เปิดประสบการณ์การทานโอมากาเสะชั้นเลิศสุดพรีเมี่ยม@ICHIKA OMAKASE

สวัสดีค๊าาาา วันนี้จะชวนมาทานอาหารญี่ปุ่นกันอีกแว้วววว

อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊าาา

ต้องบอกก่อนเลยว่าการมาทานอาหารญี่ปุ่นวันนี้ไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน

เพราะนี่คือการมาทานโอมากาเสะ !!!!

อ้าวววว งง งง อย่าเพิ่ง งงไปจ้า อิ้มจะอธิบายคร่าวๆให้ฟัง

สำหรับคนไทย โอมากาเสะ อาจจะแปลกใหม่

แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่เลยค่ะ

โอมากาเสะของญี่ปุ่นดั้งเดิม คือ ศิลปะการทำอาหาร

ทั้งศาสตร์และศิลป์ของเชฟสู่มือผู้ทาน โดยจะทานอาหารแบบเป็นคอร์ส

โอมากาเสะแปลตรงตัวก็หมายความว่า “เชฟจัดให้”

ซึ่ง “จัดให้” หมายถึงการที่เชฟจะเป็นคนเลือกว่าวันนี้คนที่มาทานจะได้ทานเมนูใดบ้าง

ซึ่งต่างจากการทานอาหารญี่ปุ่นทั่วไปคือเราอยากทานอะไรก็ได้ตามใจสั่ง

แต่แม้ว่าการมาทานอาหารที่ไม่สามารถเลือกเมนูเองได้

ผู้ทานอาจจะกังวลใจว่า เห้ยยยยยย เชฟจะทำอะไรให้ชั้นกินเนี่ย !!!

หมดกังวลไปได้เลยเพราะการทานโอมากาเสะบอกได้เลยว่า

เค้าจะใช้วัตถุดิบที่ดีเยี่ยมมาปรุงแต่งให้ทาน

และการทานแบบโอมากาเสะเองก็เป็นการเปิดโอกาสให้เชฟ

มีอิสระในการรังสรรค์เมนูอย่างเต็มที่

ซึ่งอิสระนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งในการดึงเอาปฏิภาณไหวพริบของเชฟ

ออกมาใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในการรังสรรค์เมนูอาหารแต่จะอย่างให้เราทาน

ในขณะเดียวกันโอมากาเสะมื้อนี้ก็จะเป็นมื้อที่เหนือความคาดหมาย

เราจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน

ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนเสร็จถึงมือคนทาน

ซึ่งร้านที่อิ้มจะพามาทานในวันนี้ก็มีชื่อร้านว่า

ICHIKA OMAKASE ตั้งอยู่ในโรงแรม Rembrandt สุขุมวิทซอย18

เค้าเปิดให้บริการสองเวลาก็คือ มื้อเที่ยงเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น.

ส่วนมื้อเย็นจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.

คอร์สมื้อกลางวันมีให้เลือกตั้งแต่ราคาท่านละ 1,700++,2,700++ และ 3,700 บาท ++

คอร์สมื้อเย็นมีให้เลือกตั้งแต่ราคาท่านละ 3,700++,4,700++,6,700++ และ 9,700 บาท ++

ซึ่งอิ้มมาทานเป็นมื้อกลางวัน ราคาท่านละ 2,700 บาท ++ ค่ะ

การมาทานโอมากาเสะที่นี่ต้องโทรมาจองก่อนเท่านั้น

แนะนำให้จองล่วงหน้าสักวันสองวันเพราะเค้าจะสั่งตรงวัตถุดิบจากญี่ปุ่น

มาให้เราทานกันถึงที่ เรียกว่าพรีเมี่ยมสุดๆ ดีงามมากกกกกก

เอาล่ะค่ะ แค่เกริ่นมาก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วใช่ไหม

เดี๋ยวตามอิ้มไปชมในรีวิวนี้กันดีกว่า

เปิดประสบการณ์การทานโอมากาเสะชั้นเลิศ @ICHIKA OMAKASE

รับรองถูกใจคนรักอาหารญี่ปุ่นแน่นวลลล

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางร้าน

https://th-th.facebook.com/ichikathailand/

ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า

https://www.facebook.com/psstorytrip

0

 

สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม

แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ให้อิ้มด้วยน๊าาา

ร้าน Ichika Omakase อยู่ในโรงแรม Rembrandt สุขุมวิทซอย18

หากนำรถส่วนตัวมาก็จอดภายในลานจอดของโรงแรมได้เลย

ส่วนใครนั่งนั่ง BTS มาให้มาลงสถานีอโศก แล้วเดินต่อมาถึงซอยสุขุมวิท 18

เดินเข้าซอยไปไม่ลึกมาก จะเจอโรงแรม Rembrandt อยู่ทางซ้ายมือ

ร้าน Ichika Omakaseจะตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรม Rembrandt ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าร้านจะเป็นแบบนี้

1 (1)

มาทำความรู้จักร้านนี้กันอีกสักหน่อยค่ะ

อิชิกะโอมากาเสะ  ธรรมชาติให้วัตถุดิบ อิชิกะสร้างสรรค์รสชาติเพื่อคุณ

โอมากาเสะของญี่ปุ่นดั้งเดิม คือ ศิลปะการทำอาหารที่แสดงศักยภาพทั้งศาสตร์

และศิลป์ของเชฟสู่มือผู้ทาน

ที่อิชิกะโอมากาเสะเค้ามีเชฟที่เก่งมากๆ

เชฟจะผสมผสานทั้งความเชี่ยวชาญและความฉลาดเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

เพื่อส่งต่อประสบการณ์การรับประทานอาหารตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย

ซึ่งที่อิชิกะโอมากะเสะ

เค้ารักษาธรรมเนียมการทำอาหารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ในทุกในทุกๆ ขั้นตอน

ไม่ขาดตกบกพร่องไปแม้แต่น้อย

ส่วนชื่อร้านนะคะ อิชิกะหมายถึงดอกซากุระ

ซึ่งดอกไม้ดอกนี้จะทำให้คุณสดชื่นอย่างแท้จริง

ประมาณว่าเมื่อคนกรุงเทพฯ ได้มาทานอาหารที่อิชิกะ

ทุกคนจะเห็นโลโก้รูปดอกซากุระโดดเด่น ณ ทางเข้า

เป็นอันรู้กันว่าอาหารที่มีดีทั้งรูป, รส และกลิ่นที่โดดเด่นไม่แพ้กัน รอคุณอยู่ข้างในร้าน

พอเราเข้ามาด้านในร้าน บรรยากาศจะอบอุ่นและ Private สุดๆ

เพราะเค้ามีที่นั่งเพียง 12 ที่นั่ง ทำให้รู้สึกเป็นกันเอง

โต๊ะที่นั่งเป็นลักษณะมีเคาน์เตอร์บาร์

ซึ่งเราจะเห็นขั้นตอนการปรุงอาหารของเชฟกันสด ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบคอร์สเลยค่ะ

1 (2)

อย่างที่อิ้มเกริ่นไปว่า

เค้าเปิดให้บริการสองเวลาก็คือ มื้อเที่ยงเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น.

ส่วนมื้อเย็นจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.

คอร์สมื้อกลางวันมีให้เลือกตั้งแต่ราคาท่านละ 1,700++,2,700++ และ 3,700 บาท ++

คอร์สมื้อเย็นมีให้เลือกตั้งแต่ราคาท่านละ 3,700++,4,700++,6,700++ และ 9,700 บาท ++

ซึ่งอิ้มมาทานเป็นมื้อกลางวัน ราคาท่านละ 2,700 บาท ++ ค่ะ

การมาทานโอมากาเสะที่นี่ต้องโทรมาจองก่อนเท่านั้น

แนะนำให้จองล่วงหน้าสักวันสองวันเพราะเค้าจะสั่งตรงวัตถุดิบจากญี่ปุ่น

มาให้เราทานสดๆ กันถึงที่ เรียกว่าพรีเมี่ยมสุดๆ

2 (1)

จะได้เวลาเริ่มต้นคอร์สแล้วค่ะ ตื่นเต้นสุดๆ

เพราะนี่คือการมาทานโอมากาเสะครั้งแรกของอิ้ม แอบเขิลเล็กน้อย 5555

2 (2)

มาดูเมนูกันน๊าา อย่างที่เกริ่นไปว่าชื่อร้าน Ichika Omakase หมายความว่าดอกซากุระ

เค้าจึงตั้งชื่อคอร์สอาหารเป็นชื่อสายพันธุ์ของดอกซากุระ

โดยไล่ลำดับชื่อสายพันธุ์ตามราคาของแต่ละคอร์ส ยิ่งเป็นคอร์สที่ราคาสูง

ก็จะเป็นชื่อซากุระพันธุ์หายากมากขึ้นนั่นเอง

คอร์สมื้อกลางวันมี 3 คอร์สให้เลือกตั้งแต่ราคาท่านละ 1,700++,2,700++ และ 3,700 บาท ++

สำหรับคอร์สที่ซึ่งอิ้มมาทานเป็นมื้อกลางวัน ราคาท่านละ 2,700 บาท++

คือคอร์ส Shidare Zakura

3 (000)

คอร์สมื้อเย็นมีให้เลือก 4 คอร์สตั้งแต่ราคาท่านละ 3,700++,4,700++,6,700++ และ 9,700 บาท ++

หึหึหึ อยากมาโดนคอร์สมื้อเย็นมากกก พูดเลย

เท่าที่อ่านด้วยสายตา จำนวนคำของซูชิทุกคอร์สจะใกล้เคียงกันคือ ราวๆ 9-10 คำ

แต่ราคาที่เพิ่มมาก็จะทำให้ได้ปลาที่พรีเมียมกว่า

และของทานเล่น/อาหารปรุงสุกในคอร์ส

ก็จะเพิ่มทั้งจำนวนและความพรีเมียมของแต่ละจานด้วย

3 (00)

สำหรับคอร์สที่ซึ่งอิ้มมาทานเป็นมื้อกลางวัน ราคาท่านละ 2,700 บาท++

คือคอร์ส Shidare Zakura

ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ appetizer ซูชิ ไปจนถึงของหวานค่ะ

จริงๆ การมาทานโอมากาเสะก็ไม่ได้ฟิกขนาดที่จะต้องตามใจเชฟทุกอย่างนะคะ

ถ้าเกิดเราไม่ทานอาหารหรือแพ้อะไร ก็แจ้งกับทางร้านไว้ตอนจองได้เลย

เค้าจะสลับสับเปลี่ยนวัตถุดิบมาให้ค่ะ

และข้อดีของการมาทานที่ Ichika Omakase คืิอในแต่ละฤดูเชฟก็จะ

นำอาหารมาปรุงแต่งให้เราทานแบบไม่ซ้ำกัน

โดยจะคัดวััตถุดิบที่ดีเลิศในช่วงฤดูนั้นมาให้เราทาน

ซึ่งหมายความว่าเราก็มาทานได้เรื่อยๆ เพราะจะมีความแตกต่าง

สร้างความตื่นเต้นและประทับใจให้เราตลอดเวลา

แท่น แทน แท๊นนนนนน และนี่ก็คือสิ่งที่เราจะได้ทานวันนี้ !!!!!

3 (1)

โอ้ยยยยยยยยยย อยากจะกลืนกินเทอซะเดี๋ยวนี้โอโทโร่ของช้านนน

3 (2)

ด้านนี้จะเป็นท็อปปิ้งต่างๆ ที่เชฟจะนำมาผสมผสานกับวัตถุดิบหลักให้เราทาน

เรียกว่าจริงจังมากกกกกก

แถมมองไกลๆ เห็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่วางไว้บนโต๊ะ คือรู้สึกว่ามีหลายอย่าง

อิ้มก็ได้ถามเชฟไป และเชฟก็เล่าให้ฟังว่า

วัสดุอุปกรณ์ที่วางอยู่ ก็มีความสำคัญมาก เพราะอุปกรณ์ที่ดีและมีคุณภาพสูง

ก็ช่วยส่งเสริมกันอย่างดีกับวัตถุดิบเกรดพรีเมียม

นี่ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ทำครัวธรรมดาทั่วไป

แต่มันคือเครื่องมือที่ใช้สร้างสรรค์ศิลปะแห่งการทำอาหารอย่างแท้จริง

อย่างเช่น เขียง เขียงไม่ได้ทำให้หน้าที่แค่เป็นตัวกำหนดขนาดของชิ้นเนื้อเท่านั้น

แต่เขียงยังส่งผลกับรสชาติของเนื้อด้วยเช่นกัน

ดังนั้นที่ Ichika จึงเลือกใช้เขียงที่ทำจากต้นไม้ Hinoki อายุเกิน 150 ปี จากนากาโน่

ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ทั้งในแง่ของขนาด รูปทรง รวมถึงกลิ่นของเนื้อไม้

และที่สำคัญมากก็คือ มีด เชฟบอกว่ามีดเองก็สำคัญไม่แพ้กัน

มีดของอิชิกะถูกสั่งทำพิเศษ

ถูกหลอมมาจากเหล็กบลูสตีลชั้นยอดจากเมืองซาไก ประเทศญี่ปุ่น

ซึ่งทำให้มีดเล่มนี้คมกริบ สามารถหั่นได้อย่างแม่นยำ

และไม่เสียรสชาติของวัตถุดิบด้วยค่ะ

โอ้โห แค่เริ่มก็อินแล้วอ่ะ คือเป็นประสบการณ์ใหม่ของอิ้มจริงๆ

เชฟที่ทำอาหารให้อิ้มทานวันนี้มีชื่อว่าเชฟ ชาญ

เชฟชาญเก่งมากๆ เพราะนอกจากจะทำอาหาร เชฟต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์

กับลูกค้า เพื่อสร้างความเป็นกันเอง

และนอกจากนั้นคนมาทานอย่างอิ้มก็ได้ความรู้กลับไปเยอะมากก

3 (4)

มาเริ่มคอร์สกันเลยค๊าาาา จะเป็น appetizer ก่อนนะคะ

คำที่ 1 -Mozuku Junsai (โมซูกุ จุนไซ)

 เริ่มต้นด้วยสาหร่ายกับยอดบัว

ที่หน้าตาอิ้มมองว่าเหมือนสาหร่ายเส้นผม 5555

รสชาติออกเปรี้ยวๆ เค็มๆ หวานๆ มี 3 รสในถ้วยเดียว รสสัมผัสมีความ หนึบๆ และเย็นๆ

ทานแล้วรู้สึกสดชื่นนนนนน เป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีมากกกกก

4 (1)4 (2)

คำที่ 2 – Shiromi Tororo Combu (โทโรโร่ คอมบุ)

คำนี้เป็นเนื้อปลารวมห่อสาหร่ายโทโรโร่ คอมบุ ตัวซอสเป็นซอสวาซาบิ

ทานคู่กับอากาเมะ อร่อยมากก เนื้อปลาสดหวาน ทานพร้อมกันทั้งคำ ดีงามมากกก

4 (3)

ต่อมา คำที่ 3 Ankimo Ponsu

คำนี้เลิฟเวอร์พูดเลย คำนี้เป็นตับปลาอังโกะ หรือที่เราเรียกว่า Monk Fish

ตัวซอสเป็นพอนสึ โชยุผสมมะนาวมีรสเปรี้ยวเค็มทานคู่กันกับตับปลาอังโกะ

โอ้ยยยยยยยยยยย คำนี้เหมือนขึ้นสวรรค์ อร่อยมากกก

รสสัมผัสเหมือนฟัวกราส์มีความนุ่ม ละมุนลิ้น

ซึ่งพออิ้มบอกเชฟไป เชฟตอบกลับมาว่า

ตับปลาอังโกะ ถูกกล่าวขานกันว่าเป็นฟัวกราส์แห่งท้องทะเล

อิ้มนี่ฟินเลยค่ะ รู้สึกว่าฟินมากกก มันใช่มากกก

และส่วนตัวเป็นคนชอบฟัวกราส์อยู่แล้วด้วย 555

4 (4)

เอาหล่ะ สามคำแรกที่เป็น appetizer ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แล้วเชฟก็นำวัตถุดิบสามสิ่งอย่างนี้มาวาง

ซึ่งคือจะมีหัววาซาบิสด ส้มยูซุ และเกลือทะเลสีชมพูหิมาลายัน

5 (1)

เชฟชาญก็ชวนเราคุยนู่นนี่และก็ขูดวาซาบิสดๆ ให้เราทาน

ซึ่งเชฟบอกว่า วาซาบิสดๆ แบบนี้จะไม่ฉุน และมีสรรพคุณที่ดีมากๆ อีกด้วย

5 (2)

เชฟเริ่มลงมือทำซูชิ ในแต่ละคำเชฟก็จะปั้นไม่เหมือนกันด้วยนะคะ

6 (1)

กว่าจะได้แต่ละคำเห็นความตั้งใจของเชฟ คือบั่บว่า ที่สุดจริงๆ อ่ะ

6 (2)

แท่น แทน แท๊นนนนนนนนนนน คอร์สซูชิคำที่ 1 Kampachi 

เชฟชาญแนะนำว่า การทานซูชิแบบโอมากาเสะ ต้องทานภายใน 20 วินาที

ไม่อย่างนั้นจะทำให้รสชาติเปลี่ยนไป !!!! และการทานโอมากาเสะ

ถ้าเป็นในส่วนของซูชิเค้าจะไม่นิยมใช้ตะเกียบเพราะเชฟจะปรุงและวางไว้ด้านหน้า

ให้เราใช้มือหยิบทานได้เลย และไม่ต้องมองหาโชยุ กับวาซาบินะจ้ะ

ปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน เชฟเค้าจะปรุงซูชิมาให้เราเรียบร้อย

เพราะจะใส่โชยุและวาซาบิมากน้อยไม่เท่ากัน

ส่วนการทานซูชิที่ถูกต้อง

ก็ต้องให้เนื้อปลาสัมผัสกับลิ้นก่อนโดยเราจะต้องหยิบแล้วคว่ำลง

เพื่อให้เนื้อปลาสัมผัสกับลิ้นพอลองทำตามที่เชฟบอก ก็ลำบากสักนิดค่ะ เพราะเราไม่ชิน

แต่ครั้งต่อๆ ไปจะทานแบบนี้ให้ได้ เพราะรสสัมผัสมันช่างแตกต่างจริงๆ

มาถึงซูชิคำแรก ปลาคัมพาชิ  เป็นปลาตามธรรมชาติที่พบได้ใน จ.ฟุกุโอกะ

มีรสชาติที่เข้ม กรุบกรอบ และมันใสกว่าฮามาจิ

ซึ่งเชฟ on top ด้วยต้นหอมกับทรัฟเฟิ่ลอ่อนเพื่อดับความคาวของกลิ่นปลา

คำนี้จึงมีความหอมมากกเป็นพิเศษ อร่อยล้ำตั้งแต่คำแรก รสชาติลึกลับซับซ้อนมากกก

6 (3)

คำที่ 2 Shima-aji (ชิมาอะจิ)

Shima-aji (ชิมาอะจิ) เป็นสายพันธุ์เดียวกับปลาทูญี่ปุ่น

และจะเป็นปลาทูตัวใหญ่ตัวละสองกิโลโอ้วววแม่เจ้าตัวใหญ่มากกก

คำนี้เชฟ On top ด้วยซอสบ๊วย มีความหวานอมเปรี้ยวเล็กๆ

ทานคู่กับ Shima-aji (ชิมาอะจิ) สดๆ หวานๆ เนื้อแน่นๆ

ลงตัวเข้ากัน อร่อยมากกกก

7

ทานไปนั่งชมเชฟไปเพลินสุดๆ แป๊ปๆ ก็เป็นซูชิคำที่สามกันแล้ว

8 (1)

เอ๊ะๆๆๆ คำนี้เชฟเอาอะไรไปลนไฟนะ มีความสงสัย

8 (2)

มาแว้วววว คำที่ 3 Kinmedai (กินเมได)

คำนี้เป็น Kinmedai (กินเมได) on top ด้วยไข่ปลาคาซึมิ (ไข่ปลากระบอก) รมควัน

Kinmedai (กินเมได) ปลากระพงแดงตาโต เนื้อแน่นรสชาติเข้มข้นสด ๆ

เนื้อจะเนียน หอม มันนิดๆ ทานคู่กัน

คือมีความมันๆ ของปลาและความมัน หอม ของไข่ปลาคาซึมิ

อร่อยล้ำมากกกก รสชาติเค้าล้ำลึก เชฟเก่งมากๆ

8 (3)

ต่อมาคำที่ 4 Kinki (กินกิ)

คำนี้เป็น  Kinki (กินกิ) ปลาน้ำลึกเนื้อมันอร่อย พบได้ในน่านน้ำฮอกไกโด

หรือในน้ำที่เป็นกระแสน้ำเย็นในญี่ปุ่น on top ด้วยไข่หอยเม่นอบแห้ง

คำนี้เนื้อมันอร่อย และมีความนุ่ม และเพิ่มความเข้มข้นด้วยไข่หอยเม่นอบแห้ง

เป็นรสสัมผัสที่แปลกใหม่ อร่อยมากอีกแล้ววว

9

ซูชิคำที่ 5 Ika (อิกะ)

10 (1)

ว้าววววว คำนี้อิ้มเห็นเชฟบีบมะนาวลงไปด้วยนะ

10 (2)

Ika (อิกะ) หรือหมึกกระดอง

คำนี้อิ้มขอเรียกคำนี้ว่า ศูนย์รวมแห่งความสดชื่นก็แล้วกันนะคะ 555

เพราะเชฟเค้าบีบมะนาว ใส่เกลือหิมาลายัน

ซึ่งเชฟบอกว่าการทานปลาหมึกไม่แนะนำให้ทานกับโชยุ

ให้ทานกับเกลือซึ่งถ้าเป็นเกลือบ้านเราก็จะเค็มเกินไป ต้องใช้เกลือหิมาลายัน

ซึ่งเกลือที่มีประโยชน์สูงสุดและสะอาด ที่สำคัญไม่เค็มจนเกินไป

และท้ายสุดเชฟพร้อมเพิ่มความหอมด้วยการ on top ด้วยเปลือกส้มยูสุ

เป็นคำที่ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมากกกกก

10 (3)

ต่อมาเป็นเมนูเบรกค่ะ Foie Gras Miso Truffle  Soup (ฟัวกราส์ มิโซะ ทรัฟเฟิ่ลซุป)

โอ้ยยยยยยยยยย ฟินไปอีกเป็นเมนูที่อร่อยแถมยังเป็น Sianature ของร้านด้วยนะคะ

ด้านบนเป็นซุปซอสตับห่าน ผสมกลิ่นทรัฟเฟิลเล็กๆ ส่วนด้านล่างเป็นไข่ตุ๋น

มันนวล มันละมุน มันนุ่ม มันหอม มันดีย์มว๊ากกกกกก ห่อกลับบ้านได้ไหมคะ

11

ระหว่างที่เรากำลังทานเชฟก็ยื่น Meaoga Temaki

ให้ทานผักล้างปากจากเมนูซุปก่อนหน้านี้ ในผักจะมีดอกขิง หัวไชเท้าและบ๊วย

หน้าตาธรรมดาแต่อร่อยทีเดียว ทานแล้วสดชื่น

อีกอย่างที่เชฟแนะนำก็คือเวลาเราทานซูชิเชฟจะมีขิงดองวางไว้ให้เราคีบทานได้เลย

หรือจะจิบชาร้อนต่อในทุกๆ คำที่ทานก็ได้นะคะ

จะเป็นการล้างปากและเริ่มทานคำใหม่จะได้รสสัมผัสที่เต็มเปี่ยม

12

ซูชิคำที่ ุ6 Kuruma Ebi คุรุมะ เอบิ

กุ้งลายเสือคำนี้ มีความกรอบและหวานมากกกก เต็มปาก เต็มคำ ได้รสสัมผัสกุ้งเต็มๆ

13

ซูชิคำที่ 7 Anago อะนาโหงะ

14 (1)

คำนี้หลายขั้นตอนมากทีเดียว

14 (2)14 (3)

ซูชิคำที่ 7 Anago อะนาโหงะ หรือปลาไหลทะเล

ปกติเราจะเคยชินกับปลาไหลน้ำจืดเน๊อะ ซึ่งรสชาติก็จะแตกต่างกัน

เพราะว่า Anago จะมันน้อยกว่า เนื้อนุ่มฟู หอม เบา และราคาแพงกว่า

ซึ่งคำนี้เชฟจะนำ Anago  ไปต้มกับโชยุมาก่อนแล้ว on top ด้วยส้มยูสุ

เป็นคำที่อร่อย สมบูรณ์แบบ มีหลากหลายรสชาติในคำเดียว

14 (4)

ซูชิคำที่ 8 Akami (อะกามิ) 

คำนี้ Akami อะกามิ On top ด้วยงาบด

คำนี้มีความหวาน สด นุ่มและไม่มันจนเกินไป

ความอร่อยของตัวปลาก็ดีมากแล้วและมีความหอมของงาบดมาช่วย

ยิ่งอร่อยเข้าไปอีก

15 (1)

ซูชิคำที่ 9 Otoro (โอโทโร)

คำนี้ Otoro (โอโทโร) พระเอกของอิ้ม on top ด้วยคาร์เวียร์ วาซาบิ

โอ้ยยยยยยยยยย ฟินมากกกกกกกกก น้ำตาจะไหล

จัดวางได้อย่างสวยงามละเมียดละไม และยังรสชาติอร่อยไปอี๊กกกก

กลับบ้านไปอิ้มต้องคิดถึงคำนี้มากๆ แน่ ฮือๆๆๆ

15 (2)15 (3)

ซูชิคำที่ 10  Tamago Yaki (ทามาโงะ ยากิ)

ให้ตายเถอะ เชฟบอกว่ามันคือไข่หวาน ซึ่งเป็นอีกเมนู Signature ของทางร้านเลยนะคะ

ภาพตรงหน้าที่เห็นคือบั่บว่า เห้ยยยยย นี่ไม่ใช่ไข่หวานอ่ะ

พอลองทานก็ เห้ยยยยยยยยยย นี่เหมือนไปทางขนมหวานมากกว่า

อร่อยมากๆๆๆ รสชาติคล้ายคัสตาร์ด

เชฟบอกว่ากว่าจะทำเมนูนี้ได้หมดไข่ไป 5000 ฟองเลยนะ

ยอมใจในความพยายามของเชฟ จริงๆ

15 (4)

จบแล้วค่า คอร์สซูชิ

ต่อมาเป็น Osuimono Soup (โอซุยโมโนะ ซุป)

ซดซุปใสร้อนๆ ให้คล่องคอ

16

ปิดท้ายด้วย  Ichiko (อิชิโกะ) สตรอเบอรี่ญี่ปุ่นลูกยักษ์ รสเปรี้ยวอมหวาน 

เป็นของหวานส่งท้ายมื้อกลางวันสุดพิเศษนี้ค่ะ

อ้อๆๆๆ เมนูของหวานจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกัน

แต่ถ้าใครอยากทานสตรอเบอรี่อยู่ต้องรีบมาช่วงนี้กันนะคะ

17

ก่อนกลับเห็นเค้ามาส่งวัตถุดิบสดๆ ยังเป็นๆ เลยของชมกันหน่อย

มีเยอะแยะหลากหลาย ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น

พอมาถึงปุ๊ปเค้าก็จะต้องนำมาใส่ในตู้ปลาที่ในนั้นเป็นน้ำทะเลของญี่ปุ่น

เรียกว่าคงความสด ความเป็นออริจินัล ส่งตรงมาถึงเราจริงๆ

ซึ่งที่เราเห็นจะเป็น คอร์สราคา 6,700 บาทขึ้นไปค่ะ

18 (1)18 (2)18 (3)

เป็นยังไงบ้างคะกับมื้อกลางวันที่แสนจะพิเศษนี้

สำหรับอิ้ม อิ้มมองว่ามันคือความตื่นเต้น ปนสนุก

เป็นความแปลกใหม่ ทานอะไรที่ไม่เคยลองทาน

แถมได้ความรู้ในการทานอาหารญี่ปุ่นอีก

เป็นการเปิดประสบการณ์การทานโอมากาเสะชั้นเลิศสุดพรีเมี่ยมของอิ้มจริงๆ

นอกจากอาหารจะอร่อยมากแล้ว อิ้มยังประทับใจในทุกๆ ขั้นตอน

และทุกๆ รายละเอียด เชฟใส่ใจทุกๆ คำจริงๆ

มีโอกาสจะกลับไปทานอีกแน่นอนค๊าา

******************************************************

สำรองที่นั่ง

061 165 6546

https://th-th.facebook.com/ichikathailand/

http://www.ichikaomakase.com

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

******************************************************

ช่องทางติดต่อเรา

http://www.psstorytrip.com

http://www.facebook.com/psstorytrip

http://www.instagram.com/psstorytrip

http://www.youtube.com/psstory trip

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s