ฮัลโหลทุกคน วันนี้อิ้มจะชวนมาเที่ยวฟุกุชิมะกันค่ะ
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่อิ้มได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองนี้
อิ้มเป็นคนไม่ชอบช็อปปิ้งเท่าไหร่
อิ้มชอบถ่ายภาพ ชอบเพลินเพลินไปกับธรรมชาติ
มีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้ออกไปเจอที่เที่ยวใหม่ๆ
เพราะฉะนั้นการไปเที่ยวญี่ปุ่น อิ้มมักออกนอกเมืองเสมอ
และฟุกุชิมะ ก็เช่นกัน ที่นี่ทำให้อิ้มประทับใจ
ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาแล้ว
ต้องยอมรับว่าที่นี่ทำให้หัวใจพองโตได้จริงๆ
ฟุกุชิมะ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก คนเที่ยวไม่มาก
อาหารราคาไม่แพง ที่พักสวยราคาถูก ผู้คนน่ารักอัธยาศัยดี
มีโอกาสอยากให้ทุกท่านลองไปเที่ยวกันค่ะ
สำหรับครั้งนี้ อิ้มจะพาไปเที่ยวฟุกุชิมะในฤดูหนาว
โดยจะรีวิวเป็น 8 รีวิว ตามวันที่เดินทาง รีวิววันต่อวัน มีทั้งแบบรีวิว
และคลิปวีดีโอ เพื่อใครอยากตามรอยจะได้ง่ายมากขึ้น
รับรองว่าฟินไม่แพ้ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแน่นอน
ถ้าทุกคนพร้อมแล้วตามไปเที่ยวฟุกุชิมะหน้าหนาวกับอิ้มได้เลยค่ะ
การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองบอกเลยว่าง่ายมากกกกกกก
หลายคนอาจจะกลัวหลง กลัวไม่ทันรถไฟ กลัวไปผิดเมือง
แต่อิ้มบอกเลยว่า ไม่ต้องกลัว เพราะญี่ปุ่นเที่ยวง่าย
แถมผู้คนยังเป็นมิตรมากๆ ส่วนการเตรียมตัวอิ้มจะสรุปเป็นข้อๆ
ว่าเราจะไปญี่ปุ่นควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ดังนี้ค่ะ
1.แพลนทริปการเดินทางและศึกษาข้อมูลในที่ๆ จะไป
ควรแพลนตารางคร่าวๆ ว่าเราอยากไปที่ไหนบ้าง ลองศึกษาวิธีการเดินทาง
จะได้ทำให้เราไม่เสียเวลาในการเที่ยว อย่างเช่นเวลาไปญี่ปุ่น
เรื่อง Pass เป็นสิ่งสำคัญมาก
ครั้งนี้อิ้มไปฟุกุชิมะ ต้องใช้พาส JR East pass tohoku
JR East pass tohoku สามารถซื้อมาจากไทยได้เลย
ซึ่งรอบนี้อิ้มซื้อจาก KK DAY ตามลิ้งค์นี้จร้า
JR East Pass ( Tohoku Area ) : https://bit.ly/2RWOPfq
เว็บไซต์ kkday : https://bit.ly/2HFGYOy
2. PASSPORT
หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน
3. การจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
ครั้งนี้อิ้มบินสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไปลงที่โตเกียว
เพราะราคาสบายประเป๋ามากกกกกกกก
ยิ่งจองล่วงหน้ายาวๆ ยิ่งราคาถูก
เค้ามีบริการหลากหลายน่าสนใจ
แถมภายในมีที่นั่งให้เลือกมากมายทั้ง
Business Class Flatbed , Quiet Zone และ Hot Seat
เลือกนั่งได้ตามสไตล์ นอกจากนั้นอาหารบนเที่ยวบิน อร่อยถูกปาก
มีเมนูใหม่ๆ มาให้ลิ้มลองเรื่อยๆ ไม่มีเบื่อค่ะ
และอีกอย่างที่ชอบมากๆ คือเค้ามีหลายไฟล์ท ซึ่งอิ้มชอบเดินทางในไฟล์ทดึก
ก็ถึงโตเกียวเช้าเที่ยวต่อได้เลย สะดวกสบายมากๆ อ่อเปล่าหรอกจริงประหยัดค่าที่พัก อิอิ
ส่วนที่พักสามารถจองได้หลากหลายเวบไซด์
ซึ่งส่วนมากอิ้มจะใช้บริการกับ Traveloka เป็นหลัก
เพราะสามารถจองได้ครบทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก

DCIM100MEDIADJI_0242.JPG
5. POCKET WIFI หรือซิม
รอบนี้เลือกใช้ของ True เป็น TRAVEL SIM JAPAN
เที่ยวเมืองนอกสบายใจ เล่นเน็ตได้ในราคาสุดคุ้มมากๆ
ซึ่งตอนที่อิ้มไปยังเป็น 4 GB อยู่แต่ปัจจุบันอัพเดทเป็น 6 GB เรียบร้อย
ใช้งานได้ 8 วัน ในราคา 399 บาท เพิ่มคุณภาพแต่ไม่เพิ่มราคาจร้า
6. Power Bank
7. เงินและบัตรเครดิต ต้องเตรียมให้พร้อม
ที่ญี่ปุ่นจะใช้เงินเยนควรแลกไปให้พอดี
แต่หากช็อปปิ้งจนเงินหมด ไม่มีบัตรเครดิต ไม่ต้องกังวล
หากบัตรคุณมีสัญลักษณ์จำพวก VISA, MASTER CARD
สามารถกดเงินได้จากตู้เอทีเอ็ม ดังนี้
ตู้ ATM Sevenbank : อยู่ใน 7-11 แต่กดได้ทีละหมื่นเยนนะ ที่สำคัญเป็นภาษาไทย
กดสะดวก หาง่าย ไม่ยุ่งยาก
ตู้ ATM JP BANK : ตู้เยอะ ไม่ยุ่งยาก
ATM JP BANK เป็นกิจการของไปรษณีย์ญี่ปุ่น(Japan Post Bank)
ซึ่งตู้สีเขียวนี้เป็นอีกหนึ่งตู้ที่ให้บริการกดเงินเยนสำหรับนักท่องเที่ยว
อันนี้กดเริ่มต้นหลักพันได้ แต่จะเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
8. เสื้อผ้าที่เหมาะสม ตามฤดูกาล
รอบนี้อิ้มไปในช่วงตรงกับฤดูหนาวบอกเลยว่าถ้าจะให้ไปซื้อเสื้อผ้าหน้าผมใหม่
มีหวังแพงกว่าค่าทริปแน่ๆ
หลายครั้งที่อิ้มกับบรีสหมดค่าชุดไปญี่ปุ่นเยอะมากกก
และชุดบางชุดไม่สามารถเอามาใส่ในไทยได้
เพราะอากาศบ้านเราก็ร้อนเหลือเกิน
นอกจากนั้นยังไม่พอ ซื้อไปซื้อมา รกเต็มตู้ ไม่มีที่จะเก็บ
แต่ปัญหาพวกนี้จะหมดไป เพราะอิ้มใช้บริการร้านเช่าชุดกันหนาว 24 Dec
เค้าให้บริการ เช่าเสื้อกันหนาว เช่าชุดกันหนาว เช่าโค้ทกันหนาว
เช่ากระเป๋าเดินทาง และ เช่ารองเท้าบูท
และแบ่งออกเป็น เสื้อกันหนาวผู้หญิง เสื้อกันหนาวผู้ชาย
เสื้อกันหนาวไซส์ใหญ่ เหมาะกับคนอ้วนอย่างอิ้มมาก
เสื้อกันหนาวเด็ก รองเท้าบูท กระเป๋าเดินทาง
ราคาเช่าเริ่มต้นเพียง 250 บ. / 7 วัน
แถมมี ถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ ให้ยืมฟรี
และเค้ามีเสื้อกันหนาว มากกว่า 1,500 ชุด ให้เลือกอย่างจุใจ
เวลาเช่ามาบอกเลยว่าประหยัดเงินไปเยอะ
แถมมีชุดถ่ายอัพเฟสรัวๆ เปลี่ยนชุดใหม่ได้ทุกวัน
เริ่ดมากๆ ใครสนใจตามลิ้งค์นี้ไปเลยค่ะ
https://www.24decrent.com/
https://www.facebook.com/24decrent
9. ยาสามัญประจำตัว
10. ปลั๊กและ ADAPTER อันนี้ขอย้ำ
เพราะว่าญี่ปุ่นหัวปลั๊กบางอย่างจะไม่เหมือนที่ไทย
แนะนำให้เอาปลั๊กสามตาไปด้วยนะคะ
ยิ่งคนที่มีอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคเยอะๆ
เพราะปลั๊กชาร์ตแบตในห้องอาจไม่เพียงพอ
11. ประกันการเดินทาง
มีหลากหลายบริษัทให้เลือกนะคะ
ควรทำไว้เพราะว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ
แถมราคาประกันเดินทางเริ่มต้นหลักร้อย แต่คุ้มครองหลักล้าน
ลองเลือกดูนะคะ มีหลากหลายบริษัทเลย
12. กระเป๋าเป้ กระเป๋าเสื้อผ้า
หากเดินทางไกลแบบนี้คงจะไม่พูดถึงกระเป๋าไม่ได้เลย
สำหรับกระเป๋าเดินทางอิ้มเลือกใช้ของ Moof 49
กระเป๋าร้านเค้าทนทานมากกกก ใช้งานมานานหลายปี
ยังสภาพดี และทนทานสุดๆ
ส่วนกระเป๋าเป้ อิ้มเลือกใช้ DOUGHNUT BAG
แบรนด์จากฮ่องกง
แบรนด์นี้บอกเลยว่าน่ารักมากกกกก
ข้อดีของ DOUGHNUT BAG ก็คือมีมากมายกว่า 70 รุ่น
แต่ร้านที่อิ้มแนะนำเค้านำเข้ามาขายประมาณ 30 รุ่น
เป็นรุ่นที่คัดแล้วว่ายอดฮิตจริง อะไรจริง
อย่างรุ่นยอดฮิตก็จะมี macaroon ซึ่งมีหลากหลายไซส์
และหลากหลายสีมากกกกกกกกกกกกก
เลือกกันตาลาย แล้วแต่ละสีคือน่ารักมาก
แล้วนางก็ไม่ได้น่ารักอย่างเดียวนะ ทนทานด้วย
นักเดินทางแบบอิ้ม ถูกใจจริงๆ ค่ะ
รอบนี้อิ้มใช้ 2 รุ่นคือ Macaroon large size และ HUGO
ใช้งานดี ทนทาน แถมรูปทรงสวย น่ารัก เหมาะกับนักเดินทางอย่างอิ้มมากๆ เลย
ปล. สำหรับแฟนเพจ Psstory
ต้องมีสิทธิพิเศษแน่นอน
เพราะอิ้มมีโค้ดส่วนลด 5%
ให้กับแฟนเพจอิ้มทุกท่านที่ติดตาม เพจ Ps story
โดยใช้โค้ดสั่งซื้อที่หน้าเว็บไซต์ดังนี้
Code : Psstory2019
เท่านี้ก็รับส่วนลดไปเลยจร้า
เลือกชมสินค้าที่ : https://www.doughnutthailand.com/
เอาหล่ะ แนะนำมาเหยียดยาววววว พอรู้หลักการกันแล้ว
เดี๋ยวมาเริ่มต้นการเดินทางของอิ้มกันเล้ยยยย
เริ่มต้นการเดินทางโดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ไฟล์ท XJ 600 ค่ะ
เช็คอินเสร็จแล้วโหลดสัมภาระเรียบร้อยก็เข้าไปรอด้านใน
เตรียมตัวเดินทางกันค๊า
บินสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไปลงที่โตเกียว
เพราะราคาสบายประเป๋ามากกกกกกกก
ยิ่งจองล่วงหน้ายาวๆ ยิ่งราคาถูก
เค้ามีบริการหลากหลายน่าสนใจ
แถมภายในมีที่นั่งให้เลือกมากมายทั้ง
Business Class Flatbed , Quiet Zone และ Hot Seat
รอบนี้อิ้มเลือกนั่ง Quiet Zone
โซนนี้หลับสบายเสียงรบกวนน้อยสุดๆ
Quiet Zone ซึ่งจะเป็นโซนด้านหน้าเครื่อง
อยู่หลังโซน Premium Flatbed
Quiet Zone แบ่งเป็นที่นั่งแบบ 3-3-3
ใครอยากนั่งโซนนี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 500 กว่าบาท
เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย ซึ่งเอาจริงๆ
บินไฟล์ทดึกๆ แบบนี้ควรนั่งโซนนี้มาก
เพราะโซนนี้จะมีข้อกำหนด
ว่าต้องเป็นผู้โดยสารที่อายุ 12 ปีขึ้นไป
จึงจะโดยสารได้
ดังนั้นที่โซนนี้จึงไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงเด็กร้อง
และโซนนี้ยังมีที่นั่งเพียง 63 ที่นั่ง
ทำให้ไม่ค่อยมีเสียงดังจากกรุ๊ป หรือกลุ่มใหญ่ๆ
รู้สึก สงบ และเป็นส่วนตัว
นอกจากนี้ไฟที่ใช้ในโซนนี้จะเป็นไฟสีน้ำเงิน
ซึ่งว่ากันว่าจะทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ง่ายที่สุดด้วยค่ะ
บินไฟล์ทดึกถึงเช้าก็จะดีแบบนี้ตื่นเช้าได้เที่ยวต่อเลย
อ้อๆๆๆ มาถึงก็อย่าลืมปรับเวลากันใหม่นะ
เพราะเวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมงจร้า
ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย อุ้ยไม่ใช่ 555
กระบวนการ ตม มาแล้วก็ต้องรีบเปิดซิมค่ะ
ไม่ได้เล่นเฟส 6 ชั่วโมงกระวนกระวาย กระสับกระส่าย จะแย่ ><
ครั้งนี้อิ้มใช้ True เป็น TRAVEL SIM JAPAN
เที่ยวเมืองนอกสบายใจ เล่นเน็ตได้ในราคาสุดคุ้มมากๆ
ซึ่งตอนที่อิ้มไปยังเป็น 4 GB อยู่แต่ปัจจุบันอัพเดทเป็น 6 GB เรียบร้อย
ใช้งานได้ 8 วัน ในราคา 399 บาท เพิ่มคุณภาพแต่ไม่เพิ่มราคาจร้า
ครั้งนี้อิ้มไปฟุกุชิมะ ต้องใช้พาส JR East pass tohoku
JR East pass tohoku สามารถซื้อมาจากไทยได้เลย
JR East pass tohoku
สามารถใช้งานได้ 5 วัน ไม่ต้องติดต่อกันก็ได้
โดยจะยืดหยุ่นได้ถึง 14 วัน
ซึ่งรอบนี้อิ้มซื้อจาก KK DAY ตามลิ้งค์นี้จร้า
JR East Pass ( Tohoku Area ) : https://bit.ly/2RWOPfq
เว็บไซต์ kkday : https://bit.ly/2HFGYOy
ถ้าซื้อมาจากไทยจะได้เป็นสลิปมานะคะ
เรามาแลกเป็นพาสจริงที่นี่ได้เลย
โดย มาที่ JR EAST Travel Service Center
ต่อแถวพักนึงค่ะ
พอถึงคิวเรา ก็ให้เราแจ้งเจ้าหน้าที่เลยว่าจะไปลงที่ไหน
อย่างอิ้มไปลงที่ Fukushima ก็แจ้งเค้าไปได้เลยว่า Fukushima Station
และให้เค้าจองที่นั่งให้เราเลย
เค้าจะจองตั๋วให้เราตั้งแต่สนามบิน
ไปยังจุดหมายปลายทาง
ซึ่งการเดินทางไป ฟุกุชิมะ จะนั่งรถไฟสองต่อ
คือเริ่มจากการนั่ง Narita express ไปลงสถานีโตเกียว
เพื่อเปลี่ยนสายไปนั่ง Shinkansen และมุ่งหน้าไปยัง ฟุกุชิมะ
ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
สำหรับบางคนที่กลัวจะหลงตอนเปลี่ยนไปนั่ง Shinkansen ที่สถานีโตเกียว
แนะนำว่าตอนที่เค้าออกตั๋ว
ให้ทิ้งระยะเวลาช่วงที่เปลี่ยนขบวนไว้หน่อย
เลทไปขึ้นขบวนใหม่สักครั่งชั่วโมง หรือชั่วโมงนึงก็ได้
จะได้มีเวลาเข้าห้องน้ำ และหาอะไรรองท้องในมื้อเช้า
และจะได้ไม่ต้องรีบเดินจนหลงค่ะ
สำหรับใครที่มาจนชินก็ตีตั๋วด่วนเดินฉับๆ
ดิ่งไปตามเที่ยวรถไฟปกติได้เลย…
พอเสร็จก็ขึ้นมานั่ง NEX กันค่ะ
Narita express หรือ NEX
รถไฟเที่ยวนี้มุ่งเข้า Tokyo ไปยังหลายสถานีหลัก ไม่แวะสถานีย่อย
ยิงยาวไป Tokyo Station, Shinjuku
เพราะฉะนั้นสายนี้จะเดินทางถึง Tokyo Station ในเวลาไม่ถึง 1 ชม.
ซึ่งสะดวกมากกกกก
และนี่ก็คือหน้าตาของ Jr East pass Tohoku ค่ะ
ใช้เวลาไม่ถึง ชม ก็ถึงโตเกียว สเตชั่นแล้วค่ะ
สำหรับใครที่มาครั้งแรกแล้วกลัวจะงงเวลาขึ้น Shinkansen
ไม่ต้องกลัวนะคะ ให้เดินตามป้ายที่มีรูป ป้าย Shinkansen สีเขียว
เดินตามมาอย่างเดียวรับรองไม่หลงแน่นอน
จากนั้นก็ใช้บัตรเบ่งหรือ JR East Pass ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู
เค้าก็จะให้เราเข้ามาด้านในได้เลย
แล้วเราก็มาดูที่ตั๋วกันว่ารถไฟของเราอยู่ที่แทร็คไหน
ตามตั๋วของอิ้มเวลา 11.36 น. เป็น yamabiko 49 อยู่แทร็คที่ 21 จ้า
ถ้าใครหิวก็สามารถซื้อข้าวกล่องจากสถานีมาทานบน Shinkansen ได้เลยนะคะ
สถานีโตเกียวเป็นสถานีใหญ่มีข้าวกล่องหน้าตาน่าทานเยอะมากๆ
แต่อิ้มยังไม่หิวเท่าไหร่ก็กะว่าจะไปกินที่ ฟุกุชิมะ ทีเดียวดีกว่า
พอใกล้ถึงฟุกุชิมะ ก็มีหิมะออกมาให้เห็นบ้าง ช่วงที่อิ้มไปเป็นฤดูหนาว
ซึ่งอากาศหนาวมากอยู่ที่ -5 – 5 องศาเท่านั้น หนาวสุดๆ เลยค่ะ
ถึงแล้วก็หาอะไรรองท้องกันหน่อย
ที่สถานีฟุกุชิมะ ก็มีร้านอาหารประปราย
ซึ่งอิ้มเลือกทานร้านนี้ค่ะ Tonkatsu Shinjuku Pottery
อยู่ในสถานีฟุกุชิมะเลย
ร้านนี้เป็นร้านขาย Tonkatsu โดยเฉพาะ
มีทั้งหมู ไก่ ปลา สั่งได้ตามชอบ
สำหรับอิ้มโอเคนะคะ อร่อยใช้ได้แต่ไม่ได้พิเศษหวือหวานัก
แต่ชอบตรงทานกะหล่ำปลีได้ไม่อั้น
ขอเพิ่มได้ตลอดค่ะ
เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า มาทั้งคืน
อิ้มก็ทำแพลนไว้ตั้งแต่แรกว่า คืนแรกชั้นจองต้องนอนเรียวกัง
จะต้องได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะ !!!
อิ้มจึงเลือกพักเรียวกังที่มีชื่อเสียงมากๆ ในฟุกุชิมะ
ที่นี่มีชื่อว่า SANSUISO TSUCHIYU ONSEN
ตั้งอยู่ใน Tsuchiyu onsen จังหวัด Fukushima
ว่ากันว่าเป็นเรียวกังท่ามกลางหุบเขา และตัวออนเซ็นของเค้า
เป็นวิวน้ำตก Arakawa สวยงามมาก
แค่นึกภาพตามก็ฟินแล้วค่ะ
สำหรับการจองที่พักมาที่นี่ จะรวมรถรับส่ง
จากสถานีฟุกุชิมะไปถึงเรียวกังอยู่แล้ว
ทั้งขาไปและขากลับ แต่อาจจะต้องโทรจองล่วงหน้าก่อน
ซึ่งอิ้มโทรจองล่วงหน้าจากก่อนเดินทาง 1 วัน
โดยรถจะมีบริการทุกวันรับจาก
Fukushima station ( West’s Exit ) ตอนบ่ายสอง
เบอร์โทรศัพท์ตามนี้นะคะ ( Tel no. +81 24 595 21 41 )
พอบ่าย 2 ปุ๊ปรถก็มาตรงเวลาเป๊ะ ให้เราแจ้งชื่อเจ้าหน้าที่ได้เลย
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถสวยๆ ไปยังเรียวกังของเราในคืนนี้
โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ค่ะ
30 นาทีก็มาถึงที่นี่แล้ว
บรรยากาศดีสวยงามมากทีเดียว ที่นี่จะให้เช็คอินบ่าย 3 โมงนะคะ
ตอนอยู่โตเกียวว่าหนาวแล้ว พอมาถึงเรียวกังหนาวกว่ามากๆ
คงเป็นเพราะมีภูเขาโอบล้อม อุณหภูมิถึงเย็นลงมากขนาดนี้
รีบวิ่งเข้ามาเช็คอินด้านในกันดีกว่าค่ะ
เข้ามาจะเจอกับ ตุ๊กตาไม้เป็นสัญลักษณ์และมาสคอตของเมือง Tsuchiyu onsen
นั่งรอเช็คอินที่ล็อบบี้จ้าาาา วิวฟินมากพูดเลย
ขั้นตอนการเช็คอินก็ปกติค่ะ
จะมีเจ้าหน้าที่ ที่พูดภาษาอังกฤษได้มาแนะนำส่วนต่างๆ ให้เราฟัง
และมีเซ็ตเวลคัมน่ารักๆ ให้ทานก่อนขึ้นไปบนห้องพัก
ห้องพักเป็นสไตล์เรียวกังญี่ปุ่นเลยค่ะ ไม่ต้องตกใจที่ไม่มีเตียงนะ
หลังจากที่เราลงไปทานอาหารเค้าจะมาปูเตียงให้เรานอนค่ะ
ห้องกว้างขวาง ปูด้วยเสื่อทาทามิแบบดั้งเดิม
อิ้มจองมาสองคนในราคา 8000 บาทรวมอาหารเช้าและอาหารเย็น
วิวจิบกาแฟชมวิวภูเขา
ภายในห้องน้ำ
ชอบความที่มีอ่างอาบน้ำเล็กๆ ไว้ใช้แช่ตัว
โซนอ่างล้างหน้าและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า และ ผม ที่มีมาให้อย่างจัดเต็ม
ที่นี่จะแบ่งเป็น 3 อาคารหลักๆ มี East House ,มี Central House
มี Kachoen ซึ่งอิ้มพักอาคารนี้ค่ะ
และอาคารนี้เองจะมีออนเซ็นสวยๆ
ที่อิ้มตั้งใจมาแช่ พักผ่อนท่ามกลางวิวหิมะ
สำหรับการแช่ออนเซ็นที่นี่จะมีทั้ง Public Bath และ Private Bath
ซึ่งอิ้มจองแบบ Private Bath ไว้ด้วยค่ะ เรื่องราคาไม่แน่ใจ
ลองไปดูในคลิปนะคะ อิอิ
นอกจากนั้นในส่วนของ Public Bath จะอยู่ที่ Kachoen
อยู่บริเวณชั้น 6 ซึ่งมีบ่อออนเซ็นสำหรับแขกที่มาพักอยู่ 2 ห้อง
คือ Fuchi no Yu และ Taki no Yu
จะสลับชาย-หญิงให้ใช้งานได้ทั้งสองบ่อสลับกันกันตามช่วงเวลา เช้า – บ่าย
อิ้มขอพาไปชมในส่วนของห้อง Private Bath กันก่อนค่ะ
ห้องนี้ชื่อว่า Tarunoyu จ่ายเพิ่มในราคา 2 คน 1080 เยน
ลักษณะภายในจะเป็นบ่อไม้ อุณหภูมิน้ำ จัดว่าร้อนมากทีเดียวค่ะ
ขอแช่ออนเซ็นพักผ่อนร่างกายสักครู่นะคะ
บ่อออนเซ็นแบบ Public Bath
คือ Fuchi no Yu และ Taki no Yu
ภายในถ่ายภาพได้ประมาณนี้ค่ะ
ต่อมาอิ้มจะพามาชม บ่อออนเซ็นที่เป็นไฮไลท์ของที่นะคะ
บ่อนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ชื่อว่า Taishi no Yu
เป็น Public Bath outdoor Open air
บ่อนี้จัดว่าเรียกว่าสวยมากกกก
เพราะเห็นวิวน้ำตก Arakawa ได้อย่างเต็มตา
แช่ไป ชมวิวน้ำไป ฟินมากกกกกกกกกกก
แช่ออนเซ็นท่ามกลางวิวภูเขา น้ำตก และหิมะ อะไรจะดีแบบนี้
ชมออนเซ็นกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาทานอาหารเย็นค่ะ
ซึ่งห้องอาหารเย็น อยู่บริเวณ ล็อบบี้พอดี
พอถึงช่วงค่ำ ล็อบบี้ยิ่งมีความสวยงามไปอีก
ขอนั่งมองวิวแบบนี้ก่อนได้ไหม แบบนี้แหละที่ต้องการ แค่มองก็มีความสุขแล้ว
มาถึงมื้อ Dinner ของเราค่ะ
เรามาทานมื้อเย็นกันที่ห้องอาหาร Hisen ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของเรียวกัง
อย่างที่อิ้มเกริ่นไปนะว่าจองมาพร้อมอาหารเช้าและอาหารเย็น
โดยอาหารเย็นเริ่มตั้งแต่ 5 โมงถึง ทุ่มครึ่ง ให้แจ้ง No ห้องได้เลย
เค้าจะเสิร์ฟอาหารเป็นเซ็ตแบบไคเซกิ ค่ะ
บรรยากาศภายในคือมีความเป็นญี่ปุ่นสูงมากกก
ซึ่งอาหารแต่ละอย่างถูกจัดไว้อย่างสวยงาม พิถีพิถัน
แต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้น ใส่ใจรายละเอียดและประณีตสุดๆ
การเสิร์ฟอาหารแบบนี้เค้าจะใช้อาหารที่มีตามฤดูกาลมาให้เราทาน
อันนี้เหมือนข้าวห่อใบบัวเลยค่ะ
แต่เปิดมาเป็นปลาห่อใบอะไรสักอย่าง ด้านล่างเป็นมิโซะ อร่อยล้ำเลิศมาก
ข้าวจะถูกเสิร์ฟเป็นอย่างสุดท้ายก่อนทานขนมหวานค่ะ
ปิดท้ายด้วยขนมหวานก่อนนอน
เห็นเซ็ตเล็กๆ แบบนี้ อิ่มมากนะคะ
เพราะเค้าเสิร์ฟหลายจาน หลายอย่าง
กลับมาที่ห้องเค้าก็มาปูเตียงให้เราพร้อมนอนได้แล้วค่ะ
สำหรับ Day 1 อิ้มก็ขอตัวพักผ่อนก่อน
เดี๋ยว Day 2 จะไปต่อที่ไหน รอติดตามกันได้เล้ยยยย
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.psstorytrip.com
http://www.facebook.com/psstorytrip
http://www.instagram.com/psstorytrip
http://www.youtube.com/psstorytrip
สวัสดีค่ะ รีวิวดีมากเลยค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ มีเรื่องรบกวนสอบถามค่ะ เพิ่งจองห้องพักที่ sansuiso ไป แต่แอบกังวลเรื่องกลิ่นบุหรี่ค่ะ เพราะห้องไม่มีแบบ non-smoking ให้เลือก ไม่ทราบว่าตอนไปพักมีปัญหาเรื่องกลิ่นบุหรี่ไหมคะ
ถูกใจถูกใจ
ขอบคุณมากๆ นะค๊าา ที่เข้ามาอ่าน ตอนไปไม่มีปัญหาเรื่องกลื่นบุหรี่ค่ะ แนะนำตอนเช็คอิน ให้บอกที่หน้ารีเซฟชั่น ว่ารีเควสห้อง Non – Smoking นะคะ
หลายครั้งเวลาอิ้มไป ญป บางที่เขียนแล้ว แต่บางที่ก็ยังเอาห้องสำหรับผู้สูบบุหรี่ไว้ให้ แนะนำให้ย้ำหน้า รีเซฟชั่นอีกที ตอนเช็คอินนะคะ
ถูกใจถูกใจ