สวัสดีค่ะ วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปเที่ยวทะเลใต้กันอีกแล้ว
และครั้งนี้ อิ้มเลือกเข้าพักผ่อนที่โรงแรมอมารีภูเก็ต
“ที่นี่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง แต่ก็ไกลพอสำหรับความเงียบสงบ”
นี่คงเป็นคำนิยามสั้นๆ
ที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นอมารีภูเก็ตได้อย่างมากที่สุด
เพราะทำเลที่นี่อยู่ใกล้ป่าตอง ชายหาดชื่อดัง
ที่เป็นแหล่งรวบรวมสีสันในยามค่ำคืนของภูเก็ต
และด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ก็อยู่ภูบนเขา
ที่เดินไปอีกฝั่ง เราจะพบกับชายหาดอันเงียบสงบ
และวิวทะเลที่สวยงาม เป็นส่วนตัว ที่สวยเกินคาด
อิ้มมาภูเก็ตหลายครั้ง ส่วนตัวมองว่าอมารี เป็นโรงแรมใหญ่
มองจากภายนอกอาจจะดูวุ่นวาย
แต่พอเข้าพักจริงๆ ต้องบอกเลยว่า ต้องเปลี่ยนความคิดมาก
เพราะภายในเงียบสงบ แบ่งสัดส่วนห้องพักได้อย่างชัดเจน
มีหลากหลาย Roomtype ให้เลือกพัก
ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
ภายในยังมีห้องอาหารหลากหลายที่ดีเยี่ยมทั้งนั้น
อีกทั้งมี Breeze Spa สปาที่บอกว่าเลยว่า
วิวสวยมากกกกกกก เป็นการทำทรีตเม้นท์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ภายในโรงแรมสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ครบครัน จนอิ้มรู้สึกว่า ไม่อยากออกไปไหนเลย
เป็นการพักผ่อน ที่ทำให้อิ้มได้ชาร์ตแบตให้กับตัวเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้น ต้องบอกว่าพนักงานที่นี่น่ารักมาก
น่ารักตั้งแต่ GM ที่เดินมาทักทายแขกด้วยตัวเอง
ซึ่งอิ้มไม่ค่อยได้เห็นโรงแรมไหนทำ
ส่วนพนักงานคนอื่นก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
ถึงแม้แขกจะเยอะแค่ไหน ก็ยังเห็นรอยยิ้มได้เสมอ
ประทับใจมากที่เข้าพักที่นี่ และ อิ้มอยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ
ให้กับทุกท่าน ได้ลองไปสัมผัสที่นี่สักครั้ง
ส่วนการเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้
อิ้มขับรถ Chevrolet Colorado High Country
สี Black Meet Kettle ไปจาก กทม
จะบอกว่าตอนแรกแอบคิดว่ากระบะ อาจจะนั่งไม่ถนัด
วางของไม่ได้ ภายในฝั่งคนนั่งต้องเล็ก
บอกเลอออออ ว่าอิ้มคิดผิดมากกกก
ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย พื้นที่ภายในกว้างมากกกก
แถมระบบภายในก็เริ่ดสุดๆ
เพราะเค้าเป็นรถกระบะรุ่นแรกในตลาดที่
รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และมีฟังก์ชั่นรีโมทสตาร์ท
มีระบบและฟังชั่นต่างๆ มากมาย อิ้มขอยกตัวอย่างเบาๆ
ไม่ว่าจะเป็น
ระบบแจ้งเตือนลมยางรถ ซึ่งครั้งนี้เราขับรถทางไกล
มีจังหวะนึงที่ลมยางรถอ่อน ระบบก็แจ้งเตือนทันที
ปลอดภัยมาก ขับทางไกลอุ่นใจ หายห่วง
อีกทั้งระบบ รีโมทสตาร์ท (Remote Start)
ซึ่งอิ้มชอบมากกกกกกเป็นประโยชน์อย่างมาก
เวลาจอดกลางแจ้งด้วยการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจ
เพื่อให้ห้องโดยสารเย็นสบายก่อนขึ้นรถ
เค้ายังมี ระบบช่วยเหลือการจอดด้านหน้าและหลัง
พร้อมกล้องมองหลังที่มีเส้นกะระยะ
ถอยหลังได้อย่างปลอดภัย
เรียกว่าตัวช่วยพวกนี้ ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย
เดินทางได้อย่างสบายใจค่ะ
เอาหล่ะพร้อมแล้ว เดี๋ยวเราไปชมรีวิวนี้กันนะคะ
ช่องทางการติดต่อโรงแรม Facebook :
https://th-th.facebook.com/AmariPhuket
ช่องทางการติดต่อ Psstory
Facebook Page : https://www.facebook.com/psstorytrip
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDbovnzcEgLS-l5NFi1tj3Q
IG : https://www.instagram.com/psstorytrip/
E mail : amim_97@hotmail.com
การเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้
อิ้มขับรถ Chevrolet Colorado High Country
สี Black Meet Kettle ไปจาก กทม
จะบอกว่าตอนแรกแอบคิดว่ากระบะ อาจจะนั่งไม่ถนัด
วางของไม่ได้ ภายในฝั่งคนนั่งต้องเล็ก
บอกเลอออออ ว่าอิ้มคิดผิดมากกกก
ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย พื้นที่ภายในกว้างมากกกก
ขออธิบายในส่วนนี้กันอีกสักนิด
รีโมทสตาร์ท (Remote Start) คือ
สามารถสตาร์ทรถได้จากระยะไกลด้วยการใช้งานรีโมท
วิธีการใช้งาน รีโมทสตาร์ท (Remote Start)
เพียงแค่เรากดปุ่มจากรีโมทโดยกดปุ่มล็อก
และจากนั้นกดปุ่มสตาร์ทค้างไว้ 4 วินาที
จนกว่าไฟสัญญาณไฟเลี้ยวจะกะพริบ
เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ท ไฟหรี่จะสว่างขึ้น
เป็นสัญญาณว่ารถสตาร์ทด้วยรีโมทเป็นอันสำเร็จ
ภายในรถจะเปิดแอร์ที่ระดับความเย็น 25
องศาเซลเซียสให้โดยอัตโนมัติ
พอขึ้นรถมาก็เย็นชื่นใจ
แต่บางคนอาจจะกังวลว่า
เห้ยยสตาร์ททิ้งไว้เดี๋ยวรถจะหายรึเปล่า
โอ้ววว โนโนโน
เวลาที่เราใช้งาน รีโมทสตาร์ท
พอรถสตาร์ทติดระบบของรถยังจะล็อกทั้งหมด
เปิดเข้าไปไม่ได้ แถมเวลาขึ้นรถต้องเสียบกุญแจก่อนจึงจะขับรถได้
แต่ถ้าเราไม่เสียบกุญแจแล้วไปทำอะไรกับรถรถจะดับเองโดยอัตโนมัติ
ล้ำมากกกจร้า
ภายในพื้นที่คนนั่งด้านหลัง ถือว่ากว้างขวางนั่งสบาย
กล้องมองหลังที่มีเส้นกะระยะ
ถอยหลังได้อย่างปลอดภัย
ระบบแจ้งเตือนลมยางรถ ซึ่งครั้งนี้เราขับรถทางไกล
มีจังหวะนึงที่ลมยางรถอ่อน ระบบก็แจ้งเตือนทันที
ยางลมอ่อนแล้ววว แวะเช็คด่วนจ้าา ชอบระบบเค้ามากปลอดภัย ขับทางไกลอุ่นใจ หายห่วง
ถึงภูเก็ตอย่างปลอดภัย และสบายมากกกกกกก
เป็นกระบะที่มีความเท่ห์และดูเรียบหรูไปในตัว เจ๋งๆ จริงๆ ค่ะ
ด้วยความที่ใครๆ ต่างรู้ว่าโรงแรมอมารีภูเก็ต เปิดมานาน
ถือว่าเป็นลำดับต้นๆ ของหาดป่าตองเลยก็ว่าได้
หลายๆ คนรวมถึงอิ้ม จึงคิดว่าที่นี่ต้องเก่ามากๆ
คนไทยจึงมักมองข้ามที่นี่ไป
แต่ก็น่าแปลกที่ทำไม ชาวต่างชาติ ถึงชอบที่นี่นัก
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้อิ้มตกลงปลงใจมาพักที่นี่ดูค่ะ
เข้ามาในโรงแรมต้องบอกว่าว้าววมาก กับพื้นที่โดยรอบ กว้างขวางจริงๆ
มาถึงแล้วก็ต้องมาเช็คอินกันก่อน
ล็อบบี้ต้อนรับของ Amari Phuket เป็นแบบ Open Air
บริเวณเพดานของล็อบบี้แห่งนี้
มีการตกแต่งอย่างโอ่โถง
ด้วยผลิตภัณฑ์จักสานหวายรูปรังนก
ซึ่งเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านอย่างงดงาม
สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของเกาะภูเก็ต
ที่สมัยก่อนมีนก นานาชนิด อาศัยอยู่มากมาย
เป็นการถักทอเรื่องราวและใช้วัสดุได้ดีเยี่ยม
จากจุดเริ่มต้น ก็เรียกความสุขให้อิ้มได้ในทันที
ด้วยรอยยิ้มจากพนักงาน
และ GM ที่นำพวงมาลัยสวยๆ มาคล้องมือ
พร้อมกล่าวทักทายต้อนรับ
ทำให้อิ้มประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง
รับ Welcome Drink พร้อมผ้าเย็น หอมๆ ชื่นใจ
บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมสามารถเชื่อมต่อไปยัง
ซูพีเรียร์ วิง และดีลักซ์ วิง
และนอกจากนั้นยังเชื่อมไปถึง
สระว่ายน้ำของ ตึก Superior และ Deluxe Wing
คือต้องบอกว่าด้วยพื้นที่ที่กว้างขวาง
ภายในโรงแรมจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ 3 สระ
เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง 2 สระ
และ เดอะ คลับเฮ้าส์
(เฉพาะแขกที่พักห้อง Club Suites เท่านั้น)
ซึ่งเป็นคลับเฮ้าส์ที่มีวิวจากสระว่ายน้ำสวยงามมาก
และยังมีห้องอาหาร 5 ห้องอาหาร
บรรยากาศดีทุกที่ รสชาติอร่อย
ซึ่งอิ้มจะค่อยๆ แนะนำไปทีละส่วน
ตอนนี้เรายังอยู่ที่อาคารล็อบบี้นะคะ
เดินลงมาสักหน่อย เราจะเจอกับสมุทรบาร์
อิ้มบอกเลยว่าตะลึงกับมุมนี้มาก
ของจริงอลังการกว่าภาพถ่ายเยอะมาก
สมุทร บาร์คือ สถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายความเครียด
มีที่นั่งสบายๆ จากตรงนี้เราจะได้ตื่นตาตื่นใจ
กับวิวทิวทัศน์แบบพาโรราม่าริมอ่าว
ซึ่งวันไหนอากาศดีๆ เราจะเห็นทะเลสีฟ้า
ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ได้อย่างสวยงาม
วิวไม่ได้สวยเฉพาะกลางวันนะคะ ช่วงพระอาทิตย์ตก ที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน
วิวแบบนี้นั่งมองทั้งวันยังได้เลยค่ะ
อีกอย่างที่จะบอกก็คือ มาที่นี่ ห้ามลืมสั่งเครื่องดื่มมาทาน มีทั้ง Cocktail กับ Mocktail และน้ำผลไม้
และเครื่องดื่มให้บริการอีกนานาชนิด
เดินลงมาอีกหน่อยจะเป็น Shop ค่ะ มีผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้า อุปกรณ์ดำน้ำ มาวางจำหน่าย
ลงมาด้านล่างจะพบกับ Voyager Lounge
ห้องนี้นอกจากจะมานั่งเล่นนั่งพักกันแล้ว
จุดประสงค์หลักคือ
เป็นห้องสำหรับแขกที่มาเช็คอินก่อนเวลา
แล้วห้องยังไม่เรียบร้อย
และแขกที่ต้องเช็คเอ้าท์ แต่มีบินไฟล์ทเย็น ไฟล์ทดึก
ให้ได้มานั่งพักผ่อนได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เริ่ดและใส่ใจกับรายละเอียดมากๆ
มีห้องอาบน้ำ ล็อคเกอร์ สำหรับเก็บของ แยกชายหญิงเป็นสัดส่วน
มุมคอมพิวเตอร์ มีอินเตอร์เนทใช้บริการด้วยค่ะ
ด้านในเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ มีมุมนั่งพักผ่อนมากมาย
มีจอทีวีขนาดใหญ่ ให้นั่งรอ นอนรออีกด้วยค่ะ
วิวจาก Voyager Lounge ค่ะ สวยไม่เบาเลยทีเดียว
ติดกันจะเป็นคิดส์คลับสำหรับน้องๆ นู๋ๆ ค่ะ
เดินลงมาอีกนิดจะเจอกับสระว่ายน้ำสระแรกค่ะ
ซึ่งติดกันจะเป็นห้องอาหาร La Gritta Restaurant
ห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดังมากกกก
ติดอันดับ 1 ใน 5 ของร้านอาหารภูเก็ตที่ต้องมาลิ้มลอง
เค้าจะแบ่งเป็น 2 ชั้น
ด้านบน จะเป็นเหมือนบาร์ที่ให้บริการเฉพาะเครื่องดื่ม
มองเห็นวิวทะเล และอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ
ด้านล่างจะเป็นห้องอาหาร มีไวน์ชั้นเลิศ
อาหารอิตาเลียนรสเลิศไว้ให้บริการ
ที่สำคัญร้านอาหารนี้บรรยากาศดีมาก และต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะได้ทาน
อยู่ติดริมทะเลเลยค่ะ
ซึ่งอิ้มจะแยกเป็นอีกรีวิวนึงให้ชมนะคะ
ห้องพักของโรงแรมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ค่ะ
คือตึก Superior และ Deluxe Wing
และตึกใหม่: Ocean Wing
ซึ่งจะแบ่งเป็น Roomtype ต่างๆ ดังนี้
ตึก Superior และ Deluxe Wing
– Superior Ocean Facing ขนาด 33 ตร.ม จำนวน 61 ห้อง
– Superior Ocean View ขนาด 33 ตร.ม จำนวน 45 ห้อง
– Deluxe Ocean View ขนาด 43 ตร.ม จำนวน 84 ห้อง
– Junior Suite Ocean Facing ขนาด 70 ตร.ม จำนวน 4 ห้อง
– One Bedroom Deluxe Suite Ocean View ขนาด 70 ตร.ม จำนวน 3 ห้อง
ตึกใหม่: Ocean Wing
– One Bedroom Suite ขนาด 39 – 44 ตร.ม จำนวน 20 ห้อง
– One Bedroom Suite Ocean Facing ขนาด 39 – 44 ตร.ม จำนวน 61 ห้อง
– One Bedroom Suite Club Ocean View ขนาด 60 ตร.ม จำนวน 37 ห้อง
– One Bedroom Suite Club Ocean View Balcony ขนาด 39 – 44 ตร.ม จำนวน 24 ห้อง
– Two Bedroom Suite ขนาด 78 – 88 ตร.ม จำนวน 2 ห้อง
– Two Bedroom Suite Ocean Facing ขนาด 78 – 88 ตร.ม จำนวน 23 ห้อง
– Two Bedroom Suite Club Ocean View ขนาด 78 – 88 ตร.ม จำนวน 5 ห้อง
– Two Bedroom Suite Club Ocean View Balcony ขนาด 112 ตร.ม จำนวน 11 ห้อง
วันนี้อิ้มพักที่ ตึกใหม่: Ocean Wing
เรียก Buggy ขึ้นไปได้เลยค๊า
อ้อๆ อิ้มลืมแจ้งไป ถึงที่นี่จะมีขนาดกว้างขวาง
ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินให้เหนื่อยเมื่อยล้า
เพราะเค้ามี Buggyให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
ห้องพักของอิ้มในัวนนี้ก็คือ One Bedroom Suite Ocean View Balcony
ขนาดห้องกว้างมากก เปิดมาเจอวิวแบบนี้ เห็นแล้วฟินมากกก
ข้อดีของการพัก Roomtype นี้ก็คือ จะได้เข้าใช้บริการ Clubhouse ด้วยค่ะ
เปิดประตูมาจะเป็นมุมครัว
มินิบาร์และเครื่องดื่มต่างๆ ในตู้เย็นจะมีค่าใช้จ่ายบอกไว้นะคะ
ชา กาแฟ น้ำเปล่า ทานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
จะบอกว่าอุปกรณ์ทำครัวมีครบชุดนะตัวเทออออ
ถัดมาจะเป็นโซฟานั่งเล่น และโต๊ะทานข้าวค่ะ
ติดกันจะเป็นประตูเปิดออกไปเป็นวิวระเบียงออกไปชมทะเลด้วย
ถัดมาจะเป็นห้องนอนค่ะ ซึ่งก็มีระเบียงออกไปชมวิว มุมนี้สามารถมองเห็นวิวทะเลจากบนเตียงเลยน๊าา
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และถัดไปเป็นห้องน้ำค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกได้อย่างชัดเจน
อเมนิตี้และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เป็นของ Breeze Spa ค่ะ
ออกมาชมวิวทะเลจากห้องพักสักหน่อย
มองเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกสบายตามากกก
เดี๋ยวอิ้มพามาชม Roomtype อื่นกันบ้างนะคะ เริ่มตั้งแต่ ตึก Superior และ Deluxe Wing
ห้องนี้จะเป็น Superior Ocean View
ถึงอยู่ตึกเก่า แต่ห้องพักไม่เก่านาจาาา
ภายในห้องน้ำค่ะ
แล้ววิวทะเลคือแบบนี้ คือออ จะดีไปไหน ราคาห้องนี้วันธรรมดาอยู่ที่ 4000 ++ บาท
(ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานะคะ)
วิวทะเลแบบนี้นั่งมองได้ไม่มีเบื่อเลย
ต่อมาจะเป็น Deluxe Ocean View ขนาดกว้างขึ้นมาหน่อย 43 ตร.ม
วิวจากระเบียง ว้าววอีกแล้วค่ะ
ต่อมาจะเป็น Roomtype สูงสุดของที่นี่
Two Bedroom Suite Club Ocean View Balcony
ภายในห้องกว้างขวางด้วยขนาด 112 ตารางเมตร
เข้ามาจะเป็นส่วนกลางซึ่งมีทั้งห้องนั่งเล่นและห้องครัว
มุมห้องครัว
ติดกันจะเป็นมุมห้องนั่งเล่น ทีวี
ด้านนอกจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ มองเห็นวิวทะเลชัดเจน
Master Bedroom ค่ะ
มีห้องแต่งตัวก่อนจะแยกออกไปเป็นห้องน้ำ
อีกหนึ่งห้องนอน
ภายในห้องน้ำ
วิวจากห้องนอนค่ะ ดีมากกกก
ใครมาเป็นครอบครัวใหญ่ แนะนำห้องนี้เลยนะคะ กว้างขวาง วิวดี หรูหรา
มาถึงในส่วนของ Clubhouse ค่ะ
Clubhouse จะเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะแขกที่พักห้อง
One Bedroom Suite Ocean View Balcony ขึ้นไป
เพื่อความ Private และเป็นส่วนตัวมากขึ้น
โดยด้านบนจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายดังนี้
– สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ และมุมอาบแดด
– ฟิตเซ็นเตอร์ ศูนย์ออกกำลังกาย เปิด 6:00 น. ถึง 20:00 น. ทุกวัน
– อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ทุกวัน ตั้งแต่ 6:30 น. ถึง 10:30 น.
– ฟรี ชากาแฟและอาหารว่างตลอดทั้งวัน
– ฟรี Happy Hour (Cocktail Hour) ทุกวัน
ที่ประกอบด้วยไวน์ชั้นเลิศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล ค็อกเทล น้ำอัดลม
คานาเป้พิเศษจากเชฟ และเมนูสเต็กประจำวัน
ให้บริการตั้งแต่เวลา 17:30 น. – 18:30 น.
แต่พิเศษสำหรับแขกที่พัก One Bedroom Suite ขึ้นไป
สามารถซื้อแพคเกจเข้าใช้บริการ Clubhouse ได้ค่ะ
เดี๋ยวอิ้มพาไปชมด้านในกันนะคะ
ในช่วงเย็นของแต่ละวันจะเป็นช่วงเวลา Happy Hour
แขกส่วนมากที่มีสิทธิใช้บริการ Clubhouse
จะมาอยู่ที่นี่เกือบทั้งหมด
ส่วนนึงก็คงเป็นเพราะเค้ามีบริการ Cocktail Hour ทุกวัน
ที่ประกอบด้วยไวน์ชั้นเลิศ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล ค็อกเทล น้ำอัดลม
คานาเป้พิเศษจากเชฟ และเมนูสเต็กประจำวัน
ให้บริการตั้งแต่เวลา 17:30 น. – 18:30 น.
และอีกส่วนนึงคงเป็นเพราะวิวด้านบน
เวลาพระอาทิตย์กำลังจะตก เรียกว่าสวยจับใจ
มาสำรวจไลน์อาหารค่ะ บอกเลยทานที่นี่มื้อเย็นไม่ต้องก็ได้นะ
เครื่องดื่มตรงนี้ ฟรีไม่อั้น 1 ชั่วโมงเต็ม
เท่านั้นยังไม่พอ เค้ายังมีคานาเป้ เสิร์ฟให้ห้องละ 1 ชุด
ฟินกันไปค่ะ
แต่ความสวยงามของที่นี่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ อิ้มมีมุมลับอีกมุม จะพาไปชมค่า
เรากำลังจะเดินไปชมพระอาทิตย์ตกที่เดอะเจตตี้ มองไกลๆ วิวยังสวยได้ขนาดนี้เลยค่ะ
เดอะ เจตตี้ ภัตตาคารริมทะเลของอมารี ภูเก็ต
ที่นี่ให้คุณได้ใกล้ชิดริมทะเล
เค้าจะให้บริการอาหารง่ายๆ เช่น สลัด, แซนวิช และค็อกเทล
ให้เรานั่งชมวิวบนระเบียงที่ยื่นออกไปเหนือท้องทะเล
ในช่วงกลางวัน สามาระนอนทอดกายบนเก้าอี้อาบแดด
หรือดำน้ำบริเวณเดอะเจ็ตตี้
และหลังจากพระอาทิตย์ตกแบบนี้
จะมีอะไรเพลินไปกว่าการมีความสุขกับการจิบไวน์เบาๆ
นั่งมองวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกเอื่อยๆ
แสงสุดท้ายของวันกำลังจะหมดไป …
เช้าวันใหม่ อิ้มเลือกมาทานอาหารที่ The Clubhouse เพราะมีความเป็นส่วนตัว
ยามเช้าที่สระว่ายน้ำของ The Clubhouse ก็สวยงามมาก มองเห็นวิวทะเลภูเก็ตได้อย่างเต็มตา
ใครอยากมาว่ายน้ำแนะนำตอนเช้านะคะ นอกจากไม่มีคนแล้ว วิวสวยมาก แดดก็ไม่แรงด้วย
ชั้นสองก็มีเก้าอี้ไว้นั่งอาบแดดชมวิวทะเล
เดินมาอีกนิดจะเป็นฟิตเนสค่า สายสุขภาพ มาทางนี้เลยยย
มาทานอาหารเช้ากันค่า วิวแบบนี้ ทุกว่าโอเคไหมมมม
ถ้าหากเราพักในห้องที่รวมคลับเฮาส์
สามารถทานที่คลับเฮ้าส์ หรือห้องอาหารหลักก็ดะ
ข้อดีของการทานบนคลับเฮ้าส์ก็คือ คนน้อยกว่า อาหารพรีเมี่ยมกว่า
ข้อเสียก็คือ อาหารน้อยกว่า เท่านี้เองค่ะ
ในส่วนของห้องอาหารหลักอิ้มจะพาไปชมในรีวิวถัดไปนะคะ
ไลน์อาหารด้านบน ดูดีมีชาติตระกูลมากกกกก
นอกเหนือจากในไลน์ เราก็สามารถสั่งจากเมนูได้ ไม่อั้นด้วยค่ะ
ทานอาหารเช้ากันนะ
ทานอาหารเช้าเสร็จก็เรียกบัคกี้ไปส่งที่สระว่ายน้ำหลัก ซึ่งอยู่ติดกัห้องอาหาร ริมทะเล (Rim Talay)
ตรงนี้เป็นริมทะเลบาร์ค่ะ
ก่อนกลับแวะเอาบรรยากาศห้องอาหาร ลา กริตต้าชั้นบนมาฝาก
สวยมากกกกก อิ้มประทับใจที่นี่มากจริงๆ ค่ะ
ทะเล แบบนี้ ท้องฟ้า แบบนี้ ที่อิ้มรัก
ประทับใจในทุกๆ ส่วนของอมารีจริงๆค่ะ รอบหน้าอิ้มจะมารีวิวห้องอาหาร ลากริตต้า ห้องอาหารริมทะเล และ Breeze Spa ให้ชมกันนะคะ ข้อทิ้งท้ายรีวิวนี้ด้วยภาพนี้ค่ะ
สำหรับ Amari Phuket
อิ้มว่าเป็นโรงแรมที่สวยมากๆ
ขนาดเปิดมาหลายปีแล้วก็ยังดูแลส่วนต่างๆ ได้ดี
ห้องพักสวยงาม
มีสิ่งอำนวยความสะวดกเยอะมาก แทบไม่อยากไปไหน
ห้องอาหารอร่อยเกือบทุกห้องอาหาร
พนักงานบริการดีมากๆ
มีโอกาสอยากให้ลองมาพักผ่อนสักคืนรับรองต้องประทับใจมากเหมือนอิ้มแน่นอน
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip