สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาทุกท่าน
ไปสัมผัสกับรีสอร์ตที่ได้ชื่อว่า
เป็น Pool Villa ที่น่าพักผ่อน
มีความโรแม๊นซ์ๆๆ อันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ที่นี่มีชื่อว่า Casa De La Flora
Design Hotel สุดหรู
ที่ตั้งอยู่ที่ชายหาด บางเนียง
เขาหลัก จังหวัดพังงา
ชายหาดที่สุดแสนจะเงียบสงบและเป็นส่วนตัว
Casa De La Flora
เปิดมาได้ระยะนึงแล้ว
แต่ความสวยงามของที่นี่ยังคงโดดเด่น
สร้างความประทับใจให้ลูกค้าที่เข้าพักเป็นอย่างมาก
ความพิเศษของที่นี่
ก็เห็นจะเป็นเรื่องของดีไซน์
ทุกอย่างล้วนถูกออกแบบมา
ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สวยงาม ดูเรียบหรู
ภายในป็น Pool Villa แบบส่วนตัวทุกหลัง
มีความ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว
ตอนนี้เค้าเพิ่มมุมถ่ายรูปใหม่
เป็น Bubble ใส มีความคิ้วท์ม๊ากกก
ช่วงเย็นสามารถจัด Private Dinner ริมทะเลได้
เรียกว่าเปิดประสบการณ์ใหม่
ในการทานอาหารเลยค่ะ
และอีกเรื่องที่ต้องพูดถึง
ที่นี่เป็นรีสอร์ตในเครือ La Flora
เพราะฉะนั้นคุณภาพเค้าจัดเต็มมาก
และเรื่องอาหารบอกเลยว่าดีงาม
อาหารเช้าคือเริ่ดดดดด
มีอาหารหลากหลายมากกก
เมนูปกติว่าเยอะแล้วนะ
แต่ยังมีเพิ่มเข้ามาคืออาหารนานาชาติต่างๆ
ทั้งซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน
(ทานแล้วคิดถึงเถ้าแก่พัคแซรอย)
ข้าวหมู Blugogi อร่อยม๊ากกกก
และอาหารเช้าอีกนานาชนิด
ทานได้ไม่อั้น ทานที่ไหน ตรงไหน
เมื่อไหร่ ได้ทั้งนั้น ก่อน 4 โมงเย็น ค่ะ
(ถ้ามาทานที่ห้องอาหารช่วงเช้า
เป็นจะเป็นบุฟเฟ่ต์
ถ้าสั่งที่อื่นจะเป็น A La Carte นะคะ)
และใครเข้าพักช่วงสุดสัปดาห์
ก็จะมีจัดบุฟเฟต์บาบีคิวซีฟู๊ด
และอาหารใต้ ให้ลิ้มลองทานด้วยนะ
ทุกอย่างของที่นี่
เรียกว่าทำให้อิ้มหลงรักได้ง่ายๆ
และรู้สึกว่าการมาพักผ่อนที่ Casa De La Flora
ได้เติมเต็มความสุขอย่างเต็มรูปแบบจริงๆ
ใครสนใจมาเข้าพักที่นี่ในช่วงนี้
เค้าก็มีราคาพิเศษ
เตรียมจับจองกันได้เลยนะคะ
Casa De La Flora
#เราเที่ยวด้วยกัน
ประหยัดค่าที่พักได้ถึง 40%
เพราะที่เหลือรัฐออกให้ 🌊
ราคาห้องต่อคืน
– Studio Pool Villa 5,500 บาท
เหลือจ่ายเพียง 3,300 บาท / คืน
– Duplex Pool Suite 6,500 บาท
เหลือจ่ายเพียง 3,900 บาท / คืน
– Duplex Grand Pool Villa 7,500 บาท
เหลือจ่ายเพียง 4,500 บาท / คืน
– Beachfront Pool Villa 8,000 บาท
เหลือจ่ายเพียง 5,000 บาท / คืน
– Beachfront Suite Pool Villa 10,000 บาท
เหลือจ่ายเพียง 7,000 บาท / คืน
หมายเหตุ
– ราคาห้องพักนี้รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
– สามารถเข้าพักได้จนถึง 31 ตุลาคม 2563
– ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเข้าพักหรือคืนเงินได้
จองได้แล้ววันนี้
👉 https://bit.ly/3jnd5Bu
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/casadelaflora/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
สำหรับการเดินทาง
ทริปนี้อิ้มเดินทางกับสายการบินนกแอร์
บินตรงสู่ภูเก็ต บินง่าย ซึ่งตอนนี้
เค้าให้บริการแบบ New Normal
ขึ้นเครื่องได้อุ่นใจ สบายหายห่วง
และอยากเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย
ไปยอดภู ดูทะเลหมอก หรือสูดอากาศบริสุทธิ์
เที่ยวทะเล พาหัวใจโซเซ ไปดูปะการัง #ให้นกแอร์พาไป
เที่ยวทุกที่ ที่ใจคิด ราคาตั๋วบอกเลยว่าสบายกระเป๋า
ประหยัดงบ เหลือเงินไปเที่ยวอีกเพียบบบบ
จองเถอะ ไปเที่ยวกัน ตอนนี้โปรดีม๊ากกก
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
สนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40%
ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน
แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ต่อผู้โดยสาร
ซึ่งจะต้องชำระค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน
ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน
และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง
รวมถึง check-in และ check-out
ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริงภายใน 31 ตุลาคม 2563
https://bit.ly/BG-CT-ให้นกแอร์พาไป
อยากเที่ยวเมืองไทย #ให้นกแอร์พาไป
อยากไปภูเก็ต #ให้นกแอร์พาไป #FlyNok
#Nokair #WeFlySmile
การเดินทางสู่จังหวัดพังงา
จะต้องนั่งเครื่องบินไปลงที่จังหวัดภูเก็ตก่อน
จากนั้นจะขับรถต่อไปยังจังหวัดพังงาค่ะ
เวลาบินจากกรุงเทพ (ดอนเมือง) ไปสู่ภูเก็ต
ใช้เวลาเดินทางเพียง 1.20 นาทีเท่านั้น
พอถึงสนามบินภูเก็ต
จะต้องเดินทางต่อโดยรถยนต์
จากสนามบินภูเก็ตมาถึงรีสอร์ต
ขับรถต่อประมาณ 1.13 นาที
(ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
จะเช่ารถมาก็ได้
หรือจะใช้บริการรถรับส่งของรีสอร์ตก็ได้
มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยค่ะ
มาถึงแล้วก็ต้องเริ่มกระบวนการเช็คอินค่ะ
และแน่นอนใครจะออกมาเที่ยวพักผ่อน
ในโรงแรม รีสอร์ต ช่วงนี้
ก็ต้องเลือกที่ ที่ปลอดภัย
และไว้ใจในการป้องกันโรค Covid-19
ซึ่งที่ Casa De La Flora
เค้าก็มีมาตราการป้องกัน Covid-19 อย่างเข้มงวด
สบายใจเมื่อเข้าพักแน่นอนค่ะ
พอเข้ามาเช็คอินปุ๊ป เค้าก็เริ่มกระบวนการ
มาตรการป้องกันโควิดเลยค่ะ
แน่นอนสิ่งที่ทุกคนต้องมีคือ Mask นะคะ
ถ้าไม่มี Mask เค้าไม่ให้เค้าพักนาจา
ส่วนของพนักงาน
ทุกคนที่นี่จะใส่ Mask หมด
และมีการตรวจวัดไข้ ก่อนเข้ามาปฏิบัติงานทุกครั้ง
ส่วนของลูกค้า
ก่อนเช็คอิน
จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าพัก
ทั้งการวัดไข้,และมีเจลกอออล์ให้ตามจุดต่างๆ
ระบบ Clean and Care ของที่นี่มีถึง 10 ข้อเลยค่ะ
หลังจากเสร็จกระบวนการ การผ่านจุดคัดกรอง
ระหว่างที่ รอเช็คอิน
พนักงานจะนำกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย
และ Amenity ที่จะใช้ในห้องมาให้เลือก
รวมถึงชนิดของหมอนด้วย
หลังจากนั้นจะเป็นการเสิร์ฟเวลคัมดริ้งค์
ให้ทานก่อนพาไปยังวิลล่าที่เข้าพัก
Casa De La Flora
เป็น Design Hotel
ที่มีความเก๋ ล้ำ ดีไซน์คือโดดเด่น
ผสมผสานความโมเดิร์นของรูปทรง
เข้ากับเส้นสายและงานดีไซน์
จากวัสดุธรรมชาติ
ที่ให้สัมผัสอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
วิลล่าของที่นี่จะเป็นชื่อเรียกดอกไม้ทัั้งหมด
ตามชื่อของรีสอร์ต ที่มีชื่อว่า
Casa De La Flora
มีความหมายว่า บ้านของดอกไม้
ห้องพักเป็นวิลล่าพร้อมสระส่วนตัวทุกหลัง
มีทั้งหมด 36 หลัง
แบ่งย่อยเป็น 8 ประเภทห้องพักดังนี้
– Studio Pool Villa
– Duplex Pool Villa
– Duplex Grand Pool Villa
– Beachfront Pool Villa
– Casa Pool Suite
– Beachfront Suite Pool Villa
– Grand Pool Suite
– Beachfront Grand Pool Villa
มาเริ่มต้นที่ Studio Pool Villa นะคะ
สตูดิโอพูลวิลล่าหลังนี้
เป็น Room type เริ่มต้น
ขนาด 70 ตร.ม. มีทั้งหมด 5 หลัง
ขนาดสระว่ายน้ำอยู่ที่ 4.30 ม. x 1.90 ม.
แม้ว่าสตูดิโอพูลวิลล่า
จะมีขนาดกะทัดรัดที่สุด
ในบรรดาวิลล่าประเภทอื่น ๆ
แต่ความสะดวกสบาย
และความหรูหรา ความทันสมัย
ก็ไม่น้อยไปกว่าวิลล่าหลังอื่นเลย
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มีความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว
ไฮไลท์ของที่นี่
คือห้องน้ำที่กว้างขวางเป็นพิเศษ
จะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่แช่ 2 ท่านสบายๆ
มากับคู่รักเรียกว่าสุดโรแมนติกสุดๆ เลยค่ะ
เปิดประตูมาจะเป็นสระว่ายน้ำ
ตามมาด้วยห้องนอน
ด้านนอกรายล้อมด้วยสวนสีเขียว
ดูสดชื่นสบายตา
ภายในห้องน้ำกว้างขวางมากก
ด้านหลังอ่างอาบน้ำ
จะแบ่งเป็นโซนสุขภัณฑ์ และโซน Shower
ตู้เสื้อผ้าและมุมมินิบาร์
ความดีงามอีกอย่างของที่นี่ก็คือ
ฟรีมินิบาร์ทุกๆ วิลล่า
และจะเติมเต็มให้วันละครั้ง
มาต่อกันที่ Duplex Grand Pool Villa
ดูเพล็กซ์แกรนด์พูลวิลล่าหลังนี้
มาด้วยขนาด 110 ตร.ม.
สระว่ายน้ำ 6.20 ม. x 2.20 ม.
มีทั้งหมด 11 หลัง
ภายในจะมี 2 ชั้นครึ่ง
ชั้นล่างจะเป็นห้องนั่งเล่นกว้างขวาง
มีบัลโคนี่นั่งชิล สระว่ายน้ำส่วนตัว
และสวนสีเขียว ดูร่มรื่นสบายตา
ชั้นลอยเป็นห้องน้ำ
พร้อมอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่สำหรับสองท่าน
ฝักบัวและห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วน
บนชั้นสองของวิลล่า
จะเป็นห้องนอนที่กว้างขวาง
พร้อมเตียงคิงไซส์สามารถมองเห็นวิวทะเล
ได้จากเตียงนอนเลยค่ะ
จริงๆ การออกแบบวิลล่า
แต่ละหลังของที่นี่จะคล้ายกันหมดค่ะ
สำหรับห้องน้ำ
เรียกว่าจะคล้ายกัน
เกือบทุก Room type
เพราะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เหมือนกัน
ต่างกันที่ Lay Out การจัดวาง
ส่วนดูเพล็กซ์แกรนด์พูลวิลล่า
เปิดห้องมาปุ๊ปเราจะอยู่ชั้นลอย
ซึ่งเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ
มีบันไดลงมาชั้น 1
ชั้น 1 จะเป็นห้องนั่งเล่น
มีบัลโคนีและสระว่ายน้ำ
ชั้น 2 จะเป็นห้องนอน
นอนมองวิวเทะเลชิลๆ ได้เลยค่ะ
ต่อมาเป็น
Beachfront Suite Pool Villa
วิลล่าหลังนี้
มาด้วยขนาดกว้างขวางถึง 100 ตร.ม.
สระว่ายน้ำมีขนาด 4.30 ม. x 3.50 ม.
มี 5 หลังค่ะ
Beachfront Suite Pool Villa
ตั้งอยู่ริมชายหาด
พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
เห็นวิวทะเลชัดเจนและเงียบสงบ
วิลล่าแต่ละหลัง
มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
และห้องนอนที่สะดวกสบาย
มาพร้อมห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำ
ขนาดใหญ่สำหรับสองท่าน
ด้านนอกมีบัลโคนี่
มีสวนเล็กๆ และพื้นที่สนามหญ้า
สามารถนั่ง Picnic
พร้อมสระว่ายน้ำแช่ตัวชมวิวชิลทะเล
ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น
สามารถมองวิวทะเลได้ ฟินสุดๆ ค่ะ
ภายในห้องนอนคือวิวแบบนี้ ดีงามมาก
ภายในห้องน้ำค่ะ
พื้้นที่ด้านนอก กว้างขวางทีเดียว
แช่น้ำไปชมวิวทะเลไป
ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้
ต่อมาจะเป็นวิลล่าที่อิ้มพัก
Beachfront Pool Villa
วิลล่าประเภทนี้จะมีขนาดกะทัดรัด
กว่าวิลล่าริมหาดอื่น เล็กน้อย
เอาจริงๆ การตกแต่งคล้าย
Beachfront Suite Pool Villa
แต่จะต่างกันตรงที่
Beachfront Pool Villa
จะไม่มีห้องนั่งเล่น และสวน
พื้นที่โดยรวม 70 ตร.ม.
สระว่ายน้ำขนาด 3.40 ม. x 3.40 ม.
เปิดประตูมาปุ๊ป
จะเป็นห้องนอนที่มาพร้อมวิวทะเลแบบนี้
ตื่นมาพร้อมวิวทะเล ดีต่อใจที่สุด
มี Welcome Fruit มารอต้อนรับ
ด้านหลังเตียงจะเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His And Her
ถัดไปเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
หลังสุดจะเป็นโซน Shower และสุขภัณฑ์
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เสื้อผ้าและมุมมินิบาร์
ที่นี่มินิบาร์ฟรีทั้งหมด เติมให้วันละ 1 ครั้งนะคะ
ชา กาแฟ น้ำเปล่า น้ำแข็ง ขอเพิ่มได้ตลอด
ตู้เสื้อผ้า ร่ม
Bathrobe มีแยกสำหรับคุณผู้หญิง และคุณผู้ชาย
Beachbag สลิปเปอร์และรองเท้าแตะ
ผลิตภัณฑืที่ใช้ในห้องน้ำคือครบครันมาก
อิ้มถูกใจ Amenity มาก
เค้าใช้แบรนด์ THANN
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่อิ้มชอบมาก
ที่อื่นอาจจะให้เป็นขวดเล็กๆ
ซึ่งสาวๆ ผมยาวแบบอิ้ม
รับรองเลยว่าไม่พอใช้
แต่ที่นี่
ให้มาเป็นขวดปั๊มขนาดใหญ่
ใช้ได้สบายไม่ต้องกลัวหมด
ไปชมบรรยากาศด้านนอกกันบ้างนะคะ
ขิลม๊ากกกกกก
มุมนี้ถ่ายจากมุมหน้าบ้าน ><
ถ่ายภาพเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
อัพโซเชี่ยลกระจายยย
ชมห้องพักเสร็จแล้ว
ไปชมส่วนอื่นๆ กันต่อค่ะ
เริ่มที่อาคารล็อบบี้
มุมนี้จะเป็นเหมือนห้องนั่งเล่น
และเป็นพื้นที่สำหรับแขกที่เช็คอินแล้ว
ยังไม่ได้เข้าห้องพัก
และแขกที่เช็คเอาท์ไปแล้ว
แต่ยังไม่ถึงเวลาเดินทางกลับ
มานั่งรอห้องแอร์เย็นๆ สบายๆ
ห้องนี้ได้ค่ะ
ติดกันจะเป็น Library
มีหนังสือให้อ่าน และ Mac ไว้ให้ใช้งาน
ชั้นล่างจะเป็นฟิตเนส
ต่อมาจะเป็นสระว่ายน้ำหลักค่ะ
สำหรับแขกที่มาพักที่นี่
จะไม่ค่อยลงมาว่ายน้ำที่สระหลักเท่าไหร่นัก
ส่วนมากจะว่ายน้ำในวิลล่ามากกว่าค่ะ
ต่อมาเป็นสปาใช้ชื่อว่า
SPA LA CASA
มีทรีตเม้นท์หลากหลายให้เลือกทำ
Therapist นวดดีมากกก
เพลินมากกกก นวดเสร็จ สบายตัวสุดๆ
ตอนนี้เค้าเพิ่มมุมถ่ายรูปใหม่
เป็น Bubble ใส มีความคิ้วท์ม๊ากกก
ช่วงเย็นสามารถจัด Private Dinner ริมทะเลได้
เรียกว่าเปิดประสบการณ์ใหม่
ในการทานอาหารเลยค่ะ
ช่วงกลางวันจะตั้งอยู่ในสวน
ถ่ายภาพเช็คอินวนไปค่ะ
ไม่ต้องกลัวร้อนนะ ข้างในมีแอร์ เย็นสบาย
ส่วนช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เค้าจะย้ายลงไปใกล้ทะเล
เพื่อที่จะจัดโรแมนติกเนอร์แบบนี้ค่ะ
ด้านในจะเป็นแบบนี้
รายละเอียด Romantic Dinner
รายการอาหาร และราคา
ตามลิ้สต์นี้เลยค่ะ
จัดเต็มสุดๆ
ทานสองท่านบอกเลยว่าไม่หมดแน่นอน
อาหารเยอะม๊ากกก
ห้องอาหารที่นี่มีชื่อว่า La Aranya
ให้บริการแบบ All Day Dining
เริ่มตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึงมื้อค่ำ
โดยรวมอาหารที่นี่อร่อย
อาหารเช้าคือเริ่ดดดดด
ชอบความใส่ใจในรายละเอียดของอาหารเช้า
มีเมนูหลากหลาย อร่อยและอินเตอร์มาก
เมนูเก่าว่าฟินแล้ว
เมนูใหม่ยิ่งฟินกว่ามีทั้งสเต็ก
ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน
(อร่อยมากก คิดถึงเถ้าแก่พัคแซรอยเลย)
ข้าวบลูโกกิ และอีกนานา หลากหลายสิ่งอย่าง
และอาหารเช้าอีกนานาชนิด
รวมถึงสปาร์คกลิ้งไวน์
ทานได้ไม่อั้น ทานที่ไหน ตรงไหน
เมื่อไหร่ ได้ทั้งนั้น ก่อน 4 โมงเย็น ค่ะ
(ถ้ามาทานที่ห้องอาหารช่วงเช้า
เป็นจะเป็นบุฟเฟ่ต์
ถ้าสั่งที่อื่นจะเป็น A La Carte นะคะ)
(สปาร์คกลิ้งไวน์ ต้องทานที่ห้องอาหารเท่านั้น)
และยุค New Normal นี้
เราสามารถเลือกได้ว่า
จะทานอาหารเช้าในห้องอาหาร
หรือในวิลล่า ซึ่งสองอย่างแรกให้บริการฟรี
สั่งเท่าไหร่ก็ได้ไม่อั้น
และถ้าจะเลือกเป็น Floating Breakfast
เสียเพิ่ม 750 บาท คือคุ้มม๊ากกกก ดีงามจร้าา
เมนูอาหารเช้าแบบยั่วๆ
อาหารพิเศษของมื้อเช้าในแต่ละวัน
ไม่อยากออกไปทานด้านนอก
สั่ง Floating Breakfast มาทานดีกว่า
จะได้ถ่ายภาพเกร๋ๆ ด้วย
ในเซ็ตเราสามารถเลือกทานได่ตามชอบเลยค่ะ
อาหารเช้าคือปังสุดพลัง อร่อยทุกสิ่งอย่าง
ทานสเต็กในมื้อเช้า ไฮโซสุดด
สเต็ก ซุปกิมจิเต้าหู้อ่อน ข้าวบลูโกกิ
เป็นเมนูที่ต้องสั่ง ห้ามพลาด
สำหรับอาหารกลางวันก็มีหลากหลาย
ให้เลือกสั่ง ทั้งอาหารจานเดียว อาหารไทย
อินเตอร์ และอาหารพื้นเมือง
โดยรวมรสชาติ จัดจ้าน วัตถุดิบดี
ถูกปากคนไทยแน่นอน
และใครเข้าพักช่วงสุดสัปดาห์
ที่แขกพักและจองเยอะ
เค้าจะจัดบุฟเฟต์บาบีคิวซีฟู๊ด
และอาหารใต้ ให้ลิ้มลองทานด้วยนะ
ราคาและรายละเอียดตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
มีดนตรีสดให้ฟังชิลๆ ระหว่างทานอาหาร
บรรยากาศดีคือม๊ากกก
มีมุมเล็กๆ น่ารักๆ ให้ถ่ายภาพเช็คอิน
อาหารจะมีตามสเตชั่น
เลือกทานและสั่งได้ตามชอบเลยค่ะ
เค้ามีอาหารใต้ให้ทานด้วยนะ เริ่ดมากก
สลัดต่างๆ
ซูชิ ซาชิมิ
ซีฟู้ดสดๆ ตัวโตๆ
อยากทานอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ แจ้งเชฟได้เลยค่ะ
มีแกะด้วยจ้า
Beef Tenderloin สำหรับคนรักเนื้อ
ใครไม่ทานเนื้อ,แกะ ,ซีฟู้ด
เค้าก็มี หมู ไก่ ให้ทานนะคะ
แซลมอนนนชิ้นโตมาก
โซนอาหารพื้นเมือง
วันที่อิ้มไปมีโอวต้าวให้ทานด้วยค่ะ
ผลไม้และของหวาน
อิ่มๆ จุกๆ ฟินๆ กันไปสำหรับดินเนอร์มื้อนี้
ปิดท้ายความสุขในรีวิว ด้วยภาพนี้ค่ะ
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่
psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip