สวัสดีค๊าาาา วันนี้อิ้มจะมาชวนทุกท่านไปตะลุยญี่ปุ่น

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นของอิ้มนาจา

ในช่วงเดือนที่หลายๆ คนอาจจะไม่สนใจ

เพราะว่านี่คือฤดูร้อน !!!!!!!!!!!!

แต่ฤดูร้อนในช่วงที่อิ้มจะพาไปก็คือต้นเดือนมิถุนายน

เพราะฉะนั้น อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา ก็ไม่ร้อนมากนะ เย็นสบาย

ขอบอกเลยว่าข้อดีของการเที่ยวฤดูร้อนนี้มีมากมายหลายอย่างเลยนะ

หลักๆ คือ ตั๋วเครื่องบิน ถูกมากกกกก คนเที่ยวน้อย มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะ

ทานอาหารได้อร่อย แบบไม่ต้องกลัวหนาว เตรียมเสื้อผ้าไปแบบสบายๆ ไม่ต้องขนไปเยอะ

แต่ข้อเสียแดดที่ญี่ปุ่นแรงกว่าไทยมาก ถ้าไม่มีลมจัดว่าร้อนเลยจ้า

เอาหล่ะ รอบนี้อิ้มจะชวนไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนแบบยาวๆ 10 วัน โดยเริ่มต้นจากคันไซ

เที่ยวต่อไป Takayama ,Shirakawago, Kanazawa,

Japan Alps, Matsumoto ,Kamikochi ,Narai ,Osaka

ติดตามกันนะว่าหน้าร้อนแบบนี้จะไปที่ไหนได้บ้าง

รับรองฟินทุกที่เหมือนเดิมจ้า

ส่วนในรีวิวแรกนี้อิ้มขอแชร์ในส่วนของวิธีการเริ่มต้นการเดินทาง

วิธีการเตรียมตัวรวมถึงการซื้อตั๋วเครื่องบินและพาสต่างๆ

แพลนทริปแบบไหน การนอนสนามบินคันไซ และทริคอีกมากมาย

อิ้มว่าเกริ่นมาเยอะ ตามไปชมกันรีวิวนี้กันดีกว่าค่า

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน : Day 1 วิธีเตรียมตัวก่อนเดินทาง และนอนสนามบินคันไซ

พร้อมแล้ววววตามไปเล้ยยยย

สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม

แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ได้เลยนะค๊าาา

การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองบอกเลยว่าง่ายมากกกกกกก
หลายคนอาจจะกลัวหลง กลัวไม่ทันรถไฟ กลัวไปผิดเมือง แต่อิ้มบอกเลยว่า ไม่ต้องกลัว

อ่านรีวิวนี้รับรองเที่ยวสบายยยยย

มาเริ่มกันดีกว่าว่าควรเตรียมอะไรบ้าง

1.แพลนทริปการเดินทางและศึกษาข้อมูลในที่ๆ จะไป

เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะว่าจะทำให้เรามีเป้าหมายการท่องเที่ยว และมีวันเวลาการเดินทางที่แน่นอน

ยิ่งศึกษามาก ยิ่งหลงน้อย ทำให้เราประหยัดเวลาในการเที่ยวไปเยอะ

2. Passport 

หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน

ซึ่งทางการญี่ปุ่น อนุมัติวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทย

ไปพำนักชั่วคราวได้ในประเทศไม่เกิน 15 วัน

ตามกฏแล้วอายุพาสปอร์ตต้องมีอายุจนถึงวันที่เดินทางกลับ

3.การจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก 

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้อิ้มเลือกใช้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
จาก TRAVELOKA เจ้าประจำเช่นเคย

ที่เลือกจองกับ Traveloka เพราะสะดวกสบาย เค้ามีทั้ง App บนมือถือ

และ website สะดวกตรงไหนก็จองตรงนั้น เวลาจองก็ง่าย มีโปรเด็ดๆ

มีโค้ดส่วนลดมากมาย จองล่วงหน้านานๆ ราคายิ่งถูกสุดๆ มีทั้งตั๋วเครื่องบิน และที่พัก

ซึ่งเวลาจะจองให้ค้นหาผ่านทางเวบไซต์

https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan/

และสามารถจองที่พักและตั๋วเครื่องบินผ่าน APP TRAVELOKA ก็ได้เช่นกัน

และสามารถจองที่พัก ในโอซาก้า กับ Traveloka ที่ ลิ้งค์นี้

https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan/region/osaka-20003523

ขอบอกว่ายิ่งจองผ่าน App ราคาก็ยิ่งถูกไปอีก

อย่างครั้งนี้อิ้มจองตั๋วเครื่องบินก่อน ซึ่งระบบจะคำนวณผลลัพท์ออกมาให้

โดยเราจะได้ราคาทุกสายการบินออกมาหมดเลย

แล้วเราก็ค่อยๆ จำกัดการค้นหา และเลือกในแบบที่เราต้องการ

เช่นอยากบินเวลาไหน ต้องเปลี่ยนเครื่องไหม ราคาที่ไหนเวิร์คสุด

จากนั้นก็ทำการจองและเตรียมชำระเงิน

ช่องทางการชำระเงินก็มีมากมายทั้ง

7-Eleven, Credit Card, Counter Payment, ATM, Internet Banking

เพียงแค่นี้ก็รอรับตั๋วเครื่องบิน หรือ E-ticket

ส่งเข้าทาง email และสามารถนำไปใช้เช็คอินได้แล้ว

4. เที่ยวเมืองไหน ซื้อ Pass ให้ถูกต้อง ประหยัดเงินในกระเป๋า

ครั้งนี้อิ้มไปหลายเมืองค่ะ มีทั้ง

Takayama ,Shirakawago, Kanazawa,

Japan Alps, Matsumoto ,Kamikochi ,Narai ,Osaka

Pass การเดินทางในญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราประหยัดค่าเดินทางมากขึ้น

เพราะมักจัดแพคเกจที่เหมาะสมในราคาคุ้มค่า

ซึ่งพาสหลายๆ แบบต้องซื้อจากประเทศไทย

อย่างครั้งนี้อิ้มเลือกซื้อพาสของ JTBthailand สะดวกสบาย

และบริการดีมาก ให้ข้อมูลครบ อธิบายละเอียด

นอกจากนั้นเค้ายังมีบริการอื่นๆ นอกเหนือจากพาสมากมาย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เวบไซด์นี้ได้เลย

http://www.jtbthailand.com

5. Pocket Wifi 

เพียงแค่เรามี POCKET WIFI และรู้จักใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์

เป็นไปได้ศึกษาสถานที่ที่เราจะมาให้ดีว่าจุดไหนเปิด ปิดวันไหน

มาเที่ยวได้ทุกวันไหม จะได้มาแล้วไม่เสียเที่ยว

ถ้าคุณเช่า Wifi ก็จะเป็นประโยชน์มาก

เพราะสามารถใช้งานอินเตอรืเน็ตได้ตลอดระหว่างการเดินทาง

 GOOGLE MAP เป็นสิ่งสำคัญมาก
เพราะจะช่วยเราดูเรื่องระยะทาง ไม่ว่าเราจะขึ้นรถไฟ หรือเช่ารถขับ

ระบบจะคำนวณระยะเวลาให้เรา เราก็จะจำเวลาที่จะถึงสถานีปลายทางได้ไม่ยาก

การขนส่งของญี่ปุ่นเรื่องเวลาค่อนข้างแม่นยำ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล

พยายามไปถึงที่หมายให้ก่อนเวลา เช่น รอรถไฟ รอขึ้นเครื่อง อย่าไปจวนเจียน

ไม่งั้นจะเสี่ยงในการตกรถไฟ หรือตกเครื่องบินได้

ถ้าเราไปต่างเมือง หรือต่างจังหวัด การตกรถไฟ

หรือไม่ศึกษาเวลาก่อนเดินทาง

อาจจะทำให้คุณเสียเวลาไปเป็นชั่วโมงๆ เลยนะคะ

สำหรับการเดินทางของอิ้มในทริปนี้จะใช้รถไฟเป็นหลัก

เว็บที่ใช้ดูตารางรถไฟ HTTP://WWW.HYPERDIA.COM/EN/
มีบอกทุกรอบ เวลาเป๊ะ

อย่างเวลาอิ้มจะทำแพลนในการเดินทาง อิ้มก็จะดูที่ hyperdia เป็นหลัก

ถ้าจะมาเที่ยวญี่ปุ่น คุณต้องรู้จัก hyperdia เพราะเค้าจะกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจ

ไปจนเกือบจบทริป

สำหรับทริปนี้อิ้มใช้ POCKET WIFI ของ JAPAN WIFI ค่ะ

http://www.jp-wifi.com/

6. Power Bank

นอกจากจะมี Pocket Wifi แล้วก็ต้องมี Power Bank เช่นเดียวกัน

เพราะการเชื่อมต่อต่างๆ ก็ต้องใช้แบต ถ้าแบตหมดอาจจะทำให้ทริปชะงักได้

7. เงินและบัตรเครดิต ต้องเตรียมให้พร้อม

ที่ญี่ปุ่นจะใช้เงินเยนควรแลกไปให้พอดี

แต่หากช็อปปิ้งจนเงินหมด ไม่มีบัตรเครดิต ไม่ต้องกังวล

หากบัตรคุณมีสัญลักษณ์จำพวก VISA, MASTER CARD

สามารถกดเงินได้จากตู้เอทีเอ็ม ดังนี้

ตู้ ATM Sevenbank : อยู่ใน 7-11 แต่กดได้ทีละหมื่นเยนนะ ที่สำคัญเป็นภาษาไทย

กดสะดวก หาง่าย ไม่ยุ่งยาก

ตู้ ATM JP BANK : ตู้เยอะ ไม่ยุ่งยาก

ATM JP BANK เป็นกิจการของไปรษณีย์ญี่ปุ่น(Japan Post Bank)

ซึ่งตู้สีเขียวนี้เป็นอีกหนึ่งตู้ที่ให้บริการกดเงินเยนสำหรับนักท่องเที่ยว

อันนี้กดเริ่มต้นหลักพันได้ แต่จะเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

8. เสื้อผ้าที่เหมาะสม ตามฤดูกาล

ควรศึกษาฤดูกาลและช่วงเวลา ว่าหนาวขนาดไหน โดยการเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง

สำหรับหน้าร้อนแบบนี้ก็เลือกเสื้อผ้าสบายๆ ไม่หนามาก แต่อิ้มมีขึ้น Japan Alps

ก็เตรียมเสื้อผ้าหนาๆ มาสักชุด สองชุดพอค่ะ

9. ยาสามัญประจำตัว

เพราะอากาศที่นู่นยังไงก็ไม่เหมือนบ้านเรา

ควรเตรียมยาสามัญต่างๆ ไปให้พร้อม

ที่ขาดไม่ได้ก็จะเป็นพวกพารา ยาแก้แพ้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบ ยาดม

และยาแก้ท้องอืดค่ะ

10. ปลั๊กและ adapter 

ที่ญี่ปุ่นไม่มีปลั๊กสามตานะคะ
แนะนำให้เอาปลั๊กสามตาไปด้วยไม่งั้นถ้าลืมเอาไปจะลำบาก เพราะแทบหาซื้อไม่ได้เลยจ้า

เอาหล่ะ แนะนำมาเหยียดยาววววว พอรู้หลักการกันแล้ว

เดี๋ยวมาเริ่มต้นการเดินทางของอิ้มกันเล้ยยยย

ครั้งนี้อิ้มเดินทางไปญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2561- วันที่ 8 มิถุนายน 2561 เป็นเวลา 10 วัน

   แพลนคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ

30 May 2018 Bkk-Osaka

31 May 2018 Osaka -Takayama

1 June 2018 Takayama – Shirakawago

2 June 2018 Shirakawago – Kanazawa – Toyama

3 June 2018 Toyama – Japal alps – Matsumoto

4 June 2018 Matsumoto – Kamikoji

5 June 2018  Matsumoto – Narai

6 June 2018 Matsumoto – Osaka

7 June 2018 Osaka

8 June 2018 Osaka – Bkk

การเดินทางอิ้มเลือกเดินทงกับสายการบินแอร์เอเชีย

แต่ช่วงนั้นไฟล์ทมีให้เลือกเพียงวัน 1 ไฟล์ท

ซึ่งเวลาเดินทางไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

เพราะว่าออกจากไทยบ่ายสอง ถึงสนามบินคันไซ สามทุ่มกว่าๆ

หลังจากนั้นกว่าจะผ่าน ตม และกระบวนการเข้าประเทศต่างๆ จนถึงรับกระเป๋า

ก็เกือบห้าทุ่ม อิ้มจึงตัดสินใจนอนที่สนามบินคันไซ เพื่อเป็นการประหยัด

และไม่ต้องรีบร้อน แถมออกจากสถานีรถไฟได้ตั้งแต่เช้าๆ ค่ะ

ขอตัดภาพตอนมาถึงสนามบินคันไซดีกว่าเน๊อะ

ภาพที่เห็นอิ้มจะถ่ายช่วงเช้าของอีกวันนะคะ

ครั้งนี้เราจะพักในส่วนของ Aero Plaza

จริงๆ Aero Plaza เค้าก็มี รร ดีๆ ให้นอนนะ

แต่อิ้มขอนอนในส่วนที่ให้พักฟรีดีกว่า งกอ่ะนะ อิอิ

พิกัดของ Aero Plaza จะอยู่ในบริเวณ Terminal 1 ฝั่งเหนือ (North) ชั้น 2

เดินมาง่าย ๆ จากช่องส่วนของการรับกระเป๋า

แล้วให้เดินมาจนถึงโถงของสนามบินจากนั้นให้มองหาขึ้นไปชั้น 2

และสังเกตุป้ายรถไฟแล้วเดินมาเรื่อยๆ

จากนั้นเราจะเจอจุดที่ให้บริการรถไฟ และที่ซื้อตั๋ว ดีใจได้เลยค่ะ คุณมาถูกแล้ว

เดินตรงมาจะเห็นป้ายนี้ชัดเจนตรงมาเลยจ้า

เดินทะลุมาจะเป็นประตูแบบนี้ เดินจรงไปได้เลยนะคะ

ที่ๆ เราจะนอนก็อยู่ด้านหลังบันไดเลื่อนนี้เอง

ร้านอาหารอิ่มสะดวก และมินิมาร์ท เปิด 24 ชม.
BURGER KING ชั้น 2 (ใกล้บริเวณพักผ่อน)
LAWSON ชั้น 2 (ใกล้บริเวณพักผ่อน)

เรียกว่าอยู่ตรงข้ามเลยดีกว่าค่ะ

ชั้น 2 AERO PLAZA

เห็นที่นั่งเรียงรายแบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนหนาว เพราะที่นี่เขาให้ยืมผ้าห่มได้

และที่นั่งบางส่วนก็มีปลั๊กให้บริการ

การยืมผ้าห่มเพียงแค่เขียนชื่อและไฟล์ทบินที่เคาเตอร์ก็เสร็จเรียบร้อย

โดยสามารถยืมได้ตั้งแต่เวลา 23.00 – 6.00 น. (ผ้าห่มมีจำนวนจำกัด)

สำหรับคนที่จะคืนในช่วงเวลา 6 โมงเช้าของวันถัดไป

การนอนในนี้เค้าจะไม่ปิดไฟนะคะ แนะนำให้เอาผ้าปิดตาไปด้วยนะ

แต่วันที่อิ้มไปไม่หนาวเลยค่ะ ออกจะร้อนเลยไม่ได้ยืมผ้าห่ม แหะๆ

ส่วนใครเหนื่อยๆอยากอาบน้ำ เค้าก็มีห้องอาบน้ำ 24 ชม.บริเวณชั้น 2 AERO PLAZA

ค่าใช้บริการ 15 นาที 500 – 600 เยน มีอุปกรณ์อาบน้ำฟรี ทั้งครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด

มีผ้าเช็ดตัววางขายและสามารถยืมไดร์เป่าผมได้ค่ะ

ได้เวลาพักผ่อนนอนหลับของอิ้มแล้วค่ะ

ขอนอนเอาแรงให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้เราจะลุยกันต่อ

เดี๋ยวติดตามกันต่อใน Day 2 ของทริปญี่ปุ่นหน้าร้อนนะคะ

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

******************************************************

ช่องทางติดต่อเรา

http://www.psstorytrip.com

http://www.facebook.com/psstorytrip

http://www.instagram.com/psstorytrip

http://www.youtube.com/psstorytrip