ในช่วงเหตุการณ์ดีขึ้น
ใครมีแพลนหรือเตรียมตัวไปไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยา
เพื่อสิริมงคลแก่ตัวเอง และครอบครัว
และกำลังนึกอยู่ว่าจะเริ่มยังไงดี
เพราะที่ อยุธยา มีวัดหลากหลายแห่งมาก
อิ้มคิดว่ารีวิวนี้จะเป็นคำตอบให้คุณค่ะ
หากจะไปอยุธยา
อิ้มแนะนำให้ค้างสัก 1 คืน
และตื่นเช้าดูวิถีชีวิตของผู้คน
แล้วจะพบว่า อยุธยามีสเน่ห์กว่าที่คุณคิด
และช่วงเช้าจะได้ตื่นแต่เช้า
เริ่มทำบุญให้ได้ 9 วัดตามที่ตั้งใจ
ครั้งอิ้มได้ไปก็มีถึง 11 วัดด้วยกัน ดังนี้
1.วัดใหญ่ชัยมงคล
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
3.วิหารพระมงคลบพิตร
4. วัดพระศรีสรรเพชญ์
5. วัดมเหยงคณ์
6. วัดมหาธาตุ
7. วัดธรรมิกราช
8. วัดนักบุญยอแซฟ
9. วัดพุทไธศวรรย์
10. วัดราชบูรณะ
11. วัดไชยวัฒนาราม
ใครไปตรงกับวันเสาร์
แนะนำทานบัฟเฟต์ติ่มซำ
ที่โรงแรม คลาสสิค คามิโอ อยุธยา
เค้ามีจัดบัฟเฟต์ติ่มซำทุกมื้อกลางวันวันเสาร์
ในราคาคนละ 430 บาท
รวมเครื่องดื่มแล้ว
และมีโปรมา 4 จ่าย 3 ด้วยนะ
อิ้มว่าคุ้มมากกกก
ยิ่งเห็นไลน์อาหาร และคุณภาพ รสชาติแล้ว
แนะนำให้มาเถอะ ดีงามจริงๆ
ส่วนโรงแรมที่อิ้มแนะนำก็คือ
Kantary Hotel Ayuthaya
เป็นโรงแรม 4 ดาว ให้บริการห้องพักแบบโรงแรม
และเซอร์วิสอพาร์เม้นท์
ทำเลก็ดีงามอยู่ติดถนนใหญ่
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของพระนครศรีอยุธยา
เดินทางสะดวกสบาย
ราคาห้องพักก็ไม่แรงมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก
ค่อนข้างครบครัน
ที่อิ้มชอบมากๆ ก็คือ
ภายในห้องพักมีเครื่องครัว
อุปกรณ์ทำอาหารที่สามารถใช้ได้จริง
เป็นตัวเลือกที่ดีมาก
สำหรับลูกค้าที่มาพักผ่อนทั้งแบบระยะสั้น
และแบบ Long Stay
ส่วนใครที่อยากลิ้มลองอาหารรสชาติอร่อย
โรงแรมแคนทารี อยุธยายังมี
“ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก”
บริการอาหารไทย
อาหารญี่ปุ่นและอาหารยุโรปให้ได้ลองทาน
นอกจากนั้นยังมี “คาเฟ่ แคนทารี”
ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรม
มีบริการอาหารเครื่องดื่ม เบเกอรี่โฮมเมด
และไอศกรีมสไตล์อิตาเลียน
หากไม่ได้เข้าพัก ก็แวะมาทานได้นะคะ
เอาหล่ะ เกริ่นมายืดยาว
เดี๋ยวตามอิ้มไปเที่ยวกันต่อในรีวิวนี้ค่ะ
ช่องทางการติดต่อรีสอร์ท Facebook :
https://www.facebook.com/capekantaryhotels/
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ
อิ้มมาถึงโรงแรมในช่วงบ่าย
ก็แวะมาทาน คาเฟ่ แคนทารี
ที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรมก่อนเป็นอันดับแรก
ภายในให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม
เบเกอรี่โฮมเมด
และไอศกรีมสไตล์อิตาเลียน
หากแขกท่านไหนไม่ได้พัก
ก็สามารถแวะเข้ามาทานได้นะคะ
Cafe KANTARY Ayutthaya
เป็นร้านเบเกอรี่สุดเก๋ สุดชิคๆ
ของเครือโรงแรมเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์
ซึ่งรับรองความอร่อยได้
เพราะสูตรอาหารต่างๆ
ได้รับการคัดสรรมาอย่างดี และการันตี
ด้วยการมีหลากหลายสาขาทั่วไปประเทศ
ใครใกล้สาขาไหน ลองแวะไปทานนะคะ
ของเค้าอร่อยมากๆ จริงๆ
มาดูเมนูที่สั่งกันค่ะ เริ่มที่เครื่องดื่ม
Ice Caramel Macchitao
Matcha Greentea Float
Cold Brew
Vietnamese Drips Coffee
อิ้มชอบความที่เค้ามีเครื่องดื่มหลากหลาย
นอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว
แต่ละแก้วตกแต่งสวยงาม
ถ่ายภาพอัพลงโซเชี่ยลได้อย่างเริ่ดเวอร์
มาต่อที่อาหารนะคะ
Deep Fried Cheese ball ราคา 170 บาท
จานนี้ทานเพลินมาก ชีสเต็มปากเต็มคำ
ตัดเลี่ยนด้วย ราสเบอร์รี่ซอสเข้ากันอย่างลงตัว
Hokkaido Sashimi Salad ราคา 250 บาท
สลัดที่รวบรวมเอาซาชิมิ
ทั้งปลาหมึก แซลมอนและทูน่า
ท็อปด้วยไข่กุ้ง และยำสาหร่าย
ราดด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่น
น้ำสลัดและผักสด โดยรวมอร่อยค่ะ
Cheesy Gyoza 185 บาท
จานนี้เป็นเมนูโปรดของอิ้ม
มาคาเฟ่แคนทารี่ทีไร เป็นต้องสั่งทุกที
ตัวเกี๊ยวซ่า ตัวแป้งบาง ไส้เยอะ นุ่มมาก
ทานคู่กับชีส หอมๆ เยิ้มๆ ละมุนๆ คือฟินมากกก
แล้วเค้าเสิร์ฟในกระทะร้อน
ทำให้อุณภูมิชีส ไม่แข็งตัว
ทานได้เพลินๆ แป๊ปเดียวหมดค่ะ
Smoke Salmon Pizza
With Salmon Roe ราคา 350 บาท
มาที่นี่ต้องลองพิซซ่านะ
พิซซ่าเค้าอร่อยมาก
โดยเฉพาะหน้านี้ แป้งบาง ไส้เยอะ ชีสตู้ม
Smoke Salmon ชิ้นใหญ่ เต็มคำ
อิ้มชอบแท็กเจอร์ที่มีไข่แซลมอน
มีความเคี้ยวเพลินๆ แตกโปะๆ ในปาก
อร่อยลงตัว
ข้าวไข่ข้น ต้มยำกุ้ง ราคา 165 บาท
เมนูนี้อิ้มสั่งประจำเช่นกัน ต้มยำกุ้งรสแซ่บ
ทานคู่กับไข่ข้น คือดีต่อใจ
Spicy Stir-fried Spaghetti
With Salmon and Salmon Roe ราคา 200 บาท
จานนี้เป็นสปาเกตตี้แซลมอน
และ On Top ด้วยไข่แซลมอน
จะบอกว่าแซลมอนเลิฟเวอร์ ต้องชอบจานนี้
เค้าให้แซลมอนมาเยอะจริงอะไรจริง
กัดไปทางไหนก็มีแต่แซลมอน เต็มไปหมด
ทานคู่กับเส้นสปาเกตตี้
ที่ลวกเส้นมาพอดี ไม่แข็งและนุ่มจนเกินไป
ผัดพริกแห้งหอมกรุ่นๆ มา คือถูกใจมาก
Black and White
Spaghetti with Seafood ราคา 200 บาท
จานนี้เป็นเส้นสปาเกตตี้สองสี
ผัดรวมกับเครื่องซีฟู้ดเน้นๆ
ผัดสไตล์ไทย เข้มข้น ถึงเครื่อง
ปิดท้ายด้วยของหวาน
Chocolate Fudge Brownies ราคา 155 บาท
Oh-La-La Honey Toast ราคา 170 บาท
Banana In Black Crepe ราคา 155 บาท
เติมพลังเสร็จก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักค่ะ
Kantary Hotel Ayuthaya
เป็นโรงแรม 4 ดาวให้บริการห้องพัก
แบบโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์เม้นท์
ราคาห้องพักก็ไม่แรงมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก
ค่อนข้างครบครัน
ที่อิ้มชอบมากๆ ก็คือภายในห้องพักมีเครื่องครัว
อุปกรณ์ทำอาหารที่สามารถใช้ได้จริง
เป็นตัวเลือกที่ดีมาก
สำหรับลูกค้าที่มาพักผ่อนทั้งแบบระยะสั้น
และแบบ Long Stay
ที่นี่จัดว่าทำเลดีงามเพราะติดถนนใหญ่
และตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของพระนครศรีอยุธยา
ล็อบบี้ของโรงแรมมีความเรียบหรู คลาสสิก
เช็คอินเสร็จแล้วได้เวลาเข้าห้องพักกันค่ะ
ห้องพักมีบริการทั้งแบบห้องสตูดิโอ
, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน
ไปจนถึงเพ้นท์เฮ้าส์
แต่ละห้องจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว
มีพื้นที่นั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว
และระเบียงส่วนตัว
ทุกๆ ห้องที่กล่าวมามีครัวทุกห้อง
เหมาะสำหรับมาพักกับเพื่อน
ครอบครัว และอยู่แบบ Long Stay มากก
ภายในห้องพักตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบหรู
โทนสีที่ใช้จะไปในทิศทางเดียวกัน
คือมีความเข้ม หรูหรา ดูคลาสสิก
สิ่งอำนวยความสะดวก
ก็มีทีวีแอลซีดี เครื่องเล่นดีวีดี อินเตอร์เน็ต Wifi
วันนี้อิ้มพักห้องสตูดิโอ
ห้องพักแบบเริ่มต้น ของที่นี่
ส่วนแรกจะเป็นมุมครัว
อุปกรณ์ครบครัน ทั้งตู้เย็นขนาดใหญ่
ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า หม้อ อ่างล้างจาน
ทำอาหารได้สบายๆ
ถัดไปจะเป็นโซฟา และเตียง
นี่ขนาดห้องเริ่มต้น
ไซส์ก็ถือว่าใหญ่มากเลยนะคะ
มีมุมโต๊ะทานข้าวให้ด้วยค่ะ
ภายในห้องน้ำ
มี Bathtub ให้บริการด้วยนะคะ
นอกจากนั้นยังมี
สิ่งความอำนวยความสะดวกมากมาย
เช่น Executive Lounge
ที่บริการชา กาแฟ และของว่างฟรี
สระว่ายน้ำ ห้องสตรีมซาวน่า
ห้องรีดผ้า ฟิตเนส และมีน้ำแข็งให้ฟรีmมาตักได้ทั้งวัน
ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 16 ของโรงแรม
สระว่ายน้ำ
ถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่มาก
ตั้งอยุ่บนชั้นสูงสุด
สามารถมองเห็นวิวอยุธยามุมสูงได้อีกด้วย
มีจากุซซี่ให้แช่ผ่อนคลายด้วยค่ะ
ฟิตเนส
Excutive Louge
เป็นห้องที่มีไว้ให้แขกของโรงแรม
มานั่งพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ หรือทำงาน
ที่สำคัญมีชา กาแฟ ขนม
บริการฟรีทั้งวันอีกด้วยค่ะ
ตู้น้ำแข็งอยู่ด้านหน้าลิฟท์
ตักได้ฟรี มีให้บริการทั้งวัน
ช่วงเย็น อิ้มทานอาหารที่
California Steak
ห้องอาหารหลักของโรงแรม
ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ถัดจาก Lobby
เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม
ให้บริการแบบ All Day Dining
ห้องอาหาร California Steak
ถึงชื่อจะดูอินเตอร์
และใช้คำเกริ่นนำว่าสเต็ก
เค้าไม่ได้มีแค่สเต็กนะ
มีอาหารหลากหลายมากกก
ทั้งอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น
และอาหารยุโรป
เลือกทานได้ตามใจชอบ
แขกที่ไม่ได้เข้าพัก ก็แวะมาทานได้นะคะ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาถึงนี่
ลองเป็นอาหารอิตาเลี่ยน
จัดมาเลยทั้ง สลัด สเต็ก พิซซ่า
โดยรวมอิ้มว่า
ที่นี่สเต็กอร่อย สมคำร่ำลือ
ตัวเนื้อและวัตถุดิบดีมาก
แต่อาหารอื่นปรุงรสเค็มไปนิด
เนื้อที่นี่ดีมากกก มาทานสเต็กคือไม่ผิดหวัง
สำหรับไลน์อาหารเช้า
ก็ให้บริการที่ California Steak เช่นกัน
มีให้หลากหลายและเติมแบบไม่อั้น
ที่อิ้มชอบมากๆ คือมี Station อาหารญี่ปุ่น
ที่เป็นพวก ซุป ต้มซีอิ๊ว ผัด และสลัดต่างๆ
มีผงโรยข้าวด้วยนะ
อิ้มนี่วนอยู่ที่มุมอาหารญี่ปุ่นอย่างเดียวเลยค่ะ
หลังจากเติมพลังแล้ว
ทริปไหว้พระอยุธยาของเราก็ได้เริ่มขึ้น
อิ้มเลือกออกเดินทางแต่เช้า
แนะนำให้ออกจากโรงแรมสัก 8 โมง
เพื่อที่จะไปเก็บให้ครบ 9 วัด
ส่วนอิ้มจะมีการเปลี่ยนชุด
ถ่ายภาพตามวัดต่างๆ ตาม Reference IG
จะได้ภาพที่สวยงาม
แต่ใครจะใส่ชุดไทยก็ได้นะ
มีให้เช่าพร้อมทำผม
ราคาก็อยู่ที่ 500 รวมทุกอย่าง เช่าได้ทั้งวัน
สามารถหาเช่าได้ที่ หน้าวัดไชยวัฒนาราม
สำหรับเรื่องการเดินทาง
และการเรียงลำดับวัด
จริงๆ แต่ละวัดก็อยู่ไม่ไกลกันเลย
สามารถไปวัดไหนก่อนก็ได้
ไม่จำเป็นต้องแวะจุดไหนก่อน
เอาตามที่เราสะดวก
แต่ถ้าไม่อยากย้อนไป ย้อนมา
ไปตามที่อิ้มแนะนำได้เลยค่ะ
มาเริ่มที่วัดแรก
1.วัดใหญ่ชัยมงคล
จากโรงแรมจะมาถึงวัดใหญ่ชัยมงคลก่อน
อิ้มจึงแวะเป็นจุดแรก
วัดใหญ่ชัยมงคล
เป็นวัดที่สวยงามาก
สามารถขึ้นไปไหว้พระรอบๆ พระเจดีย์ชัยมงคล
ไหว้พระพุทธชัยมงคลในพระอุโบสถ
ไหว้พระนอนที่วิหารพระพุทธไสยาสน์
ปิดท้ายด้วยการสักการะ
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดนี้ใกล้กับวัดใหญ่ฯมาก
ห่างกันเพียงแค่ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง
ภายในประดิษฐาน
พระพุทธไตรรัตนนายก
หรือ หลวงพ่อโต หรือ เจ้าพ่อซำปอกง
มาไหว้พระรับพรจากพระสงฆ์
รับสายสิญจน์ รับการพรมน้ำมนต์
ไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก
และมีศาลเจ้าจีน
ถือเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่าเคารพบูชามาก
และอย่าลืมให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำ
เป็นการทำทานอีกด้วยค่ะ
วัดนี้เป็นวัดที่อิ้มมาประจำกับครอบครัว
ทำเลอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ในส่วนโค้งน้ำ
คุณพ่อ อิ้มชมบ่อยๆ ว่าวัดนี้สวยงาม และสงบ
เมื่อคุณพ่อของอิ้มได้จากโลกนี้ไป
จึงได้นำกระดูกคุณพ่อ
มาลอยอังคารที่นี่ด้วย
วัดนี้จึงเป็นวัดสำคัญของหัวใจของมากทีเดียว
3. วิหารพระมงคลบพิตร
วัดที่ 3 วิหารพระมงคลบพิตร
วิหารพระมงคลบพิตร
มีพระประธาน คือ พระมงคลบพิตร
พระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่
นับว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่
ที่มีลักษณะงดงาม
เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง
ของกรุงศรีอยุธยา
และเป็นที่เคารพสักการะมานานนับร้อยๆ ปี
4. วัดพระศรีสรรเพชญ์
พระศรีสรรเพชญ์
อยู่ใกล้กันกับวิหารพระมงคลบพิตร
เป็นคนละวัดกันนะคะ
มาจุดนี้เหมือนได้ 2 วัดเลย
วัดพระศรีสรรเพชญ์
สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.2035
โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวัง
เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่ง
ที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง
ของพระนครศรีอยุธยา
ความสำคัญคือเปรียบเสมือน
วัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพฯ
จุดที่น่าสนใจ และสำคัญคือ
เจดีย์ทรงลังกา จำนวน 3 องค์
ที่วางตัวเรียงยาว
ซึ่งบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3
และสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
ใกล้เที่ยงเติมพลังกันก่อนนะคะ
บ่ายๆ วันเสาร์แบบนี้
แนะนำทานบุฟเฟต์ติ่มซำ
ที่โรงแรม คลาสสิค คามิโอ อยุธยา
เค้ามีจัดบุฟเฟต์ติ่มซำทุกมื้อกลางวันวันเสาร์
ในราคาคนละ 430 บาท
รวมเครื่องดื่มแล้ว
และมีโปรมา 4 จ่าย 3 ด้วยนะ
อิ้มว่าคุ้มมากกกก
ยิ่งเห็นไลน์อาหาร และคุณภาพ รสชาติแล้ว
แนะนำให้มาเถอะ ดีงามจริงๆ
บะหมี่เส้นสด ทำโชว์กันให้เห็นกรรมวิธีเลยค่ะ
ไลน์อาหารคือดีมากกกก เยอะมากก
มีเป็ดย่างด้วยนาจา
ติ่มซำนึ่งสด เลือกหยิบได้ตามใจชอบ
มีหลากหลายและน่าทานมากก
สลัดผักก็มี
Hot Dish คือหลากหลายมาก
ในทุกๆ อาทิตย์จะสลับ สับเปลี่ยนไปแบบไม่ซ้ำกัน
ไก่แช่เหล้า
แมงกระพรุุนน้ำมันงา
ซุปเสฉวน
ซุปเยื่อไผ่
ของทอดต่างๆ
ผลไม้
และของหวาน นานาชนิด
มาดูที่อิ้มทานกันบ้างค่ะ
อ้อๆๆ มีกุ้งอบวุ้นเส้นให้สั่งด้วยนะ
เสิร์ฟมาพอชชั่นใหญ่มากก
บุฟเฟต์ติ่มซำทุกมื้อกลางวันวันเสาร์
ในราคาคนละ 430 บาท
รวมเครื่องดื่มแล้ว
และมีโปรมา 4 จ่าย 3 ด้วยนะ
โดยรวม คือควรค่าแก่การมา
คุ้มจริงอะไรจริง
อิ่มแล้วเดินทางไหว้พระกันต่อค่ะ
5. วัดมเหยงคณ์
วัดมเหยงคณ์
เดิมเป็นพระอารามหลวง
ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่เคยสำคัญยิ่ง
มาในอดีตสมัยอยุธยา
โดย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2
หรือเจ้าสามพระยา ทรงสร้างขึ้น
และได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในหลายสมัย
แต่ได้กลายเป็นวัดร้าง
เข้าใจว่านับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยา
อิ้มว่าวัดนี้สวยมาก และเงียบสงบมาก
ในปัจจุบัน ฝั่งตรงข้ามวัด
ได้มีการเปิดให้มา อบรมวิปัสสนากรรมฐาน
อบรมปฏิบัติธรรมพิเศษ
อิ้มมาวัดนี้ครั้งแรก ก็ชอบมากเลยค่ะ
ปล. แอบเปลี่ยนชุดตอนแวะไปทานข้าว
เข้ามาด้านใน เรียกว่าสวยงามมาก
6. วัดมหาธาตุ
วัดมหาธาตุ เป็นปูชนียสถาน
วัดพระอารามหลวง
ที่ประทับสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี
โดดเด่นด้วยพระปรางประธาน
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
พร้อมพระปรางค์ขนาดกลางเรียงราย
และไฮไลท์ของวัด
ที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้คือ
เศียรพระพุทธรูปที่ถูกโอบล้อมด้วยรากโพ
วัดมหาธาตุ
เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์
พระนครศรีอยุธยา
เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 1917
สมัยขุนหลวงพระงั่ว
หรือสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1
และมาสร้างแล้วเสร็จ
ในสมัยสมเด็จพระราเมศวร ในปี พ.ศ. 1927
สมเด็จพระราเมศวร
ทรงอัญเชิญพระบรมสารีรกธาตุ
ไปบรรจุไว้ในพระปรางค์ประธาน
ไฮไลท์ของวัด
คือ เศียรพระพุทธรูปที่ถูกโอบล้อมด้วยรากโพ
เป็นมุมที่น่าอัศจรรย์จริงๆ ค่ะ
7. วัดธรรมิกราช
วัดธรรมิกราช เดิมชื่อ วัดมุขราช
ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ
ตามผู้สร้างเป็นวัดธรรมิกราช
วัดธรรมิกราช
เป็นอดีตพระอารามหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา
สร้างขึ้นโดย พระยาธรรมิกราช
โอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง
จึงสันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้น
ก่อนที่จะสถาปนากรุงศรีอยุธยา
8. วัดนักบุญยอแซฟ
วัดนักบุญยอแซฟ
เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
แห่งแรกในประเทศไทย
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
โดยอาคารหลังแรกเป็นอาคารไม้
สร้างเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2228 (ค.ศ. 1685)
และได้ปรับปรุง
บูรณะเรื่อยมาจนกระทั่งเป็นหลังปัจจุบัน
คือ หลังที่ 4 ในปี พ.ศ. 2426
วัดนักบุญยอแซฟ
ถือเป็นศูนย์กลางของคริสตชนชาวสยาม
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา
มีประวัติมาตั้งแต่ในรัชสมัย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เมื่อปีแยร์ ล็องแบร์ เดอ ลา ม็อต
กับบาทหลวงอีก 2 องค์
ได้เข้ามาทูลขอสร้างโบสถ์คริสต์และโรงเรียน
สมเด็จพระนารายณ์
จึงทรงพระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งให้
ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยนั้นว่า
“ค่ายนักบุญยอแซฟ”
จนถึงการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
โบสถ์ได้ถูกเผาทำลาย
และถูกปล้นสะดมทรัพย์สินไปหมด
บาทหลวงฌ็อง-บาติสต์ ปาลกัว
จึงได้กลับมาบูรณะวัดอีกครั้ง
ในปี พ.ศ. 2374
และโบสถ์หลังปัจจุบัน
คือในสมัยคุณพ่อแปร์โร
ที่ได้ทำพิธีเสก
ในวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2426
โบสถ์ได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่
ในปี พ.ศ. 2547 ปัจจุบัน
9. วัดพุทไธศวรรย์
วัดพุทไธศวรรย์
เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสมัยอยุธยา
สร้างมายาวนานกว่า 600 ปี
และปัจจุบันยังคงมีความสมบูรณ์
สวยงามน่าไปเที่ยวชม
ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นวัดนี้
เพราะละครเรื่องบุพเพสันนิวาส
วัดนี้่ก็มีความสำคัญ
ด้วยเป็นสถานที่ฝึกดาบฝึกอาคม
ของลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาว
มีการพูดถึงในหลาย ๆ ตอน
ของละครเรื่องนี้นั่นเองค่ะ
วัดพุทไธศวรรย์
วัดพระอารามหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา
ที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระอารามหลวงอีกครั้ง
ในสมัยรัชกาลที่ 9
วัดอันเป็นที่ระลึกการสร้างเมือ
งของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง
ชมพระปรางค์ประธานที่ประดิษฐานเดิม
ของเทวรูปพระเจ้าอู่ทองแห่งหอพระเทพบิดร
วัดพระแก้ว
และพระพุทธไธศวรรย์
พระนอนที่มีลักษณะไม่เหมือนที่ใดในอยุธยา
10. วัดราชบูรณะ
วัดราชบูรณะ
เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่
และมีความเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา
สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2
หรือเจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967
วัดราชบูรณะมีชื่อเสียง
และความโด่งดังมาก
ในเรื่องการถูกกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่ง
ลักลอบขุดกรุภายในพระปรางค์ประธาน
ในปี พ.ศ. 2499
และช่วงชิงทรัพย์สมบัติ
จำนวนมากมายมหาศาลหลบหนีไป
ต่อมากรมศิลปากรเข้าทำการบูรณะ
ขุดแต่งต่อภายหลัง
พบทรัพย์สมบัติที่หลงเหลือ
และเครื่องทองจำนวนมากมาย
ปัจจุบันทรัพย์สมบัติภายในกรุ
ถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องราชบูรณะ
ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ส่วนตัวอิ้มชอบวัดนี้มาก
สวยงาม และสงบ
จริงๆ วัดนี้อยู่ติดกับวัดมหาธาตุ
จะแวะมาก่อนก็ได้ค่ะ
แต่อิ้มเลือกจะมาถ่ายภาพช่วงบ่าย
เพราะแสงสวยกว่า และคนน้อยกว่า
ปล. แนะนำให้เปลี่ยนชุดถ่ายภาพ
11 วัดไชยวัฒนาราม
วัดสุดท้ายค่ะ
วัดนี้เรียกว่าโด่งดังที่สุด
ในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส
แม่หญิงการะเกด
พูดถึงในละครอยู่บ่อยครั้ง
จนออเจ้าทั่วพระนคร
ต้องตามไปดูให้เห็นกับตา
ว่าสวยดังคำที่แม่หญิงกล่าววาจาไว้หรือไม่
ช่วงที่ละครกำลังโด่งดัง
มีคนมาเที่ยววัดนี้วันละเป็นหมื่นคน
และด้านหน้าวัด
ก็มีร้านเช่าชุดไทยมากมาย
สนนราคารวมๆก็วันละ 500 บาท
ได้ครบ ทั้งชุด และแต่งหน้าทำผม
ใครสนใจจะเช่าชุดไทย ให้มาวัดนี้ก่อนเลยค่ะ
วัดไชยวัฒนาราม
วัดนี้สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าปราสาททอง
สมัยอยุธยาตอนปลาย
เดิมวัดไชยวัฒนาราม
มีชื่อว่า “วัดชัยวัฒนาราม”
ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่า
วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์
แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก (พนมเปญ)
จึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไชยวัฒนาราม
เพราะ “ไชย” มาจากคำว่า “ไชยโย”
เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่
ของพระเจ้าปราสาททอง
และชัยชนะทั้งหมดที่ได้มา
วัดนี้ยังเคยใช้จัดพิธีถวายพระเพลิงศพ
ในพระมหากษัตริย์
เกือบทุกพระองค์ของอยุธยา อีกด้วย
สถาปัตยกรรมการก่อสร้างของวัดไชยฯ
ไม่เหมือนวัดอื่นๆ ในอยุธยา
บางส่วนรับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม
โดยจำลองมาจากปราสาทนครวัด
คือ มีปรางค์ประธาน
และปรางค์มุมอยู่บนฐานเดียวกัน
บริเวณตรงกลางของพื้นที่
และรายล้อมด้วยปรางค์บริวาร อีก สี่องค์
เป็นวัดที่สวยงามมาก จริงๆ ค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับทริปนี้
เรียกว่า อิ่มอก อิ่มใจ อิ่มบุญ กันแน่ๆ
ใครสนใจจะไปทำบุญ 9 วัด
แนะนำ ดูรีวิวนี้ได้เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง
และอิ้มขอจบทริปนี้ด้วยภาพนี้นะคะ
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว
ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip