นอนโรงแรม 5 ดาวเปิดใหม่ใจกลางเมือง Bangkok Marriott Hotel The Surawongse

กลับมาพักผ่อนในโรงแรมหรู 5 ดาวกันบ้างนะคะ

ไม่บ่อยนักที่อิ้มจะมานอนโรงแรมในกรุงเทพ

เพราะส่วนตัวคิดว่าในเมืองมีความวุ่นวาย และคงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

แต่พอ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse โรงแรม 5 ดาวเพิ่งจะเปิดตัวหมาดๆ

ทำให้อิ้มมีความสนใจที่นี่มากทีเดียว

เพราะโรงแรมนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ ใกล้ถนนสายสำคัญในกรุงเทพมหานคร

ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม และนอกจากนั้นเค้าว่ากันว่า

วิวด้านบนYào Rooftop Bar มีความสวยงาม เหมาะกับการนั่งชิล มองแสงสี ในกรุงเทพ ในมุมสูง

และนอกจากนั้น เค้าก็ยังแนะนำว่า อาหารจีนที่  Yào Restaurant เด็ดมากต้องห้ามพลาด

มีดีหลายอย่างขนาดนี้ ไม่เข้าพักเห็นทีจะไม่ได้ซะแล้ว

เพราะเดี๋ยวจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องนะจ้ะ อิอิ

พร้อมแล้วไปชมรีวิวนี้พร้อมๆ กันค่ะ

นอนโรงแรม 5 ดาวเปิดใหม่ใจกลางเมือง Bangkok Marriott Hotel The Surawongse

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางโรงแรม

https://www.facebook.com/marriottsurawongse

ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip

0

สำหรับโรงแรมจะตั้งอยู่ที่ถนนสุรวงศ์เลยค่ะ เดินทางสะดวกสบาย

ที่นี่จะตกแต่งเป็นไทยโมเดิร์น โดยใช้ช่างฝีมือที่ถนัดในงานศิลปะต่างๆ

มาวาดลวดลายอันสวยงามตกแต่งโดยรอบบริเวณโรงแรม

 เมื่อเข้ามาถึงล็อบบี้ก็เริ่มมีลวดลายต่างๆ ให้เราเห็น สวยงามมากทีเดียว

1 (1)

สำหรับเวลาเช็คอิน เช็คเอาท์ตามนี้นะคะ

เช็คอินในช่วงเวลา 15.00 น. และเช็คเอาท์ 12.00 น.

1 (2)

เช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะได้คีย์การ์ดมาสองใบ

ซึ่งวันนี้อิ้มพักใน Roomtype ที่มีชื่อว่า 1 Bedroom Apartment

1 (3)

ขึ้นลิฟท์กันค่าา ตอนลิฟทืเปิดมามีความอลังการมากกกกก สวยหรูในแบบไทย

1 (4)

มาถึงห้องพักของอิ้มแล้วค่ะ  1 Bedroom Apartment

ถ้าตามชื่อก็แทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเน้อ

เพราะด้วยความที่เป็น  1 Bedroom Apartment ภายในก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก

แบบครบครันมากๆ อ้อๆๆ แล้วที่นี่เค้าก็เปิดให้พักในแบบ Apartment ด้วยนะ

ใครมีธุระต้องมาอยู่กรุงเทพ ยาวๆ แล้วงบถึงแนะนำจ้า

ภายในห้องมีความกว้างขวาง เปิดประตูมาฝั่งขวามือจะเป็นโซนครัว

และมีโต๊ะนั่งทานข้าว ถัดไปจะเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟา และทีวีขนาดใหญ่

2 (1)

2 (2)

นั่งชิลๆ ชมวิวเมืองได้เต็มที่

2 (3)

2 (4)

ภายในห้องยังสอดแทรกการตกแต่งสไตล์ไทยให้เราได้เห็นทุกจุด

2 (11)

ส่วนของห้องครัวค่ะ มีอุปกรณ์ครบครัน ทำอาหารทานเองได้สบายๆ

3 (1)

มินิบาร์ต่างๆ มีค่าใช้จ่ายเขียนไว้ชัดเจน

3 (2)

มีเครื่องซักผ้าให้พร้อมมมมม

3 (3)

เข้ามาในห้องนอนค่ะ หรูหรา ใช้สอยพื้นที่ได้ดีทีเดียว

บริเวณริมหน้าต่างมีโตีะทำงานขนาดย่อม

5 (1)

ห้องน้ำและห้องแต่งตัวแยกมุมกันได้อย่างชัดเจน

5 (2)

5 (3)

ภายในห้องน้ำค่ะ ถ้าไม่ปิดม่านนี่มีความเซ็กซี่ไม่เบานะ อิอิ

5 (4)

Amenity ของที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ THANN อีกหนึ่งแบรนด์โปรดที่อิ้มหลงรัก

5 (5)

ชมห้องพักไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว

มานั่งจิบ High tea ที่ The Lobby Lounge กันดีกว่าค่ะ

กดลิฟท์ลงมาที่ชั้นเดียวกับ Lobby ได้เลย

The Lobby Lounge เป็น Lounge ที่มีความสวยงามมาก ตกแต่งได้หรูหรา

และแฝงความเป็นไทยไว้ในทุกจุด ภายในเพดานสูงโปร่ง ทำให้ไม่อึดอัด

มีที่นั่งหลากหลายโซนรอบรับทั้งการมากับครอบครัว คนรัก หรือกลุ่มเพื่อน

6 (1)

6 (3)

6 (4)

6 (5)

7

สำหรับใครที่ไม่ได้เข้าพัก มานั่งทานเฉพาะ High Tea อย่างเดียวก็ได้นะคะ

เค้ามีให้บริการทุกวันตั้งแต่ 12.00 น. จนถึง18.00 น.

ชุด High Tea มีให้เลือก 2 แบบ

ทั้งสไตล์ Western และแบบไทย สนนราคาชุดละ 598++

เซ็ตนี้เป็นสไตล์ Western

มีทั้ง สโคน เค้กต่างๆ มาการอง และ ทาร์ต เสิร์ฟพร้อมชา 1 กา

8 (1)

8 (2)

8 (3)

8 (4)

ต่อมาเป็น ชุด High Tea สไตล์ไทยค่ะ ราคาเท่ากัน นอกเหนือจากที่เห็น

เค้าจะเสิร์ฟผลไม้ตามฤดูกาลมาให้อีก 1 จาน

8 (5)

8 (6)

8 (7)

8 (8)

เริ่มลงมือทานค๊าาา อิอิ

9

ทาน High Tea เสร็จแล้ว ขอพาขึ้นมาชมและนั่งชิลบน ชั้น 33

ที่นี่คือ Yào Rooftop Bar บาร์สไตล์จีน ตกแต่งสไตล์จีนร่วมสมัย

มีความเก๋สุดพลัง และวิวด้านบนคือดีย์งามมากกกก ถ้าอากาศดี เราจะเห็นพระอาทิตย์ตก

บอกเลยยยฟิน

10 (1)

10 (2)

ชิลด้านบนพอสมควรแล้วมาทานอาหารเย็นกันดีกว่า

สำหรับใครที่อยากทานเป็นบุฟเฟต์ ก็สามารถไปทานได้ที่ห้องอาหาร  Praya Kitchen

แต่สำหรับอิ้มวันนี้ขอแนะนำ อาหารจีนที่ห้องอาหาร Yào Restaurant

ตั้งอยู่ที่ชั้น 32 ของโรงแรม

เป็นการทานอาหารจีนที่ทำให้หัวใจพองโตเป็นที่สุด

เพราะห้องอาหารที่มีความสวย และหรูหรามากกกกก

ภายในสามารถรับรองลูกค้าได้ทุกกลุ่มประเภท มีห้องไพรเวทรองรับหลายห้องทีเดียวค่ะ

11 (1)

11 (4)

เรานั่งทานห้องนี้ค่ะ เป็นไง วิวเวอร์วังไหมล่ะ

11 (3)

มีที่นั่งมุมเล็กๆ ไว้จิบชาด้วยนะคะ

11 (2)

ที่ Yào Restaurant จะเสิร์ฟอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งและเซี่ยงไฮ้

และทุกเมนูรังสรรค์โดยเชฟชาวจีนแท้ๆ

12 (1)

มาเริ่มที่ Stater เป็นออเดิร์ฟรวม 9 อย่าง

12 (2)

เกี๊ยวหมูน้ำชา

12 (7)

Xiao Long Bao

12 (10)

กุ้งนึ่งมะนาว

12 (11)

เกี๊ยวไก่ทอด จานนี้น่ารักมากแทบไม่กล้าทาน 5555

12 (8)

เกี๊ยวปูใส่ชีส

12 (9)

หมูแดงจ้าาาาา

12 (3)

หมูกรอบจัดว่าเด็ดมากกกก

12 (4)

เป็ดปักกิ่งย่างไม้ลิ้นจี่ค่ะ

12 (5)

เชฟก็จะแล่ส่วนหนังออกและส่วนเนื้อก็นำไปปรุงเป็นอาหารแบบอื่นให้เราทาน

12 (6)

เมนูที่ได้จากเนื้อเป็ดค๊าาา

12 (15)

ปลาเก๋าดำนึ่งซีอิ๋ว

12 (12)

ซุปเสฉวนกับหอยเป๋าฮื้อ

12 (13)

ไฮไลท์มาล๊าววว เชฟ Wenbin Wang กำลังทำเส้นสดให้เราได้ชมกัน

12 (14)

ออกมาเป็นชามนี้ เส้นดีมากกก ยอมรับเลยค่ะ

12 (16)

ทานอาหารเสร็จไปเดินเล่นชิลๆ บนสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่บนชั้น 18 กันค่ะ

13 (1)

13 (2)

สระว่ายน้ำขนาดไม่กว้าวมากนัก แต่ City View นี่ทำเอาหลงไหล

13 (3)

13 (4)

เสร็จแล้วมาพักผ่อนที่ห้องค่ะ นอนหลับสบาย

พร้อมตื่นเช้ามานั่งชมเมืองเป็นบรรยากาศที่อิ้มไม่ค่อยได้สัมผัสนัก

14 (0)

สำหรับมื้อเช้าเรามาทานอาหารกันที่ Praya Kitchen

ส่วนตัวอิ้มชอบอาหารเช้าที่นี่มากๆๆๆๆๆ มีความหลากหลาย ใส่ใจในรายละเอียด

และหลายอย่างอร่อยมาก

เริ่มต้นกันด้วยน้ำ และเครื่องดื่มต่างๆ  ชา กาแฟ น้ำผลไม้

สามารถสั่งได้ที่นี่ แนะนำ ชาเย็นนะคะ อร่อยมาก

14 (1)

14 (2)

ต่อมาไลน์ขนมปังค่ะ น่าทานทุกสิ่งอย่าง

15 (1)

15 (2)

15 (3)

และไฮไลท์เค้าอยู่ตรงนี้ ครัวซองลืมผัวววว

ใช่ค่ะ คุณฟังไม่ผิด ชื่อนี้จริงๆ ที่ตั้งชื่อนี้เพราะว่าอร่อยลืมผัวไปเลยจ้าาาา

16 (1)

16 (2)

ทานคู่กับแยมดอยคำ คือมีหลากรส อิ้มชอบรสกุหลาบเป็นที่สุด

17

นม โยเกริ์ต อยู่ทางนี้ค่ะ

18 (1)

ถัดมาจะเป็น แฮม ชีส โคลคัทต่างๆ

18 (2)

18 (3)

18 (4)

ซีเรียลจ้าาาา จัดมาเยอะมาก

19

สายเฮลตี้มาตรงนี้ค่ะ ผักสดๆ ต่างๆ ทานคู่กับน้ำสลัดที่คุณคู่ควร อิอิ

20 (1)

20 (2)

21 (1)

21 (2)

21 (3)

น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ก็มีนะคะ

22 (1)

22 (2)

อาหารจีนอยู่ทางนี้ ติ่มซำ ซาลาเปา

23 (1)

23 (2)

อาหารอินเดียก็มานะจ้ะ นายจ๋า

24

ชอบอันนี้ค่ะ ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง

25 (1)

ขนมปังปิ้ง เอากะเค้าสิ

25 (2)

ข้าวเหนียวย่างจ้าาาา

25 (4)

สเตชั่นสำหรับคนรักเส้น ก๋วยเตี๋ยวมีความจัดเต็มมากกกกกก

26 (1)

26 (2)

อาหารญี่ปุ่นจ้าาาาา

27 (1)

27 (2)

27 (3)

Egg Station แนะนำให้ทาน ‘Tom Yum Egg Benedict’ เด้ออออ

28 (1)

28 (2)

28 (3)

28 (4)

โอ้ยยยย Taiyaki ก็มาดีงาม

29 (1)

29 (3)

ผลไม้นานาชนิด นอกจากนั้นก็มีไอสกรีม และของหวานนาๆ ชนิด

29 (2)

กว่าจะเดินดูครบใช้เวลานานมากกก อาหารน่าทานทั้งนั้น

อันนี้เป็นเมนูคร่าวๆ ที่อิ้มทานค๊าา

30 (1)

30 (2)

30 (3)

30 (4)

31 (1)

31 (2)

ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว มาว่ายน้ำ ชิลๆ สักหน่อย

32 (1)

32 (2)

ได้เวลาเช็คเอาท์ค่าาา แต่ๆๆๆ อิ้มยังจอดรถไว้ที่โรงแรมอยู่นะ

ที่ยังไม่กลับเพราะว่าเราจะไปเดินเที่ยวกันต่อ

อย่างที่อิ้มเกริ่นไปข้างต้นว่า ฺBangkok Marriott Hotel The Surawongse

ตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ ใกล้ถนนสายสำคัญในกรุงเทพมหานคร

ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรม

โดยเริ่มที่ “ตรอกกัปตันบุช” กันก่อนค่า

“ซอยกัปตันบุช” มีที่มาจาก “กัปตันบุช”

หรือ “นายจอห์น บุช” เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทย

เป็นพ่อค้าและนักเดินเรือสัญชาติอังกฤษ

ได้มีโอกาสปฏิบัติราชการใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในการตามเสด็จประพาสต่างประเทศ

กัปตันบุชและครอบครัวพำนักอยู่ที่บ้านในตรอกเล็ก ๆ

ใกล้กับที่ทำการกรมเจ้าท่า

ตรอกบ้านของกัปตันบุชจึงเรียกว่าตรอกกัปตันบุชจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบันตรอกกัปตันบุชมีชื่อเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง 30

โดยมีสถานที่สำคัญก็คือ

บ้านเลขที่ 1 ซอยกัปตันบุช

อาคารอนุรักษ์บ้านเลขที่ 1

เดิมทีคืออาคารที่บริษัทกลั่นสุราของฝรั่งเศสได้เช่าสร้างขึ้น

เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรป

ปัจจุบันสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ทำการบูรณะใหม่

_PSS7968 oo

ต่อมาเป็นงานศิลปะเจาะกำแพง ตรอกกัปตันบุช

บนกำแพงสถานทูตโปรตุเกส ในตรอกกัปตันบุช ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

งานศิลปะชุดนี้เกิดจากเทคนิคการเจาะกำแพงของศิลปินชื่อดังชาวโปรตุเกส Vhils

จากโครงการ Scratching the Surface Project ค่ะ

33 (1)

ต่อมาไปชม Street Art เก๋ๆที่ซอยเจริญกรุง 32 กันค่า ถ่ายรูปสนุกมากกกก

33 (2)

33 (3)

33 (4)

33 (5)

เสร็ตแล้วเราเดินต่อไปยัง “พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก”

พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก หรือ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางรัก

เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมุมมองใหม่ในบางกอกได้จัดตั้งขึ้นตามวัตถุประสงค์

และความตั้งใจของอาจาร์ยวราพร สุรวดี ผู้เป็นเจ้าของ

ซึ่งอยากจะจัดบ้านและทรัพย์สิน มรดกที่ได้จากมารดา คือ นางสอาง สุรวดี (ตันบุญเล็ก)

ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา

เลยได้ทำเรืองยกบ้านหลังนี้ให้เป็นสมบัติของกรุงเทพมหานครค่ะ

34 (1)

ภายในบ้านบอกเล่า เรื่องราวเกี่ยวกับ สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบางกอก

ที่มีฐานะปานกลางในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ซึ่งข้าวของ เครื่องใช้ที่นำมาแสดงส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ที่เจ้าของบ้านได้ใช้งานจริง

บางชิ้นหาชมได้ยากมากๆ

34 (2)

34 (3)

34 (4)

34 (5)

ภายในจัดแบ่งเป็น 3 อาคารให้เข้าชม ใครสนใจแวะมาเที่ยวได้นะคะ

เปิดให้บริการทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.

ปิดวันจันทร์-อังคาร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 234 6741 , 02 233 7027

34 (6)

ได้เวลาเดินทางกลับ ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพนี้นะคะ

35

สำหรับ Bangkok Marriott Hotel The Surawongse

ส่วนตัวอิ้มคิดว่าที่นี่เป็นที่พักใจกลางกรุงเทพ มีที่ความสวยงาม หรูหรา สะดวกสบาย

เป็นโรงแรมที่เหมาะกับการพักผ่อน

และที่สำคัญสามารถไปเที่ยวต่อในสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพได้

เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากเดินทางไกลๆ

เป็นการเติมเต็มวันหยุดสั้นๆ ที่ดีเยี่ยมค่ะ

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

******************************************************

ช่องทางติดต่อเรา

http://www.psstorytrip.com

http://www.facebook.com/psstorytrip

http://www.instagram.com/psstorytrip

http://www.youtube.com/psstorytrip

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s