ปลายฝนต้นหนาว
ช่วงเวลาแห่งการเดินทางออกตามหาสายหมอก
ที่ทอดตัวเรียงรายท่ามกลางขุนเขา
ช่วงเวลานี้ที่อิ้มรอคอยมาตลอดทั้งปี
อากาศเย็นสบาย มองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียวชอุ่ม
ได้สูดอากาศที่สดชื่นอย่างเต็มปอด
ความสุขแบบนี้หาได้ในช่วงฤดูนี้จริงๆ
รีวิวนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักผ่อน ที่เชียงใหม่
อิ่มเอมกับเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม
และยังเป็นเมืองในฝันของใครหลายๆคน
ดินแดน ล้านนา ดินแดนแห่งอารยธรรม
ซึ่งปัจจุบัน อาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา
แต่นั่นไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเชียงใหม่ลดน้อยลงไปเลย
ผู้คนที่นี่น่ารัก รอยยิ้มที่ไม่คุ้นตา
แต่ทำเอาอบอุ่นหัวใจไม่ใช่น้อย
และโรงแรมที่อิ้มเลือกพักครั้งนี้ก็คือ
Le Méridien Chiang Mai โรงแรมหรู 5 ดาว
ก่อนนี้เคยคิดว่าที่นี่ก็คงเป็นโรงแรม 5 ดาวปกติ
แต่พอได้ไปพักจริงๆ ทำเอาอิ้มอิ่มเอมหัวใจมาก
ห้องพักของที่นี่ ได้ถูกออกแบบให้แขกผู้เข้าพัก
ได้สัมผัสถึงทัศนียภาพอันสวยงาม
ของดอยสุเทพและเมืองเชียงใหม่โดยตรงจากห้องพัก
โดยเฉพาะห้อง Executive Suite ที่อิ้มพัก
คือมองเห็นวิว ดอยสุเทพและเมืองเชียงใหม่
แบบ 180 องศา
เป็นวิวที่อิ้มว่าสวยงามและอลังการมาก
ยิ่งเวลาตื่นเช้าๆ เปิดผ้าม่านออกไป
แล้วเห็นวิวภูเขา กับสายหมอกไหลเอื่อยๆ
มันดีต่อหัวใจ อย่างบอกไม่ถูก
อยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้นานๆ
ไม่อยากละสายตาไปทางไหนเลยค่ะ
และการมาพักผ่อนที่นี่
ก็สมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว ครบเครื่องทุกอย่าง
ไม่ว่าจะด้วยเรื่องบริการ
อาหารอร่อยและราคาไม่แรง
สปาชั้นเลิศ
เรื่องของทำเลก็คือดีมาก
เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนช้างคลาน
ใกล้เชียงใหม่ไนท์ บาซาร์
และในยุค New Normal แบบนี้
ที่ Le Méridien Chiang Mai
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
และตอนนี้ราคาห้องพัก
มีโปรสำหรับคนไทยมากมาย
ราคาน่าคบหามากกกก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจของโรงแรมนะคะ
ใครสนใจอ่านรีวิวเพิ่มเติม คลิ๊กที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/lemeridienchiangmai/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่
เป็นโรงแรม 5 ดาวสุดหรู
ทำเลดีงามมาก
เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนช้างคลาน
ใกล้เชียงใหม่ไนท์ บาซาร์
และร้านอาหารชื่อดังต่างๆ มากมาย
นอกจากนั้นยังเดินทางสะดวก
เพราะห่างจากสนามบินเชียงใหม่
จากการขับรถเพียง 10 นาที
ใครมาพักที่นี่ หากไม่เช่ารถขับ
ก็สามารถใช้บริการรถรับส่งของโรงแรมได้ค่ะ
โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่
มีห้องพักทั้งหมด 383 ห้อง
ตกแต่งในสไตล์ทันสมัยผสาน กับ ศิลปะ
ที่แสดงถึงความงดงามอ่อนช้อย
ในแบบฉบับเมืองเชียงใหม่
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือห้องพักแต่ละห้อง
ได้ถูกออกแบบให้แขกผู้เข้าพัก
ได้สัมผัสถึงทัศนียภาพอันสวยงามของดอยสุเทพ
และเมืองเชียงใหม่โดยตรงจากห้องพัก
นอกจากนั้นห้องสวีททุกห้อ
งยังได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์
และมีห้องน้ากว้างขว้าง
มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
ฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์
และแขกผู้เข้าพักจะได้พักผ่อนอย่างสบาย
กับเตียงนอนหนานุ่มเป็นพิเศษ
ในแบบเฉพาะของเลอ เมอริเดียน
เป็นเตียงดูดวิญญาณ
นอนแล้วไม่อยากลุกไปไหนเลยค่ะ
มาถึงโรงแรมก็มาเช็คอินที่ล็อบบี้กันก่อนนะคะ
และแน่นอนใครจะออกมาเที่ยวพักผ่อน
ในโรงแรม รีสอร์ต ช่วงนี้
ก็ต้องเลือกที่ ที่ปลอดภัย
และไว้ใจในการป้องกันโรค Covid-19
ซึ่งที่ เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
พอเข้ามาเช็คอินปุ๊ป เค้าก็เริ่มกระบวนการ
มาตรการป้องกันโควิดเลยค่ะ
แน่นอนสิ่งที่ทุกคนต้องมีคือ Mask นะคะ
ถ้าไม่มี Mask เค้าไม่ให้เค้าพักนาจา
ส่วนของพนักงาน
ทุกคนที่นี่จะใส่ Mask หมด
และมีการตรวจวัดไข้ ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานทุกครั้ง
ส่วนของลูกค้า
ก่อนเช็คอิน
จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก
ทั้งการวัดไข้,และมีเจลแอลกอฮอล์ให้ตามจุดต่างๆ
มาพักที่นี่ปลอดภัยหายห่วง
และในพื้นที่ด้านล่างของล็อบบี้
ก็ยังแบ่งเป็นพื้นที่อื่นๆ เช่น
“ละติจูด”บาร์ (Latitude 18) บาร์หรูเก๋ๆ
ตั้งอยู่ชั้นล่าง ตรงข้ามกับเคาเตอร์เช็คอิน
มีบริการกาแฟอิลลี่
แขกที่เข้าพักจะได้คูปองมาแลก
กาแฟได้ฟรี 1 แก้วทุกวัน
เบเกอรี่ และไอศกรีมเจลาโต
รวมถึงเมนูทานเล่นและเครื่องดื่ม
ให้ชวนลิ้มลองพร้อมเสิร์ฟตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงคืน
เช็คอินเสร็จแล้ว มาชมห้องพักกันค่ะ
มีห้องพักทั้งหมด 383 ห้อง
ตกแต่งในสไตล์ทันสมัย
จุดเด่นของแต่ละห้องก็คือ
มองเห็นวิวดอยสุเทพ
และเมืองเชียงใหม่โดยตรงจากห้องพัก
ชมวิวได้อย่างเต็มตาเลยค่ะ
มาชมห้องพักแบบแรกกันนะคะ
ห้องนี้เป็น Deluxe Room
ขนาด 36 ตรม. เป็นห้องเริ่มต้นของที่นี่
แค่ห้องเริ่มต้นก็วิวอลังการมาก
สวย สะกดใจสุดๆ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน
เป็นห้องเริ่มต้นที่น่ามาพักผ่อนมาก
ความดีงามอีกอย่างก็คือ
ถึงเป็นห้องเริ่มต้น ก็มี Bathtub ด้วยนาจา
นอนแช่ตัวไป ชมวิวดอยสุเทพไป ดีต่อใจที่สุด
ห้องแบบต่อมานี้คือห้อง Espace
มาด้วยขนาด 40 ตร.ม.
เป็นห้องที่อยู่ด้านหัวมุมของตึก
ซึ่งจะมีห้องแบบนี้แค่ชั้นละ 4 ห้องเท่านั้นค่ะ
ไฮไลท์ของห้องนี้จะอยู่ที่วิวห้องน้ำ สวยงามมาก
และห้องที่อิ้มพักก็คือ
Executive Suite มาด้วยขนาด 76 ตรม
เรียกว่าเป็นห้องพักที่วิวอลังการมาก
สามารถชมวิวเมืองและดอยสุเทพ
ได้แบบ 180 องศา
ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน
แว้บแรกพอเข้ามาในห้อง
อิ้มรู้สึกเหมือนอยากหยุดเวลาเอาไว้อย่างนั้น
เพราะบรรยากาศสวยงามมาก
ย้ำว่าภาพที่เห็น
สวยได้ไม่ถึงครึ่งของสถานที่จริงเลยค่ะ
ความดีงามของ Executive Suite ก็คือ
มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องแต่งตัว
ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
แยกออกเป็นสัดส่วนอย่างดีเยี่ยม
มุมนี้มีทั้ง โต๊ะทำงาน โซฟานั่งเล่น
รวมไปถึงโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ท่าน
ถัดไปคือห้องนอน มาพร้อมวิวพาโนราม่าแบบนี้
สวยงามมากจริงๆ ค่ะ
ถัดจากห้องนอนจะเป็นห้องน้ำ
มี Bathtub ขนาดใหญ่ ไว้นอนแช่ตัว
ถัดมาจะเป็นโซน Shower
อ่างล้างหน้าจะมี 2 อ่าง
แบบ His And Her
ถัดไปเป็นห้องแต่งตัวและห้องสุขภัณฑ์
ชมห้องพักเสร็จแล้วไปชมส่วนอื่นกันบ้าง
มาต่อกันชั้น 4
ชั้น 4 นี้เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ
บาร์ ฟิตเนสและสปา
มาเริ่มที่ สปา ก่อนนะคะ
เดอะสปา
ตั้งอยู่บนชั้น 4 ของโรงแรม
ให้บริการทรีทเมนต์หลากหลาย
ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นนวดแผนไทย นวดน้ำมัน
สครับผิว ทรีทเมนต์บำรุงผิวหน้า
โดยพนักงานมากประสบการณ์
ที่จะช่วยให้ได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
และคืนความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี
Hours: Mon-Sun: 10:00 AM – 10:00 PM
ห้องทรีตเม้นท์สวยมาก
อิ้มทำสปาไป 1 ชั่วโมงเต็มฟินมากก
ผ่อนคลาย หายจากอาหารเมื่อยล้า
มีโอกาสจะกลับมาทำอีกแน่นอน
มาต่อจะเป็นฟิตเนส สำหรับคนรักสุขภาพ
และชั้นนี้ยังเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำหลักด้วยค่ะ
ติดกัน จะมี Plunge บาร์ริมสระว่ายน้ำ
“พลันจ์” ก็มีอาหารว่างเบา ๆ
กับค็อกเทลเปิดให้บริการตลอดวัน
มีเซ็ตผลไม้แนะนำให้สั่งมาทานริมสระว่ายน้ำ
บอกเลยว่าชิลสุดๆ ค่ะ
ชิลมากกกกก
สำหรับมื้อเย็น อิ้มทานอาหารที่
ห้องอาหารอิตาเลียน “ฟาโวล่า” (Favola)
ดื่มด่ำกับอาหารอิตาเลียน
ที่คงไว้ซึ่งรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
ปรุงสดใหม่อย่างพิถีพิถันโดยเชฟชาวอิตาเลียน
และเพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารมากยิ่งขึ้น
อีกด้วยไวน์ชั้นนำหลากหลายมากกว่า 100 ชนิด
ที่พร้อมคัดสรรและให้คำแนะนำ
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์
เพื่อจับคู่กับอาหารจานโปรด
ให้เข้ากันอย่างลงตัวที่ห้องอาหารฟาโวล่า
เดิมทีห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยน
แต่ในยุค New Normal แบบนี้
ทางโรงแรมจึงเลือกห้องอาหารที่ดีที่สุด
เปิดบริการเป็นแบบ All Day Dining มื้อเช้า ถึง มื้อค่ำ
และนำอาหาร เมนูซิกเนเจอร์จากห้องอาหารอื่น
มารวมไว้ที่นี่ที่เดียว
มาที่นี่ห้ามพลาดสเต็กนะ ดีงาม ต้องสั่ง
Favalo Pizza แป้งบาง หน้าแน่น หอมชีส คือดี
ลาซานญ่าก็ต้องสั่ง อร่อย ละมุนมาก
จานนี้ต้องลองเช่นกัน
เป็นอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อว่า
หมูสามชั้นคั่วเห็ด อธิบายรสชาติไม่ถูก
แต่รู้ว่าจานนี้อร่อยมาก
และเห็นอาหารน่าทาน จานใหญ่ๆ แบบนี้
บอกเลยราคาไม่แรงนะ
อย่างหมูสามชั้นคั่วเห็ดราดข้าว
จานนี้อยู่ที่ 190 บาทเท่านั้นจ้า
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Favalo Tiramisu
เค้าจะมาเสิร์ฟแบบนี้เลยค่ะ
1 ตักเท่ากับ 1 จาน
และ Chocolate Lava
ส่งท้ายค่ำคืนที่แสนพิเศษ
และยามเช้าอาหารเช้าที่จัดเสิร์ฟในโรงแรม
จะให้บริการแบบตามสั่งตามเมนู
และเปิดให้ทานกันที่ห้องอาหาร “ฟาโวล่า”
สามารถสั่งทานได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม
และพิเศษช่วงนี้
ทางโรงแรมยินดี
ให้แขกสั่งขึ้นไปทานบนห้องได้
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แต่จะต้องสั่งเมนูไว้ล่วงหน้าตอนเช็คอินค่ะ
ซึ่งอิ้มเองก็สั่งมาทานที่ห้องนะ
สั่งมาหลากหลายเมนูมากกก
เช้าตื่นมาแล้วเห้นวิวแบบนี้
ภูเขาลูกใหญ่สีเขียวชอุ่ม
กับสายหมอกที่ไหลเอื่อยๆ
และวิวอันเงียบสงบของตัวเมืองยามเช้า
เป็นภาพที่สวยงาม ดีต่อใจ
รับพลังบวกไปได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
ทานอาหารเช้าไป ชมวิวแบบนี้ไป
แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรมากแล้ว
2วัน1 คืนช่างผ่านไปเร็วมาก
ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ
แต่อยู่ที่เราเลยค่ะ
ว่าจะตักตวงความสุขนั้นได้เต็มที่แค่ไหน
แต่อิ้มมั่นใจว่า การที่อิ้มมาพัก
Le Méridien Chiang Mai
อิ้มได้รับความสุขได้อย่างล้นหัวใจ
ได้รับความประทับใจไปอย่างเต็มที่
มีโอกาสจะกลับมาพักใหม่แน่นอน
ปิดท้ายความสุขในรีวิวนี้ด้วยภาพนี้นะคะ
******************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
*******************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip
ชอบๆๆๆๆๆ
ถูกใจถูกใจ