Sushi Ichizu สุดยอด Omakase ที่คุณต้องมาลอง

สวัสดีค่า วันนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปทานอาหารญี่ปุ่นกันอีกแล้ว

บอกเลยว่าเป็นมื้อที่มีความพิเศษสุดๆ

เพราะอิ้มจะพาไปทาน อาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะราคาคนละ 8000++

ร้านนี้มีชื่อร้านว่า Sushi Ichizu นั่นเองค่ะ หลายๆ คนคงคุ้นหูกันแล้วใช่ไหม

โอมากาเสะหรืออาหารญี่ปุ่นแบบตามใจเชฟ

หรือ เชฟจัดให้ เชฟจะนำวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาลมาเสิร์ฟให้เราทาน

อิ้มว่าเป็นการทานอาหารที่มีความสุขมาก

เพราะเรายังได้ลุ้นตลอดเวลาว่าเชฟจะทำอะไรให้เราทาน

และระหว่างทานเชฟก็จะเล่าเรื่องราวการนำวัตถุดิบต่างๆ ให้เราฟัง

นอกจากอาหารที่นี่ยังมีความอร่อยและคุณภาพวัตถุดิบที่เรียกว่าชั้นเลิศแล้ว

เชฟที่นี่ยังมีความหล่อมากกกกกกกกกเป็นพิเศษ

ทำให้การทานอาหารน้านนนนเพลิดเพลินเป็นที่สุด

เอาหล่ะค่ะ เดี๋ยวเราไปชมกันว่า ราคาคนละ 8000++ เราจะได้ทานอะไรบ้าง

และเชฟจะหล่อสมคำร่ำลือหรือไม่ ตามอิ้มไปชมในรีวิวนี้กันเลยค๊าา

Sushi Ichizu สุดยอด Omakase ที่คุณต้องมาลอง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางร้าน

https://th-th.facebook.com/sushiichizu/

ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า

https://www.facebook.com/psstorytrip

0

สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม

แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ให้อิ้มด้วยน๊าาา

มาเริ่มกันเลยน๊าาาา

ขอเล่าประวัติเชฟสักนิดนะคะ

เชฟสุดหล่อของที่นี่มีนามว่า ริคุ โทดะ

เชฟ Riku Toda (戸田陸)เกิดที่จังหวัดไซตามะ

ตัวเค้าเองหลงรักอาหารญี่ปุ่นซึ่งเป็นอาหารบ้านเกิดอย่างมากมาย

จึงฝึกฝนอย่างหนัก จนได้รับการเห็นเเววและเข้าสู่วงการซูชิ

โดยฝึกฝนจาก ปรมาจารย์ซูชิ Hachiro Mizutani เจ้าของร้านซูชิ

ระดับมิชลิน3ดาว ชื่อร้านว่า Sushi Mizutani ซึ่ง Hachiro Mizutani

เป็นลูกศิษย์อันดับ 1 ของเทพเจ้าซูชิ Jiro Ono ต้นตำหรับเอโดะมาเอะซูชิ

แต่เชฟมิสึทานิอายุมากขึ้น ร้านSushi Mizutani จึงปิดตัวลง

หลังจากนั้น เชฟ Riku Toda ก็ได้มาพบกับ สุดยอดเชฟซูชิพรสวรรค์ของญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน

เชฟTakaaki Sugita เเละได้ย้ายมาช่วยงานเป็นหนึ่งในทีมงานที่ Miyakozushi

จนร้านมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการซูชิ

เเละ เชฟ Riku Toda ก็ได้ขึ้นมาเป็นเชฟมือ2 ที่ Miyakozushi ก่อนที่ร้านจะย้ายที่อยู่

เเละเปลี่ยนชื่อมาเป็น Sugita ในปัจจุบัน โดยรับหน้าที่เป็นเชฟมือ2 ของร้านมาตลอด

ซึ่งร้าน Sugita ก็ได้รับดาวมิชลินในปีเดียวที่เปิด เเละ Gold Medal จากเว็บรีวิวอาหารTABELOG

อีกทั้งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในร้านซูชิที่ดีที่สุด

เเละ เป็นร้านซูชิที่จองยากที่สุดของญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน

เป็นไงคะแค่ประวัติก็สุดยอดแล้ว

 

2 (1)

ร้าน “Sushi Ichizu”

ตั้งอยู่ที่ สุขุมวิท 39 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ 10310

หรืออยู่ปากซอย เพชรบุรี 38/1ด้านหน้ามีที่จอดรถ

ใครมารถไฟฟ้าใต้ดิน ให้ลงสถานีเพชรบุรี แล้วเดินต่ออีก 1.2 กม.

สำหรับร้าน Ichizu จะเสริฟแค่ Omakese Course เพียบแบบเดียวเท่านั้นราคา 8000++

เปิดบริการ: วันละ 2 รอบ (17.30น.และ 20.30 น.)

ต้องจองที่นั่งก่อนเท่านั้น

การไปทานโอมากาเสะนั้นเราไม่ควรฉีดน้ำหอมไปเพราะจะทำให้บรรยากาศร้าน

กลิ่นอาหารภายในร้าน เปลี่ยนไป จากกลิ่นอาหารและความขลังภายในร้าน

จะเปลี่ยนเป็น Chanel no.5 ก็ใช่ที่ เค้าต้องการให้เรารับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง

เพื่อที่จะได้รับสุนทรียภาพในการทานให้มากที่สุด

1 (2)

เอาหล่ะค่ะ ได้เวลาพาทานแล้ววว

หากมาถึงก่อนเวลาจะมีห้องรับรองให้นั่งรอ และจะเสิร์ฟชาเขียวร้อนเย็นให้ทานนะคะ

ร้านเค้าจะตรงเวลามาก พอ 20.30 น. ปุ๊ป เค้าจะให้เราเข้าไปด้านในทันที

ภายในมีที่นั่ง 12 ที่นั่งเท่านั้น นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้เราต้องจองก่อน

และส่วนเหตุผลหลักที่บางคนบอกว่า ราคานี้ต้องจองด้วยเหรอ ??

ใช่ค่ะ ราคานี้ต้องจองเพราะว่าเชฟ จะนำเข้าวัตถุดิบสดๆ คุณภาพดีๆ

จากญี่ปุ่นมาให้เราทาน รับรองว่าถูกใจแน่นอน

เข้ามาด้านในเชฟก็เริ่มเตรียมอาหารอย่างขะมักเขม้น

และขูดวาซาบิสดๆ ให้เราทาน

จะบอกว่าการทานโอมากาเสะนั้น เราจะไม่ขอซอส หรือวาซาบิเพิ่ม

เพราะเชฟจะปรุงมาอย่างดีที่สุดแล้ว

1 (2)

appetizer คำแรกที่เราจะได้ทานกันในวันนี้ก็คือ

ปลาหมึกหิ่งห้อย

ปลาหมึกหิ่งห้อย หรือปลาหมึกพันธ์ุเล็ก จะมีที่อ่าวโทมายะ

ปลาหมึกหิ่งห้อยจะอาศัยอยู่ในทะเลลึก

แต่จะขึ้นมาบริเวณน้ำตื้นเพื่อวางไข่ในช่วงเดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม

นั่นก็หมายความว่าเราจะหาทานได้ในเฉพาะช่วงเดือนสองเดือนนี้เท่านั้น

ส่วนปลาหมึกหิ่งห้อย คำนี้อร่อยมากค่ะ ปลาหมึกตัวเล็กนิดเดียว

กัดไปมีแต่ความมันทานคู่กับซอสที่เชฟปรุงมาให้ อร่อยมากกกกก

1

ต่อมาเห็นเชฟกำลังหั่นหนวดปลาหมึก โอ้ววว แม่เจ้ามันใหญ่มากกกก

2 (2)

และนี่ก็คือคำที่สองของเราค่ะ เป็นหนวดปลาหมึกยักษ์

หนวดปลาหมึกยักษ์ เสิร์ฟพร้อมกับซอสมัสตาร์ดญี่ปุ่น

แนะนำให้ทานพร้อมกันกับซอสจะได้รสชาติที่ดีเยี่ยม

ปกติเวลาเราทานปลาหมึกยังก็ต้องมีความเหนียวถูกไหม

แต่นี่ไม่มีเลยจ้า มีแต่ความนุ่ม ละลายในปาก หอมมม หวาน กลมกล่อม

2 (3)

คำที่สาม หอยซาซาเอะ

หอยซาซาเอะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อิ้มอยากลองทานมากกกก หน้าตาอาจจะไม่น่ารัก

แต่รสชาติจะทำให้หลงรักได้ง่ายๆ เชียวนะคะ

หอยซาซาเอะรสชาติจะไม่หวานมากนัก เวลาเราเคี้ยวจะมีความกรุบเหมือนหูหมู

แนะนำ ให้ทานตอนร้อนๆ จะดีมาก

3

ต่อมาคำที่สี่ที่หนึ่งในใจของอิ้ม อิอิ

คำนี้เลิฟเวอร์พูดเลย คำนี้เป็นตับปลาอังโกะ หรือที่เราเรียกว่า Monk Fish

โอ้ยยยยยยยยยยย คำนี้เหมือนขึ้นสวรรค์ อร่อยมากกก

รสสัมผัสเหมือนฟัวกราส์มีความนุ่ม ละมุนลิ้น

นี่สิคะที่เรียกว่าฟัวกราส์แห่งท้องทะเลที่แท้ทรู ฟินนนนนนนน

4

คำที่ห้า ปลาคุโรมุสึ

ปลาคุโรมุสึ เชฟจะนำไปย่างอย่างพอดี หนังปลามีความหอมและกรอบ

ตัวปลานุ่ม ชุ่มลิ้น แทบจะละลายในปาก

เวลาทานให้บีบมะนาวลงไปสักนิดและานพร้อมกันทั้งคำ จะให้รสสัมผัสที่ดีเยี่ยม

5

ต่อมาค่ะ

6 (1)

คำที่หก เป็นซูชิคำแรกนะคะ

คำนี้ก็คือ Akakai หอยแครงญี่ปุ่น ซึ่งสมัยเอโดะ ถือว่าเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ

ส่วนสมัยนี้ก็เร่ิมหาทานยากขึ้นแล้วค่ะ

Akakai ที่อิ้มทานวันนี้ ตัวใหญ่มากกกกก และเวลาเคี้ยวจะมีกลิ่นหอมๆ เหมือนใบไม้

อีกทั้งสัมผัสยังกรอบเด้ง สดมาก หวานมาก คำนี้อร่อยถูกใจอิ้มมากๆ เกินคาดจริงๆ

6 (2)

คำนี้อิ้มลืมถ่าย อร่อยเพลินก็แบบเนี๊ยะ เอาให้เห็นว่าเชฟกำลังหั่นอยู่แล้วกันนะคะ

หรือจะไปดูในคลิปก็ได้น๊าาา เห็นทุกคำ

คำที่เจ็ดนี้ก็คือ Sakura masu

Sakura masu  เป็นปลาที่มีแค่ฤดูซากุระเดือนเดียวเท่านั้น รสสัมผัสเค้าคล้ายแซลมอน

แต่อร่อยกว่าหลายเท่ามากกกกก

7

ต่อมาเป็นไฮไลท์ของทางร้านค่ะ คำที่แปด

ใครชอบทานเป่าฮื้อต้องกรีดร้องแน่นอนสำหรับคำนี้

เชฟนำหอยเป๋าฮื้อ ไซส์ไม่ใหญ่มาก ซึ่งจะผ่านกระบวนการทำที่ยากมาก

เชฟนำหอยเป๋าฮื้อไปนึ่งสาเกเป็นเวลา 8 ชั่วโมง

จนได้เนื้อที่นุ่มแต่ยังคงความหนึบของเนื้อเป๋าฮื้อไว้ได้อย่างพอดี

ว่าตัวเป่าฮื้อทำยากแล้ว

ซอสตับเป๋าฮื้อยิ่งเทพกว่า เพราะเค้าต้องใช้ตับของเป๋าฮื้อถึง 5 – 10 ตัว

เพื่อที่จะใช้รสชาติที่กลมกล่อมและเข้มข้นมากที่สุด

เวลาเสิร์ฟเชฟก็จะใส่ข้าว เนื้อเป่าฮื้อ และซอสเป่าฮื้อมาในถ้วย

ให้เราคนทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วทาน

จะบอกว่าคำนี้เทพมากกกกก อร่อยมาก ตัวเป่าฮื้อหอมสาเก และซอสเข้มข้น หอมมัน

เข้ากันได้อย่างลงตัว เข้าใจแล้วว่าทำไมเมนูนี้ถึงเป็นเมนูยอดฮิต

ที่ลูกค้าถามถึงตลอด ทางร้านบอกว่าถ้าไม่มีเมนูนี้ลูกค้าจะงอนมากกกก

ส่วนตัวอิ้มว่าอร่อยมากถูกใจค่ะ

8 (1)

8 (2)

คำที่เก้าค่ะ

9 (1)

9 (2)

คำที่เก้านี้เป็น ชูโทโร่ ที่ผ่านการบ่มมาถึง 7 วัน รสชาติเข้มข้น อร่อยค่ะ

9 (3)

ตามมาติดๆ คำที่สิบ เป็น Otoro คำโปรด ของใครหลายๆ คนรวมไปถึงอิ้มด้วย

10 (1)

Otoro คำนี้ผ่านการบ่มมาเช่นกัน เนื้อนุ่ม  มีความมัน ละลายในปาก ฟินมากกกกก

10 (2)

ต่อมาคำที่สิบเอ็ด Hotate

Hotate เป็นคำที่ใหญ่มากพอควร ด้านบนเชฟโรยด้วยเกลือที่ทำมาจากสาหร่ายคอมบุ

เพื่อจะทำให้มีรสชาติเค็มน้อยกว่า

ส่วนตัวอิ้มชอบคำนี้มาก Hotate สด หวาน เด้ง ทานแล้วรู้สึกสดชื่น

11คำที่สิบสอง เป็นปลาที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตควรได้ทาน

คำนี้คำปลา Nodoguro

Nodoguro หรือปลาคอดำ เป็นปลาน้ำลึกราคาแพงและไม่สามารถหาทานได้ง่ายๆ

เชฟนำไปย่าง จนหอม รสสัมผัส มีความนุ่ม ละมุน อร่อยมากกกพูดเลย

12 (1)

12 (2)

ต่อมาคำที่สิบสาม คำนี้จัดว่าเด็ดอีกล๊าววว

Kuruma Ebi คุรุมะ เอบิ

จะบอกว่าสดมากกกก ยังมีชีวิตเด้งๆ อยู่เลย

13 (1)

หลังจากนั้นเชฟก็จะนำไปลวกและแกะด้วยมือเปล่า

อยากจับมือเชฟเบาๆ แล้วถามว่าร้อนไหมคะ อิอิ

13 (2)

มาแว้ววววว Kuruma Ebi คุรุมะ เอบิ

คำนี้เอาหัวใจอิ้มออกไปเลยดีกว่า กุ้งตัวใหญ่อ้วนมากกกกกก เต็มปากเต็มคำสุดๆ

และด้วยความสด หวาน เด้ง มัน กรอบ ของกุ้งตัวนี้

ช่างทำให้อิ้มฟินอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

13 (3)

13 (4)

ต่อมาคำที่สิบสี่ค่า Uni หรือไข่หอยเม่น

14 (1)

โอ้ยยยยย ตายไปเลยคำนี้ ตอนแรกเห็นเชฟตักใส่คือบั่บว่าเยอะมากกกก

14 (2)

ตอนตักว่าเยอะแล้วแต่เชฟยังใส่ให้ไม่ยั้ง

เรื่องของเรื่องอิ้มทายอายุเชฟถูก ตอนแรกขอรางวัลเป็นเบอร์โทรเชฟ

แต่เชฟยิ้มมุมปาก บอกว่าเอาไข่หอยเม่นไปแทนแล้วกัน

เกี่ยวกันตรงไหนคะเนี่ยเชฟ 5555

14 (3)

นี่ค่าาาาา เชฟจัด Uni ให้อิ้มอย่างเยอะ

14 (4)

Uni ของข้าาาาาา

15

ตอนทานไปคือฟินมากกกก สด หวาน มัน ไม่มีความคาวเลยสักนิด

เหมือนตกอยู่ในภวังค์อะไรบางอย่าง

กดไปคำไหน มีแต่ Uni Uni Uni Uni มันแน่นไปหมด Uni เน้นๆ รักเลยค่า

14 (5)

ต่อมาคำที่สิบห้า ปูขน หรือ Kegani สดๆ เช่นกันยังเป็นๆ อยู่เลยค่ะ

16 (1)

ผ่านไปไม่นานก็กลายเป็นอย่างนี้ซะแล้ววว

โดยปูตัวนี้เชฟจะนำไปนึ่ง ก่อนที่จะนำมาแกะแยกส่วนเนื้อปูกับมันปูออกจากกัน

จากนั้นนำข้าวคลุกกับมันปูแล้วก่อนนำไปอบอีกรอบพร้อมกระดองปู

16 (2)

16 (3)

สุดท้ายนำข้าวที่อบมันปูมาหั่นแบ่งใส่ถ้วยก่อนโปะด้วยเนื้อปู

และ Ikura พีคในพีคเข้าไปอี๊กกกกก

16 (4)

เวลาทานเราสามารถทานกระดองได้ด้วยนะคะ ให้ทานตรงที่ไหม้

จะกรอบ หอม ส่วนของข้าวที่อร่อยที่สุด คือข้าวที่ติดกับกระดองปูเพราะมีความมันสูง

ทานทุกอย่างเข้าด้วยกันคือดีงามมาก ส่วนตัวอิ้มชอบทั้งปูและ Ikura

เลยชอบคำนี้มากๆ เช่นกัน

16 (5)

สุดท้ายเป็นซูชิคำสุดท้าย คำที่สิบหก ไข่หวานสูตรพิเศษของทางร้านค่ะ

ทำมาเป็นเลเยอร์ชั้นๆ อร่อย ไม่เหมือนของคาวเลย

17 (1)

สุดท้ายค่ะ ของหวาน Warabi Mochi เป็นแป้งราดด้วยน้ำเชื่อม ถั่วเหลือง

และโรยด้วยดอกซากุระดองเกลือ

เป็นของหวานที่อร่อยมากกกกก รสชาติแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารได้อย่างสวยงาม

ถ้วยนี้อิ้มขอเบิ้ลสองเลยค๊าาา 5555

17 (2)

ก่อนกลับขอแชะภาพกับเชฟสักนิด อิอิ

17 (3)

เป็นยังไงบ้างคะกับโอมากาเสะระดับพรีเมี่ยมที่ร้าน sushi ichizu

อิ้มว่าเป็นการทานที่เพลิดเพลินมาก

อาหารสด ใหม่ คุณภาพดี เชฟใส่ใจในรายละเอียดทุกๆ ขั้นตอน

ประทับใจมากๆ มีโอกาสจะไปทานอีกแน่นอนค่ะ

******************************************************

สำรองที่นั่ง

เบอร์โทรศัพท์:065-7389999

อีเมล: info@sushiichizu.com

https://th-th.facebook.com/sushiichizu/

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

******************************************************

ช่องทางติดต่อเรา

http://www.psstorytrip.com

http://www.facebook.com/psstorytrip

http://www.instagram.com/psstorytrip

http://www.youtube.com/psstory trip

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s