สวัสดีค๊า วันนี้อิ้มจะพาทุกท่าน
ไปเที่ยวไต้หวันนนน
จะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปที่นี่
เขิลเหมือนกันนะ 5555
เพราะมั่นใจว่าเ
พื่อนๆ น่าจะไปไต้หวันกันบ่อยแล้วแหละ
แต่สำหรับคนที่มีเคยไป ,กำลังจะไป
หรือกำลังนั่งคิดถึงไต้หวันอยู่
ดูรีวิวนี้ได้เลยยยน๊า
สำหรับทริปนี้บอกเลยว่าไม่ซับซ้อน
ชิลเวอร์ ไป 5 วัน 4 คืน
เราเน้น กิน กิน กิน !!!
กินตัวแทบแตกเลยจ้าแม่จ๋า
ก็แหมมม เค้ามีของอร่อยอยู่เต็มไปหมด
โดยเฉพาะชานมไข่มุกนะ
ตั้งเรียงราย มีขายเยอะมากกกก
และชาบูหมาล่า ที่เด็ดสะระตี่ เนื้อดีงาม
อิ้มไป 4 คืน กินชาบูไป 3 วันติดจร้า 55555
มาพูดถึงสถานที่เที่ยวกันหน่อย
ทริปนี้อิ้มมีเวลาน้อย
เลยได้เที่ยวนอกเมืองวันเดียว
อิ้มไปเที่ยวหมู่บ้านแมว
ขอบอกว่าทาสแมวต้องอ่อนระทวย
เพราะมีแต่แมวเหมี๊ยวเต็มไปหม้ดด
น่าร้ากกกกกก สุดๆ
และจิ่วเฟิ่นหมู่บ้านโบราณในตำนาน
ที่ใครมาไต้หวันแล้วต้องมาเช็คอิน
เป็นสถานที่ที่สวยมากกก
และคนก็เยอะมากกกก เช่นกัน
แนะนำให้พัก 1 คืนจะฟินจ้า
หรือถ้าใครไม่สะดวกไปเที่ยวไต้หวันเอง
ก็สามารถไปเที่ยวกับทัวร์ได้
ซึ่งทัวร์ไต้หวันก็พาไปเที่ยวครบเลยนะ
บริษัททัวร์ที่อิ้มจะแนะนำก็ คือ
ทัวร์ครับ (Tourkrub)
เว็บไซต์ที่รวมทัวร์ต่างประเทศ
ไว้ให้เราได้เลือกเที่ยวทั่วโลกมากมาย
ราคาทัวร์ไต้หวันราคาถูกด้วย
มีแพ็กเก็จทัวร์ไต้หวันให้เลือกเยอะ
ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดการเดินทา
งเที่ยวไต้หวันเพิ่มเติมได้เลย
…จองทัวร์ครบ จบที่ทัวร์ครับ
จองทัวร์ไต้หวัน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)
– ที่พัก
อิ้มพักที่ย่านซีเหมินติง
ย่านนี้เป็นย่านที่สะดวก
ทั้งเรื่องเดินทาง
ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิ้ง
มีทุกสิ่งให้เลือกสรร
โรงแรมที่อิ้มจองมาชื่อว่า Ximen 101-s HOTEL
จองมาในราคา 1,700 กว่าบาทต่อคืน
ราคานี้สำหรับ 2 ท่าน
โรงแรมดีมาก
มีขนม ชา กาแฟ น้ำร้อน เย็น
ให้กดตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเช้ามีพวก ขนมปังปิ้งให้ด้วยนะ เริ่ดมาก
– การเดินทาง
อิ้มบินกับสายการบิน Nokscoot จ้า
จองชั้น Premium Economy
ที่เรียก “ScootPlus”
Scoot Plus สิทธิพิเศษเยอะมากก
ทั้งเช็คอินก่อนใคร ขึ้นเครื่องก่อนใคร
ได้น้ำหนักกระเป๋าเช็คอินคนละ 30 กก
และสัมภาระขึ้นเครื่อง 15 กก
ยังไม่หมดนะ
ยังได้รับอาหารและเครื่องดื่มฟรี
มีปลั๊กชาร์ตแบตให้ด้วยจร้า
และเบาะที่นั่งนี่กว้างขวางมากกก
เริ่ดจริงอะไรจริง
และการเดินทางของนกสกู๊ต
ก็บินตรงตามเวลา
ไม่ได้โดนเลื่อนไฟล์ท
ได้บินตามเที่ยวบินปกติ ไม่เท ไม่โดนยกเลิก
บินดึกถึงเช้าเที่ยวต่อได้ สบายๆ
เอาหล่ะ เดี๋ยวตามอิ้มไปเที่ยวไต้หวันกัน ในรีวิวนี้นะคะ
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
ชมแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมปรับเป็น HD เพื่อความชัดในการรับชมนะคะ
อิ้มบินกับสายการบิน Nokscoot
จองชั้น Premium Economy
ที่เรียก “ScootPlus”
Scoot Plus สิทธิพิเศษเยอะมากก
ทั้งเช็คอินก่อนใคร ขึ้นเครื่องก่อนใคร
ได้น้ำหนักกระเป๋าเช็คอินคนละ 30 กก
และสัมภาระขึ้นเครื่อง 15 กก
ยังไม่หมดนะ
ยังได้รับอาหารและเครื่องดื่มฟรี
มีปลั๊กชาร์ตแบตให้ด้วยจร้า
และเบาะที่นั่งนี่กว้างขวางมากกก
เริ่ดจริงอะไรจริง
และการเดินทางของนกสกู๊ตก็บินตรงตามเวลา
ไม่ได้โดนเลื่อนไฟล์ท
ได้บินตามเที่ยวบินปกติ ไม่เท ไม่โดนยกเลิก
บินดึกถึงเช้าเที่ยวต่อได้ สบายๆ
ที่นั่งกว้างๆ เบาะกว้างๆ แบบนี้ดีต่อใจ
ใครสนใจดูรายละเอียดในลิ้งค์นี้ได้เลย
https://www.nokscoot.com/th/scootplus/
นั่งปุ๊ปน้องแอร์คนสวย ก็เอาน้ำเย็นชื่นๆ มาเสิร์ฟ
หลังจากที่นั่งเครื่องมาตื่นนึง
ยามเช้าก็จะมีอาหารมาเสิร์ฟ
ใครจอง Scoot plus สบายเลย
เพราะเค้ามีอาหารฟรี ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ข้าว 1 กล่อง+ เครื่องดื่ม 1 อย่าง
เราสามารถเลือกได้ด้วยค่ะ
เช้าๆ อิ้มเลือกทานชาร้อน กับ ออมเล็ต
ตอนเค้ามาเสิร์ฟจะมีการ์ดทำมือ
ใบเล็กๆ มาให้ด้วยน่ารักไปอีก
สำหรับใครไม่อิ่มเค้ามีบริการ NokScoot Café
พร้อมเสิร์ฟเมนูอร่อย
แนะนำสั่งเป็นเมนู Pre Order
ชุดอาหารอุ่นร้อน
สามารถสั่งล่วงหน้าภายใน 48 ชั่วโมงก่อนบิน
เพราะมีเมนูหลากหลาย
และประหยัดกว่า
ผ่านทาง http://www.nokscoot.com เท่านั้น
แต่หากไม่ได้สั่งมา
ก็เปิดเมนูใน NokScoot Café ได้เลยค่า
สาระมีอยู่จริง !!
มาทำความรู้จักไต้หวันสักนิดก่อนไปเที่ยวนะค๊า
1. เที่ยวไต้หวันตอนนี้ยังฟรีวีซ่าอยู่นะ เที่ยวได้ 14 วัน
2. เวลาที่ไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
3.สกุลเงินไต้หวันคือ New Taiwan Dollar
ตัวย่อก็ตามนี้ NTD , TWD , NT$
ราคาเท่าต่อบาทไทย
ง่ายต่อการจับจ่าย ซื้อของและใช้เงินมาก
4. นั่งเครื่องบินจากไทยเพียงแค่ 3 ชมครึ่ง
– 3 ชั่วโมงห้าสิบ เท่านั้น
5. ไต้หวันใช้ปลั๊กไฟ 2 ขาแบนแบบบ้านเรา
6. สภาพอากาศในไต้หวัน
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์)
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนพฤษภาคม)
เป็นฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน)
เดือนมิถุนายนถึงกันยายนเป็นช่วงที่ร้อนมาก
ทั้งยังเป็นช่วงที่ฝนตกชุกที่สุดของปี
ไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไหร่จ้า
7. การเดินทางส่วนมากจะใช้รถไฟใต้ดินเป็นหลัก
8. ภาษาจีนคือภาษาราชการ
แต่คนส่วนมากจะใช้ภาษาฮกเกี้ยน
9. ไต้หวันมีทั้งหมด 21 เมือง
ไต้หวันมีมีทั้งหมด 21 เมือง
แบ่ง มีทั้งหมด 3 เกาะใหญ่
มีเมืองหลวงคือเมืองไทเป
10. ทุกที่เพียงมีบัตร Easy Card หรือ iPass
ในไต้หวันบัตร Easy Card หรือ iPass
คือสิ่งที่จำเป็นและทุกคนต้องมี
บัตร Easy Card หรือ iPass
จะใช้ในการเดินทางรถไฟ
รถไฟฟ้าหรือรถเมล์
ใช้จ่ายซื้อของได้ทั่วไปตามร้านค้า
ห้างสรรพสินค้า ชุปเปอร์มาเก็ต
11. ห้ามสูบบุหรี่ รับประทานอาหาร
หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง ภายในสถานีรถไฟฟ้า
หากฝ่าฝืนจะมีเจ้าหน้าที่พุ่งตัวออกมาหาคุณทันที
และเสียค่าปรับ 1,500-7,500 ดอลลาร์ไต้หวัน
(อันนี้โดนมากับตัว
แต่โชคดีเจ้าหน้าใจดีเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยว
จึงไม่โดนปรับค่ะ)
12. ห้ามนำเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าประเทศ
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้
รู้ไว้ก่อนจะได้เตรียมตัวถูกก่อนมาเที่ยวนะคะ
และแล้วเราก็มาถึงไต้หวัน
เย้ๆๆๆ แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ
Day 1
เราผ่าน ตม มาอย่างไวค่ะ
ตม ใจดีมากกก
พอเรารับกระเป๋าปุ๊ป สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ
การซื้อบัตร Easy Card หรือ iPass
ในไต้หวันบัตร Easy Card หรือ iPass
คือสิ่งที่จำเป็นและทุกคนต้องมี
บัตร Easy Card หรือ iPass
จะใช้ในการเดินทางรถไฟ
รถไฟฟ้าหรือรถเมล์
ใช้จ่ายซื้อของได้ทั่วไปตามร้านค้า
ห้างสรรพสินค้า ชุปเปอร์มาเก็ต
ค่าบัตร Easy Card ราคา NT$100
บัตรนี้ไม่มีวันหมดอายุ
มาครั้งหน้าก็สามารถใช้ได้
ส่วนการเติมเงิน
ขั้นต่ำครั้งละ NT$100
หาซื้อได้ตาม
มินิมาร์ท เช่น 7-Eleven , Hi-Life ,
Family Mart และ OK Mart
หรือที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ
ในสถานีรถไฟฟ้าก็ได้
แต่อิ้มซื้อที่สนามบินเถาหยวนเลย
การซื้อบัตร EasyCard และเติมเงิน
ต้องจ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น
จ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่ได้
ส่วนถ้ากลับแล้วแต่เงินในบัตรที่เหลืออยู่
เรายังขอคืนได้ที่ Information Counter
ของสถานีรถไฟฟ้าทุกแห่ง
รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าสาย
Taoyuan Airport MRT ด้วย
แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียม NT$20
หรือถ้าใครอยากเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปก็ได้เช่นกัน
แต่ซื้อที่สนามบิเถาหยวนจะมีลายไม่มาก
มีทั้งแบบพวงกุญแจ และบัตรธรรมดา
อิ้มเลือกลาย Hello Kitty เดี๋ยวเติมเงินเข้าบัตรก่อนค่ะ
Taoyuan Airport MRT นี้
แบ่งรถไฟฟ้าออกเป็น 2 ขบวน คือ
1. Express Train (ขบวนด่วนพิเศษ – สีม่วง)
จอดแค่ 5 สถานีเท่านั้น คือ
A1 Taipei Main Station
A3 New Taipei Industrial Park Station
A8 Chang Guang Memorial Hospital
A12 Taoyuan Airport, Terminal 1
A13 Taoyuan Airport, Terminal 2
2. Commuter Train (ขบวนปกติ – สีน้ำเงิน)
จอดทุกสถานี
ตั้งแต่ A1 Taipei Main Station
– A21 Huanbei Station
ทั้ง 2 ขบวน มีรถออกทุกๆ 15 นาที
สถานีแรกค่ะ
ห้างเอาท์เล็ทหลินโค่วซานจิ่ง
(Mitsui Outlet Park)
นั่งใต้ดินสายสีน้ำเงินจากสนามบิน
มาลงที่ A9 Linkou Station
ค่ารถไฟประมาณ NT$50 เท่านั้น
จะบอกว่ารถไฟดีด้วย
สะอาด สะอ้าน ชอบรถไฟที่นี่มาก
ราคาถูก นั่งขึ้นๆ ลงๆ ได้ไม่ต้องคิดมาก
มาถึงแล้วให้ออกประตู 2
เดินไปทางขวา 500 เมตร
หากต้องการฝากกระเป๋า
เดินทางก็มีล็อคเกอร์หยอดเหรียญ
ก่อนออกประตู 2 แต่ตู้เต็มไวมาก
อิ้มเลยไม่ได้ฝากค่ะ
หลายคนอาจจะงงว่า เอ้ยยย
มาถึงทำไมรีบมาช็อปปิ้ง
ก็เพราะว่าขากลับเรากลับไฟล์ทเช้า
Outlet ยังไม่เปิด
เราก็เลยต้องแวะตอนขามานี่แหละค่ะ
นี่คือเหตุผลของคนอยากช็อป 55555
Mitsui Outlet Park สาขา Linkou
เอาท์เลทแห่งนี้ ตั้งอยู่ในนิวไทเป
อยู่ตรงกลางระหว่างสนามบินเถาหยวน
และตัวเมืองไทเป
ที่นี่เป็นห้างเอาท์เล็ทแบบเต็มรูปแบบ
ที่รวมเอาแบรนด์ดังทั้งจากประเทศญี่ปุ่น,
ไต้หวันและประเทศอื่นๆ มาไว้ด้วยกัน
มีให้เลือกทั้งแบบหรูหรา
ไปจนถึงชุดกีฬาและชุดลำลองทั่วไป
ภายในมี 52 ร้านค้า
ที่มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในไต้หวัน
นอกจากนั้นยังมีศูนย์รวมร้านอาหารไต้หวัน
และร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในไต้หวัน
ถึง 56 ร้านค้าชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น
(ซึ่งมี 17 ร้านที่มาเปิดเป็นที่แรกของไต้หวัน)
นอกจากนั้นยังมีทั้งของสะสม,
ร้านอาหาร, ร้านค้าแฟชั่นและอื่นๆ
ที่นี่แบ่งเป็นโซน Indoor
และ Outdoor มีกัน 2 ชั้น
รองเท้าส่วนใหญ่อยู่ชั้น 2
ซึ่งพวกเราก็พุ่งตัวมาที่นี่ทันที
หลังจากนั้นก็ภาพตัดค่ะ 5555
เราพุ่งตัวมาหาของกินที่ชั้นล่าง
ซูชิราคาดีงามมากกก
ส่วนตัวแซลม่อนดีมากกกก
อิคุระ กลางๆ แต่อูนิไม่ผ่าน ❌
แล้วเราก็พุ่งตัวมาที่ร้าน
Chun Shui Tang (ชุนสุ่ยถัง)
ชุนสุ่ยถัง
เป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มขายชานมไข่มุกในไต้หวัน
ปัจจุบันมีหลายสาขาในไต้หวัน
และหนึ่งในสาขานั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยยยย
จริงๆ แนะนำทานที่ร้านเค้านะ
เพราะเค้าจะใส่ในแก้วที่เป็น Signature ให้
อ้อๆๆ แล้วด้านในเค้าไม่ได้ขายแต่ชานมไข่มุกนะ
เค้ามีอาหารขายด้วยจ้า
สั่งกลับบ้านก็ได้แก้วแบบนี้ไม่เห็นน้องไข่มุกเลย
สำหรับไซส์จะมี 2 ขนาด
แก้วเล็กราคาอยู่ที่ NT$85
อิ้มสั่งแก้วใหญ่ราคาอยู่ NT$160
ส่วนตัวชอบเลยค่ะ ไม่หวาน
ยังมีกลิ่นชาหอมๆ และไข่มุกอร่อยมากกกก
เสร็จแล้ววว พี่ยูบอกว่า
ตามผมมา ผมจะพาไปซีเหมินติง ><
เรากำลังจะไปย่านซีเหมินติง
ที่พักของเราค่ะ
นั่งสายสีน้ำเงิน
จาก A9 Linkou Station
ไปลงที่ A1 Taipei Main Station
จากนั้นเปลี่ยนสาย
จาก Taoyuan Airport MRT
ไปนั่งสีน้ำเงิน Bannan Line
ไปลงสถานี Ximen นั่งแค่ 1 สถานี
ค่ารถไฟ NT$63
จากนั้นออกทางออกที่ 6
ก็ถึงย่าน Ximending แล้วค๊า
Ximending ซีเหมินติง(西門町)
เป็นย่าน ช้อปปิ้งไต้หวัน
เหมือนชิจุกุ ญี่ปุ่นเลยค่า
ซีเหมินติง
มีทั้งร้านอาหารอร่อยๆมากมาย
ร้านนั่งดื่มชิลๆ คาราโอเกะ โรงหนัง
ร้านขายของ มีทั้งห้างใหญ่ๆ
ไปจนถึง โชว์ห่วยเล็กๆ
เรียกว่าซีเหมินติงมีทุกสิ่งให้เลือกสรรค
เอ็นเตอร์เทน ทุกอย่างไว้หมดแล้ว
Ximen 101-s HOTEL
แล้วอิ้มก็มาถึงที่พักค่ะ
เดินจากสถานี Ximen 400 เมตร
เพียง 6 นาที เท่านั้น
Ximen 101-s HOTEL
อิ้มจองมาในราคา 1,700 กว่าบาทต่อคืน
ราคานี้สำหรับ 2 ท่าน
โรงแรมดีมาก
มีขนม ชา กาแฟ น้ำร้อน เย็น
ให้กดตลอด 24 ชั่วโมง
ช่วงเช้ามีพวก ขนมปังปิ้งให้ด้วยนะ
อิ้มพักที่นี่ยาวๆ 4 คืนเลยค่ะ
เดี๋ยวมาชมห้องพักกันค่ะ
ภายในห้องพักขนาด 16 ตารางเมตร กำลังพอดี
ภายในห้องน้ำค่ะ
หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ร้าน Mala Hotpot
หรือ ชาบู หม่าล่าอันเลื่องชื่อ
ทั้งในเรื่องของรสชาติ และความคุ้มค่า
ใครไปใครมาก็บอกว่าควรค่ามากก
แก่การมาลอง เราก็ต้องห้ามพลาด
ในส่วนของราคาและเวลา
1. มื้อกลางวันวันธรรมดา
(11.30 – 16.00 น.) ราคา NT$545
2. มื้อกลางวันวันธรรมดา
(16.00 – 04.00 น.) ราคา NT$635
3. วันหยุดทั้งวัน
(11.30 – 04.00 น.) ราคา NT$635
ราคานี้ยังไม่รวม service charge
อีก 10% และที่ร้านรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น!!!
เด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ จ่ายครึ่งราคา
+ service charge NT$100/คน
จำกัดผู้ใหญ่ 1 คนต่อเด็ก 1 คนเท่านั้น
ร้านอยู่ชั้นสองเดินขึ้นมาได้เลยค่ะ
แนะนำมื้อกลางวัน คนไม่เยอะ
ถ้าเป็นช่วงเย็นจะคิวยาวมากก
สำหรับเมนูเนื้อจะอยู่ในเล่ม สั่งได้ที่โต๊ะ
นอกเหนือจากนั้นจะมีไลน์อาหาร
เดินตักได้เองตามใจชอบ
แต่ขอบอกว่าไลน์เค้าไม่ธรรมดา
อลังการงานสร้างมากกกกกกกกกก
ลองดูกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
เลือกกินไม่ถูกเลยจ้าแม่จ๋า ><
เครื่องดื่มหยิบเอาจร้าาา ไม่อั้น
มีชาไข่มุกและเบียร์ด้วยเด้อ เอากับเค้าสิ
ใครสายข้าวจัดไปได้เลยจร้า Angus Beef Curry
น้ำจิ้มเค้าจะให้เราปรุงเองค่ะ ปรุงได้ตามชอบ
มีมาม่าให้ใส่ด้วยจร้าาา
อันนี้ดูคุ้นๆ นะ ตุ้มยำกุ้งของเรานี่เอง 555
อีกไฮไลท์ของที่นี่คือ
ไอศกรีม Haagen-Dazs ไม่อั้น
และมีหลายรสมากกกกก
ติดกันยังมี Movenpick ไปอี๊กกกก
ที่เห็นไกลๆไหมคะ ใช่ค่ะ
พันท้ายนรสิงห์ที่เราหอบหิ้วไปจากไทย เพื่อการณ์นี้ 5555
อย่าเพิ่งไปสนใจน้ำจิ้ม
ดูเนื้อเค้าสิ พรีเมี่ยมน่าทานมากกกก
เราสามารถเลือกน้ำซุปได้ 2 จาก 5 อย่าง คือ
1. Mala Spicy Hot Pot
เป็นตัว Highlight ของเค้าล่ะ
2. Vegetable Energy Soup ซุปผัก
3. Stir-fried Chicken
with Chinese Sauce and Hot Pot ซุปไก่ผสมเหล้า
4. Collagen Hot Pot ซุปคอลลาเจน
5. Pickled Chinese Cabbage Hot Pot
อิ้มเลือกซุปหมาล่า กับซุปผักค่ะ
คนข้างหลังดูท่าจะหิวมากกกก 5555
ปกติอิ้มไม่ได้อินกับหมาล่าเท่าไหร่
ตอนแรกก็แอบกังวลว่าจะทานได้ไหม
แต่พอลองทานได้แล้ว หืมมมม
หยุดไม่ได้เลยจร้า
เพราะมันอร่อยมากกกก
ซุปหมาล่าเผ็ดเบาๆ กลมกล่อม นัวสุด ๆ
แล้วเนื้อขอบอกว่าดีมากกก
สายเนื้อต้องห้ามพลาด
ทุกอย่างดีเกินราคา
แถมของหวาน นานาชนิด และ Haagen-Dazs
แค่นี้ก็คุ้มเกินคุ้มแล้วจร้าา
แนะนำว่ามาแล้วต้องทานนะ
พูดถึงเรื่องน้ำจิ้มสักนิด
น้ำจิ้มที่เค้ามีสูตรให้ปรุงไม่อร่อย
แนะนำให้ลองปรุงเองจะดีกว่า
พริกนิด กระเทียม ซีอิ๊ว ผักชี
สูตรอิ้มแค่นี้พอ
แต่ถ้ากลัวทานไม่ได้
พกน้ำจิ้มพันท้ายติดมาด้วยเด้อ อันนี้ฟินจริงพูดเลย
เสร็จแล้วก็เดินย่อยต่อที่ย่านซีเหมินติง คึกคักทั้งวันจริงๆ นะ
ก่อนนอนปิดท้ายด้วยบะหมี่อาจง
บะหมี่ข้าว กับ ไส้หมู
ที่เป็นบะหมี่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของไต้หวันเลยนะ
ในร้านจะมีขายอย่างเดียว
และ 2 ขนาด ใหญ่ NT$65
เล็ก NT$50 (ในรูปคือขนาดเล็ก)
ร้านนี้ไม่มีเก้าอี้ให้นั่งนะคะ ยืนกินเท่านั้น
ส่วนตัวอิ้มชอบนะ อิ้มว่าอร่อยอ่ะ
ไม่ต้องปรุงก็อร่อย
มีความกลมกล่อม นัวๆ จืดๆ
บะหมี่นุ่มมากก
ไส้อร่อยมากไม่มีกลิ่นเลย
แต่ไม่ชอบที่ต้องยืนกิน
เพราะมันร้อนมาก
ไม่ค่อยสะดวกในการจ้วง 5555
หากใครไม่ชอบรสชาติ ออริจินอล
ลองปรุงดูนะ
มีเครื่องปรุงอยู่สองสามอย่างเผื่อจะถูกปากมากขึ้น
อิ่มแล้วหลับฝันดี ><
Day 2
Houtong Cat Village :
หมู่บ้านแมวที่เหล่าบรรดาทาสต้องฟินนน
อิ้มออกเดินทาง
จากซีเหมินติงประมาณ 8 โมงเช้า
โดยจะนั่งรถไฟจากสถานี Ximen
มาลงที่ Taipei main Station
แล้วหลังจากนั้นเปลี่ยนสายไปยัง TRA
ไปลง สถานีหูต่ง (Houtong Station)
ราคาเที่ยวละ NT$65
สามารถซื้อตั๋วที่ตู้กดก็ได้
หรือจะซื้อที่ Ticket Counter
แต่ที่สะดวกสุดๆ
ก็คือใช้ Easy Pass แตะผ่านได้เลย
วันที่อิ้มไปเป็นขบวนที่ 4162
รอบ 09.25 นาที
แต่เวลาอาจจะเปลี่ยนแปลง
ลองเช็คเวลาและรอบรถไฟได้ที่นี่
https://tip.railway.gov.tw/tra-tip-web/tip
อันนี้เป็นตาราง วันที่ 23/12/2019
นั่งยาวๆ 1 ชม 5 นาที มาแบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
หมู่บ้านแมวหูต่ง (Houtong Cat Village, 猴硐貓村)
เป็นสวรรค์ของคนรักแมว
ที่นี่ห่างจากเมืองหลวงไทเป
ออกไปเพียง 35 กิโลเมตร
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา
ที่เต็มไปด้วยแมวเหมียวนับร้อยชีวิต
ในอดีตช่วงสมัยที่ประเทศญี่ปุ่น
เข้ามาปกครองไต้หวันประมาณปี 1992
ในยุคเศรษฐกิจรุ่งเรือง
หมู่บ้านหูต่งเคยเป็นพื้นที่เหมืองถ่านหินมาก่อน
จากนั้นเมื่อหมดยุครุ่งเรือง
เหมืองถ่านหินได้ปิดตัวลง
ผู้คนกว่า 6,000 คนที่เคยอาศัยอยู่
ต่างก็ย้ายออกจากพื้นที่ไป
เหลือเพียงไม่กี่ครอบครัว
และทิ้งแมวน้อยจำนวนหนึ่งไว้
พอนานเข้า ที่นี่ก็เลยมีแมวเพิ่มมากขึ้น
มองไปทางไหนก็เห็นแต่แมว
จนกระทั่งในปี 2008
ได้มีอาสาสมัครคนรักแมว Peggy Chien
ที่เข้ามายังหมู่บ้านได้โพสต์รูปภาพ
ผ่านทาง Social Network ของเค้า
จนหมู่บ้านแห่งนี้
กลายเป็นที่รู้จักกลายเป็นที่สนใจ
และสามารถดึงดูดผู้คนเข้ามาชมเป็นจำนวนมาก
จากนั้นที่นี่ก็เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ไซส์มินิมอล ที่ทาสแมวจะต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
มาถึงแล้วจะแบ่งเป็นสองฝั่ง
ฝั่งนึงคือหมู่บ้าน ฝั่งนึงจะเป็นร้านอาหาร และของฝาก
ข้ามไปฝั่งหมู่บ้านแมวกันก่อนค่ะ
อร้ายยยยนุ้งแมวววว
มาถึงก็เจอเลยค๊า
มีคนใจดีเอาอาหารมานุ้งแมว
การให้อาหารน้องแมวที่นี่
ห้ามให้เรี่ยราด ต้องมาภาชนะใส่เท่านั้น
และหลังจากให้อาหารเสร็จ
จะต้องนำภาชนะกลับไปหรือทิ้งในถังขยะให้เรียบร้อย
ยังไม่อิ่มเลยเจ้าทาส ทำไมให้น้อยจัง ><
ถ่ายกับนุ้งแมว มาสคอตซะหน่อย
นุ้งแมวตัวนี้ท้องแก่มากๆ
ว่าไงยังเจ้าทาส ถ้าไม่มีขนมไม่ต้องเข้าใกล้ชั้นนะ >, <
ทาสมาแล้วววพร้อมขนมแมวเลีย
มีขายในหมู่บ้านเลยค่า
ให้แล้วตัวอ่อนระทวยเชียว
แบ่งมาให้ชั้นมั่งสิ เจ้าทาส
ชั้นกินอิ่มแล้วจะนอนตีพุงยังไงก็ได้
มีแมวเหมียวรอกินเต็มไปหมด
จากนั้นเดินขึ้นไปเที่ยวด้านบนกันค่ะ
ด้านบนจะเป็นพวกร้านขายของที่ระลึก
บางร้านจะห้ามถ่ายรูปนะ
ลองสังเกตุป้ายหน้าร้านด้วยจ้า
แต่ร้านนี้นางให้ถ่าย น่ารักมากๆ
อุดหนุนที่ห้อยโทรศัพท์เล็กๆ น่ารักๆ
มาซะหน่อยเป็นการตอบแทน
ชอบความน่ารักของที่นี่จัง
เค้ามีการเพ้นท์ลวดลายน้องแมวแบบน่ารักๆ เต็มไปหมด
ไปกันต่อด้านบนสุดจะเป็นพวกคาเฟ่แมว
เราเลือกร้านนี้กันค่ะ
ร้านน่ารัก
ภายในก็มีเครื่องดื่ม อาหาร และขนม
ราคาก็เหมือนคาเฟ่บ้านเรา
มีเมนูภาษาอังกฤษด้วยน๊าา
ตั๊ลล๊ากกกกก
โดยรวมรสชาติ กลางๆ
เอาว่ามาถ่ายรูปเกร๋ๆ ก็พอ
ไม่ต้องคาดหวังเยอะ 5555
เค้าไปและน๊าาา ไว้จะกลับมาเที่ยวใหม่
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพวกร้านอาหาร และของฝากค่า
เสร็จจากหมู่บ้านแมว
ตอนแรกอิ้มจะไปปล่อยโคมที่ Shifen Old Street
แต่เราทำเวลาไม่ดี
จริงๆ มาเส้นนี้ สามารถเที่ยว
เส้นทางรถไฟโบราณสายผิงซี (Pingxi Line)
เป็นเส้นทางสายโรแมนติก
ระยะทาง 30 กม เมตร
เราจะได้ชมธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่งข้างทางได้ตลอดเส้น
และแวะเที่ยวได้หลายสถานีเลยค่ะ
เอาเป็นว่ารอบหน้ามีเวลา
อิ้มจะพาเที่ยวให้ครบนะค๊า
เมื่อพลาดจาก Shifen Old Street
จากนั้นเรากลับมาที่สถานี Ruifang
เพื่อเดินทางต่อไปยังจิ่วเฟิ่น
จากสถานีแมว Houtong มาที่ สถานี Ruifang
ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที
ราคาค่ารถ NT$15
วันที่อิ้มไปรอบบ่าย จำเวลาได้มีดีนัก
ลองเช็คเวลาและรอบรถไฟได้ที่นี่
https://tip.railway.gov.tw/tra-tip-web/tip
อันนี้เป็นตาราง วันที่ 23/12/2019
การเดินทางมาจิ่วเฟิ่น
การเดินทางมาจิ่วเฟิ่นสามารถทำได้หลายวิธี
เดินทางมาจาก Taipei ก็ได้มีทั้งรถบัส
รถแท็กซี่,รถไฟ
รถบัส
ใครที่พักอยู่ในโซนซีเหมินติง
มาขึ้นรถเมล์ Taipei Bus No.965 ได้ที่
สถานีรถไฟฟ้า
MRT Ximen (BL11/G12) , Exit 2
หรือใครที่พักอยู่โซน
Taipei Main Station
จะไปขึ้นที่ MRT Beimen (G13) , Exit 2 ก็ได้
ระยะเวลาเดินทางประมาณ 80 นาที
ค่าโดยสาร NT$90/เที่ยว
จ่ายค่าโดยสารด้วยเงินสด
EasyCard/iPass
หรือ Taipei Pass ก็ได้
ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.
ในวันธรรมดา
และ 07.00-21.00 น. ในวันหยุด
ช่วงเวลาที่ผู้โดยสารเยอะๆ ในวันธรรมดา
และวันหยุด จะมีรถวิ่งทุกๆ 30 – 40 นาทีต่อคัน
และช่วงที่ผู้โดยสารน้อยๆ
จะมีรถวิ่งทุกๆ 40 – 60 นาทีต่อคัน
รถแท็กซี่
ประมาณ NT$1,200 ต่อเที่ยว
ใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที
ถ้าไปกันหลายๆ คนหารกันก็คุ้มอยู่นะคะ
รถไฟ
ให้มาตามเส้นทางสถานีแมวที่อิ้มมาเลยค่ะ
นั่งรถขบวนเดียวกัน
แต่จะมาถึง สถานี Ruifang ก่อน
พอออกจากสถานีรถไฟ Ruifang Station
เดินออกไปแล้วเลี้ยวซ้าย
เดินต่อไปตามถนน Mingdeng
ประมาณ 200 เมตร
จะเจอโดยป้ายรถเมล์ที่จะมาขึ้นรถประจำทาง
จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ
กับสถานีรถไฟและสถานีตำรวจ
นั่งรถประจำทางสาย 1062, 788, 827 และ 856
ค่าโดยสารราคา NT $ 15
ลงที่ป้าย Jiufen Old Street
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
แต่เพื่อความรวดเร็วอิ้มเลือกนั่งแท็กซี่
เพราะมีจอดรออยู่เยอะมาก
แนะนำให้ต่อรองก่อนขึ้น
อิ้มไปหกคน ราคา NT$300
หารกันอยู่ที่คนละ NT$50
ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 15 นาที
อ้อๆๆๆ
เวลาเค้าถามว่า Where You Come From
ให้ตอบว่า ไท้กั่ว นะจ้ะ เค้าจะรู้จักคนไทยตามชื่อนี้ค่า
แท็กซี่จะมาส่งเราที่จุดนี้ค่ะ
ขากลับเราก็จะนั่งรถเมล์กลับที่ป้ายนี้
จะว่าไปตรงนี้เป็นป้ายรถเมล์ที่สวยเอาเรื่องอยู่นะเนี่ย
แวะแชะภาพแพร้บบบ
จิ่วเฟิ่น(Jiufen , 九份)
เมืองโบราณ สุดคลาสสิค
ใครที่เป็นสาวกการ์ตูนเรื่อง Spirited Away
ของค่ายสตูดิโอ จิบลิ
ต้องรู้สึกคุ้นตาที่นี่แน่นอน
เพราะฉากหนึ่งในเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจ
มาจากเมืองโบราณ จิ่วเฟิ่น
จุดเด่นของ Jiufen Old Street คือ
โคมไฟสีแดงที่ประดับประดา
ห้อยเรียงรายอยู่ตลอดทาง
บางทีก็ขนานกันไปตามถนน
บางทีก็ไขว้สลับไปมา
ทำให้ภายในตลาดอาบไล้ด้วยสีแดงจากโคมไฟ
บรรยากาศเหมือน
เรื่อง Spirited Away เลยค่ะ
มาเที่ยวที่นี่
สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ
ต้องไปชิมอาหารอร่อยๆ
เดินช้อปปิ้งซื้อของฝาก ของที่ระลึก
และไฮไลท์ก็คือไปนั่งจิบน้ำชาที่โรงน้ำชาโบราณ
ชมวิวสวยๆ ยามค่ำ
ไม่มีอะไรจะฟินไปกว่านี้แล้ว
บรรยากาศชิลมากกก น่าเสียดายที่คนเยอะไปหน่อย
ขอแว้บบบทานอาหารที่ร้านนี้ก่อนค่ะ
เมนูมีทั้งภาษาอังฟฏษและรูปภาพ สั่งง่าย
อิ้มสั่งข้าวหน้าหมูตุ๋นมาคนละ 1 ที
ราคา ถ้วยละ NT$70
บะหมี่น้ำ 1 ถ้วย NT$80
ไก่สับจานเล็ก 1 จาน NT$280
และเสี่ยวหลงเปา 8 ลูก NT$120
ทานแล้วววน๊าาาา รสชาติโดยรวมอร่อยใช้ได้ค่ะ
และแล้วววว
การกินชานมไข่มุกแก้วที่สองของเราก็เกิดขึ้น
เมื่ออิ้มเดินไปเจอ Xing Fu Tang
Xing Fu Tang
เป็นร้านชาไข่มุกชื่อดังแห่งไต้หวัน
มีหลากหลายสาขามากกกกกกกก
จัดเมนูชื่อดังอย่าง Ice Brown Sugar Boba Milk
ราคาแก้วละ NT$60
อื้มมมม ส่วนตัวอิ้มว่าอร่อยนะ
ชาเค้าไม่หวาน
เจ้านี้มีความหอมนมเบาๆ
เวลาทานกับไข่มุกหวานๆ มันลงตัวพอดี
ส่วนไข่มุกที่นี่จะเป็นเม็ดใหญ่ นุ่มๆ
ใครไม่ชอบไข่มุกเม็ดเล็กน่าจะชอบเจ้านี้ค่ะ
เดินเล่นกันต่อ
เจ้านี่คือตุ๊กตาผีในเรื่อง Spirit Away
ทำเป็นของที่ระลึกเต็มไปหมด
จนกลายเป็นมาสคอตของที่นี่ไปแล้ว
เดินในตลาดเก่าบอกเลยคนเยอะมากกกก
และของกินก็เยอะมากก เช่นกัน
ร้านนี้บัวลอยชื่อดัง
แต่เห็นคนต่อแถวแล้ว ท้อ ไม่ลองดีกว่า 555
มุมไฮไลท์ในจิ่วเฟิ้นก็คือ โรงน้ำชา A MEI
ที่ติดกับวิวภูเขา มุมนี้ค๊าา
แต่ถ้าจะให้สวยต้องถ่ายตอนทไวไลท์
ซึ่งต้องถ่ายจากโรงน้ำชาฝั่งตรงข้าม
แต่อิ้มก็เพิ่งรุ้วันนั้นว่า
การจะเข้าไปทานน้ำชาต้องจองคิวก่อน ฮือๆๆๆ
อดคร่า เลยได้ถ่ายมุมนี้แค่ตอนกลางวัน
ใครจะมาถ่ายมุมนี้ต้องจองล่วงหน้าก่อนนะ
แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ท้อค่ะ
ปกติคนอาจจะมาถ่ายแค่หน้าโรงน้ำชา A MEI
แต่วันนี้อิ้มขึ้นไปทานขาด้านบนเลยดีกว่า
วิวจากด้านบนสวยมากกกก
เป็นจิ่วเฟิ่นในมุมที่แปลกตา
มาแล้วก็อย่าทานแบบต้นตำรับนะคะ มันดีย์ต่อใจจริงๆ
จุดถ่ายรูปในมุมที่สวยคือฝั่งตรงข้ามค่ะ
ซึ่งถ้าไม่ได้ขึ้นไปก็จะกางขาตั้งกล้องไม่ได้
และต้องถ่ายเบียดเสียดคนล้านแปด
ภาพที่ได้เลยไม่สวยเท่าที่ควร ฮือๆๆๆ เสียใจ
เก็บความชอกช้ำไว้
เพราะไม่ได้มุมที่ตั้งใจ
ไว้โอกาสหน้าจะมาใหม่เด้อ
ต่อไปมุ่งหน้ากลับซีเมินติงกันดีกว่า
ขากลับอิ้มมารอรถบัส
สาย 965 ราคา NT$90/เที่ยว
เพื่อไปลงสถานี Ximen ค่ะ
เดินทางประมาณ 50 นาที
หลับได้ตื่นนึงพอดี 555
และแน่นอนค่ะ มื้อเย็นของเรา คือ
Xin Mala Hotpot
ร้านนี้จะเป็นเครือเดียวกับ
Mala Yuanyang Hot Pot
ที่เราไปกินมาวันแรก
แต่ Xin Mala Hotpot เป็นร้านที่หรูหรา
พรีเมี่ยมกว่า
เป็นร้านชาบูไต้หวันสไตล์บุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม
ราคาบุฟเฟ่ต์ แบ่งตามช่วงเวลา
เวลา 11.30 am -16.00 pm ราคา NT$ 635
เวลา 16.00 pm – 02.00 am ราคา NT$ 725
ส่วนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ราคาเดียว NT$725
เด็ก ต่ำกว่า 90 cm ฟรี
/ 91-110 cm 180 NTD /
111-140 cm 360 NTD
ที่สำคัญ มาทานคนเดียวบวกเพิ่ม NT$ 100 /
กินเหลือปรับคนละ NT$ 200
ร้านอยู่ชั้น 2 เหมือนเดิมค่ะ
ความพิเศษของ Xin Mala Hotpot
คือเน้นเมนูเนื้อพรีเมี่ยม
และซีฟู้ดส์ ที่คัดมาอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปู ปลา
ร้าน Xin จะไม่มีไลน์อาหารให้ตักนะคะ
เน้นความพรีเมี่ยมที่มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ
ชนิดอาหารอาจจะน้อยหว่าสาขานู้น
แต่คุณภาพบอกเลยว่าจัดหนัก
ดีกว่าสาขานู้นมาก
สำหรับเครื่องดื่ม ของหวาน
และน้ำจิ้ม เป็นแบบบริการตัวเอง
เลือกหยิบได้ทั้งน้ำชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาไข่มุก
และเบียร์ที่กินได้แบบไม่อั้น
ของหวานก็คือ
ไอศครีม Haa-gendaz และ Movenpick
ที่ตักได้ไม่อั้น ฟินขั้นสุด
ดูความเนื้อเค้าสิ ลายดีมากกกก
สาขานี้จะมีกุ้งแบบนี้ด้วยนะคะ ตัวใหญ่เวอร์
ปิดท้ายวันที่ 2 ด้วยชาบูและเนื้อกว่าร้อยถาดค่ะ 55555
Day 3
วันที่ 3 นี้จะเน้นเที่ยวชิลๆ แถวๆ ไทเปค่ะ
เริ่มต้นตั้งไปถ่าย Street Art
ที่ตั้ง
No. 2, Lane 120, Section 2,
Wuchang St, Wanhua District,
Taipei City, Taiwan
พิกัด GPS
25.045336, 121.504067
อยู่ใกล้ที่พักมาก เดินไม่ถึง 10 นาที
มาถ่ายภาพชิคๆ ได้เลยจร้าาา
สำหรับมื้อเช้า อิ้มลองอาหารท้องถิ่นนั่นก็คือ
ข้าวปั้นไต้หวัน “ฟ่านถวน” (飯糰)
เป็นข้าวเหนียวห่อไส้ต่างๆ
แล้วแต่เราเลือก
ส่วนใหญ่ก็จะมีปาท่องโก๋กรอบ,
ผักดอง,ไข่,หมูหยอง,ทูน่า
และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ร้าน
มีให้เลือกทั้งข้าวขาว
และข้าวม่วง(ข้าวเหนียวดำ)
ถ้าอยากได้ข้าวม่วงต้องสั่งว่า
“สือหมี่ฟ่านถวน” (紫米飯團)
ราคาเริ่มที่ NT$30
แต่ร้านที่อิ้มทาน ราคา NT$ 65
ร้านนี้เครื่องเยอะ มียันกิมจิ
เครื่องเยอะมากกกก
ลองแล้วเป็นมื้อเช้าที่ถือทานได้สะดวก
อิ่มนาน ราคาไม่แพง อร่อยมากๆ
ส่วนตัวอิ้มชอบมากค่ะ
จากนั้นเรามุ่งหน้าต่อไปตลาดปลาไทเป
Taipei Fish Market
วิธีการเดินทาง
รถไฟ
นั่งรถไฟใต้ดินจากที่ใดก็ได้
มาลงที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
สถานี MRT Zhongshan Junior High School
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว
การจะไปตลาดปลาไทเป มี 2 ทางเลือก คือ
1. เดิน ระยะทางประมาณเกือบๆ 2 กม.
2. นั่งแท็กซี่ แล้วบอกว่าไป ไถเป่ยหวี่ซื่อ
รถบัส
1. เริ่มที่ Taipei Main Station
นั่งรถบัส สาย 49
หน้าห้าง Shin Kong Mitsukoshi
ตรง Taipei Main Station
ไป 17 ป้าย ประมาณ 29 นาที
ไปลงที่ 2nd Fruit and Vegetable Market
และเดินข้ามถนนต่อไปอีก 350 เมตร
ก็จะถึง Taipei Fish Market
2. นั่งรถบัส สาย Red50 (R50)
จาก MRT Yuanshan, Exit 1
ไปลงป้ายที่ 3
ป้ายที่ 3 : The Second Wholesale
Fruit and Vegetable Market
จากที่ขึ้นรถเมล์ ใช้เวลาประมาณ 16 นาที
แล้วเดินข้ามฝั่งไปที่ตลาดปลาไทเป
(Taipei Fish Market) ได้เลย
3. การเดินทางด้วยรถเมล์
จากสถานี Xiamen Station
ให้ไปทางออก 2 เพื่อไปขึ้นรถเมล์สาย 49
หลังจากที่เราลงจากรถเมล์
ระหว่างการเดินเท้าไปตลาดปลานั้น
จะเดินผ่านตลาดผลไม้
ไม่ต้องตกใจ เดินไปอีกนิด
เพราะตลาดปลากับตลาดผลไม้เค้าอยู่ติดกันค่ะ
เป้าหมายของอิ้มก็คือ
ร้าน Top seafood 上乘海鮮
ร้านซาชิมิยืนกินในตำนาน
ร้านอยู่ย่านตลาดสด
ไม่ไกลจากตลาดปลาไทเป (ADD)
เวลาเราจะทานก็แจ้งเค้าได้เลยว่า จะทานปลาอะไร
มีงบเท่าไหร่ มากี่คนบอกเค้าได้เลย
คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักเฟรนลี่มาก
บอกป้าว่ามา 8 คน
ได้ซาชิมิรวมมา ราคา NT$1,800
จานใหญ่มากแม่ หรือใครจะทานตัวไหนเป็นพิศษ
ลองสั่งแบบ NT$300 , NT$500 ก็ได้อยู่นะ
ส่วนตัวอิ้มชอบแซลมอนเป็นพิเศษ
รอบหน้าจะมาลองแซลมอนอย่างเดียว
แซลมอนเค้าดีมากกกก หั่นชิ้นโต เต็มคำ
ตลาดปลาไทเป (Taipei Fish Market)
ตลาดปลาไทเป
(Taipei Fish Market, 台北魚市)
เป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ
ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
หรืออีกชื่อที่เรียกกันมาอย่างคุ้นหูว่า
Addiction Aquatic Development
หรือเรียกย่อๆ ว่าตลาด ADD
เป็นอาณาจักรแห่งอาหารสดใหม่
ทั้งของทะเล, ผัก, ผลไม้
และขนมต่างๆ
จัดให้บริการเป็นโซนของแต่ละประเภท
จะบอกว่าเป็นตลาดปลาที่ไฮโซมากกก ติดแอร์ด้วยจ้า
เลือกทานอาหารทะเลกันได้ตามใจชอบ
จะเอาแบบสดๆ หรือปรุงเสร็จแล้วก็มีให้เลือกทาน
อิ้มซื้อเสร็จแล้วก็มาทานที่โต๊ะด้านหน้าค่ะ
ความรู้สึกส่วนตัวนะ
อิ้มชอบซาชิมิที่ญี่ปุ่นมากกว่า
อาหารทะเลหลายอย่างที่ญี่ปุ่นถูกกว่า
และรสชาติก็ไม่เท่าญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ได้แย่นะ
คือพูดยังดี รสชาติ ปริมาณ
ราคา คุณภาพ อยู่ในระดับกลางๆ
มาลองทานกันได้ พอฟินอยู่ค่ะ
แต่แซลมอนขอยกให้ป้าร้านเมื่อกี้
แซลมอนเค้าดีจริง
ตึกไทเป 101(Taipei 101)
ไทเป 101 เป็นหนึ่งใน
Landmark หลักของเมืองไทเป
เป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน
และสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
(ปี 2004 เคยสูงที่สุดในโลก)
มีควาสูงมากถึง 508 เมตร
ตึกไทเป 101 มีทั้งหมด 101 ชั้น
ที่ชั้น 1-5 จะเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า
ขายของแบรนด์เนม ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ
โดยที่ชั้น 5 จะมีเค้าเตอร์ขายตั๋ว
สำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 89
แต่วันนี้อิ้มไม่ได้ขึ้นไปชมด้านบนนะคะ
การเดินทาง
ตึกไทเป 101(Taipei 101)
อยู่เชื่อมกับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Taipei 101
/World Trade Center Station
สายสีแดง ทางออก Exit 4
มาเดินเล่นด้านในเจอร้านชานมไข่มุกร้านนี้ เป็นร้านที่ 3 ในทริป
ราคา NT$149 เลือกสติ๊กเกอร์ และ ป้ายคล้องได้เอง
แต่ชาไม่อร่อย เจือจาง ไข่มุกพอได้
สวยแต่รูป จูบไม่หอม
ใครอยากตกเป็นเหยื่อทางการตลาดแบบอิ้ม
ลองดูได้นะคะ 5555
ตาบรีสไปโดนบิงซูไข่มุก
กับมะม่วง ส่วนตัวอิ้มว่าไม่อร่อยเลย 5555
เดินออกมาอีกนิดจะเป็นจุดถ่ายรูปตึกไทเปค่ะ
จุดนี้คือ Military Village
ยืนผิดเหลี่ยม เลยได้มุมนี้มาแทน 5555
ต่อมาเป็นมุมนี้ค่ะ อ้าวว ไหนมาถึงเป็นตึกแบบนี้
ถึงบางอ้อเลยค่ะ เค้าตัดต่อกัน
เลยลองมั่ง ปรากฎว่าไม่เนียน ><
จบจากการถ่ายรูปตึกไทไปแล้วนะคะ
ต่อไปเราจะไป Night Market
จริงๆ ที่ไต้หวันมีตลาด Night Market เยอะมากก
แต่อิ้มเลือกมาที่
ตลาดกลางคืนหนิงเซี่ย
(Ningxia Night Market, 寧夏夜市)
เพราะที่นี่มีอาหารอร่อยๆ มากมาย
เวลา เปิด-ปิด : 17.30 – 24.00 น.
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT
มาลงสถานี Zhongshan ทางออก 2
แล้วเดินต่อค่ะ
ระหว่างทางเจอร้าน Penguin Cha Cha ร้านที่ 4 ในทริป
Penguin Cha Cha
มาลองกันหน่อยค๊า
ส่วนตัวอิ้มว่าอร่อยใช้ได้เลยนะ
แต่ติดหวานไปหน่อย
แต่หอมน้ำตาลบราวชูก้าร์มากก
ร้านนี้อิ้มไม่ค่อยเห็นคนไปรีวิว
ใครไปตลาดหนิงเซี่ยลองแวะไปทานได้น๊า
แก้วละ NT$60 ค่ะ
มาถึงแล้วว Ningxia Night Market
ของกินเยอะมากกกกก หอมมาก เดินไปหิวไป
อิ้มมาทานหอยทอดที่ร้านนี้ค่ะ
เค้าว่าได้มิชลินไกด์ด้วยนะ
คนต่อคิววยาวมากกกก
ข้าวหน้าหมูตุ๋น NT$30
อร่อยมากๆ แต่หมูน้อยไปนิด
ซุปหัวไชเท้า NT$60
อันนี้ซดคล่องคอ
เหมือนซุปที่แม่ทำให้กินตอนเด็กๆ
กลมกล่อม อร่อยมาก
หอยนางรมทอดกระเทียม NT$140
อันนี้อร่อยมาก หอยนางรมสดหวาน
ทางคู่กับกระเทียมเจียวและขิงอย่างฟิน
แหมมม ถ้าได้ซอสพริกศรีราชานะ
ต้องอร่อยมากกแน่ๆ
หอยทอดเมนูแนะนำค่ะ จานละ NT$50
หอยทอดอร่อยมาก
หลายคนอาจจะมองว่าจานเล็ก
แต่อิ้มว่าไม่นะ ทานแบบนี้กำลังพอดีไม่เลี่ยน
แต่น่าเสียดาย
ถ้าได้ซอสพริกศรีราชาบ้านเรา
จะฟินกว่านี้มากกกก
เดินไปเรื่อยๆ จะเจอเห็ดย่างค่ะ
NT$100 แอบแพงแต่อร่อย
ต้มซุปตับ NT$50 ถ้วยนี้อร่อยมากก
ตับละมุน น้ำซุปกลมกล่อม
อิ้มไม่ได้ถ่ายหน้าร้านมาให้เพราะคนเยอะมากกก
ลองดูในคลิปอิ้มอีกทีน๊า
ต่อมาร้าน เผือกทอดไส้ไข่เค็มหมูหยอง
ร้านนี้เค้าได้ Bib Gourmand Selections
จาก Michelin Guide
ประจำปี 2018 ลูกละ NT$25
พอลองกินแล้วคือแบบ เฉยๆ อ่ะ 5555
เสียเวลาไปต่อคิวมาก ต่อเป็นชั่วโมงเลย TT
ต่อมาชมนมร้าน
50 LAN (50嵐) หรือ อู่สือหลาน
ร้านที่ 5 ในทริป
เป็นอีกร้านที่รอคอย รสชาติชานมพอดีนะ
แต่อิ้มว่าจืดไป
ไข่มุกมีขนาดพอดีคำ ไม่หนึบมาก ตัวไข่มุกดีแต่ชาเฉยๆ
ราคา : NT$50
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยภาพนี้ค่ะ
Day 4
วันสุดท้ายอิ้มก็เที่ยวในไทเปนะคะ
เช้านี้เรามาเริ่มที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก
Chiang Kai-Shek Memorial Hall
อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก
(Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
เป็นหนึ่งสัญญลักษณ์ของประเทศไต้หวัน
และสถานที่ท่องเที่ยวหลัก
ที่ต้องมาของเมืองไทเป
การเดินทาง อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก
(Chiang Kai-Shek Memorial Hall)
อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT
สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall
สาย 2 สีแดงและสาย 3
สีเขียว ออกที่ทางออก Exit 5
เสร็จจากเชียงไกเช็ค
เราก็กลับไปที่
สถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall
แล้วออกทางออก 2
เพื่อไปกินชานมไข่มุกเจ้าดังอีกร้านนึงค่ะ
ร้านนี้มีชื่อว่า เจิน จู่ ตั๊น (Jen Ju Dan)
เป็นร้านที่ 6 ในทริป
เจิน จู่ ตั๊น (Jen Ju Dan)
ชานมไข่มุกร้านนี้เค้าชาจะหอมเป็นพิเศษ
รวมถึงใช้นมคุณภาพดี ส่วนตัวชอบมาก
เป็นเมนู ชานมสดไข่มุกน้ำตาลทรายแดง
ที่รสเข้มข้น นุ่มละมุน
ไข่มุกอร่อยมากกก ราคา NT$65
ติดกันจะมีร้านอาหารชื่อดังชื่อร้านว่า
จิงฟงหลู่โร่วฟ่าน
(Jin Feng Braised Pork Rice – 金峰魯肉飯)
ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ รูปภาพ
และราคาบอกไว้ชัดเจน
หมูสามชั้นพะโล้ราดข้าว NT$70
น่าทานมากกกก
โดยรวมรสชาติใช้ได้ค่ะ
กลมกล่อมรสชาติอารมณ์อาหารจีน
พวกหมูพะโล้ นุ่มพอใช้ได้
แต่อิ้มว่าถ้าตุ๋นได้ที่กว่านี้หน่อยจะดีมาก
ส่วนพวกที่เป็นต้มๆ ตุ๋นๆ อร่อยหมด
รสชาติกลมกล่อมดีค่ะ
มารอบหน้าจะมากินอีกแน่นอน
การเดินทาง
มาสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall
แล้วออกทางออก 2
เปลี่ยนชาไข่มุกมา Drinkstore บ้าง
น้ำเสาวรสดีต่อใจ ราคา NT$55
วัดหลงซาน
(Lungshan Temple, 艋舺龍山寺)
เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่
และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ของเมืองไทเป
ตั้งอยู่ในแถบย่านเมืองเก่า
มีอายุเกือบ 300 ร้อยปีแล้ว
สร้างขึ้นโดยคนจีนชาวฝูเจี๊ยนช่วงปีค.ศ. 1738
เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชา
สิ่งศักสิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน
มีรูปแบบทางด้านสถาปัตยกรรม
คล้ายกับวัดพุทธของจีน
มีลูกผสมของความเป็นไต้หวันเข้าไปด้วย
จนบางคนเรียกกันว่าเป็นวัดสไตล์ไต้หวัน
ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว
ที่ไม่ควรพลาดของเมืองไทเป
วันที่อิ้มไปมีเทศกาลด้วยค่ะ คนคึกคักเป็นพิเศษ
วิธีการขอพรจากเทพเจ้าที่วัดหลงซาน
เมื่อเดินผ่านประตูมังกรเข้ามาแล้ว
ขวามือจะเป็นซุ้มขายเครื่องบูชาและธูปเทียน
โดยทางวัดจะมอบธูปหนึ่งดอกให้ฟรี
โดยใช้สำหรับ
ไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งอยู่กลางวัด
และหลังจากนั้นก็เดินวนขวา
ไหว้เทพเจ้าต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่มาวัดหลงซาน
คือการมาขอคู่รักจากเทพเฒ่าจันทรา
เฒ่าจันทรานี้
จะตั้งอยู่ด้านในสุดของวัด
ซึ่งถ้าหากเดินเข้าวัดทางประตูมังกร
ซึ่งอยู่ทางขวาสุด
คุณจะต้องเดินวนขวาไปทางด้านหลัง
และเทพเจ้านี้
จะอยู่มุมซ้ายสุดด้านหลังค่ะ
นอกจานั้นทางออกของวัดหลงซาน
จะมีซุ้มขายของที่ระลึก
หรือเครื่องบูชาต่างๆอยู่ด้วย
หาซื้อไปบูชาได้เลยนะคะ
การเดินทาง นั่ง MRT สายสีน้ำเงิน
มาลง สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT Longshan Temple Station
ให้ออกที่ทางออก Exit 1
จะเจอกับซุ้มประตูทางเข้าวัด
เดินตรงเข้าไปประมาณ 200 เมตรก็ถึงค่ะ
เดินเลยมาอีกนิดจะเป็น Bopiliao Historical Block
ด้านในจะเป็น มุมชิคๆ ให้ถ่ายรูปเก๋ๆ
และแน่นอนค่ะ มื้อเย็นของเราวันสุดท้าย คือ Xin Mala Hotpot
ราคาบุฟเฟ่ต์ แบ่งตามช่วงเวลา
เวลา 11.30 am -16.00 pm ราคา NT$ 635
เวลา 16.00 pm – 02.00 am ราคา NT$ 725
ส่วนวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาเดียว NT$725
เด็ก ต่ำกว่า 90 cm ฟรี
/ 91-110 cm 180 NTD /
111-140 cm 360 NTD
ที่สำคัญ มาทานคนเดียวบวกเพิ่ม NT$ 100 /
กินเหลือปรับคนละ NT$ 200
ติดกับร้านชาบูจะเป็น
TIGER SUGAR
ร้านดังในดวงใจ เป็นร้านที่ 7 ร้านสุดท้ายในทริปค่ะ
Brown Sugar Milk ราคา NT$55
อิ้มว่ามันละมุน มันดีย์
ไข่มุกอร่อย น้ำตาลที่เคลือบแก้ว
พอมันมาผสมกับนมแล้วโคตรเข้ากันดี
ส่วนตัวชอบอีกแล้วจ้า
ปิดท้ายค่ำคืนสุดท้ายที่ไต้หวัน
ด้วยการซื้อของฝากและเดินเล่นที่ย่าน Ximending
เป็นย่านที่คึกคักตลอดเวลาจริงๆ
ตกเป็นเหยื่อทางการตลาดอีกแล้ว
รสชาติอร่อยนะ แต่เดี๋ยวๆ
นี่อิ้มแต่งตัวสีเดียวกับตู้เลยเหรอ 555
ไก่ทอด Hot Star สาขา Ximending
ราคา ชิ้นละ NT$120 ชิ้นใหญ่มาก ร้อนมาก
ส่วนตัวว่ารสชาติกลางๆ
แป้งกรอบและหนา เนื้อไก่น้อยไปนิด
น้ำมะระขาวผสมน้ำผึ้ง อร่อยมาก แก้วละ NT$80
เวลาความสุขมักผ่านไปไวเสมอ
ได้เวลากลับบ้านแล้วสินะ…
Day 5
กลับบ้านแล้วจ้าาาา เช็คอินก่อนใครที่เค้าท์เตอร์ Scootplus ได้เลย
ที่นั่งใหม่เอี่ยม สบายยยยย
ใครมาเที่ยวไต้หวัน
อย่าลืมใช้บริการนกสกู๊ตนะคะ
รับรองติดใจแน่นอน 😀
สำหรับไต้หวัน
เป็นเมืองที่น่ารักและเกินคาดมาก
เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงรักที่นี่
ไต้หวันเป็นเหมือนลิตเติ้ลแจแปน
แต่ที่ดีกว่าคือ อาหารราคาถูกกว่า
ค่าครองชีพถูกกว่า ทุกอย่างถูกกว่าเกือบหมด
(ยกเว้นอาหารทะเลบางอย่าง)
เที่ยวง่าย อาหารอร่อย
แถมผู้คนใจดีและน่ารักมาก
ที่ประทับใจมากอีกเรื่องนึงก็คือ
ค่ารถไฟถูกมากกกก
นั่งไปมาแบบไม่ต้องคิดเลย
บางสถานีไปกลับ
ถูกกว่าจ้างมอไซค์วินไปหน้าปากซอยอีก
อิ้มประทับใจมาก
และจะกลับมาอีกแน่นอนค่ะ
เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip