หากพูดถึงโรงแรมและรีสอร์ทในภูเก็ต
หลายๆ คนอาจจะนึกถึงโรงแรมที่วิวสวยๆ บรรยากาศดีๆ ติดทะเล
แต่หากคนที่เสพย์ติดการดีไซน์โรงแรมแบบอิ้ม การที่ได้มาพักดีไซน์โฮเทล
ถือว่าเป็นความสุข และการพักผ่อนอีกอย่างนึงค่ะ
และรับรองว่าถ้าพูดถึงดีไซน์โฮเทลภูเก็ต ต้องนึกถึงโรงแรมนี้แน่นอน
ที่นี่ก็คือ The Slate Phuket หรือ ใครหลายคยอาจจะรู้จักในนาม
Indigo Pearl ซึ่งตอนนี้จาก Indigo Pearl ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น The Slate
แบบเต็มรูปแบบพร้อมให้บริการ
The Slate รีสอร์ทดีไซน์หรู ที่นำเรื่องราวและประวัติศาสตร์
อันยาวนานของจังหวัดภูเก็ตในยุคเหมืองแร่มาผสมผสานกับดีไซน์ร่วมสมัย
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนรับรองว่าคุณจะต้องได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมและความเป็นเหมืองแร่
ให้อยู่ในทุกห้วงอณูของรีสอร์ท
เรียกว่ามาพักผ่อนที่นี่ คุณจะต้องประทับใจตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามา
เพราะแค่ส่วนล็อบบี้ ก็สวยงามตระการตา น่าตื่นตาตื่นใจมาก
The Slate Phuket เป็นรีสอร์ทในฝันของอิ้มอีกทีนึงเลยก็ว่าได้
อิ้มใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ 3 วัน 2 คืน เดี๋ยวตามไปชมกันค่ะ ว่าที่นี่จะสวยงามอย่างที่อิ้มพูดจริงไหม
กับรีวิวนี้ The Slate Phuket Hotel Design ที่คุณต้องมาสัมผัส
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://www.facebook.com/TheSlatePhuket/
ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม
แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ให้อิ้มด้วยน๊าาา
แน่นอนการเดินทางในครั้งนี้ก็อยู่ใน Road Trip ภูเก็ตของอิ้ม
เป็นทริปที่มีความสุขมากๆ เพราะอิ้มขับรถไป
อยากทำอะไรก็ได้ทำ แวะที่ไหนก็ได้แวะ
และยิ่งไปกับ Chevrolet trailblazer Z71
รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง คือถูกใจมากกกกกก เบาะกว้างขวางนั่งสบาย
พื้นที่วางของกว้างมากกก ขนสัมภาระไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่
กระเป๋าโดรน กระเป๋ากล้อง โน๊ตบุค ยังมีที่เหลือเฟือ
ภายในรถฟังก์ชันต่างๆ มีมาเยอะมากๆ แม้กระทั้งบอกระดับลมยาง
และไฟเตือนกระพริบข้างกระจกเมื่อมีรถคันอื่นเข้ามาใกล้
มันดีย์สำหรับการขับรถทางไกลเป็นที่สุด
กว่าจะมาถึงรีสอร์ทก็บ่ายแก่ๆ เดี๋ยวเรามาเช็คอินที่จุดนี้กันก่อนนะคะ
อิ้มถึงกับต้องร้องว้าวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
แล้วรำพึงรำพันกับตัวเองว่า ตอนนี้ชั้นกำลังอยู่ในรีสอร์ทจริงๆ เหรอ !!!
ทุกอย่างลงตัวสวยงามมาก
The Slate เป็นหนึ่งในสมาชิกของดีไซน์โฮเทล (Design Hotels™) และเป็นผลงานออกแบบของ
“บิลล์ เบนสเลย์” (Bill Bensley) สถาปนิกชาวอเมริกันชื่อดัง ภายใต้คอนเซปทสุดลํ้า
แบบอาว็อง-การด์ หนึ่งเดียวในภูเก็ตที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
โดยได้แรงบันดาลใจจาก เรื่องราวและประวัติศาสตร์อันยาวนานของจังหวัดภูเก็ต
ในยุคเหมืองแร่บวกนำมาผสมผสานกับความกล้าที่จะใส่ดีไซน์ร่วมสมัยเข้าไปด้วย
จึงทำให้ The Slate มีความเป็นตัวเองค่อนข้างสูง
เป็นหนึ่งในดีไซน์ โฮเท็ลที่ควรปักหมุดค่ะ
Welcome Drink จะเป็นน้ำอ้อย มะตูม เสริ์ฟพร้อมผ้าเย็น
นอกจากนั้นเค้ายังมีข้อมือที่ทำด้วยริบบิ้นและใช้ดอกบัวเป็นเครื่องดับ
มามอบให้สุภาพสตรีที่เข้าพักทุกท่าน
มีความใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่แรกเจอ ประทับใจและแปลกกว่าที่ไหนๆ ค่ะ
The Slate ภายในรีสอร์ทนี้มีพื้นที่กว้างขวางเหมือนเป็นเมืองๆ หนึ่ง หรืออาณาจักรแห่งหนึ่ง
นอกจากสิ่งที่รีสอร์ทส่วนใหญ่พึงมี แต่ที่นี่มีมากกว่า
อย่างสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่ก็มีเยอะมาก ตั้งแต่
สระว่ายน้ำกลางแจ้ง 3 สระ ประกอบด้วยสระขนาดใหญ่สําหรับครอบครัว
และสระแบบอินฟินิตี้สําหรับผู้ใหญ่ถึง 2 สระ / ศูนยบริการดำน้ำ /
ฟิตเนส สตูดิโอ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญที่จะ ดูแลคุณอย่างใกล้ชิด /
“ทิน บ็อกซ์” (Tin Box) สโมสรสําหรับเด็ก ศูนยรวมกจิกรรมสําหรับ คุณหนู ๆ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง /
โรงเรียนสอนทําอาหารไทยที่ ”หมูคิทเช่น” (Moo’s Kitchen)/
โคคูน สปา (Coqoon Spa) / เฌดส์- อาร์ต ควอเตอร์ส (Shades) / ร้าน จําหน่ายสินค้าและของที่ระลึก
เอาจริงๆ มีแผนที่ยังหลงเลยจ้า
ก่อนที่จะพาไปชมส่วนอื่นขอพามาชมในส่วนของห้องพักกันก่อนนะคะ
ห้องพักที่ The Slate แบ่งออกเป็นห้องสวีททั้งหมด 177 ห้อง
และพูลวิลล่าอีกจำนวน 7 หลัง มีทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่
1. Private Pool Villas โดยจะแบ่งเป็น
One Bedroom Private Pool Villas และ Two Bedroom Private Pool Villas
2. Bensley Suite
3. Pearl Shell Suites
4. Pool Suite
5. Pearl Bed Suite
6. D-Buk Suite
ขอเริ่มด้วยห้องที่อิ้มพักนะคะ Roomtype นี้คือ เพิร์ล เบด สวีท (Pearl Bed Suites)
ห้องสวีทขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยพื้นซเีมนต์ขัดมันและพื้นไม้สีเข้ม
ห้องพัก Type นี้มีขนาด 56 -65 ตารางเมตร กว้างขวางมากทีเดียว
เพดานสูงโปร่งทำให้ภายในห้องไม่รู้สึกอึดอัด
แม้แต่พวกชุดคลุมอาบน้ำ และสลิปเปอร์ก็เป็นสีเทา ซึ่งเป็นหลักของเหมืองแร่
ทุกอย่างถูกจัดวางในคอนเซ็ปเป๊ะๆ
ความพิเศษอีกอย่างของ Pearl Bed Suites นั่นก็คือมีระเบียงที่กว้างขวาง
ด้านนอกมีมุมพักผ่อน ทั้งชุดเก้าอี้จิบชากาแฟ และเดย์เบดนอนอ่านหนังสือ
พร้อมกับชมวิวทิวทัศนือันเขียวขจีของต้นไม้นานาพรรณ
หันมาอีกด้านก็จะเป็น Outdoor Oversized Bathtub
ให้นอนแช่ชมวิวเพลินๆ อีกด้วย
ทีเด็ดอีกอย่างของที่นี่ก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ กว้างขวางมากกก
ทุกอย่างของที่นี่ใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นฝักบัว ก๊อกน้ำ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ
ทุกอย่างเป็นรายละเอียดหมด
ห้องน้ำจะแบ่งออกอย่างชัดเจน ส่วนไหน อะไรยังไง ไม่รบกวนกันแน่นอน
มินิบาร์ ฟรีเฉพาะ ชากาแฟ นะคะ
เครื่องดื่มในตู้เย็นมีค่าใช้จ่าย รายละเอียดราคาเขียนไว้ครบครัน
ห้องอาหารและบาร์ ที่เดอะซเลท ก็มีหลากหลายมาก เริ่มที่แบล็ค จินเจอร์ (Black Ginger)
รีเวทและรีบาร์ (Rivet & Rebar)
ทิน ไมน์(Tin Mine)
ทุ่งคาทินซินดิเคท (Tongkah Tin Syndicate)
อันเดอร์กราวนด์ คาเฟ่ (Underground) –
ชอร์ ธิง (Shore Thing)
เดอร์ตี้ มอนส์เตร่า (Dirty Monstera)
ซึ่งแต่ละห้องอาหารก็ให้บริการอาหารหลากหลายรูปแบบ ไม่ซ้ำกัน
และช่วงเย็นเราทานอาหารกันที่ห้องอาหารหลัก แบล็ค จินเจอร์ (Black Ginger)
หากคุณเคยเห็นภาพเรือนไทยสีดำอยู่กลางน้ำ มีพนักงานใส่ชุดไทยสีดำรอต้อนรับ
ภาพเหล่านั้นก็คือที่นี่ Black Ginger
Black Ginger เป็นเรือนไทยสมัยอยุธยากลางน้ำ ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตสวยงามชวนหลงไหล
ภายในให้บริการอาหารไทยและอาหารดั้งเดิมของภูเก็ต รวมถึงอาหารท้องถิ่นที่หารับประทานได้ยาก
โดยมากจะปรุงจากวัตถุดิบพื้นบ้านสดใหม่
จะมาทานอาหารที่นี่ต้องจองคิวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ได้ทานนะคะ
เมื่อได้เวลาเราก็มารอที่ท่าน้ำ จะมีแพลากเข้าไปยังบริเวณเรือนไทย
สถานที่จริงสวยและคลาสสิกมาก ส่วนมากลูกค้าที่นี่จะเป็นชาวต่างชาติ
เห็นแล้วก็ อู้วหู อ้าฮา โอว อเมซิ่งเป็นการใหญ่โต
นอกจาก Black Ginger จะให้บริการอาหารไทยแล้วเค้ายังมีพวกค็อกเทล เครื่องดื่มต่างๆ ไว้บริการด้วย
พอเข้ามาด้านในแล้วยิ่งรู้สึกถึงความสวยงาม และหรูหรา เค้าตกแต่งได้เยี่ยมมาก
ที่นี่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของ The slate เป็นสถานที่ ที่มีเสน่ห์มาก
ภายในว่าสวยงามมากแล้ว ส่วนของห้อน้ำนี่ก็ไม่น้อยหน้า หรู หรา เวอร์วังมาก
บรรยากาศช่วงค่ำ ยิ่งสวยงาม เพราะเค้าจะจุดคบเพลิงส่องสว่างบริเวณท่าน้ำ
แทนการใช้แสงไฟปกติ ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่ในยุคสมัยก่อนอะไรอย่างนั้น
ค่ำนี้ทานอะไรเบาๆ เคล้าเครื่องดื่มก็พอ อิอิ
Appetizer จานนี้เชฟ Recommend
ด้านในก็จะมี เบือทอด กระทงทอง ปอเปี๊ยะ เป็นจานเรียกน้ำย่อยที่ดีมาก
หลังจากนั้นเรามาลุยเครื่องดื่มกันค่ะ มีทั้ง Mock tail และ Cocktail สั่งได้ตามใจชอบ
ได้เครื่องดื่มอร่อยๆ เท่านี้ก็พอแล้วค๊าาา
นอนหลับพักผ่อน อย่างสบายใจสบายกายในคืนแรกแล้วบอกตรงๆ ไม่อยากจะตื่น
หลับสบายมากกกกกกกก
เอาหล่ะมาต่อกันที่อาหารเช้านะคะ สำหรับที่ The Slate
เค้าเปิดให้บริการอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Tin Mine
อาหารมีหลากหลาย และมีหลายโซนคือแต่ละโซนค่อนข้างอลังการทีเดียว
อย่างโซนผลไม้ และ ขนมปัง ยอมใจเลยค่ะ เยอะมากกกก
Egg Station อยู่ติดกับโซติ่มซำเลยค่ะ
ขนมปังเยอะมาก หลากหลายและน่าทานทั้งนั้น
มุมนี้จะเป็นเล็กๆ น้อยๆ ของอาหารไทย
ผลไม้และโยเกิร์ต
โยเกิร์ตนี่เท่าที่มองด้วยตา มีหลายรสมาก
ฝั่งนี้เป็นโซนสลัด แฮม ชีส และโคลคัทต่างๆ
มีแซลม่อนรมควัน และอกเป็ดรมควันด้วยนะคะ
นอกจากนั้นช่วงเย็นในบางวัน
ห้องอาหาร Tin Mine ก็มีอาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ให้บริการด้วย
อิ้มเลือกนั่งโซนนี้ค่ะ คนน้อย เงียบสงบ ลดพัดเย็นสบาย
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ได้เวลาสำรวจรีสอร์ทกันต่อ
สระว่ายน้ำสระแรกจะเป็น Family Pool เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ
ถัดมาจากสระว่ายน้ำ Family Pool ก็จะเป็นในส่วนของ รีเวทและรีบาร์ (Rivet & Rebar)
อยู่บริเวณด้านซ้ายมือของตัวตึก ด้านบนจะเป็นรีบาร์
เป็นบาร์สำหรับคนที่ชอบจิบเครื่องดื่ม ชิลๆ
ส่วนรีเวทเป็นห้องอาหารญี่ปุ่น
ซึ่งจะอยู่ด้านล่างของอาคารทั้งสองส่วนจะเปิดให้บริการช่วงเย็นเท่านั้น
แต่ช่วงกลางวันอิ้มว่าขึ้นมาถ่ายรูปเฉยๆ ก็ได้นะคะ มุมนี้สวยจริง
เดินมาด้านหลังเราจะเจอมุมนี้ เป็นคล้ายๆ Coliseum Garden
ลองเอาตัวเองไปเป็นนางแบบ ดูสิเกร๋จริงอะไรจริง
ที่ติดกันจะเป็นสนามหญ้า ถูกตกแต่งให้เป็นชั้นๆ เหมือนเวทีใหญ่ๆ
ใครอยากจัดงานแต่งงาน หรือปาร์ตี้วันเกิด ลองดูนะคะ เหมาะมาก
มาถึงสระว่ายน้ำ สระที่สองค่ะ เป็น Infinity Pool
สระนี้สวยงามและเงียบสงบ เป็นสระที่อิ้มชอบที่สุดค่ะ
สีน้ำเป็นสีฟ้ามีประกายสดใส ตัดกับสีท้องฟ้าเห็นแบบนี้แล้วอยากโดดน้ำ นาทีนั้น เดี๋ยวนั้น
อีกสระค่ะ Pulley Bar สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ ที่ภายในเปิดเพลงและมีบาร์คอยให้บริการ
ชมสระน้ำเสร็จขอย้อนกลับไปชมสปานะคะ
สปาที่นี่จัดว่าเด็ดค่ะ เค้ามีชื่ว่าโคคูนสปา (Coqoon Spa)
สปาที่นี่ก็คือเจ้าของรางวัลดีไซน์ระดับโลก เพราะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี
ห้องทรีทเมนต์สวีทแต่ละห้อง ให้บริการคุณด้วยทรีทเมนต์และการนวดหลากหลาย
ในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ให้คุณพบสวรรค์ของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
“เดอะเนส” (The Nest) ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของโคคูนสปา
แค่เห็นภายนอกก็รู้สึกน่าทึ่งมากแล้ว เค้ามีความโดดเด่นด้านการดีไซน์
โครงสร้างภายนอกมที่เราเห็นสร้างจากหวายเทียมและทำด้วยมือ
ย้ำว่าทำด้วยมือ ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทำเสร็จ
ถูกออกแบบเป็นลักษณะเหมือนรังนกบนต้นไม้กลางแมกไม้นานาพรรณ
เป็นสปาที่สวยงามมาก
ด้านในจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะเป็นห้องทรีตเม้นท์
ส่วนที่สองที่ทะลุกันจะเป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว
เสร็จจากสปาก็เดินเล่นกันต่อ ขอบอกว่านี่ยังไม่ครบนะคะ แค่ส่วนนึงเท่านั้น
ต่อมาจะเป็นห้องอาหาร Dirty Monstera เป็นห้องอาหารที่ติดกับล็อบบี้
เป็นห้องอาหารที่ให้บริการพวกแซนวิช แฮมเบอร์เกอร์ เบเกอร์รี่ ชา กาแฟ
ตกแต่งสวยมากกกกกกก โซฟาดูใหญ่โต แสดงถึงความมีพลัง
ถัดมาจะเป็น Stockroom จำหน่ายของที่ระลึก มีทุกอย่างที่เป็นเดอะเสลท
ช่วงมื้อกลางวันอิ้มฝากท้องไว้ที่นี่ค่ะ อันเดอร์กราวนด์ คาเฟ่ (Underground)
ผ่อนคลายกับบรรยากาศกลางแจ้งริมสระน้ำ อาหารของที่นี่ก็จะเป็นแนวเฮลตี้
มีเมนูสำหรับคนรักสุขภาพต่างๆ ทั้งสลัด น้ำผลไม้
โดยทั้งหมดจะใช้วัตถุจากธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารปรุงแต่งค่ะ
เป็นยำเนื้อย่างที่หน้าตาคลีนแต่รสชาติแซ่บเบาๆ
ชื่อเมนูขออภัยที่จำไม่ได้นะคะ
จานนี้เป็นอกไก่ กับข้าวไรส์เบอร์รี่ มีความคลีนจริงจัง
ยำส้มโอจ้า
นอกจากนั้นก็จะมีพวกเบอร์เกอร์ ไว้บริการด้วยนะคะ
ทานอาหารเที่ยงกันอย่างหนำใจ พาไปเดินย่อยต่อดีกว่า
คราวนี้เราจะมาชมห้องพักใน Roomtype อื่นๆ กันบ้างค่ะ
Type นี้คือ D-Buk Suite แค่ชื่อก็บอกถึงความเป็นเหมืองแร่แล้ว
โทนสีห้องนี้จะดูมีความขรึม แต่จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส
ทำให้เพิ่มสีสันภายในห้องมากยิ่งขึ้น
ห้องนี้ขนาดกว้างขวางทีเดียวค่ะ
มีโต๊ะทำงานและระเบียงด้านนอกให้ด้วย
ฝั่งอีกด้านนึงจะเป็นเดย์เบดพร้อมกับ Bathtub สีชาร์โคลมีความเซ็กซี่เบาๆ
ส่วนของห้องน้ำค่ะ
อีกจุดนึงที่ชอบคือห้องแต่งตัวค่ะ ย้ำว่าเป็นห้องไม่ใช่ตู้เสื้อผ้า
ด้านในกว้างขวางและมีบานกระจกเต็มตัว เหมาะสำหรับสาวๆ
ต่อมาเป็น Pearl Shell Suite
Pearl Shell Suite มีทั้งแบบ 1 ห้องนอนและสองห้องนอน
ซึ่งแบบหนึ่งห้องนอนจะมีด้วยกัน 4 ห้องแต่ละห้องจะตกแต่งตาม Theme ของตัวเองไม่ซ้ำกัน
ห้องที่อิ้มจะพามาชมคือ Theme Black Tie ค่ะ
การกตแต่งของห้องนี้จะเน้นไปที่โทนสีขาวดำ
ภายในหรูหรา โอ่อ่า พื้นที่ใช้สอยมีถึง 132 ตารางเมตร
เราเข้ามาภายในห้อง สิ่งแรกที่เราพบก็จะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ในส่วนของห้องนอนค่ะ ถัดไปจะเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
โดยเลือกใช้วอลเปเปอร์เป็นดอกไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนอ่างน้ำท่ามกลางสวนดอกไม้
ห้องนี้ยังมีระเบียงที่กว้างขวางมากอีกด้วย
กลับมาภายในห้องค่ะ ทีเด็ดของห้องนี้อยู่ที่บริเวณนี้เลย
ห้อง spa treatment แบบเป็นส่วนตัวภายในห้องพัก สามารถให้ therapist
มาดูแลให้ภายในห้องพักได้เลย สะดวกสบายมาก
เป็นห้อง spa treatment ที่สวยกว่าสปาใหญ่บางที่ซะอีก
ต่อมาค่ะ
Private Pool Villas วิลล่าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว
One Bedroom Private Pool Villas และ Two Bedroom Private Pool Villas
ซึ่งอิ้มจะพามาชมในส่วนของ One Bedroom Private Pool Villas
เข้ามาด้านในเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกเลยค่ะ
ภายในถูกแบ่งเป็นสองวิลล่า น่าพัก และเงียบสงบ
วิลล่าที่นี่จะมีขนาดตั้งแต่ 650 ตารางเมตรไปจนถึง 1,000 ตารางเมตร
กว้างขวางมากกและแต่ละหลังตำแหน่งสระว่ายน้ำ หรือการตกแต่งก็ไม่ซ้ำกันอีกด้วย
นี่จะต้องมาพักให้ครบทุกห้องเลยใช่ไหม 5555
ส่วนแรกจะเป็น Outdoor นะคะ
มีเก้าอี้และเดย์เบดให้นอนอ่านหนังสือ รับลมเย็นสบายๆ
ทุกอย่างในห้องนี้ถูกแบ่งแยกเป็นสัดส่วนอย่างดีเยี่ยมมีส่วนรับประทานอาหาร นั่งเล่น ห้องนอน
เป็นห้อง spa treatment สระว่ายน้ำส่วนตัว และยังมีบัตเลอร์บริการแบบ 24 ชั่วโมง
เข้ามาชมที่วิลล่าส่วนแรกกันค่ะ ส่วนนี้เป็นห้องนั่งเล่นนะคะ
สวยมาก ยังคงคอนเซ็ปความเป็นเหมืองแร่ได้อย่างชัดเจน
สวยมาก อิ้มอยากให้ทุกคนมาเห็นด้วยตาของตัวเอง
เพราะจากภาพถ่ายก็ไม่สามารถบรรยายถึงความสวยงามของสถานที่จริงได้
ด้านหลังวิลล่าแรก จะมีห้องเป็นห้อง spa treatment มีซาวน่า ครบครัน
ห้องน้ำของวิลล่าแรกค่ะ
เดินออกมาจะมีสระว่ายน้ำกั้นกลาง สระว่ายน้ำเป็นสระที่มีความยาว ว่ายไปกลับเอาเรื่องอยู่ค่ะ
เป็นวิลล่าที่ช่างมีความครบครัน และมีความไพรเวทสูงมาก
ถัดมาจะเป็นวิลล่าของห้องนอนค่ะ
มีอ่างอาบน้ำให้แช่ผ่อนคลาย
ด้านในตกแต่งสวยงามเรียบหรู
โซนด้านหลังห้องนอนจะเป็นห้องน้ำทั้งหมด ซึ่งมีความกว้างมาก
ฝั่งนี้จะถูกจัดเป็นห้องแต่งตัว
แบบนี้จะมีสองฝั่งเลยค่ะ
ห้องน้ำอลังการงานสร้างจริงๆ
ต่อมาเป็น เบนสเลย์ สวีท (Bensley Suite) มีเพียง 1 หลัง
ห้องนี้จะเปิดให้บริการอีกไม่นานเพราะจะมีการปิดปรับปรุง
แต่ห้องนี้ภายในสวยมาก แบ่งเป็นสองชั้นนะคะ
มาชมในส่วนด้านในกันก่อน ด้านล่างนี้จะเป็นชั้นล่าง คือห้องนั่งเล่นค่ะ
ใช้เฟอร์นิเจอร์หนังเข้ามาตกแต่งเพิ่มความหรูหราไปอีกระดับ
ด้านบนจะเป็นห้องนอนและมี โซนทำสปาไว้อีกมุมนึงของห้อง
ห้องน้ำค่ะ จะตกแต่งคล้ายกับห้องที่อิ้มพัก
ด้านนอกก็จะคล้ายกันคือมีระเบียงและ Outdoor Oversized Bathtub
วิวจากระเบียงห้องค่ะ
และนี่ก็คือไฮไลท์ของห้อง เบนสเลย์ สวีท (Bensley Suite)
สวยมากกกกกกกกกกกก อยากเป็นชุดลงเล่นน้ำเดี๋ยวนี้
ถัดไปจะเป็นมุมเล็กๆ ในสวนให้นอนอาบแดดด้วยค่ะ
ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้ว เย็นนี้อิ้มทานอาหารที่ ห้องอาหารรีเวท Rivet
ซึ่งให้บริการอาหารญี่ปุ่น ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ก็ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเชียวนะคะ
นอกจากนั้น รีเวท ก็โดดเด่นด้วยการตกแต่งโดยใช้เก้าอี้ที่ประยกุต์จากเครื่องจักรในโรงงานเหมืองแร่
คือไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าสวยมากกกกกก
เอาหล่ะค่ะ เมนูที่อิ้มทานก็จะเป็นแบบคอร์สสำหรับสองท่านนะคะ
ตัวนี้เป็น Recommended จากเชฟ แซลมอนเบิร์นไฟ ออนท็อปด้วยไข่กุ้ง และซอสสูตรพิเศษ
อร่อยมากกกก
ต่อมาจะเป็น Appetizer เสิร์ฟท่านละ 1 เซ็ต
ซาชิมิสำหรับสองท่าน โฮตาเตะดีงาม เนื้อปลาต่างๆ สด หวาน มีความฟิน
จานนี้เป็น Tuna ค่ะ
และซูชิเนื้อวากิว เนื้อนุ่มละลายในปาก คำใหญ่มากกก
จานสุดท้ายเป็นเนื้อวากิวย่างบนหิน โอ้ยยยย ฟินมากก อร่อยมากก
อาหารญี่ปุ่นเค้าจัดว่าดีเยี่ยมเลยค่ะ ถูกใจอิ้มจัง
ขอท้ายท้ายรีวิวนี้ด้วยภาพหาดในยาง หาดที่ติดกับรีสอร์ท
สวยงามและเงียบสงบ คนน้อยไม่พลุกพล่าน เป็นอีกที่ ที่น่ามาพักผ่อนค่ะ
นอกเหนือจากที่อิ้มแนะนำไปยังไม่ครบกับที่รีสอร์ทมี
แนะนำให้มาพักเองจะรู้ว่าที่นี่วิเศษจริงๆ
The Slate
รีสอร์ทในฝัน ที่ไม่เป็นความฝันอีกต่อไป
วันนี้อิ้มได้มาสัมผัสแล้วและพบว่าที่นี่สวยงาม เกินจะบรรยายด้วยภาพถ่ายและตัวอักษร
ไม่ว่าจะมุมไหนก็งดงาม ใส่ใจในรายละเอียดในทุกมุมมอง
สำหรับอิ้มไม่มีที่ติเลยค่ะ
เพราะภายในรีสอร์ทมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่มีหลากหลายรูปแบบ
สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำที่มีถึง 3 สระ กิจกรรมสำหรับคุณหนู โรงเรียนสอนทำอาหาร
อีกทั้งเป็นรีสอร์ทที่ทำเลดี เพราะตั้งอยู่บริเวณหาดในยางอันเงียบสงบ
ห่างจากสนามนานาชาติภูเก็ตเพียง 10 นาที
ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางเข้าไปในเมืองภูเก็ตให้วุ่นวาย
และถ้ามีโอกาสอิ้มต้องกลับมาพักผ่อนที่นี่อีกแน่นอน
ที่อยู่: เดอะซเลท เลขที่ 116 หมู่ 1 หาดในยาง ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 83110
โทรศัพท์: +66 76 327 006
เว็บไซต: http://www.theslatephuket.com
เฟซบุ๊ก: http://www.facebook.com/theslatephuket/
ทวิตเตอร์: @theslatephuket อินสตาแกรม: @theslatephuket
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.facebook.com/psstorytrip