ฮัลโหล๋ววววววววว หัวหิน

ไม่รู้จะพูดว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ที่อิ้มได้มาเที่ยวหัวหิน

รู้แต่ว่ามันบ่อยมว๊ากกกก บ่อยจนรู้สึกว่าหัวหินเหมือนกลายเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว

สิ่งที่หัวหินไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือมนต์เสน่ห์และมนต์ขลังของความคลาสสิก

อิ้มคิดว่าหลายๆ คนที่ชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย คงหลงรักหัวหินด้วยเหตุผลนี้

ในช่วงหลังเมื่อคนมาเที่ยวหัวหินมากขึ้น

ก็มีโรงแรม รีสอร์ทเปิดขึ้นมากมาย มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกพัก

แต่ปกติเราจะเห็นว่าที่พักในหัวหิน

โรงแรม รีสอร์ท ส่วนมากจะเน้นดีไซน์ความเป็น Colonial style ซะส่วนใหญ่

เน้นความดั้งเดิมและกลิ่นอายความเป็นหัวหิน

แต่พอต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีข่าวแว่วมาว่ามีโรงแรมเปิดใหม่

พักที่นี่เข้าสวนน้ำฟรีด้วย อิ้มนี่ร้องอ๋อเลยค่ะ เพราะช่วงที่ผ่านมาขับรถผ่าน

ตอนกำลังสร้างบ่อยมาก แอบภาวนาให้เสร็จไวๆ

ที่นี่ก็คือ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin

บอกเลยว่าที่นี่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่เริ่ดมว๊ากกกก พีคมากกก เพราะการเข้าพักที่นี่

จะฟรีค่าเข้าสวนน้ำระดับโลกอย่าง Vana Nava  และพีคต่อมาเค้าฉีกกฎความเป็นหัวหินเดิมๆ

เปลี่ยนจากการตกแต่งในมุมที่เป็น Colonial style มาเน้นดีไซน์ภายในโรงแรม

ที่เน้นเรื่องราวของโลกใต้ทะเลเป็นหลัก ซึ่งพอเวลาเข้าพัก

เราจะรู้สึกเหมือนอยู่ภายในห้วงของท้องทะเลยังไงอย่างงั้น

และความพีคของที่นี่ยังไม่จบเพียงเท่านี้

เค้ามีสระว่ายน้ำที่อยู่สูงที่สุดในหัวหิน  เป็นแบบ Infinity Pool อยู่ชั้น 26

วิวเวอร์วังอลังการ เป็นสระว่ายน้ำที่อิ้มยกให้ ณ ตอนนี้ ว่าสวยที่สุดในหัวหิน

นอกจากนั้น ชั้น 27 (ยังสร้างไม่เสร็จ) จะเปิดเป็น Sky Bar  Bar ที่สูงที่สุด และสวยที่สุดในหัวหิน

อยากรู้ว่าสวยขนาดไหน อ่านรีวิวให้จบ อิ้มมีวิวจากชั้น 27 มาฝากด้วยค๊าาา

ตอนนี้อิ้มบอกเลยว่าควรค่ามาพักที่ holiday inn vana nava hua hin เป็นอย่างมาก

เพราะราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ 3000++ รวมอาหารเช้าสำหรับสองท่าน แถมเข้าสวนน้ำได้ฟรี

บอกเลยไม่มีอะไรจะคุ้มไปกว่านี้อีกแล้ว

โรงแรมระดับ 4 ดาว แต่ Facility เหมือน 5 ดาว ราคาก็ย่อมเยาว์ แถมใกล้กรุงมากกกก

ทุกอย่างเริ่ดขนาดนี้ จะไม่ถูกใจได้ยังไง

เอาหล่ะค่ะ เดี๋ยวอิ้มจะพาไปทำความรู้จักกับ holiday inn resort vana nava hua hin ให้มากขึ้น

ถ้าพร้อมแล้วไปชมรีวิวนี้กันเล้ยยยยย

นอนโรงแรมเปิดใหม่สระว่ายน้ำวิวเวอร์วัง แถมเข้าสวนน้ำระดับโลก VANA NAVA ฟรี

ที่ HOLIDAY INN  VANA NAVA HUA HI์N

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท

https://www.facebook.com/HolidayInnVanaNavaHuaHin/

ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip

สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม

แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ให้อิ้มด้วยน๊าาา

สำหรับการเดินทางสามารถใช้เส้นทางที่มาสวนน้ำได้เลย

มาถึงแล้วจะเห็นตึกสูงเด่นเป็นสง่า จอดรถแล้วเข้าไปด้านในกัน

ทางเข้าจะมีปลาวาฬขนาดใหญ่เป็นเหมือนมาสคอตคอยต้อนรับเราอยู่ด้านหน้า

น่ารักทีเดียวเชียว

Lobby ที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 8 นะคะ กดลิฟท์ขึ้นมาได้เลย

พอเราเช็คอินปุ๊ปพนักงานก็จะนำ welcome drink มาเสิร์ฟให้

พร้อม ให้ Item เด็ดนั่นก็คือ keycard และ สายรัดข้อมือ

งงใช่มะว่าเด็ดยังไง อิอิ

สายรัดข้อมือ จะอยู่ในถุงกระดาษที่ทางโรงแรมให้ตอนเช็คอิน

(จริงๆ มีสติ๊กเกอร์ด้วยนะคะ แต่อิ้มเอาไปเล่นสวนน้ำสติ๊กเกอร์จึงหลุดออก)

สายรัดข้อมือ นี้จะทำหน้าที่คล้ายๆ กับ KeyCard

ซึ่งเราสามารถใช้เปิดประตูเข้าห้องพักได้ สะดวกมากเลยใช่ไหมคะ

Item ชิ้นนี้ยังเด็ดกว่านั้นอีกเพราะว่า

สายรัดข้อมือนี้ เราจะใช้สแกนเข้าสวนน้ำ

และใช้จ่ายค่าอาหาร/เครื่องดื่มภายใน Vana Nava ได้ด้วย

เรียกว่าไม่ต้องพกอะไรไปเยอะแยะ ง่ายสะดวก และล้ำสุดๆ

ขออธิบายในส่วนของโรงแรมกันสักนิดนะคะ

Holiday Inn Vana Nava Hua Hin

เป็นโรงแรม 4 ดาว เปิดใหม่เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2017 อยู่ติดกับสวนน้ำ Vana Nava

 มีทั้งหมด 27 ชั้น ที่นี่ไม่ติดทะเล แต่ดีไซน์จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกใต้ท้องทะเล

ภายในคง Concept  “Playcation”

เป็นแหล่งรวมความสุข สนุก ความบันเทิง และพักผ่อนอย่างลงตัว

รองรับรองทั้งการมาพักผ่อนกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน คนรัก หรือแม้แต่กลุ่มที่มาประชุมสัมมนา

เพราะทางโรงแรมมีห้องสัมมนา และห้องจัดเลี้ยงรองรับแขกที่มาเป็นกรุ๊ปเอาไว้ด้วยค่ะ

โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน

ประกอบด้วยห้องพัก 300 ห้อง มีทั้งหมด 6 Roomtype เริ่มตั้งแต่

– Vana Nava Room

– Ocean View Room

– Ocean Suite

– Kids Suite

– Panoramic Suite

– Sky Suite

สำหรับวันนี้อิ้มเข้าพักใน Roomtype Ocean View Room อยู่ชั้นที่ 12 ห้อง 1208

1 KING BED OCEAN VIEW ROOM
Ocean View Room  มีขนาด 39 ตร.ม. ตกแต่งทันสมัย ด้านนอกระเบียงและเก้าอี้เล็กๆ

นั่งชิลๆ ชมวิวทะเลได้ และมีกลิ่นอายของโลกใต้ทะเล

โดยใช้โทนสีฟ้าตกแต่งทั้งบนเพดานและผนัง

ส่วนพื้นใช้สีไม้ออกคล้ายน้ำตาลอ่อนๆ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ สีของทราย

และเพิ่มดีเทลความเป็นโลกใต้ท้องทะเลด้วยโคมไฟ และพรมลายปะการัง

ส่วนพนังภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องลายเกล็ดปลา

เหมือนเป็นโลกใบเล็กในห้วงท้องทะเลที่แสนจะอบอุ่น

หมอนที่นี่จะมีสองใบ เป็น Soft และ Firm ตามมาตรฐานของแบรนด์ Holiday inn

ภายในห้องน้ำจะมีบานประตูขนาดใหญ่

สามารถเลื่อนออกมา Say Hello กับคนที่อยู่ภายในห้องนอนได้

ถ้ามากับแฟนคงจะรู้สึกโรแมนติก

แต่ถ้ามากับเพื่อนอาจจะระแวงเพราะกลัวโดนมันแกล้ง 5555

อ่างล่างหน้ามาพร้อมบานกระจกขนาดใหญ่ ด้านหน้ามีกล่องหวายสี่เหลี่ยมตั้งอยู่

ภายในบรรจุ Amenities ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Holiday inn เอง

ด้านข้างอ่างล้างหน้า built in เป็นชั้นวางของจะมีทิชชู่ วางอยู่

และด้านล่างจะมีผ้าเช็ดตัว และไดร์เป่าผมให้

Ocean View Room จะไม่มีอ่างอาบน้ำนะคะ

ห้องที่มีอ่างอาบน้ำจะเริ่มใน type Suites เป็นต้นไป

มาชมห้องประเภทอื่นๆ กันบ้างค่ะ

เริ่มที่ Vana Nava Room ห้อง Roomtype เริ่มต้น

ห้องพักมีขนาด 39 ตร.ม. มีระเบียงส่วนตัว พร้อมเก้าอี้นั่งเล่นให้นั่งพักผ่อนชมวิวภูเขา

และมองเห็นวิวสวนน้ำ วานา นาวา

การแต่งตกจะใกล้เคียงกับ Ocean View Room

จะแตกต่างกันที่เรื่องของวิวเท่านั้น

ซึ่งอิ้มว่าถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องวิว จะจองห้องนี้มาก็ได้นะคะ

เพราะประหยัดกว่ากันหลายร้อยบาทอยู่

ภายในห้องน้ำค่ะ Vana Nava Room ก็ไม่มีอ่างอาบน้ำเช่นกันนะคะ

มาชมวิวด้านนอกกันต่อค่ะ

เป็นวิวภูเขา และสระว่ายน้ำวานานาวา

ช่วงเย็นถ้าอากาศดีเราจะเห็นพระอาทิตย์ตกจากภายในห้องด้วยนะคะ

มาชมห้องพักกันต่อนะคะ

Roomtype นี้เป็น Roomtype ยอดฮิตของ สาย Family เลย

ห้องนี้ชื่อว่า Kids Suite

การกตแต่งจะเน้นโทนสีส้มให้ดูมีสีสัน ทำให้รู้สึกสดใส

แต่ก็ไม่ทิ้งกลิ่นอายความเป็นโลกใต้ทะเลด้วยพรมกับโคมไฟลายปะการังนะคะ

ส่วนของคุรพ่อคุณแม่จะเป็นเตียงคิงส์ขนาดใหญ่

ห้องน้ำจะมีหนึ่งห้องภายในกว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

มีอ่างอาบน้ำ และ Roomtype Kids Suite นี้

จะมีพวกแชมพู ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์สำหรับคุณหนูๆ เอาไว้ให้ใช้ด้วย

เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดมากๆ เลยนะคะ

อีกฝั่งก็จะเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำ แยกส่วยแห้งและเปียกไว้อย่างชัดเจน

และไฮไลท์ของ Kids Suite ก็อยู่ที่ตรงนี้ค๊าา

ห้องนอนคุณน้องๆ หนูๆ น่ารักมากๆ

เป็นเตียงขนาดสองชั้นและมีโต๊ะนั่งเล่นขนาดเล็กไว้อ่านหนังสือ

ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีชุดคลุมอาบน้ำของเด็กและ Slipper คู่เล็กสำหรับหนูๆ

นอกจากนั้นห้อง Kids Suite ยังมีระเบียงขนาดใหญ่สำหรับชมวิวสวยๆ

ของเขาเต่าและทะเลหัวหินเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ

เรียกว่าสายครอบครัว ต้องมาพักห้องนี้นะคะ ตอบโจทย์ทุกความต้องการจริงๆ

มาชมอีกหนี่ง Roon Type ค่ะ  OCEAN SUITE

ห้อง OCEAN SUITE นี้มาเป็นแบบห้องชุดหัวมุม เรียบหรู ดูดี

 และกว้างขวางมาก มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 68 ตารางเมตร

มีห้องนอนแยกออกจากห้องนั่งเล่น มีระเบียงนั่งเล่นริมชิลๆ วิวเห็นวิวทะเล

มีห้องน้ำสองห้อง

ภายในห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลและวิวสวนน้ำ

เพราะด้านห้องนอนอยู่ติดสวนน้ำ และด้านห้องรับแขกมีวิวทะเล

เป็นอีก Roomtype นึงที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว

ห้องน้ำห้องแรกจะไม่มีอ่างอาบน้ำนะคะ แต่ขนาดกำลังพอดี

ไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

จริงๆ จากห้องนอนก็สามารถมองเห็นวิวทะเลไดด้วยนะคะ ดีงามสุดๆ เลย

มุมนี้จากห้องนอนจะเห็นสวนน้ำอย่างชัดเจน

เล็งไว้ได้เลยนะคะ ว่าอยากเล่นเครื่องเล่นชิ้นไหน อิอิ

ห้องน้ำอีกห้องค่ะ ห้องนี้จะกว่้างขวางและมีอ่างอาบน้ำ เริ่ดเวอร์

ชมบรรยากาศห้องพักไปแล้วมาชมในส่วนที่เป้นไฮไลท์ของที่

Holiday Inn  Vana Nava Hua Hin กันบ้างนะคะ

กดลิฟท์มาที่ชั้น 26 เลยค๊าาา

ว้าววววววว เป็นวิวที่สวยงามมากกกก

สระว่ายน้ำด้านบนถูกออกแบบให้เป็น infinity pool มองทะเลกันแบบเพลินๆ

กราบวิวแบบเบญจางคประดิษฐ์ 3 ครั้ง !!!! วิวสวยเวอร์วังมากกกกก

สวยกว่านี้ในหัวหินไม่มีอีกละ อิ้มพูดเลย

เห็นสระว่ายน้ำแบบนี้ อยากจะผอมโดยทันที

มโนว่าใส่บีกินนี่ไปแหวกว่ายริมขอบสระว่ายน้ำ

ตื่นค่ะ ดีดนิ้วหนึ่งที !!! ให้หยุดมโน 5555

ชุดธรรมดาใส่ถ่ายก็สวยจ้า อ้อๆๆๆ  มีเคล็ดลับจะบอกนะ

ถ้าอยากถ่ายกับสระว่ายน้ำให้สวยงาม ให้มาตอนสิบโมงเช้าไม่เกินบ่ายโมง

แดดจะลงใบหน้าเต็มๆ อาจจะร้อนหน่อยๆ แต่ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ ต้องสตรองนะคะ

เพราะว่าแม่เกดได้กล่าวเอาไว้ แต่ถ้ามาช่วงบ่าย หน้าจะมืดๆ เหมือนที่อิ้มถ่ายนะคะ

บิดตัวสักเล็กน้อยจะได้ความผอมและหุ่นที่มีเชฟมากขึ้น

แต่ถ้าใครขี้เกียจและไปบีบตัวผอมใน App มือถือก็ได้นาจา 5555

กลับมาที่สระว่ายน้ำค่ะ ด้านบนนี้จะมีบาร์เราสามารถสั่งเครื่องดื่มมาทานชิลๆ ได้

และนอกจากนั้นด้านบนจะมีทางเชื่อมไปชั้น 27 ซึ่งจะเป็น Rooftop Bar

ที่สวยที่สุด และสูงที่สุดในหัวหินเลยก็ว่าได้

แอบกระซิบว่าบน Rooftop Bar

จะมีจุดชมวิวพื้นกระจกใสขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปในชั้นบรรยากาศ

ให้ผู้เข้าพักได้ออกไปยืนท้าความสูงวัดความกล้า และชมวิว Panorama

แบบ 180 องศา ถ้าใครไม่กลัวความสูงอิ้มแนะนำเลย

เพราะแอบขึ้นไปดูมาแล้ววิวสวยมากๆ

ชิลจากสระว่ายน้ำเสร็จแล้วมาต่อกันที่  Kids Club ค่ะ

เป็นโรงแรมที่ครบเครื่องจริงๆ นะคะ

ในส่วนของ Kids Club นี้ก็กว้างขวาง มีทั้งมุมเครื่องเล่น และมุมสร้างเสริมจินตนาการ

เห็นแล้วอยากกลับไปเป็นเด็กเลยค๊าา

ช่วงเย็นอิ้มฝากท้องไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรมค่ะ

ห้องอาหารที่นี่มีชื่อว่า ห้องอาหารประมง (Plamong Restaurant)

อยู่ที่ชั้น 7 ของโรงแรมค่ะ เป็นห้องอาหารที่เปิดให้บริการอาหารทั้งวัน

(All Day Dining) เป็นห้องอาหารเดียวของที่นี่

วิวจากห้องอาหารจะมีสองฝั่งนะคะ คือฝั่งที่เห็นวิวทะเล

และฝั่งที่เห็นวิวภูเขาแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าช่วงเย็นนั่งฝั่งนี้จะเหมาะกว่าค่ะ

เพราะถ้าอากาศดีๆ เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ตก ซึ่งสวยงามมาก

ด้านผนังของห้องอาหารจะตกแต่งด้วยรูปภาพเรือประมง

ซึ่งการทำประมงเป็นอาชีพเก่าแก่และดั้งเดิมของชาวหัวหิน

และนำมาปรุงอาหารในแบบสดๆ ใหม่ๆ มีคุณภาพ

ซึ่งทางโรงแรมจึงใช้ Concept นี้ มาตั้งเป็นชื่อห้องอาหารประมง นั่นเองค่ะ

มาสั่งเครื่องดื่มกันดีกว่าค่ะ เอาแบบเบาๆ Virjin Mojito

แก้วนี้จำชื่อไม่ได้ขออภัยด้วยนะค๊าา

มาถึงในส่วนของอาหารค่ะ ท่ี่นี่เชฟจะเก่งในเรื่องของอาหารไทย

เพราะฉะนั้นทีเด็ดก็จะเป็นเมนูต่างๆ ที่เป็นอาหารไทยค่ะ

จานแรกเป็นยำส้มโอ รสชาติเข้มข้น ใส่เครื่องมาแบบแน่นๆ

On top ด้วยปูนิ่มอีกต่างหาก รสชาติกลมกล่อม กำลังพอดี

แต่อาจจะไม่ได้จัดจ้านมากเท่านั้น

ต่อมา สะเต๊ะลือ

สะเต๊ะลือเป็นอาหารสูตรโบราณชาววัง สมัยก่อนด้วยความอร่อยจนเป็นที่กล่าวขวัญ

จากสะเต๊ะธรรมดาจึงกลายเป็น “สะเต๊ะลือ” เค้าให้นิยามกับจานนี้ว่าเป็น “กับข้าวเจ้านาย”

ทางเชฟก็นำเมนูนี้มาทำในแบบฉบับของออลิเดย์ อิน วานา นาวา

รสชาติก็จะกลมกล่อมแต่ครบเครื่อง อร่อย

จานนี้เสียอย่างเดียวในน้ำจิ้มสะเต๊ะน้อยไปหน่อยค่ะ อิอิ

ต่อมาข้าวอบสับปะรด On top ด้วยกุ้งย่างและฟัวกราส์

ข้าวอบสับปะรดรสชาติพอใช้ได้ แต่ยังไม่กลมกล่อมมากพอ

ต้องยกความดีให้กุ้งและฟัวกราส์ที่ On top มา

ตัวกุ้งแม่น้ำย่างมากำลังดี พอทานคู่กับข้าวราดพริกน้ำปลาสักเล็กน้อยจะฟินมาก

ส่วนฟัวกราส์ไม่ต้องพูดถึงทานคู่กับข้าวอบสับปะรดอร่อยเริ่ด

ต่อมาเป็นผัดไท กุ้งแม่น้ำรสชาติ กลมกล่อม อร่อยค่ะ มีกุ้งตัวใหญ่ตู้มๆ

On top ตั้งสองตัว ดีงามมม

ต่อมาค่ะ แกงเทโพ ทีเด็ดประจำห้องอาหาร

แกงเทโพ อาหารง่ายๆ แต่หาที่อร่อยๆ ทานจะยากสักนิด

แต่ที่นี่เชฟทำออกมาได้ดีทีเดียว รสชาติกลมกล่อม หอม หวานมัน

แต่เสียดายใส่ผักบุ้งน้อยไปนิด

จริงๆ แล้วพระเอกเทโพก็คือผักบุ้งนี่แหละ เลยแอบคอมเม้นต์ไป

ปรากฎว่าพอตอนกลางวัน เมนูนี้แอบติดใจเลยสั่งมาทานอีก

รอบนี้เชฟจัดผักบุ้งให้เยอะขึ้น เคี้ยวกันมันเลยค่ะทีนี้

ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากกกก

ต่อมา สายเนื้อ ห้ามพลาดนะคะ

จานนี้เป็นกะเพราเนื้อวากิว

เวลาสั่งต้องสั่งว่า “กะเพราเนื้อวากิว เอาเป็นกับข้าว”

เพราะถ้าสั่งกะเพราเนื้อเฉยๆ เค้าจะเป็นกะเพราเนื้อธรรมดาราดข้าวมาให้

มาต่อกันที่กะเพราเนื้อวากิว เป็นกะเพราที่มีความเผ็ด ร้อน ถึงเครื่องกะเพรา

ถูกใจมากกกกกกก และตัวพระเอกวัตถุดิบหลักอย่างเนื้อวากิวคือดีงามมม

ตอนแรกเสิร์ฟมาอิ้มคิดว่าเหนียว เห็นเค้าเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่เลยลองเอาช้อนตัด

ปรากฎว่า ช้อนตัดทีเดียวขาด อิ้มก็เลยรีบลองทาน

รสสัมผัสแรกที่กัดเข้าไปจะบอกว่ามัน ทั้ง นุ่ม ทั้งหอม หอมทั้งเนื้อ และเครื่องกะเพรา

บอกเลยว่ามันดีงามสายเนื้อห้ามพลาดถ้ามาต้องสั่งนะคะ

ทานอาหารเย็นเสร็จแล้วอิ้มก็กลับไปนอนพักผ่อนที่ห้อง

เช้าวันที่สองอิ้มตื่นแต่เช้าเพื่อมาถ่ายภาพริมสระว่ายน้ำและมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น

เป็นสระว่ายน้ำที่สวยงาม มีเสน่ห์ และดูทรงพลังมากกก

สวยทั้งกลางวัน และโดดเด่นทั้งกลางคืน

รอไม่นานแสงงพระอาทิตยืก็ออกมาทักทายให้เราเห็นแล้วค่ะ

อากาศไม่ดีเท่าที่ควรจึงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์โผล่พ้นจากขอบน้ำทะเล

แต่แค่นี้ก็รู้สึกว่าสวยงามเกินบรรยายแล้วค่ะ

ชมพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้วเราไปทานอาหารเช้ากันนะคะ

เช้านี้อิ้มลองนั่งฝั่งวิวทะเลดูบ้าง จะมองเห็นวิวทะเลไกลๆ ค่ะ

ในส่วนของไลน์อาหารจะเป็น Buffet ตามมาตรฐานทั่วไป

ยังไม่มีอะไรโดดเด่นหวือหวา แต่ก็มีหลากหลาย ครบครัน

มีทั้ง Egg Station ขนมปัง อาหารร้อน ซึ่งสับเปลี่ยนไปในทุกๆ วัน

บางวันมีแกงเขียวหวานด้วยนะเธอ

ขนมปัง แพนเค้ก  สลัด แฮม ชีส แซลมอนรมควัน ติ่มซำ

และจะมี ไลฟ์ คิทเช่น ปรุงอาหารสดๆ ใหม่ๆ สไตล์อาหารจีน

ซึ่งวันที่อิ้มไป จะเป็นผัดถั่วงอก กับผัดเห็ดหอม และผัดคะน้า

ก๋วยเตี๋ยว ก็ไม่ซ้ำกัน บางวันจะเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ บางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู

และก็มีพวกน้ำผลไม้ ซีเรียลต่างๆ โยเกิร์ต ประมาณนี้ค่ะ

เช้านี้ขอเบาๆ ค่ะเพราะเดี๋ยวเราจะไปลุยสวนน้ำกันต่อ อิอิ

ได้เวลาไปตะลุยสวนน้ำ Vana Nava แล้วค๊าาา

อย่างที่อิ้มเกริ่นไปตอนแรกว่ามาพักที่นี่เข้าสวนน้ำฟรี !!!

โดยปกติค่าเข้าสวนน้ำจะอยู่ที่คนละ 1200 บาท

ถ้าเราจองห้องมาสองคนสามพันนิดๆ แล้วมาเที่ยวสวนน้ำ อิ้มว่าโครตคุ้ม

เพราะเท่ากับเราจ่ายค่าห้องไม่กี่บาทเองนะ

สวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน เป็น วอเตอร์จังเกิ้ลแห่งแรกของเอเชีย

ที่รวมความสนุกสุดมันส์จากเครื่องเล่นระดับโลก

ทั่วพื้นที่จะมีต้นไม้ใหญ่ทำให้มีความร่มรื่นบนเนื้อที่กว่า 20 ไร่

โดยเครื่องเล่นและสไลเดอร์ทั้งหมดผลิตจาก ประเทศแคนาดา

ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและติดตั้งเครื่องเล่นในสวนน้ำอันดับหนึ่งของโลก

ไฮไลท์ของวานา นาวา คือสไลเดอร์ยักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

ชื่อว่าเจ้า ดิ อบิส (The Abyss) ใครมาก็ต้องลองเล่น ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึง

นอกจากนั้นยังมีภูเขาน้ำตกเทียมที่สูงถึง 31 เมตร

เป็นภูเขาน้ำตกเทียมในสวนน้ำที่สูงที่สุดในเอเชีย

เวลาเปิด-ปิด 10:00–18:00 น.

และวันศุกร์เสาร์ พิเศษสำหรับแขก Holiday Inn Vana Nava

จะให้บริการถึง 3 ทุ่ม (เฉพาะโซนที่จัดไว้ให้ค่ะ)

ทางเดินจะมีเฉพาะสำหรับแขกที่พัก Holiday Inn Vana Nava

เดินเข้ามาทางนั้นได้เลย ตอนเช้ามาจะได้รับผ้าขนหนูหนึ่งผืน

พอเดินเข้ามาปุ๊ปจุดแรกที่มาถึงก็จะเป็น Coconut Beach ก่อนเลยค่ะ

Coconut Beach จะเป็นคลื่นทะเลเทียม

โดยคลื่นทะเลเทียมมนี้สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 1600 ตารางเมตร

เวลาการเปิด-ปิดคลื่นคือ เปิด10นาที ปิด10นาที

สลับกันไปค่ะเพื่อให้เครื่องได้พัก

ลึกที่สุดอยู่ที่เกือบสามเมตร อิ้มว่าเริ่มต้นมาเล่นอะไรชิลๆ

แบบนี้ก่อนคือจะเป็นการวอร์มเครื่องที่ดีมากก

อิ้มผ่านทะเลเทียมก่อนค่ะ เพราะตั้งใจจะเอาสัมภาระมาเก็บ

เค้ามีล็กเกอร์ไว้ให้บริการนะคะ สำหรับแขกทั่วไปราคา 100 บาทถ้าจำไม่ผิด

ส่วนแขก Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ใช้งานได้ฟรีจ้า

แต่ต้องไปแจ้งด้านหน้าเค้าเตอร์ห้องล็อกเกอร์ เค้าจะให้สายรัดข้อมือมาอีกหนึ่งอัน

ซึ่งเอาไว้ใช้เปิด ปิด ล็อกเกอร์ค่ะ

จริงๆ ในนี้เค้าก็มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำไว้บริการด้วยนะคะ

แต่อิ้มไม่ได้เข้าไปดูด้านใน เพราะพอเล่นเสร็จก็ล้างน้ำเปล่าด้านนอก

และกลับไปอาบน้ำที่โรงแรม สะดวกมากมาย อิอิ

ส่วนเรื่องของกล้อง ด้านนอกจะไม่มีการรับฝากกล้องใดๆ ต้องเก็บไว้ในล็อกเกอร์เท่านั้น

ถ้าจะนำไปถ่ายแบบอิ้มต้องดูแลเองให้ดี

ส่วนใครจะใช้โกโปร ต้องมีสายรัดข้อมือ และ หน้าอก ถึงจะใช้งานได้

ไม่มีสถานที่ให้เช่าโกโปร แต่มีช่างภาพรับถ่ายภาพนะคะ

ต่อมาเป็นมุมนี้ค่ะ อิ้มชอบเป็นพิเศษ

โซนนี้คือ Rain Fortress ซึ่งจะเป็นศูนย์รวม 7 สไลด์เดอร์

แต่เพื่อเรียกความสดชื่น เค้าจะมีถังน้ำยักษ์ ที่จะเทน้ำ 530 แกลอนลงมาด้านล่าง

ทุกๆ ประมาณ 10 นาที ให้ร่างกายชุ่มฉ่ำ คลายร้อนได้ดีเยี่ยม

เป็นศูนย์รวมเครื่องเล่นสำหรับครอบครัวเล่นได้ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก

มีสไลเดอร์หลากหลายอัน ตั้งแต่ ระดับชิลๆ ถึง เสียว นิดๆ

แต่ก็ไม่เสียวมากขนาดนั้น

ตรงนี้จะเป็น Kiddie Cove สระว่ายน้ำสำหรับเด็กที่มีเครื่องเล่นนำพุและสไลด์เดอร์แบบเบาๆ

ส่วนด้านบนที่เห็นเป็นไฮไลท์เลยค่ะ เดี๋ยวค่อยมาเล่าให้ฟังเพราะเราจะยังไม่ขึ้นไป อิอิ

ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยค๊าา ขอเอาร่างกายไปสัมผัสกับน้ำแกลอนยักษ์ก่อนที่โซน

Rain Fortressและเล่นสไลเดอร์ เบาๆ พอกรุบกริบ

เสร็จแล้วมาชิลกันต่อที่ Lazy River อิ้มชอบมุมนี้มากกกก

เค้าจะให้เราลอยไปเรื่อยๆ กับความยาวของสระว่ายน้ำที่ยาวกว่า 345 เมตร

ลอยไปบนห่วงยางชิลๆ มีเสียงดนตรี และเสียงนกร้อง เบาๆ

เย็นสบาย แทบจะหลับอยู่แล้วค่า ชิลเวอร์ 5555

เรามาเริ่มแอดวานซ์กันหน่อย

จุดนี้จะเป็นศูนย์รวมสไลด์เดอร์ขั้นแอดวานซ์ขึ้นมา

มีความสูงและความเสียวเป็นอย่างมาก ในส่วนนี้จะมีเครื่องเล่นทั้งหมด 6 อย่าง

โดยจะขึ้นไปด้านบน ก่อนชั้นบนสุดจะมี 4 สไลด์เดอร์ ที่ต้องใช้ห่วงยางในการขึ้นไปเล่น

ห่วงยางเราสามารถรับได้จากด้านล่าง ซึ่งมี 3 สี สีน้ำเงิน สีม่วง และ สีเขียว

ส่วนอีกสองเครื่องเล่นที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ได้ชื่อว่าเสียวที่สุด

อยู่ด้านบนสุด จะไม่ต้องใช้ห่วงยางเล่น ใช้ตัวเล่นล้วนๆ จ้า

มาเริ่มที่ 4 อันแรกกันเป็นรางที่เห็นพัลวันกันอยู่ในภาพ มีสี่สี

อิ้มจะแนะนำตั้งแต่ความเสียวระดับแรกนะจ้ะ

การเริ่มต้นควรเริ่มที่ Inner Tube รางสีส้ม

เป็นสไลด์เดอร์ที่มีความเร็ว 25 กม./ชม เครื่องนี้จะเล่นได้ 1-2 คน น้ำหนักต้องไม่เกิน 182 กก.

ใช้ห่วงยางสีน้ำเงินในการเล่น

ต่อมาเป็น Rattler สไลด์เดอร์สีเขียว เครื่องเล่นนี้จะเล่นได้ 2-4 คนต่อ  ครั้ง

เป็นสไลด์เดอร์ที่ไหลลงมาตามท่อสูง 13 เมตรด้วยความเร็วมากกว่า 25 กม. / ชม.

.ใช้ห่วงยางสีเขียวในการเล่น

ต่อมาสไลด์เดอร์ที่ 3 ที่เป็นสีแดงสลับสีน้ำเงินมีชื่อว่า Super Bowl

เราจะไหลไปตามท่อและเข้าสู่จุดพักบนรางที่เราเห็นเป็นวงกว้างๆ และวนอยู่ประมาณสามรอบ

พอหลังจากนั้นความเสียวกำลังจะมาเพราะมันจะดูดเราลงไปในรูด้วยความเร็วสุดๆ

เครื่องนี้จะเล่นได้ 2 คนค่ะ น้ำหนักต้องไม่เกิน 182 กก.

ใช้ห่วงยางสีน้ำเงินในการเล่นจ้า

สุดท้าย Master Blaser รางสีเหลือง พีคในพีค เสียวในเสียว

เป็นเครื่องเล่นที่เล่นได้ 2 คนน้ำหนักต้องไม่เกิน 181 กก.นะ

จะบอกว่ามันเสียวมากกกกกเพราะมันดิ่งลงแล้วเชิ่ดหัวขึ้น

Master Blaser เป็นสไดล์เดอร์ที่มีความยาวที่สุด ยาวมากก แต่อิ้มจำไม่ได้ว่ายาวเท่าไหร่

มาต่อกันที่สไลเดอร์ที่สูงที่สุดและเสียวที่สุดของที่นี่

อิ้มไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมนะคะ เพราะมัวแต่ตะลึงในความน่ากลัว

ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงไปชมในคลิปได้เลย

อันนี้แคปมาจากในคลิปมาฝาก หน้าตาคนเล่นก็จะเหวอๆ ประมาณนี้ 5555

ด้านบนที่เสียวที่สุดจะเป็นตัวนี้ค่ะ  Aqualoop รางสีน้ำเงิน

เครื่องเล่นนี้จะพาทุกคนดิ่งลงไปตามท่อแบบไม่ได้ทันหายใจกันแน่นอน

กับสไลด์เดอร์ตีลังกา 360 องศา ที่ท้าทายกับแรงโน้มถ่วงของโลกสุดๆ

ทันทีที่พื้นเปิดปุ๊ปเราจะดิ่งลงไปสู่ความว่างเปล่าหมุนไป 360 องศา ด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.

หรือจากความสูงนี้ลงไปสู่พื้นล่างใช้เวลาไม่เกิน 6 วินาที พีคมากกกพูดเลย

สุดท้ายค่ะ Free Fall รางสีชมพู

เรียกว่าดูเสียวมากๆ เพราะความสูงที่ดิ่งลงมาแทบจะตั้งฉาก บอกเลยอิ้มไม่กล้าเล่น

แต่มีตัวแทนลงไปนะคะ ชื่อน้องช็อป มาจากกระบี่ เค้ามาชวนบรีสเล่น

ทีนี้เลยเข้าทาง ให้น้องช้อปวัดใจเลย  5555

เสร็จจากมุมสไลด์เดอร์กันแล้วมาต่อที่เซิร์ฟบอร์ดสุดมันส์เหนือผิวน้ำ

ลานโต้คลื่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแห่งแรกในหัวหิน

ส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ

มาแว้ววววว ต่อกันเลยกับเครื่อนเล่นสุดวัดใจอย่าง

Boomerrango เครื่องเล่นนี้ได้ชื่อว่าเป็นสไลด์เดอร์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเลยนะคะ

เพราะมีความยาวกว่า 179 เมตร และไหลเหวี่ยงด้วยความเร็ว 45 กม./ชม.

ก่อนจะเหวี่ยงขึ้นสูงสุดกว่า 20 เมตร เรียกว่าเกือบจะตั้งฉากกับพื้น

และไหลลงสู่พื้นน้ำด้านล่าง

โดยเครื่องเล่นนี้จะมีข้อกำหนดคือ 1 ห่วงยางจะนั่งได้ 3-6 คน

ผู้เล่นต้องสูงกว่า 107 ซม. และน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 454 กิโลกรัม

ส่วนอีกอันนึงเป็นสีเขียว  Abyss เครื่องเล่นชิ้นนี้ จะเป็นไลด์เดอร์ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก

 และในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ Abyss เป็นสไลด์เดอร์ที่มีความสูง 28 เมตร

เวลาเล่นจะทิ้งดิ่งลงสู่อุโมงค์ยักษ์ด้วยความเร็วกว่า 45 กม. / ชม.

การเล่นเครื่องเล่นสองชนิดนี้ข้อดีคือไม่ต้องแบกห่วงยางขึ้นไปให้เหนื่อย

เพราะเค้าจะมีเครื่องขนส่งขึ้นไปจ้า เดินตัวปลิวๆ สบายๆ ขึ้นไปได้เลย

เป็นไงบ้างคะ เสียวซ่านแบบสุดๆ ไปเลยใช่มะ

สุดท้ายอิ้มก็มาชิลๆ ที่ Coconut beach ก่อนกลับค่ะ

อาบน้ำแต่งตัวเสร็๋จก็มาชิลๆ ที่ โรงแรม เดี๋ยวอิ้มจะพาไปชมในส่วน Lobby กันบ้างนะคะ

Lobby สูง โปร่ง สวยงามทีเดียว

ด้านนี้เป็นทะเล บาร์ (Thalay Bar) เป็นบาร์น้ำผลไม้คั้นสด ชา กาแฟ ขนมอบสดใหม่ทุกวัน

อิ้มชอบเก้าอี้นั่งมากๆ ดูมีความเป็นเจ้าหญิงสุดๆ

สุดท้ายแอบเอาภาพ Rooftop Bar ชั้น 27 มาฝากกันค่ะ

ถ้าเสร็จเรียบร้อย อิ้มจะพาไปชมบรรยากาศอีกครั้งนะค๊าา

แล้วก็ขอทิ้งท้ายไว้กับภาพนี้ สระว่ายน้ำในช่วงเวลาที่ถ่ายภาพสวยที่สุด สิบโมงเช้าถึง บ่ายโมง

หน้าสว่าง ชุดสว่าง แต่แดดร้อน ต้องสตรองเท่านั้นจ้า

สุดท้ายอิ้มจะบอกว่าประทับใจที่ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin

เพราะว่าเค้าฉีกกฎเดิมๆ ของหัวหิน

รีสอร์ทยังใหม่ และราคาช่วงนี้ถูกมากๆๆๆๆๆๆๆๆ แถมวิว สระว่ายน้ำสวยงามอลังการ

ยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวบางที่ซะอีก

ถ้า Rooftop ด้านบนเสร็จเรียบร้อย ทุกอย่างน่าจะเฟอร์เฟ็กซ์กว่านี้

แต่ก็คงปฎิเสธไม่ได้ในเรื่องของราคาที่จะสูงขึ้นตามมา

แต่อาจจะสูงขึ้นไม่มากนักนะคะ น่าจะพอรับไหว

เพราะราคาห้องพักยังไงก็รวมกับค่าเข้าสวนน้ำอยู่แล้ว

มองๆ ดู ยังไงก็คุ้ม เป็นโรงแรมอีกที่ ที่ควรค่ากับการมาพักผ่อนค่ะ

******************************************************

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

******************************************************

ช่องทางติดต่อเรา

http://www.psstorytrip.com

http://www.facebook.com/psstorytrip

http://www.instagram.com/psstorytrip

http://www.youtube.com/psstory trip