เที่ยวโทโฮคุหน้าหนาว Winter in Tohoku

สวัสดีค่ะ
อิ้มจะพาทุกท่านไปเที่ยวญี่ปุ่น
ตระเวนเที่ยวแถวๆ Tohoku
ส่วนตัวอิ้มชอบภูมิภาคนี้มาก
เป็นเมืองที่คนเที่ยวน้อย
และธรรมชาติยังสมบูรณ์
โดยอิ้มเลือกที่จะเช่ารถขับ
เพราะวิวระหว่างทางสวยจนแทบหยุดหายใจ
อิ้มไปช่วงฤดูหนาว
และเป็นช่วงที่หิมะตกโปรยปราย
ทั้งภูเขา ต้นไม้ ลำธาร แม่น้ำ
ปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ
เชื่อเลยว่า ภาพแบบนี้คงไม่ได้เห็นบ่อยนักในชีวิต
ครั้งนี้อิ้มใช้เวลาเที่ยว 7 วัน
รวมวันเดินทางกลับเป็น 8 วัน
เป็น Road Trip เช่ารถขับ 5 วัน
อิ้มเช่ารถขับกับ ToCoo!
แหล่งรวมรถเช่า จากหลายบริษัท
มาให้เลือกเพียบ
ในเวบเค้ามีภาษาไทย จองง่าย
เลือกรับและคืนรถในสาขาที่สะดวก
เลือกชนิดรถ
เลือกขนาดรถให้เหมาะกับจำนวนผู้โดยสาร
เลือกรถสำหรับผู้สุบบุหรี่ และไม่สูบได้
แถมเวลาจ่ายก็สะดวก
ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย
หลังจากชำระเงินแล้ว
จะมีอีเมล์ Confirm ส่งมาให้
ยินยันรายละเอียดต่างๆ
และมี Reservation Rererence Number
เราแค่ปริ้นท์แล้วนำไปยื่นรับรถได้เลยที่สาขา
สะดวกสบายมากๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://psstorytrip.com/2020/02/10/tocoo/

ส่วนการเดินทางจากไทย
อิ้มเลือกใช้บริการ สายการบินไทย
เค้ามีไฟล์ทบินตรงไปยังเซนได จังหวัดมิยางิ
เมืองใหญ่สุดในภาคโทโฮคุ
ซึ่งเมืองเซนไดเอง
ถือว่าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้
พอการบินไทย มีบินตรงมาลงที่นี่เลย
คือสะดวกสบายมาก
อีกทั้ง เวลาเดินทางก็ดีงาม
เพราะบินไฟล์ทดึก 23.55 น.
ถึงเซนไดประมาณ 7 โมงกว่าๆ
เที่ยวต่อได้เลย
สำหรับคนที่จะมาเที่ยวแถวโทโฮคุเหมือนอิ้ม
สามารถเดินทางต่อไปเที่ยวได้หลากหลายที่
ใครจะมาภูมิภาคนี้ แนะนำเลยค๊า

เอาหล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว
ตามอิ้มไปเที่ยว Tohoku กันต่อในริวิวนี้นะคะ

ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com

Sendai (1)

มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เช็คอินได้เลยค่ะ
ชอบจังเวลาที่บินไฟล์ทดึกแบบนี้
เพราะขึ้นเครื่องปุ๊ป อิ้มก็มักจะหลับเอาแรง
ตื่นเช้ามาก็ถึงพอดี เที่ยวต่อได้สบาย

Sendai (2)

ที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบายมาก
สำหรับผังที่นั่งชั้นประหยัดเป็น 2-4-2
มีจอดูหนังฟังเพลง พร้อมรีโมท
และมีช่องเสียบหูฟัง
พร้อมช่องเสียบชาร์จ USB
การเดินทางในเที่ยวบินนี้
จะเสิร์ฟอาหารมื้อหลัก 1 มื้อ และของว่างอีก 1 มื้อ

85179157_1529444647218139_8649935053196886016_n

หูฟังพร้อม

Sendai (3)

หมอนและผ้าห่มพร้อม หลับฝันดีเลยค๊าา

Sendai (4)

ตื่นเช้ามาพร้อมวิวแบบนี้ ดีต่อใจสุดๆ

Sendai (6)

อาหารเช้าของเราค่ะ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ

Sendai (5)

Day 1

อย่างที่อิ้มเกริ่นไปค่ะ ว่าอิ้มเช่ารถขับ
รายละเอียดการเช่ารถ ดูที่รีวิวนี้นะคะ
https://psstorytrip.com/2020/02/10/tocoo/

พอเราผ่านกระบวนการตม
และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
อิ้มก็ลงมาที่ชั้นล่างสุด
เพื่อติดต่อรับรถเช่า
เดินออกมาทางขวาตรงมาสุดทาง
จะเจอเค้าท์เตอร์นิสสัน
ตรงนี้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยว่ามารับรถเช่า
ให้เรายื่น VC กับเจ้าหน้าที่
ที่เค้าท์เตอร์ที่สนามบิน
พอเช็คเสร็จแล้วเค้าจะให้คิว
เค้าท์เตอร์ในสำนักงานมา
ซึ่งสำนักงานรับรถห่างจากสนามบินเซนได ไม่ถึง 5 นาที
และจะมีรถรับส่งมารับเราไปยังสำนักงาน
จอดรออยู่ด้านนอก
(บริการนี้ก็ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)

Sendai (7)

เค้าจะมีรถ Shuttle พาเราไปส่งที่สำนักงานของนิสสันค่ะ

Sendai (8)

เค้าจะมีรถ Shuttle พาเราไปส่งที่สำนักงานของนิสสันค่ะ

Sendai (9)

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการเช่ารถ
1. ใบอนุญาตขับขี่ปัจจุบัน
2. ใบอนุญาตขับขี่สากล
3. Voucher การเช่ารถ ต้องปริ้นติดตัวไปด้วย
4. บัตรเครดิต

การทำใบขับขี่สากล
เอกสารที่ต้องใช้ในการทำใบขับขี่สากล
– สำเนาหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต
เล่มที่ใช้ในการเดินทางต่างประเทศ
ประวัติหน้าที่แก้ไข (พร้อมฉบับจริง)
ต้องเป็นหนังสือเดินทางที่ยังไม่สิ้นอายุ
– บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ที่ยังไม่หมดอายุ
– สำเนาและฉบับจริงของใบขับขี่รถยนต์
หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล (ชนิด 5 ปี) หรือตลอดชีพ
– รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
ต้องเป็นรูปถ่ายของคุณที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน
ถ่ายรูปหน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสวมแว่นตาสีเข้ม
ไม่มีภาพวิวหลังรูป
เหมือนภาพติดบัตรเท่าไปจ้า
– ถ้าเปลี่ยนชื่อนามสกุล
ควรสำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อและสกุลไปด้วย
– หลักฐานอื่น ๆ เช่น ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
– ค่าธรรมเนียมใบขับขี่ระหว่างประเทศ
จำนวน 505 บาท

การขอใบขับขี่ระหว่างประเทศที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร
พื้นที่ 1 – 5 มีพิกัดตามนี้
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1
พิกัด : ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล
แขวง ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2
พิกัด : 51 ซอย สวนผัก 4
แขวง ตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3
พิกัด : 2479 สุขุมวิท 62/1
แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 4
พิกัด : 34 หมู่ 6 ถนน ร่วมพัฒนา
แขวง ลำต้อยติ่ง เขต หนองจอก กรุงเทพมหานคร 10530
สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 5
พิกัด : 1032 อาคาร 5 กรมการ ขนส่ง ทาง บก
ซอย พหลโยธิน 18 แขวง จอมพล เขตจตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900

ต่างจังหวัด
สามารถขอใบขับขี่ระหว่างประเทศได้ที่สำนักงานขนส่งทั่วไทย”
ชำระค่าธรรมเนียม 505 บาท
แค่นี้เราสามารถขอใบขับขี่รถยนต์สากลได้เลย

อ้อๆๆๆ อิ้มไปสาขาจตุจักร เร็วๆ มาก
ใช้เวลาดำเนินการไม่ถึงยี่สิบนาที
ก็ได้ใบขับขี่สากลออกมาเลย
แต่หาที่จอดรถยาก ควรไปเช้าหน่อยก็ดีค่ะ
เวลาทำการ 08.00 – 15.00 น. วันจันทร์ – ศุกร์นะคะ

ช่วงนี้ชี้แนะ !!
เราจะต้องซื้อ บัตร ETC เพิ่ม !!
บัตร ETC อารมณ์เหมือนบัตร Easy Pass บ้านเรา
ย่อมาจาก (Electronic Toll Collection)
คือระบบที่ช่วยให้สามารถจ่ายค่าทางด่วน
โดยไม่ต้องหยุดรถ
ด้วยการสื่อสารไร้สายระหว่างเสาอากาศ
ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ด่านเก็บค่าผ่านทาง
กับบัตร ETC (IC card)
ที่เสียบอยู่ในเครื่องเสียบบัตรภายในรถ
เวลาเราผ่านช่องด่าน
ก็เข้าช่อง ETC ได้เลย ก็จะสะดวกปรื้ดดด
แต่เราจะใช้ บัตร ETC อย่างเดียวไม่ได้นะ
เพราะค่าทางด่วนที่ญี่ปุ่นแพงมาก
เที่ยวนึงก็ตก 2,000-5,000 เยน
ต้องซื้อพาส Tohoku Expressway Pass เพิ่ม
เป็น Pass ที่เหมาจ่ายค่าทางด่วนภูมิภาค Tohoku
มีให้เลือกตั้งแต่ 2 – 14 วันให้เราเลือก
ยิ่งเช่าหลายวัน ราคายิ่งถูกลง
และต้องใช้คู่กับบัตร ECT นะ

tep2015_index_top_th

สำหรับพื้นที่ ที่ให้บริการภูมิภาค Tohoku
ก็ดูตามนี้ได้เลยนะคะ

map_th

สามารถติดต่อหน้าเค้าท์เตอร์
แจ้งว่า Tohoku Expressway Pass
เค้าก็จะเอาตารางราคามาให้ดู
เราก็คำนวณเอาไว้ว่าใช้กี่วัน
เพราะเค้าจะมาคิดเงินเราขากลับมาคืนรถ

สำหรับราคา Tohoku Expressway Pass ก็ตามนี้เลย

Untitled

ตอนที่ยื่นเอกสาร
พนักงานจะแจ้งรายละเอียด
ข้อมูลการขับรถในญี่ปุ่น
การใช้บัตร ETC และการเติมน้ำมัน
มาอย่างละเอียดเลยค่ะ
ที่ญี่ปุ่นจะมีน้ำมันรถอยู่ 3 แบบ
1. สีแดง คือเบนซิลธรรมดา
(อิ้มเติมสีนี้ค่ะ)
2. สีเหลือง คือเบนซิลเกรดพรีเมี่ยม
3. สีเขียว คือ ดีเซล
ตอนนำรถมาคืนก็ต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง
ซึ่งก่อนรับรถพนักงานจะแจ้งเรื่องปั๊มน้ำมัน
ที่ใกล้สาขามากที่สุดให้ด้วยค่ะ

tiewlasud_how_to_refuel2

ทุกอย่างจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
จากนั้นก็ออกมารับรถด้านนอก
ซึ่งขั้นตอนนี้เราก็จะต้องเช็ครถด้วยนะ
ว่าด้านนอกมีรอยตรงไหนบ้าง
ควรถ่ายภาพเก็บไว้
และแจ้งพนักงานไปพร้อมๆ กัน

Sendai (10)

เสร็จแล้วก็เก็บสัมภาระและออกเดินทางกันค๊าา

Sendai (11)

มาเริ่มที่สถานที่แรกค่ะ
โคะอิวะอิฟาร์ม
สุดยอดฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ชื่อเต็มคือ ฟาร์มปศุสัตว์โคะอิวะอิ
(Koiwai Farm akibaen)
ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีแล้วนะคะ

ที่นี่ไม่เพียงแค่ใช้ว่าชื่อฟาร์มปศุสัตว์เพื่อความเกร๋
แต่เป็นการทำฟารม์ปศุสัตว์จริงๆ
มีปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงวัว
เลี้ยงแกะ เลี้ยงม้า
เรียกได้ว่าเป็นฟาร์มจริงจัง
มีการผลิตสินค้า
จากผลผลิตทางการเกษตรมากมาย
เพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้มาเยี่ยมชม
กิจกรรมภายในก็แน่นมาก

และที่ห้ามเลยคือเรื่องกิน อิอิ
มีทั้งพิซซ่าร้อนๆ ชีสแน่นๆ ยืดๆ
เจลาโต้รสหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นนม
และยังมีกลิ่นและรสจากดอกไม้
และผลไม้ในไร่ให้เลือกด้วย
นอกจากนี้เค้าก็ยังมี
เนื้อแกะเจงกิสข่านย่างบนเตาร้อนๆ
กินแกล้มกับผักย่างหวานๆ
ในฤดูหนาวแบบนี้
เค้ามีทำบ้านเอสกิโมเพื่อนั่งทานในนั้นด้วย
เรียกว่าเจ๋งมาก และช่วงกลางคืน
ยังมีการกิจกรรมเทศกาลหิมะขนาดย่อมๆ
แต่มาถึงวันแรก อิ้มอยู่ไม่ทัน
เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางนิดหน่อย
และอากาศหนาว
เพราะ ปิ้งย่างเริ่มต้น 5 โมงเย็น
ที่นี่จะหยุดทุกวันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่ 2
ของเดือนเมษายน
นอกนั้นเค้าเปิดตลอดปี
วันเวลาเปิด – ปิด และค่าเข้าชม
ก็ต่างกันไปตามฤดูกาลนะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ก็สามารถดูได้ที่ http://www.koiwai.co.jp

Sendai (12)

ซื้อตั๋วด้านนี้เลยค่ะ

Sendai (13)

วันที่อิ้มไป ตั๋วช่วงกลางวันผู้ใหญ่ราคา 400 เยน
เด็กคนละ 150 เยน
ตั๋วนี้อยู่ได้ถึง 4 โมงเย็น
ส่วนช่วงเวลาค่ำ จะอีกราคานึง
เพราะเค้าจะเปิดให้ชมเทศกาลหิมะ
และอุโมงไฟขนาดย่อม

Sendai (14)

ได้ตั๋วมาแล้วค่า

Sendai (15)

หลายๆ คนอาจจะงงว่า
ทำไมอิ้มถึงไม่มาเที่ยวช่วงกลางคืน
เพราะเค้าจัดงานตอนนั้น
เหตุผลแรกก็คือ
มาถึงวันแรก อิ้มอยู่ไม่ทัน
เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางนิดหน่อย
และอากาศหนาว
สองก็คือ อิ้มอยากถ่ายภาพฟาร์ม
ช่วงกลางวันเพราะคนน้อย
มุมไฮไลท์ของที่ฟาร์มโคอิวาอิ
ถ้าอากาศดีเราจะสามารถชมทัศนียภาพ
ของวิวภูเขาอิวาเตะ
ซึ่งภูเขาลูกนี้มีความพิเศษ
ตรงที่เป็นภูเขาที่สูงที่สุด ในจังหวัดโทโฮคุ
จนได้รับอีกชื่อนึงว่า Mt. Iwate-Fuji เลยค่ะ

Sendai (16)

งู้ยยย เสียดายอากาศไม่ดี
ไม่งั้นจะเห็นเขาอิวาเตะทั้งลูก มีหิมะปกคลุมอยู่ด้านบน

Sendai (17)

 ช่วงกลางวัน ร้านอาหารจะเปิดไม่กี่ร้าน

Sendai (18)

Sendai (19)

บรรยากาศก็เลยค่อนข้างจะเงียบเหงา

Sendai (20)

Sendai (21)

แต่ถ้าถามคนอยากถ่ายภาพ
คือเพลินมากก ฟาร์มเป็นของชั้น 555

Sendai (22)

Sendai (23)

Sendai (24)

อย่าลืมทานซอฟครีมรสนมน๊าาาา อร่อยมากกก

Sendai (25)

Sendai (26)

Sendai (27)

หลังจากเหนื่อยล้ากับการเดินทาง
ก็ได้เวลากลับที่พักค่ะ
สองคืนแรกอิ้มพักที่ UNIZO INN Express Morioka
จองมาคืนละ 1,700 บาท สำหรับ 2 คน
ไม่รวมอาหารเช้า
ขนาดห้องอยู่ที่ 12 ตารางเมตร
ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Morioka Station
โดยใช้เวลาเดินเพียง 3 นาที
แต่หากใครนำรถมาจอดแบบอิ้ม
ที่จอดรถของ รร จะวนยากมาก
เพราะอยู่ด้านล่างของถนนอีกที
เพียงคืนละประมาณ 700 เยนเท่านั้น
แนะนำให้พยายามวิ่งเส้นใต้สะพาน
จะผ่านที่จอดรถชื่อ Round
เลยมานิดนึงจะเป็นที่จอดรถของโรงแรม
ให้เลี้ยวเข้ามาได้เลยค่ะ

Sendai (28)

ห้องไซส์ประมาณนี้ค่าาา

Sendai (29)

Sendai (30)

Sendai (31)

ช่วงเย็นอิ้มมาหาอะไรทานที่สถานีโมริโอกะ
ซึ่งแอบเล็งไว้อยู่ร้านนึง
เป็นอิซาคายะ ร้านป้ายสีเหลืองนี้ค่ะ
มีชื่อว่า Tachinomi Ebisuke
เป็นร้านอิซาคายะเล็กๆ แบบยืนกิน

Sendai (32)

เมนูที่ต้องลองคือข้าวหน้าหมูย่าง
ตอนที่อิ้มไปทานมีความแยกแยะไม่ออกว่าเนื้อหรือหมู
รู้แต่ว่ามันอร่อยมากก 55555

Sendai (33)

มาแล้วค่า ชามใหญ่มาก เสิร์ฟมาแบบจุกๆ

Sendai (34)

เค้าจะให้วาซาบิทานตัดเลี่ยนด้วยนะ

Sendai (35)

เสิร์ฟมาเป็นดอกกุหลาบเลยจร้าาา
เห็นแบบนี้ทานไปสองคน
อยู่ที่ 1400 เยน ถือว่าถูกมากกก
ถ้าเทียบกับคุณภาพและปริมาณ
อิ่มฟินกันไปสำหรับมื้อแรกที่มาถึงค่ะ

Sendai (36)

Day 2

เช้าวันที่ 2 นี้ อิ้มจะเดินทางไปเที่ยวที่เมือง Akita
ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย
แต่เป้าหมายหลักของอิ้มคือ
การไปออนเซ็นเก่าแก่
ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับ
ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา
ที่นี่มีชื่อว่า Nyuto Onsen (นิวโตะ ออนเซ็น)
อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเขตอุทยานแห่งชาติ
Towada-Hachimantai
เมืองเซ็มโบะคุ (Semboku) จังหวัดอาคิตะ (Akita)

ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของ
แช่ออนเซ็นสีน้ำนม
แนะนำฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาว
เพราะมีความสวยงามมาก

นิวโตะ ออนเซ็น (Nyuto Onsen)
มีออนเซ็นด้วยกันถึงทั้ง 7 แห่ง
– สึรุโนยุ ออนเซ็น Tsurunoyu Onsen
– ทาเอะโนยุ ออนเซ็น Taenoyu Onsen
– คุโรยุ ออนเซ็น Kuroyu Onsen
– กานิบะ ออนเซ็น Ganiba Onsen
– มาโกโรคุ ออนเซ็น Magoroku Onsen
– โอกามะ ออนเซ็น Ogama Onsen
– เคียวคามูระ ออนเซ็น Kyukamura Onsen

จะบอกว่าที่พักที่นี่เต็มเร็วมากกกกก
ต้องจองล่วงหน้ากันข้ามปี
และอิ้มคนนี้ก็ แต้มบุญไม่ถึง
เลยได้แค่ไป Tsurunoyu Onsen ที่เดียว
ซึ่งเค้าเปิดให้บริการแขกนอก
ที่จะมาแช่ออนเซ็นค่ะ

สำหรับใครที่มาเอง เดินทางอาจจะยาก
และหลายต่อไปนิด
เพราะต้องนั่งรถไฟ มาต่อบัส
ซึ่งคนไม่เคยมาญี่ปุ่นต้องมี งง
จะมาเที่ยวแถวนี้อิ้มแนะนำเช่ารถขับจะสะดวกกว่า
อย่างอิ้มมานอนโมริโอกะ
ถนนรถน้อย ขับง่าย
ขับรถไปเพียงแค่ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น

Untitled ddd

ระหว่างทางที่อิ้มมา หิมะตกหนักมาก
ถนนลื่น ขับเร็วไม่ได้
ถ้าเป็นปกติ อิ้มจะกลัวมาก
แต่วันนี้วิวสองข้างทาง สวย จนแทบลืมหายใจ
หิมะสีขาวโพลน เต็มภูเขาและท้องถนน
เป็นภาพที่อิ้มอยากให้ทุกคนได้เห็น
และไปสัมผัสด้วยตัวเอง
เวลา 1 ชั่วโมง มันช่างผ่านไปเร็วมาก
แล้วอิ้มก็มาถึง Tsurunoyu Onsen แล้วค่ะ

Sendai (37)

Tsurunoyu Onsen (Nyoto Onsen)

ออนเซนบ่อน้ำนมอันมีชื่อเสียงโด่งดังในญี่ปุ่น
ออนเซนแห่งนี้
เป็นหนึ่งในเจ็ดของน้ำพุร้อน
ที่ย่านเนียวโตะออนเซน (Nyoto Onsen)
น้ำพุร้อนที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุด
ตั้งแต่สมัยเอโดะ (1603-1868)
สึรุโนยุประกอบด้วยบ่อ 5 บ่อ
ทั้งบ่อด้านในและด้านนอก
บ่อด้านนอกมีทั้งแบบเฉพาะผู้หญิงและแบบรวม
น้ำพุร้อนที่นี่จะมาจาก 4 แหล่ง
ซึ่งมีคุณภาพแตกต่างกัน
ประกอบด้วยชิโรยุ คุโรยุ นากะโนยุและทากิโนยุ
ดีต่อความดันโลหิตสูง
ภาวะหลอดเลือด โรคไขข้อ
โรคผิวหนังและโรคเบาหวาน

ออนเซนแห่งนี้สามารถเดินทางมาแช่อย่างเดียว
แบบเช้าเย็นกลับในสไตล์โรงอาบน้ำสาธารณะ
หรือจะมาพักค้างคืนก็ได้
เค้ามีโรงแรมสไตล์เรียวกังไว้รอต้อนรับ
อิ้มคิดว่า ควรมาพักค่ะ เพราะสวยมาก
และเวลาแช่ออนเซ็นคนก็จะไม่เยอะมาก
ที่นี่ถึงแท้จะเปิดให้คนภายนอกเข้ามา
แต่ก็จะมีเวลากำหนด
เปิดทุกวัน เว้นวันจันทร์
ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.00 น.
ค่าบริการ 600 เยน

Sendai (38)

การเดินทาง
ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็จะยุ่งยากหน่อย
การเดินทางไปยัง Tsurunoyu Onsen
ต้องนั่งรถประจำทางสาย Nyuto Line
มาลงที่ป้าย Arupa Komakusa
จากนั้น จึงต่อรถของทางเรียวกัง
เพื่อเข้าไปยังเรียวกังที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขา
เพื่อความสะดวกและแน่นอน
จึงควรแจ้งให้ทาง Tourist Information Center
ทราบเสียก่อนว่าเราจะเดินทางไปยัง Tsurunoyu Onsen
เพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่
จะได้ประสานงานกับทางเรียวกัง
ให้ส่งรถออกมารับเราตามเวลา
จากป้ายรถประจำทาง
ต้องนั่งรถของเรียวกังต่อไปอีก 30 นาที
รถจะจอดก่อนที่
Tsurunoyu Annex Yamanoyado
อย่าเพิ่งลงนะคะ
Tsurunoyu Onsen จะอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาอีก
นั่งรถไปอีกสักครู่ค่ะ
สรุป เช่ารถมาเถอะ อิ้มว่าสะดวกกว่ากันเยอะมาก

ถึงแล้วจอดรถตรงนี้ได้เลย

Sendai (54)

Sendai (39)

Sendai (40)

ด้านหน้าของออนเซ็นค่ะ

Sendai (41)

Sendai (42)

สวยมาก แช่ออนเซ็นทำกลางหิมะ
ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้ว

Sendai (43)

Sendai (44)

จากภาพนี้จะเห็นอาคารฝั่งซ้ายมือสุด
ให้เข้าไปจ่ายเงิน และซื้อผ้าขนหนูด้านในได้เลย
แต่ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้เอาผ้าขนหนูมา
จะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
การแช่ออนเซ็นที่นี่ต้องถอดเสื้อผ้าหมดด้วยนะคะ

Sendai (47)

ใครต้องการแต่งตัว
หรือเข้าห้องน้ำ ฝากข้าวของ มาตรงนี้ได้เลยค่ะ

Sendai (48)

จะมีล็อกเกอร์ให้ใส่หลายตู้อยู่

Sendai (51)

แต่เป็นตู้เล็กๆ นะคะ

Sendai (50)

ด้านในสามารถมานั่งพักอุ่นๆ ให้หายหนาว
หรือมาเข้าห้องน้ำด้านในก็ได้

Sendai (49)

ได้เวลาแล้ว ไปแช่ออนเซ็นกัน
ฝั่งซ้ายมือที่มีผ้าบัง จะเป็นฝั่งผู้หญิง

Sendai (46)

ฝั่งนี้จะเป็นบ่อรวม

Sendai (45)

หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จแล้ว
ก็เตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวที่อื่นต่อค่ะ

Sendai (52)

Sendai (53)

ถ้าถนนแบบนี้ ต้องระวังนะ เพราะลื่นมากกก
จะขับรถที่ญี่ปุ่นในช่วงหน้าหนาว
ตอนเช่ารถอย่าลืมแจ้งเค้าด้วยว่าเป็นยางหิมะนะคะ

Sendai (55)

ระหว่างทางที่ขับรถผ่าน สวยมากก

Sendai (56)

Sendai (57)

Sendai (58)

เจอมุมนี้ขอแวะจอดถ่ายภาพหน่อย

Sendai (59)

Sendai (60)

Sendai (61)

คือไม่รู้จะบรรยายความด้วยคำพูด
และภาพถ่ายยังไงให้ได้เท่าของจริง

Sendai (62)

Sendai (63)

Sendai (64)

Sendai (65)

Sendai (66)

อิ้มขับรถต่อมายังจุดพักรถค่ะ
ตรงนี้จะมีขายของฝาก ร้านอาหารและห้องน้ำ
ขับรถมาจาก Tsuru no Yu ประมาณ 25 นาที

Untitledggggggg

ร้านอาหารที่อิ้มทานจะอยู่ฝั่งด้านขวามือ
อิ้มลืมถ่ายภาพมา แต่คลิ๊กที่ Google map นี้ได้เลย

https://goo.gl/maps/nHkpTBFaVJr92BBJ6

Sendai (67)

เมนูในร้านอาหาร
มีให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แรง

Sendai (72)

อิ้มมาทานอาหารเพราะวิวแบบนี้เลยค่ะ

Sendai (68)

Sendai (69)

Sendai (70)

สวยมากกก สงบมากกกก

Sendai (71)

อาหารมาเสิร์ฟแล้วค่ะ เซ็ตนี้ของอิ้ม 950 เยน

Sendai (73)

ของบรีส เซ็ตนี้ 1050 เยน

Sendai (74)

เค้าให้มาเยอะอยู่นะ อิ้มว่าราคาถูก และอร่อย
ทานแบบนี้ในเมืองคงเกือบ 2000 เยนแน่ๆ

Sendai (75)

ด้านหน้าจุดพักรถมีมุมให้ถ่ายภาพอย่าลืมแวะไปนะคะ

Sendai (86)

ทานข้าวเสร็จแล้ว
อิ้มก็ขับรถเที่ยวต่อในละแวกเดียวกัน
ตรงนี้ไม่ได้มีดีเฉพาะออนเซ็น
แต่ยังมีทะเลสาบ TAZAWA
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
และมีความลึกถึง 423 เมตร
ทำให้ไม่ว่าหิมะจะตกหนักขนาดไหน
ทะเลสาบ TAZAWAKO นี้ก็ไม่เคยเป็นน้ำแข็ง

จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของที่นี่คือ
The Golden Tatsuko Statue
รูปปั้นของเจ้าหญิงนามว่า ทัตสึโกะ
ตำนานเล่าว่าเธอต้องการความสวยเป็นนิรันดร์
จึงออกเดินทางไปขอพรกับเจ้าแม่กวนอิม
ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมให้เธอมาที่ทะเลสาบแห่งนี้
เพื่อดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเจ้าหญิงได้มาถึงก็ได้ดื่มน้ำในทะเลสาบ
แต่เธอได้ละเมิดคำสั่งของเทพเจ้าที่สถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้
โดยดื่มน้ำจากทะเลสาบเกิน 3 ครั้ง
เพื่อให้ตนเองงดงามตลอดกาล
เทพเจ้าจึงโกรธและสาบเธอ
ให้กลายเป็นมังกร
เฝ้าท้องทะเลสาบแห่งนี้ไปตลอดกาล

Sendai (76)

ถ้าอากาศดีเราจะเห็นทิวเขาด้านหลัง น่าจะสวยงามมาก

Sendai (83)

ขนาดอากาศไม่ดี น้ำยังใส และเป็นสีน้ำเงิน
อิ้มมาอากาศแบบนี้
ทำไมนะ รู้สึกว่าทะเลสาบนี้ดูเหงาจัง

Sendai (84)

ติดกันจะเป็นมีศาลเจ้า Ukiki (浮木神社)
เป็นศาลเจ้าที่คนต่างนิยมมาขอพรในเรื่องของความรัก

Sendai (85)

Sendai (82)

Sendai (78)

จะเดินทางมาทะเลสาบมี 3 วิธีคือ
รถบัส เช่ารถยนต์ และแท็กซี่
ถ้านั่งรถบัส ก็สอบถามเรื่องเวลาที่สถานีได้เลย
มีรถบัสให้บริการทุกวันๆ ละ 6 รอบ
ราคาคนละ 1,010 เยน
เป็น One Day Pass รถออกทุกๆ 2-3 ชม.
รถบัสจะพาแวะชมตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ

แต่อิ้มก็แนะนำคำเดิม ว่าเช่ารถขับเถอะค่ะ 5555

Sendai (77)

อิ้มขับรถต่อมาอีกนิด
จะถึงศาลเจ้าโกะซะโนะอิชิ
| Gozanoishi Shrine
โลเคชั่นที่อิ้มอยากมามาก
ที่นี่มีเสาโทริอิสีแดงสดขนาดสูงใหญ่
ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทาซาวะ
บางวันอากาศดี บนพื้นดินมีหิมะปกคลุม
และถัดไปเป็นทะเลสาบ
เป็นภาพที่อิ้มอยากเห็นมาก
แต่เสียดายอากาศไม่เข้าข้างเรา
ช่วงบ่ายวันนี้จึงมีแต่ฝน TT

Sendai (79)

ลองคิดดูถ้าพื้นที่แฉะๆ กลายเป็นหิมะจะสวยขนาดไหน

Sendai (80)

แต่ถามอิ้ม เท่านี้ก็สวยมากอยู่นะคะ

Sendai (81)

ขากลับอิ้มย้อนกลับไปที่โคะอิวะอิฟาร์ม
สุดยอดฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ที่อิ้มไปเที่ยวเมื่อวานนี้ค่ะ
ที่ตั้งใจกลับไปตอนเย็น
เพราะอยากไปชมเทศกาลหิมะ
และไปทานเนื้อย่างเจงกิสข่านในบ้านเอสกิโม อิอิ

แต่ตั๋วตอนเย็นจะราคาสูงมาอีกหน่อย
อยู่ที่คนละ 800 เยน ราคานี้คือชมเทศกาลหิมะได้
ก็ถือว่าไม่แพงมากนะคะ

มาถึงอิ้มก็พุ่งตัวไปที่เนื้อย่างเจงกิสข่านกันก่อนเลย
ซึ่งเทศกาลหิมะแบบนี้
เค้าจะให้เราย่างในบ้านเอสกิโมด้วยจ้า
เริ่ดมาก อยากลองมานั่งย่างสักครั้งในชีวิต

ถ้าใครมาทานให้พุ่งตรงไปที่บ้านไม้สุดทางนู่นเลยค่ะ

Sendai (87)

ตรงนี้จะเป็นที่สั่งอาหารให้เราดูภาพ
และหยอดเงินไปว่าจะทานอะไร จำนานเท่าไหร่
ซึ่งเค้าจะมีทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ ไส้กรอก ผัก ข้าว
และอีกนานาชนิด มีทั้งเป็นเซ็ตรวมและแบบแยก
เลือกทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ

Sendai (88)

พอได้ใบเสร็จแล้ว ก็นำมายื่นตรงนี้ เพื่อรอรับอาหาร
และเบอร์บ้านเอสกิโมที่เค้าจะให้เรานั่ง
ได้อาหารเสร็จก็นำไปที่บ้านเอสกิโม
หลังนั้นๆ ได้เลย
ไม่อิ่มก็เดินมากดซื้อเพิ่มได้ตลอด
ป.ล. ที่นี่จะเป็น Self Service
ให้บริการตัวเองนะคะ

Sendai (89)

ของอิ้มได้หลังนี้ ตามเข้ามากันได้เล้ยย

Sendai (90)

ฟิลที่เข้าไปนั่งคือมันเย็นมาก แต่เค้ามีผ้าปู
เบาะรองนั่ง และโต๊ะสอดขาเข้าไปด้านใน
มีความอุ่น และตอนก่อนทานก็ตื่นเต้นมาก
เพราะไม่เคยได้มานั่งทานเนื้อย่างในที่แบบนี้

อ้อๆๆ พวกเสื้อคลุม และสิ่งของ เค้าจะมีตระกร้าให้ใส่
วางไว้ในนั้นได้เลย จะได้ไม่มีกลิ่น
แต่เอาจริงๆ ทานในนี้คือกลิ่นอบอวน
ติดตัวมาก ติดผมมากค่ะ ทำใจไว้เลยนะ 55555

Sendai (91)

อิ้มทานเป็นเซ็ตแฟมิลี่ ราคา 4500 เยน
ก็จะมีเนื้อแกะ 1 จาน เนื้อวัว 1 จาน
ไส้กรอก 4 ชิ้น เบคอน 4 ชิ้น ชีส 4 ชิ้น
และผัก 1 จาน

Sendai (92)

Sendai (93)

Sendai (94)

Sendai (95)

Sendai (96)

เริ่มย่างกันแล้วค่า กลิ่นหอมมากกก

Sendai (97)

ทานเนื้อย่างร้อนๆ อร่อยๆ ในบ้านเอสกิโมคือฟินสุด

Sendai (98)

มีการไปซื้อเนื้อด้านนอกเพิ่มด้วยค่ะ 555
มีความฟินมากกกก
เป็นมื้ออาหารที่ประทับใจมากสำหรับอิ้ม
การนั่งทานเนื้อย่างเจงขิสข่าน
ในบ้านเอสกิโม ที่โคะอิวาอิฟาร์ม
เราสามารถนั่งได้เรื่อยๆ
เค้าไม่จำกัดเวลานะ นั่งทานได้จนอิ่ม
แต่โดยมารยาท ถ้าอิ่มก็ควรรีบลุก อย่านั่งแช่
เพราะจะมีคนต่อคิวอยู่ ด้านนอก
ป.ล แต่บ้านเอสกิโม มีให้บริการอยู่หลายหลัง
ไม่ต้องกลัวว่าจะเต็มง่ายๆ นะคะ

Sendai (99)

ทานเสร็จก็ค่ำพอดี
มาเดินชมไฟสวยๆ ของเทศกาลหิมะ
ท่ามกลางอากาศหนาวๆ
เทศกาลหิมะที่นี่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ขนาดกำลังกะทัดรัด
มีไฟให้ชม สี่ห้าจุด
ข้อดีคือ คนไม่เยอะ ถ่ายภาพได้อย่างสบายใจ
และซึมซับกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่
(ถึงแม้จะมีกลิ่นเนื้อย่างติดหัวเราก็ตาม 555 )

Sendai (100)

Sendai (101)

อุโมงไฟหลากสีไซส์มินิ

Sendai (102)

จุดถ่ายภาพน่ารักๆ

Sendai (103)

Sendai (104)

อุโมงไฟตรงนี้ยาวหน่อยค่ะ

Sendai (105)

เดินได้อย่างชิลๆ คนไม่เยอะมาก
ไม่ต้องเบียดกันถ่ายภาพเหมือน นาบานาโนะซาโตะ

Sendai (106)

Sendai (107)

เสร็จแล้วอิ้มก็เดินทางกลับ
จบวันที่ 2 ไปอย่างฟินๆ

Sendai (108)

Day 3

วันที่ 3 นี้ อิ้มเช็คเอาท์ออกจากที่พักเช้าหน่อย
เพราะวันนี้จะเดินทางไปอีกเมืองนึง
นั่นก็คือ Yamagata
ขับรถยาวๆ จาก Morioka ประมาณ 3 ชั่วโมง

อิ้มว่า Yamagata เป็นเมืองที่น่าสนใจมาก
มีที่เที่ยวเยอะนะ ถ้ามีเวลา อยู่เที่ยวยาวๆ
แบบเจาะลึกได้เลย

จุดแรกที่อิ้มจะพามาเที่ยวก็คือ ภูเขาฮากุโระ
ภูเขาไฟฮากุโระซังตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะกะตะ
เมืองตสึรุโอะคะ บนยอดของภูเขาดังกล่าว
เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าสำหรับสักการะเทพเจ้า
Three Mountains of Dewa
ที่รวมภูเขา Haguro-san, Yudono-san
และภูเขา Gassan ไว้ด้วยกัน
จะถูกเรียกรวมกันว่าสามเขาเดวะซันซัง (Dewa Sanzan)
และสถานที่ที่สักการะบูชาเทพเจ้า
ของภูเขาทั้ง 3 แห่ง ก็คือ
ศาลเจ้าเดวะซันซัง (Dewa Sanzan-jinja Shrine)
ตัวอิ้มเองสนใจมาชม เจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระ
(Five-story Pagoda Of Mount Haguro)
ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินสักการะ
ของศาลเจ้าเดวะซันซัง
ท่ามกลางป่าสนเก่าแก่อายุมากกว่า 1,000 ปี
ตอนแรกคิดว่า ใจอยากขึ้นไปไหว้พระด้านบนมาก
แต่คงเดินไปไม่ไหว
เนื่องจาก เรามาถึงเกือบเที่ยง
แถมอากาศหนาว ฝนตก
และทางเดินขึ้นบันไดหินสูง 2,446 ขั้น
กว่าจะถึงอาคารซันจินโกไซเด็น
(Sanjingousaiden – 三神合祭殿)
ซึ่งอยู่ด้านบน คงเย็นย่ำ
ไม่ได้ไปเที่ยวที่อื่นพอดี
เหตุผลเยอะ 5555555

และอิ้มว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริง
อิ้มเปิด Map มาปกติ
แต่พอมาถึง Google Map พาขึ้นเขา
และไปจอดยังจุดจอดรถเลย
แต่เสียค่าเข้ารถคันนึง 400 เยน
เปล่าหรอก จริงๆ ปักหมุดผิดมากกว่า 555
พอถึงแล้วตอนนั้นยังเข้าใจอยู่ว่า ดีเหมือนกัน
จะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปชมเจดีย์ไกล
พอเราลงรถ และเดินเข้าไป
ปรากฏว่า ถึงอาคารซันจินโกไซเด็น เลยจร้า
ดีใจมาก คือได้ไหว้พระสมใจ

ถ้าจะไปแค่เจดีย์ไม้ 5 ชั้น
และอยากเดินขึ้นบันไดหินสูง 2,446 ขั้น
ให้จอดรถที่ฝั่งนี้และเดินขึ้นไปและเสิร์ชว่า
Five-storey Pagoda Of Mount Haguro
ห้ามเสิร์ชภาษาไทยว่า เจดีย์ 5 ชั้น
เพราะ Map จะพาไปวัดด้านบนแบบอิ้ม
แต่ถ้าอยากมาไหว้พระแบบอิ้มให้เสิร์ชตามนี้ค่ะ
Three Mountains of Dewa
เค้าจะพามาที่จอดรถด้านบน
ไม่ต้องเดินไกล
เหมาะสำหรับใครที่พาเด็ก และผู้สูงอายุมาด้วย

อันนี้คือ Map ไปเจดีย์ 5 ชั้นที่ถูกต้องนะ 555

Untitledeeeeeee

Sendai (109)

Sendai (110)

แต่ช่วงที่อิ้มมา มีการบูรณะ จึงได้แต่ไหว้พระด้านนอกเท่านั้น

Sendai (111)

ถ้าเราเดินมาจากด้านล่างจะเป็นบันไดหินสูง 2,446 ขั้น ไต่มาตามเขา

Sendai (112)

ตอนแรกอิ้มว่าจะเดินลงไปที่เจดีย์ไม้
แต่ปรากฎว่าไม่น่าไหว พื้นลื่นมาก
ใครจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงหน้าหนาว ต้องใส่รองเท้าดีๆ
และเดินด้วยความระมัดระวังนะคะ

Sendai (113)

เลยได้แค่มาเดินถ่ายภาพแทน

Sendai (114)

เสร็จแล้วอิ้มขับรถลงมาด้านล่างค่ะ

Sendai (115)

มาถึงที่หมายอย่างถูกต้อง
เดี๋ยวเราจอดรถแล้วเดี๋ยวเราจะเดินเข้าไปในนี้ค่ะ
เมื่อกี้ด้านบนเขาที่เราขึ้นไป คือหิมะเยอะมาก
ใจอิ้มอยากเห็นเจดีย์ไม้ 5 ชั้น ท่ามกลางหิมะ
แต่พอเห็นประตูทางเข้า
รู้เลยว่า หิมะตกไม่ถึงข้างล่างแน่ๆ 5555

Sendai (116)

เจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระ
(Five-story Pagoda Of Mount Haguro)
ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินสักการะ
ของศาลเจ้าเดวะซันซัง
ท่ามกลางป่าสนเก่าแก่อายุมากกว่า 1,000 ปี

เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอศาลเจ้า เจอน้ำตก

Sendai (117)

และมาถึงเจดีย์ 5 ชั้นแล้วค่ะ
ถ้าหิมะตก ขาวๆ ฟูๆ คงจะสวยกว่านี้มาก
เจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระแห่งนี้สูง 29 เมตร
ตัวอาคารสร้างมาจากไม้ตั้งแต่ราว 600 ปีก่อน
ถือว่าเป็นเจดีย์สมบัติของชาติ
เพียงแห่งเดียวของภูมิภาคโทโฮคุ

Sendai (118)

Sendai (119)

สวยงามมาก ไม่เสียแรงที่ขับรถมาไกล

Sendai (120)

เสร็จแล้วอิ้มก็เดินทางต่อไปที่ Ginzan Onsen อีก 1.30 ค่ะ

Untitledeeeeeeeeeeee

Ginzan Onsen

หมู่บ้านออนเซ็นญี่ปุ่นที่เก่าแก่มากกว่า 100 ปี
โดยอบอวลไปด้วยบรรยากาศ
สไตล์ญี่ปุ่นช่วงต้นศตวรรษที่ 2
จริงๆ อิ้มอยากมาพักที่นี่มากกกกก
แต่ติดที่ว่าจองที่พักไม่ทัน
ที่พักเต็มเร็วมากจริงๆ
และจำนวนที่เปิดรับในการจองค่อนข้างน้อย
ต้องจองล่วงหน้ายาวๆ
อีกอย่าง ราคาที่พักที่นี่สูงเอาเรื่อง
แต่อิ้มว่ามันคุ้มนะ
ชีวิตนึงต้องพักสักครั้ง
เพราะถ้าเราไปเที่ยวที่ Ginzan Onsen
แล้วไม่ได้พัก ก็เหมือนกับไปไม่ถึง
เพราะกิมมิคของที่นี่ก็คือการแช่ออนเซ็น
แล้วออกมาเดินชมรอบๆ
หมู่บ้านเล็กๆ ในตอนกลางคืน
ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหิมะ
แสงไฟสีส้มสลัว
ทำให้ดูโรแมนติกขึ้นมาก
และคนก็น้อยมาก ถ่ายภาพสะดวกแน่นอน
ใครวางแผนมาพักที่นี่
แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้า ยาวๆ นะคะ

Sendai (121)

เสียดายมากปีนี้หิมะตกน้อย
บรรยากาศจึงไม่ได้อย่างใจคิด

Sendai (122)

Sendai (123)

บรรยากาศในหมู่บ้าน คือสวยมาก แต่คนก็เยอะมากเช่นกัน

Sendai (125)

Sendai (126)

Sendai (127)

ต้องหลบมุม หามุมกันเอาเองเด้อ

Sendai (128)

Sendai (129)

อิ้มตั้งใจว่าจะรอถ่ายภาพช่วงทไวไลท์
ระหว่างรอเดี๋ยวหาอะไรรองท้องซะหน่อย
ช่วงเย็นร้านจะเปิดน้อย
ตัวเลือกของอิ้มก็เลยเหลือไม่มาก
พุ่งตรงไปที่ร้านนี้เลยค่ะ

Sendai (124)

เค้ามีอาหารหลากหลายมาก
แต่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษจร้า
เราก็เลยเอา translate แปล
ได้ใจความว่า โซบะ สารพัด กุ้งทอด
อิ้มนี่จิ้มเลยจร้า
พอมาเสิร์ฟคือไม่ใช่ 5555
แต่เป็นโซบะมะเขือม่วง
มีทั้งแบบร้อนและแบบเย็น
เอาจริงๆ เราควรทานเมนูนี้
เพราะเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่

พอลองทานคือแบบ อร่อยมากกกกกกก
ส่วนตัวชอบแบบเย็นมากกว่า เพราะมีความเข้มข้น
เส้นโซบะเหนียวนุ่ม มะเขือม่วงเค้าย่างได้อร่อยมาก
หอม มัน หวาน ฟินสุดๆ
ใครมาต้องลองทานน๊า
ไม่งั้นถือว่าพลาดมาก

อันนี้แบบเย็นค่ะ

Sendai (130)

และแบบร้อน เสิร์ฟมาถ้วยใหญ่ อิ่มแน่นอน
ราคาถ้วยละประมาณ 1300 เยนนะ ถ้าอิ้มจำไม่ผิด

Sendai (131)

ทานเสร็จงมาด้านล่างก็พบว่า ใกล้ค่ำแล้ว

Sendai (132)

แสงไฟสีส้มต่างๆ ถูกเปิดออกมาจากบ้านและร้านค้า

Sendai (133)

สวยมากกกก เหมือนเมืองในนิยายเลยค่ะ

Sendai (134)

คิดดูถ้า หิมะตก จะสวยขนาดไหน

Sendai (135)

สวยมากกกกกกก

Sendai (136)

Sendai (137)

Sendai (138)

Sendai (139)

Sendai (140)

ชอบที่นี่มากคราวหน้าจะมาพักให้ได้เลยค่ะ

Sendai (141)

ได้เวลาอันสมควร อิ้มก็กลับที่พัก
โรงแรมที่จะพักต่อ ชื่อว่า Hotel Castle Yamagata
จองมาคืนละ 1,800 บาท 2 คนไม่รวมอาหารเช้า
อิ้มพักที่นี่ 2 คืนค่ะ

Untitledeeeeeeeeeeeewwwwwwwwwwwwwwww

พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 17 ตร.ม.
ภายในห้องกว้างขวางทีเดียว
คุ้มมากกับการจองมาราคานี้และได้ห้องไซส์นี้
อิ้มจองเป็นเตียง Twin นะ จะได้นอนสบายมากขึ้น

และใครนำรถมาจอด ให้แจ้งฟร้อนได้เลย
เค้าจะให้เลขมาเพื่อนำรถไปจอดด้านหลัง
จะมีช่องเขียนตัวเลขไว้
เราก็ไปจอดตามเลขที่เราได้
ความดีงามก็คือ ที่จอด รถ รร คืนละ 500 เยนเท่านั้น

Sendai (142)

Sendai (143)

Sendai (144)

มีโต๊ะทำงานให้ด้วยจ้าา ชอบมากก

Sendai (145)

ภายในห้องน้ำ กว้างขวาง

Sendai (146)

เดินทางเที่ยวมาทั้งวัน
ก็ได้เวลาอาบน้ำ แช่ตัว ให้ผ่อนคลาย
เตรียมเดินทางเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ

Sendai (147)

Day 4

สำหรับ Day4 นี้
อิ้มจะพาทุกท่านไปเที่ยว ชม Snow Monster
หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าจุเฮียว Juhyo
ซึ่งเกิดมาจากหิมะที่ปกคลุมต้นไม้บนภูเขา
จนเป็นรูปร่างแปลกตาต่างๆ
ดูแล้วเหมือนปีศาจ
จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นปีศาจหิมะ
ที่นี่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ของอิ้มเลยนะ
อิ้มเลื่อนตารางแล้ว เลื่อนตารางอีก
สลับวันเที่ยว นู่น นี่ นั่น
เพื่อให้พยากรณ์อากาศ
ตรงกับวันที่อากาศดีที่สุด
จะได้เห็นที่นี่แบบสวยที่สุด
จะมาเที่ยวที่นี่ แนะนำนอนที่ Zao Onsen
ตรงนั้นจะใกล้มาก
แต่ช่วงที่อิ้มจะไปที่พักเต็มจร้า
เลยเลือกมานอนที่Yamagata
ตอนเช้าเราก็ไม่ต้องตื่นเช้ามากมาย
แค่อยากไปให้ทัน Ropeway รอบแรกก็พอ

Sendai (148)Sendai (149)Sendai (150)Sendai (151)Sendai (152)Sendai (153)Sendai (154)Sendai (155)Sendai (156)Sendai (157)Sendai (158)Sendai (159)Sendai (160)Sendai (161)Sendai (162)Sendai (163)Sendai (164)Sendai (165)Sendai (166)Sendai (167)Sendai (168)Sendai (169)Sendai (170)Sendai (171)Sendai (172)Sendai (173)Sendai (174)Sendai (175)Sendai (176)Sendai (177)Sendai (178)Sendai (179)Sendai (180)Sendai (181)Sendai (182)Sendai (183)Sendai (184)Sendai (185)Sendai (186)Sendai (187)Sendai (188)Sendai (189)Sendai (190)Sendai (191)Sendai (192)Sendai (193)Sendai (194)Sendai (195)Sendai (196)Sendai (197)Sendai (198)Sendai (199)Sendai (200)Sendai (201)Sendai (202)Sendai (203)Sendai (204)Sendai (205)Sendai (206)Sendai (207)Sendai (208)Sendai (209)Sendai (210)Sendai (211)Sendai (212)Sendai (213)Sendai (214)Sendai (215)Sendai (216)Sendai (217)Sendai (218)Sendai (219)Sendai (220)Sendai (221)Sendai (222)Sendai (223)Sendai (224)Sendai (225)Sendai (226)Sendai (227)Sendai (228)Sendai (229)Sendai (230)Sendai (231)Sendai (233)Sendai (234)Sendai (235)Sendai (236)Sendai (500)Sendai (501)Sendai (502)Sendai (503)Sendai (504)Sendai (505)Sendai (506)Sendai (507)Sendai (508)Sendai (509)Sendai (510)Sendai (511)Sendai (512)Sendai (513)Sendai (514)Sendai (515)Sendai (516)Sendai (517)Sendai (518)Sendai (519)Sendai (520)Sendai (521)Sendai (522)Sendai (523)Sendai (524)Sendai (525)Sendai (526)Sendai (527)Sendai (528)Sendai (529)Sendai (530)Sendai (531)Sendai (532)Sendai (533)Sendai (534)Sendai (535)Sendai (536)Sendai (537)Sendai (538)Sendai (539)Sendai (540)Sendai (541)Sendai (542)Sendai (543)Sendai (544)Sendai (545)Sendai (546)Sendai (547)Sendai (548)Sendai (549)Sendai (550)Sendai (551)Sendai (552)Sendai (553)Sendai (554)Sendai (555)Sendai (556)Sendai (557)Sendai (558)Sendai (559)Sendai (560)Sendai (561)Sendai (562)Sendai (563)Sendai (564)Sendai (565)Sendai (566)Sendai (567)Sendai (568)Sendai (569)Sendai (570)Sendai (571)Sendai (572)Sendai (573)Sendai (574)Sendai (575)Sendai (576)Sendai (577)Sendai (578)Sendai (579)Sendai (580)Sendai (581)Sendai (582)Sendai (583)Sendai (584)Sendai (585)Sendai (586)Sendai (587)Sendai (588)Sendai (589)Sendai (590)Sendai (591)Sendai (592)Sendai (593)Sendai (594)Sendai (595)Sendai (596)Sendai (597)Sendai (598)Sendai (599)Sendai (600)Sendai (601)

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่

psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s