สวัสดีพัทยา…
พัทยาเมืองแห่งแสงสีและดูเหมือนจะเป็นเมืองที่วุ่นวายสำหรับใครหลายๆ คน
หลายคนอาจจะคิดว่าพัทยาเป็นเมืองแห่ง แสงสี ปาร์ตี้ สีสัน
แต่เชื่อไหมว่า พัทยา ก็ยังมีมุมสงบ มีโรงแรมสวยๆ
ให้เราได้พักผ่อนปล่อยกายปล่อยใจ
ช่วงเดือนที่ผ่านมา อิ้มกับบรีสงานยุ่งมาก แทบไม่มีเวลาจะพักผ่อน
จนมองปฎิทินไปมา ก็เห็นว่าเรายังพอมีวันว่างแต่มีแค่สองวันหนึ่งคืน
เอาหล่ะ ในเมื่อร่างกายอยากพักผ่อน ก็จัดไปสิคะ
พอมีเวลาน้อย ตัวเลือกก็น้อยลง เราสองคนจึงตกลงว่าใจว่า
ทริปพักผ่อนของเราในวันนี้จุดมุ่งหมายก็คือ พัทยา
เดินทางสะดวกใกล้ กทม เพียงชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น
เอๆๆๆ แล้วเราจะพักที่ไหนดี แว้บๆๆ ก็นึกถึงโรงแรมนี้ขึ้นมาค่ะ
Holiday inn pattaya เพราะเราจะมีโรงแรมในใจไม่กี่ที่ ที่ทำให้เรามีความสุขมากๆ
แล้วที่นี่ก็เคยทำให้อิ้มกับบรีสประทับใจมากมาแล้วครั้งนึง
เพราะ Holiday inn pattaya อยู่ที่เมืองพัทยาก็จริง
แต่บรรยากาศเหมือนรีสอร์ท เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย
โรงแรมระดับ 4 ดาว แต่ Facility เหมือน 5 ดาว ราคาก็ย่อมเยาว์
ทุกอย่างเริ่ดขนาดนี้ จะไม่ถูกใจได้ยังไง
เอาหล่ะค่ะ เดี๋ยวอิ้มจะพาสัมผัสความสุขที่ Holiday Inn Pattaya อีกครั้ง
รับรองว่าแม้จะมีเวลาแค่สั้นๆ ก็สามารถเติมเต็มความสุขจนล้นหัวใจได้แน่นอน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://www.facebook.com/HolidayInnPTY/
http://www.holidayinn-pattaya.com/th/
ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
Holidayinn pattaya ตั้งอยู่ที่พัทยาเหนือ
ปัจจุบันมี 2 Tower ด้วยกัน Tower แรกคือ Bay tower
ส่วน Tower ที่ 2 เป็น Executive tower คราวที่แล้วอิ้มพักตึกนี้ไป
คราวนี้ลองมาพักที่ Bay tower กันค่ะ
เข้ามาบริเวณ Lobby เพื่อเช็คอิน จะพบว่าส่วนของ Lobby กว้างขวางมาก
การตกแต่งก็ดูจะคล้ายๆ โลกใต้ท้องทะเล ตัวพนังและเพดาน
ใช้โทนสีฟ้าและสีน้ำเงินเหมือนกับสีของน้ำทะเลที่ไล่ระดับจากตื้นไปลึก
และพื้นเป็นสีคล้ายกับทรายบริเวณชายหาด
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มเช็คอิน
อิ้มมาถึงก่อนเวลาเช็คอินไปนิด ก็เลยขอมาผ่อนคลายที่ Tea Tree Spa
Tea Tree Spa อยู่ที่ชั้น 5 อาคาร Bay Tower ของโรงแรม Holiday Inn Pattaya
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 น. – 22:00 น.
กลิ่นหอมๆ อ่อนๆ คลุ้งไปทั่วสปา ทำให้อิ้มรู้สึกผ่อนคลาย
นาทีนี้อยากจะทิ้งตัวลงนอนให้เทอราพิสนวดซะเดี๋ยวนั้นเลย
แต่ก่อนที่เราจะเข้ารับบริการ เราต้องกรอกรายละเอียดสุขภาพและเลือก package กันก่อน
วันนี้อิ้มเลือกใช้บริการตัวแพคเกจ Tea Tree Spa Signature package
ที่เลือก Tea Tree Spa Signature package ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ
ซึ่งชื่อก็บอกแล้วนะคะว่าเป็น Signature ทีเด็ดของ package นี้ก็คือ
สวยครบสบายกายจบในขั้นตอนเดียว
โดยจะเป็นการขัดผิว 30 นาที
นวดตัวน้ำมันหอมระเหยและประคบด้วยหินร้อน 90 นาที
และนวดหน้า 30 นาที ราคาสุทธิ 3,490 บาทต่อท่านค่ะ ใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งค่ะ
แต่ละกลิ่น จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป ช่วยเรื่องผิวในด้านต่างๆ
ลองเลือก Scrub ที่ชอบและกลิ่นน้ำมันที่ใช่ ด้วยตัวคุณเองนะคะ
เลือกครบหมดแล้วเค้าก็จะเสิร์ฟ Welcome Drink ให้จิบอุ่นๆ ก่อนเข้ารับบริการ
ล้างเท้าเสร็จแล้วก็เข้ามาภายในห้องค่ะ
เดินเข้ามาภายในห้องก็จะเจอห้องแต่งตัว ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง
และมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกกัน
ได้เวลาบำบัดร่างกายและผ่อนคลายกับสปาชั้นเลิศกันแล้ว
ขอเวลาอิ้มผ่อนคลายสักครู่นะคะ
ผ่อนคลายกับสปาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าห้องพักค่ะ
ห้องพักที่อิ้มพักในวันนี้ก็คือ ซูพีเรียโอเชี่ยนวิว ขนาด 33 ตร.ม.
วิวจากบนห้องทำให้เราสองคนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
วิวจากห้องสวยมากกกกก เป็นพัทยาในมุมที่เราไม่ค่อยได้เห็นนัก
เราสองคนใช้เวลานั่งผ่อนคลายและมองไปยังวิวด้านนอกนานพอสมควรเลยค่ะ
กลับมาชมภายในห้องกันต่อนะคะ ตกแต่งเรียบง่ายสบายตา
แฮปปี้ที่สู้ดดดดดดด
หมอนที่ใช้จะมีให้เลือกสองแบบตามสไตล์ Holiday Inn ค่ะ
มาชมในส่วนของห้องน้ำกันบ้างนะคะ
ห้องน้ำกว้างขวางทีเดียว แต่เสียดายไม่มีสายชำระ
ห้องอาบน้ำค่ะ มองไปไกลๆ จะเห็นวิวทะเลด้วยนะคะดีงามมากกก
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้องเป็นแบรนด์มาตรฐานของ Holiday Inn เองค่ะ
ด้านนอกจะมีน้ำเปล่าให้สองขวด ชา กาแฟ กาน้ำร้อน เอาไว้บริการ
เสร็จจากห้องพักแล้ว ช่วงเย็นเราจะกลับไปที่ตึก Executive tower กันค่ะ
ไปนั่งชมวิวสวยๆ จิบเครื่องดื่ม ชมวิวของเมืองพัทยา
การที่มาพัก Holiday Inn Pattaya
บอกเลยว่าควรจองมาเป็นแบบเอ็กเซ็กคิวทีฟคลับนะคะ
เพราะนอกจากเราจะได้รับบริการที่เหนือระดับ คุณยังจะได้ตื่นตาตื่นใจ
ไปกับวิวเมืองพัทยาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เอ็กเซ็กคิวทีฟคลับ
รวมถึงอาหารเช้าและเครื่องดื่มยามเย็นพร้อมจุใจ
ไปกับวิวเมืองพัทยาแบบพาโนรามาจากชั้นวิวบนชั้น 25
ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
1.บริการเช็คอิน และเช็คเอาท์แบบส่วนตัว
2.อาหารเช้าบนชั้นสูงสุดตั้งแต่เวลา 6.00 น. – ถึง 10.30 น.
3.บริการชา กาแฟ เครื่องดื่ม โฮมเมทคุ๊กกี้ และผลไม้ตลอดวัน
4.บริการเครื่องดื่มยามเย็นและคานาเป้ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. – 20:00 น.
5.ผลไม้ต้อนรับในขณะเข้าพัก
6.หนังสือพิมพ์รายวันฟรีทุกวัน
7.ฟรีอินเทอร์เน็ทความเร็วสูงในห้องพัก และเอ็กเซ็กคิวทีฟคลับ
8.บริการใช้ห้องประชุมย่อยที่เอ็กเซ็กคิวทีฟคลับฟรี 2 ชม.(ขึ้นอยู่กับการว่างของห้อง)
9.ส่วนลด 10% อาหารและเครื่องดื่ม ส่วนลด 20% เฉพาะเมนูปกติ ณ ทีทรีสปา
10.บริการอาหารกลางวัน และอาหารค่ำระหว่างวัน (มีค่าใช้จ่าย)
11.บริการเช็คเอาท์ล่วงเวลาได้ถึง 14.00 น. (ขึ้นอยู่กับการว่างของห้องพัก)
เป็นไงบ้างคะบอกแล้วว่าดีงามมากกกก
มาถึงแล้วก็สั่งเครื่องดื่มกันเลย มีทั้งเบียร์ ไวน์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้
เสร็จแล้วก็นั่งชม city view สวยๆ จาก Executive Club กันค่ะ
อ้อๆๆ นอกจากเครื่องดื่มเค้ายังมี คานาเป้ ขนมปัง ต่างๆ ไว้ให้บริการด้วยนะคะ ทานฟรีรัวๆ
เราสองคนขอออกมานั่งด้านนอก ชมวิวสวยๆ และรับลมเย็นๆ สบายๆ ที่ Rooftop Terrace
จาก Rooftop Terrace เราสามารถชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกของเมืองพัทยา
ยามพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด
ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น. ที่ Rooftop Terrace ชั้น 25
เค้ามีโปรโมชั่น ซื้อ 1 ดื่ม แถมฟรี 1 ดื่ม เวลา 18.00 – 20.00 น.
และสนุกสนานกับดีเจ ทุกค่ำคืนวันศุกร์และวันเสาร์ด้วยนะคะ
น่าเสียดายที่วันนี้อากาศไม่ดี เราจึงไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก
แต่ไม่เป็นไรเพราะบรรยากาศรอบข้างก็ทำให้เรามีความสุขมากพอแล้ว
ชิลจากด้านบนมาพักใหญ่ก็ได้เวลาทานอาหารเย็นกันแล้วค่ะ
มื้อดินเนอร์นี้อิ้มทานอาหารที่ เทอร์ราซโซ่ เป็นห้องอาหาร Open Air อยู่หน้าโรงแรม
บรรยากาศชิลเวอร์ เพราะตรงนี้ใกล้ทะเลเพียงฝั่งถนน และยังมีดนตรีสด
ขับกล่อมเราไปตลอด และยังมี Open Kitchen
ให้ชมเชฟปรุงอาหารได้อย่างเพลิดเพลิน
Terrazzo Bar & Restaurant
เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนสไตล์โมเดิร์น
อาหารส่วนใหญ่เป็นสไตล์อิตาเลี่ยนสไตล์โมเดิร์น
มีมากมายหลากชนิด เช่น แอนติเพสติ สลัด พิซซ่า สเต็ก และอาหารจานหลัก
นอกจากนั้นยังมีไวน์และของหวานให้เลือกมากมาย
แต่ทีเด็ดของที่นี่จะเป็นพิซซ่าอบใหม่จากเตาถ่าน
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะพิเศษของทางห้องอาหาร
และเค้ามีโปรโมชั่นด้วยนะคะ
พิซซ่าลด 50% ทุกวันเวลา 15.00 – 17.00 น
เครื่องดื่มซื้อ 1 แถม 1 ทุกวันเวลา 17.00 – 19.00 น
สั่งเมนูเสร็จเรียบร้อยก็จะมีขนมปังมาเสิรืฟก่อนเป็นธรรมเนียม
ต้องทานนะคะ เพราะมีทีเด็ด อิิอิ
สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาทานก่อนดีกว่าค่ะ
Crispy Apple ม็อกเทลน้ำแอปเปิ้ลผสมโซดา ราคา 160 บาท++
ทานแล้วสดชื่น ซาบซ่า
แก้วนี้จะบอกว่าเป็นของบรีสนะ 555 บรีสสายหวาน
Milk Shake มิลค์เชค ไอศกรีมปั่นกับนมสด ราคา 180 บาท ++
เราสองคนสั่งไปหลายเมนูมากกก และแน่นอนหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็นพิซซ่า
เดี๋ยวเราไปชมเชฟทำแบบสดๆ กันค่ะ
ทนดูไม่ไหว เพราะน่าทานมากกกกกลับมาที่โต๊ะดีกว่าค่ะ
แป๊ปเดียวอาหารก็มาเสิร์ฟแล้ว
จานแรกเป็น Chicken Wing ปีกไก่ทอดกรอบ เสริฟกับน้ำจิ้มรสเผ็ด ราคา 190บาท++
Chicken Wing ทอดกรอบ ทอดได้ดีมาก กรอบนอกนุ่มใน ไม่แห้ง
ทานเพลินๆ แป๊ปเดียวหมดไม่รู้ตัว
ต่อมาเป็น สลัดค่ะ เอาใจสายเฮลตี้กันหน่อย
จานนี้เป็น Jar of Prawns กุ้งขาวแช่เย็น, อโวคาโดหั่นเต๋า
, ผักร็อคเก็ต, มะเขือเทศ, ไข่ปลาแซลม่อน
เสิร์ฟคู่กับซอสค็อกเทล ราคา 390 บาท ++
เค้าเสิร์ฟมาได้เก๋ไก๋มากค่ะ เรามีหน้าที่แค่เทใส่จาน และชิม อิอิ
เป็นสลัดที่ดีงามมาก เพราะสำหรับอิ้มส่วนผสมที่พูดมาถูกใจทั้งหมด
ยิ่งเวลาทานแล้วได้ความมันของอโวคาโด
และความกรุบกรับของไข่ปลาแซลมอนที่แตกในปาก น้ำสลัดสูตรพิเศษ
ทุกอย่างเข้ากันอย่างลงตัว
ต่อมา คือไฮไลท์น๊าาาา สายเนื้อห้ามพลาด !!!!
จานนี้เป็น Australian Dry Aged Beef เนื้อริบอายติดกระดูก 600 กรัม
เสิร์ฟพร้อม มันบดและผักย่าง น้ำจิ้มแต่วและซอสไวน์แดง ราคา 1,690 บาท++
ตอนเสิร์ฟมาอิ้มนี่ตาตื่นเลยเพราะว่าชิ้นใหญ่โตมากกกกก
จะบอกว่าติดใจสเต็กเนื้อที่นี่ตั้งแต่มารอบที่แล้วละนะ
รอบนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เนื้อนุ่ม ดีงาม ทานคู่กับซอสไวน์แดงก็เริ่ด
ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วก็แซ่บ แต่ควรทานสองคนและต้องทานตอนร้อนๆ นะคะ
จะพบว่าสวรรค์ของคนรักเนื้อมันดียังไง
อ้อแล้วอย่าลืมทานคู่กับมันบดด้วยนะคะ มันบดที่นี่อร่อยจริงจังมาก
เชฟเค้าทำออกมาสุกกำลังดี อร่อยมากกก ยิ่งตอนทำรีวิวนี่ทรมาณท้องสุดๆ
มีโอกาสจะกลับไปซ้ำอีกแน่นอน
มาต่อกันที่จานถัดไปค่ะ
Rigatoni Mare E Monte เส้นริกาโตนี่ผัดกับเนื้อกั้ง, เห็ดออรินจิ
และซอสครีมซอสมะเขือเทศ ราคา 340 บาท++
โอ้ยยยยจานนี้คนรักกั้งห้ามพลาด
พระเอกคือกั้งตัวใหญ่ ซึ่งหวานและสดมาก ชูรสของวัตถุดิบหลักได้อย่างดีเยี่ยม
เส้นริกาโตนี่สุกพอดีไม่แข็งและไม่เละเกินไป
ตัวซอสครีมซอสมะเขือเทศก็ผัดมาพอดีได้ที่ไม่แห้งและซอสไม่เยอะเกินจนเลี่ยน
คือทุกอย่างลงตัว กลมกล่อม ดีงาม
ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าดีมากอร่อยมากและมาควรต้องสั่ง
และแล้วก็มาถึงพระเอกของเรา Porto Fino Pizza
พิซซ่าแป้งบางกอบทาด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ
, มอสซาเรลล่า, เบคอน, เห็ด และกุ้ง ราคา 240 บาท++
เชื่อละว่าอร่อยมากกกก พิซซ่าเป็นแป้งบางกรอบ หนักเครื่อง
วัตถุดิบที่ใช้ดีเยี่ยม ชีสเยิ้มๆ ยืดๆ
โอ้ยยยยย อร่อยมาก ยิ่งมีโปรซื้อ 1 แถม 1 นะ พูดเลยถูกและดีมีอยู่จริง
ขอพูดถึงห้องอาหารสักหน่อย อิ้มมาที่นี่สองครั้ง
ไม่ผิดหวังเลยอาหารอร่อย บรรยากาศดี พนักงานบริการดี อาหารออกไว
ราคาข้างต้นยังไม่รวม ภาษีและค่าบริการ สำหรับอิ้มไม่แพงนะ เมื่อเทียบกับคุณภาพ
ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาออกไปทานข้างนอกราคาก็ไม่ได้แตกต่างกัน บางครั้งอาจจะแพงกว่า
แถมไม่ได้คุณภาพอีกด้วย แต่ที่นี่อิ้มรับประกันเลย ของเค้าดีจริงๆ
ส่วนเสต็ก ถ้าไม่สั่งชิ้นใหญ่แบบอิ้ม เค้าก็มีหลายแบบให้เลือกทาน ราคาไม่แรง
เป็นร้านอาหารอีกที่ ที่มาพัทยาแล้วไม่ควรปล่อยผ่าน
หลังจากเมื่อคืนหนังท้องตึง วันนี้เลยตื่นสายซะอย่างนั้น
ก็เตียงนุ่มนอนสบายขนาดนี้ จะไม่ให้ตื่นสายได้ยังไง
เช้านี้อิ้มชงกาแฟ แล้วออกมายืนชมวิวจากหน้าห้องพัก
เป็นวิวที่สวยงามทีเดียว
ชมวิวหน้าห้องเสร็จก้ได้เวลาทานอาหารเช้าค่ะ
เรากดลิฟท์มาที่ชั้น 4 ที่ตึกเบย์ทาวเวอร์
ห้องอาหารเช้าที่อิ้มมาทานนี้มีชื่อว่า คาเฟ่ จี
เปิดให้บริการทุกวัน 05:30 น. – 18:00 น. บริการ: อาหารเช้า และกลางวัน
คาเฟ่ จีเป็นห้องอาหารนานาชาติที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน
ส่วนบุฟเฟต์อาหารเช้านานาชาติ มีให้เลือกอย่างหลากหลาย
ที่นั่งมีทั้งด้านระเบียงด้านนอกจัดที่นั่งแบบโซฟาขนาดใหญ่
ที่เหมาะสำหรับครอบครัวหรือหมู่คณะ
และที่นี่ด้านใน เหมาะสำหรับคู่รักและคนที่ไม่อยากอยู่ห่างไลน์อาหารเช่นอิ้ม อิอิ
ตอนเข้ามาถึงเค้าจะให้ welcome Fruit ทานก่อนเป็นน้ำผลไม้คั้นสด
ปรับเปลี่ยนไปทุกวัน อย่างวันที่อิ้มทานเป็นน้ำแตงโมสดๆ ปั่น เย็นชื่นใจ
เข้ามาสำรวจไลน์อาหารกันค่ะ อลังการใช้ได้
อาหารหลากหลายมากกก ให้ภาพเล่าเรื่องนะคะ
ละลานตามากกกกกกกกก อิ้มกับบรีสเลือกทานไม่ถูกเลย
ทานกันเบาๆ พอ อิอิ
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็มาเดินชิลๆ ในโรงแรมก่อนกลับ
ที่ติดกับคาเฟ่จีเลยก็คือสระว่ายน้ำของเด็ก น่าเล่นมาก มีสไล์เดอร์ด้วย 5555
อีกส่วนนึงที่ถูกใจคุณลูก เบาแรงคุณพ่อคุณแม่นั่นก็คือ Kid’s club
สะดวกสบายสำหรับหนูๆ และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวล
ของเล่นมีมากมาย ทำเอาผู้ใหญ่ยังอยากเล่นเลยค่า
อีกส่วนนึงที่ชิลเวอร์ๆ นั่นก็คือ Main Pool ของ Bay tower
เป็น infinity pool ที่น่าเล่นและวิวสวยงาม
เกือบจะเที่ยงได้เวลาเช็คเอาท์กันแล้วค่ะ ก่อนกลับอิ้มมานั่งชิลที่ Flow Café
ซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดติดกับ Lobby ของ Bay tower
สิ่งที่ล่อตาล่อใจอิ้มสุดๆ ก็คือ 2 แก้วนี้ค่ะ Rainbow Frappe
หน้าตา ตะมุตะมิ มุ้งมิ้งค์ ฟริ้งค์ฟริ้งค์ไปอี๊กกก
Rainbow Frappe เครื่องดื่มสีสันสดใส รสชาติเปรี้ยวหวานชื่นใจ
มีให้ได้ลองถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ลิ้นจี่ มะม่วงและเสาวรส
และมีโปรโมชั่น Rainbow Frappe ราคาสุทธิ 119 บาท
เดือนกันยายน – ธันวาคม 2560
ซึ่งอิ้มทานเป็นเสาวรส และลิ้นจี่ มีความละมุน เปรี้ยวอมหวาน อร่อยสุดๆ
ว้าวววว วันที่อิ้มไปเจอเค้กที่สีสันคล้ายๆ กันเลยลองสั่งมาอร่อยมว๊ากก
แถมถ่ายรูปคู่กันก็ฟรุ้งฟริ้งค์สุดๆ
ใครสนใจก็แวะมาชิม Rainbow Frappe
ที่ Flow Cafe และ Flow Express Holiday inn Pattaya นะคะ
อย่าทำให้เวลามาเป็นข้ออ้างของการพักผ่อน เพราะเพียงแค่สองวันหนึ่งคืน
อิ้มก็สานต่อความสุขเล็กๆ ให้ชีวิตได้ เหนื่อยนักก็พักชาร์ตแบตสักนิดนะคะ
แล้วถ้ามาเที่ยวพัทยาและกำลังมองหาที่พัก อิ้มแนะนำ Holiday inn
เพราะว่าราคาไม่แรง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นอกจากนั้นอิ้มมีโปรโมชั่นสำหรับแฟนเพจ Psstory ด้วยนะคะ
ห้องพักราคาพิเศษสำหรับแฟนเพจ psstory ราคาสุทธิเริ่มต้น 4500 บาท
รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน พร้อมส่วนลด 15% สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
ฟรีอินเตอร์เน็ต จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 ธันวาคม 2560
******************************************************
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
******************************************************
ช่องทางติดต่อเรา
http://www.facebook.com/psstorytrip