
เป็นห้องอาหารที่ติดกับล็อบบี้
มานั่งทานอาหาร หรือจัดมีตติ้งกลุ่มเล็กๆ ก็ได้
มีพื้นที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอก
รองรับ ภายใน 24 ที่นั่ง , ภายนอก 10 ที่นั่ง
เวลาบริการ 11.00 hrs. – 21.00 นาฬิกา
ให้บริการอาหารจานเดียวง่ายๆ
เมนูก็มีประมาณนี้ค่ะ
มาชมอีกหนึ่งห้องอาหารนะคะ
ระหว่างทางจะเจอมุมนี้ อย่าลืมแวะถ่ายภาพน๊า
ต่อมาเป็น
ห้องอาหาร ออกซิเจน ไดนิ่งรูม /
Oxygen Dining Room แบบ Fine Dining
เปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเช้า ไปจนถึงมื้อค่ำ
มื้อเช้า 07.00 hrs. – 10.30 นาฬิกา
เที่ยง 11.30 hrs. – 14.30 นาฬิกา
เย็น 18.30 hrs. – 22.30 นาฬิกา

ห้องอาหารนี้โดดเด่น
เพราะเป็น fine dining อันดับต้นๆ ของเชียงใหม่
เราจะได้ทานอาหารสุดหรู
โดย เชฟวาทิตย์ ซึ่งเป็นเชฟชาวไทย
ที่มีความสนใจด้านการ
นำวัตถุดิบหลักจากท้องถิ่นมารังสรรค์
เป็นเมนูสุดพิเศษให้ได้ลิ้มลองทาน
Oxygen Dining Room
เป็นห้องอาหารในรูปแบบ Glass House
ถูกออกแบบกระจกนี้กลมกลืน
กับสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว
ทำให้ลูกค้ารู้สึก
ราวกับกำลังรับประทานอาหารในสวนที่ร่มรื่น
ท่ามกลางธรรมชาติ
เห็นเป็นเรือนกระจกแบบนี้
อาจจะกลัวว่าช่วงกลางวันจะร้อนใช่ไหมคะ
จะบอกว่าไม่ร้อนเลย เพราะด้านนอก
เค้าปกคลุมด้วยต้นมะขามขนาดใหญ่
อายุกว่าร้อยปี
ข้อดีของที่นี่คือ เจ้าของรักต้นไม้มาก
ในการสร้างรีสอร์ตเค้าไม่ตัดต้นไม้เลยสักต้น
มาเริ่มต้นที่อาหารเช้ากันค่ะ
อาหารเช้าก็ยังคง Concept X2
เสิร์ฟ Champagne breakfast ไม่อั้น
พร้อมกับเมนูอาหารเช้าแสนอร่อย
เค้าจะมีมินิไลน์บุฟเฟ่ต์
และสั่งได้จากเมนู โดยเค้าจะให้สั่งได้ไม่อั้น
แต่เริ่มต้นท่านละ 2 จานก่อน
เพราะว่าสั่งมาเยอะๆ
อาหารไม่ร้อน ทานชืดๆ แล้วจะไม่อร่อยค่ะ
เมนูอาหารเช้าสามารถเลือกได้ตามนี้เลยนะคะ
ในมินิไลน์บุฟเฟ่ต์ ตักได้ไม่อั้นเช่นกัน
มี Honey Bomb ด้วยคือเริ่ดดด
เสิร์ฟ Champagne breakfast ไม่อั้นจร้าาาา
สำหรับขนมปัง ผลไม้
เค้ามีเสิร์ฟให้แบบนี้ทุกโต๊ะอยู่แล้วนะคะ
อาหารในเมนูมีหลากหลาย
ทั้งอาหารไทย จานเดียว เช่นข้าวผัด
ไส้อั่ว
โจ๊กหมู โจ๊กไก่
หรือจะเป็นเมนูไข่ เช่น Eggs Benedict
croque monsieur
ทานอาหารเช้ามองวิวแม่น้ำปิง คือดี
ส่วนใครพัก Pool Suite แบบอิ้ม
สามารถสั่ง Floating Breakfast มาทานที่ห้องได้นะคะ
ชอบแบบนี้
คือดีต่อใจสุดๆ
ในส่วนของมื้อกลางวัน
อิ้มแนะนำเป็น Easy meal
ราคา 299 ++ บาท
สามารถเลือกอาหาร และเครื่องดื่ม
ได้อย่างละ 1 เมนู
ทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว แนะนำทาน
Afternoon tea ต่อเลยค่ะ
หรือจะทานเป็นขนมหวาน เค้ก ชา กาแฟ
เค้าก็มีโปรโมชั่นอยู่เช่นกัน
Macaron ที่นี่เสิร์ฟแบบไซส์พิเศษ
เต็มปาก เต็มคำ
Choux Cream ก็มีให้เลือกหลากหลายไส้
ไส้ตู้มมากกก
อิ้มถูกใจสิ่งนี้
และมื้อเย็นใครอยากดื่มดื่มกับธรรมชาติ
หรือวิวแม่น้ำปิง
สามารถนั่งทานอาหารด้านนอก
ชมวิวพระอาทิตย์ตก
และวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำได้อย่างงดงาม
มื้อค่ำเค้าจะให้บริการเป็น fine dining
อิ้มถือว่าเป็น fine dining
อันดับต้นๆ ของเชียงใหม่ เลยก็ว่าได้
เราจะได้ทานอาหารสุดหรู
โดย เชฟวาทิตย์ ซึ่งเป็นเชฟชาวไทย
ที่มีความสนใจด้านการ
นำวัตถุดิบหลักจากท้องถิ่นมารังสรรค์
เป็นเมนูสุดพิเศษให้ได้ลิ้มลองทาน
อ้อจะบอกว่า
ปีนี้เค้าได้คว้ารางวัล Micheline Plate
มาครอบครอง และการันตีในความอร่อยด้วยค่ะ
อิ้มได้ลองทานทั้ง Thai menu
และ Degustation set
โดยทั้ง 2 set จะมี Appitizer มาเสิร์ฟ
จัดแต่งได้อย่างสวยสดงดงามมาก
มาเริ่มที่ Thai Set กันก่อนค่ะ
อิ้มเซอร์ไพร์สกับเมนูอาหารที่นี่มาก
อย่างที่เห็นจานนี้ คือ ข้าวขาหมูค่ะ
ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด
ซึ่งในข้าวขาหมูจานนี้
มีส่วนผสมครบมาก ทั้งน้ำซุป ไข่นกกระทา
เนื้อขาหมู จนไปถึงน้ำส้ม
ทุกคำที่เข้าปากได้รับรสชาติทุกมิติ
ประทับใจจานนี้มากค่ะ
จานนี้ก็อร่อยเป็นเนื้อปลาไทยทำเป็นซาชิมิ
ไม่มีความคาวเลยสักนิด สดหวานมาก
ทานคู่กับน้ำยำรสชาติแซ่บๆ
รู้สึกสดชื่นมาก
จานนี้อิ้มจำชื่อเมนูไม่ได้
รู้ว่าเป็นกุ้งจากโครงการหลวง ซึ่ง เด้ง สด หวาน
ทานคู่กับคาร์เวียร์
และองค์ประกอบอื่นๆ ในจาน คือดีมากก
จานนี้คือข้าวซอยค๊าาทุกคน
หน้าตาสวยงาม
และรสชาติคือใช่มากกก
มาดูที่ Degustation Menu กันบ้างนะคะ
เริ่มด้วย Fine De Claire
เสิร์ฟพร้อมเจลลี่น้ำทับทิม
ครีมสด และ on top ด้วยคาเวียร์
เริ่มต้น Course ได้งดงามมาก
ต่อมาเป็น Foie Gras
ย่างมาพอดี เสิร์ฟพร้อมลูกพิช ยูซุเจล และพิชซอส
คำนี้คือดีมากกก กราบบบ
และอีกหลากหลายเมนู
ที่อิ้มมัวแต่ทานด้วยความอร่อย
จนลืมชื่อเมนูมาฝากเพื่อนๆ 5555
ปิดท้ายด้วย อกเป็ดหมักเครื่องเทศ 5 อย่าง
เสิรืฟพร้อมเกาลัด ขิงดองเจล
และซอสเป็ด เป็ดดีมากกกกก
ไม่มีกลิ่น นุ่ม หอม ซอสดี ถุกใจสุดๆ
ขนมเสิร์ฟให้ทานเผื่อตัดรสอาหารคาว
ปิดท้ายด้วยขนมหวาน
คอร์สละ 1 อย่าง
เรียกว่าเต็มอิ่มกับมื้ออาหารมาก

ก่อนจบรีวิวขอแนะนำมุมสวยๆ
ให้สาวๆ ได้ถ่ายภาพเช็คอินนะคะ
พร้อบต้องพร้อม ชุดต้องจัดเต็ม
ส่งท้ายรีวิวนี้ด้วยภาพนางแบบสุดนารัก
ของอิ้มในทริปนี้นะค๊าา

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกไลค์ ทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ