หลังจากที่เราตะลุยฟุกุชิมะมาแล้ว 1 วันถ้วนแบบเบาๆ พอกรุบกริบ กรุบหริบ
ใครยังไม่ได้ชมรีวิว Day 1
ตามลิ้งค์นี้ไปได้เลยนะคะ
https://psstorytrip.com/2017/11/23/iizakaonsen/
ส่วน Day 2 บอกเลยว่าวันนี้ออกแนวลุยๆ นิดๆ
เพราะอิ้มจะพาทุกคนไปชมความสวยงามของธรรมชาติ
ที่บึงน้ำ 5 สี หรือ Goshikinuma และยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
บอกเลยว่าที่นี่สวยงามและมีเสน่ห์มากๆ
เป็นช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความสวยงาม
เยอะที่สุดของปีเลยก็ว่าได้ค่ะ
สำหรับบางคนที่มาเที่ยวที่นี่อาจจะคิดว่ามีแค่บึงหลักอย่าง
Bishamon-numa แค่บึงเดียว จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะ
เค้ามีทั้งหมด 8 บึงด้วยกัน
เพราะฉะนั้นวันนี้อิ้มจะเดินชมให้ทั่วทุกบึง บนเส้นทางชมธรรมชาติ
ที่เรียกว่า Goshikinuma Ponds Nature Trail
เดินชิลๆ ยาวๆ 4 กิโลเมตร
ส่วนช่วงเย็นอิ้มก็เข้าพักโรงแรมที่มีชื่อว่า Hotel Listel Inawashiro
ขอพูดถึงการจองโรงแรมสักนิดนะคะ
แน่นอนอิ้มหาข้อมูลที่พักให้ใกล้ๆ กับบึง 5 สี แต่ที่เล็งๆ ไว้ปรากฎว่าเต็มหม้ดดดด
จึงลองหาข้อมูลที่พักญี่ปุ่นให้ตรงกับที่ใจต้องการอยากได้ที่พักสวยๆ บรรยากาศดีๆ
ซึ่งการจองล่วงหน้านานๆ แบบนี้เช่นเคย ต้องจองกับ Traveloka
https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan/area/fukushima-ku-20000899
เพราะเราสามารถจองผ่าน App บนมือถือ และ website
เวลาจองก็ง่าย ยิ่งถ้าจองล่วงหน้ารับประกันความถูก
นอกจากที่พักแล้ว Traveloka ยังมีตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น
ราคาน่ารักๆ ซึ่งอิ้มก็จองกับ Traveloka เช่นเดียวกัน
สามารถเข้าไปเช็คราคาตั๋วไปญี่ปุ่นที่ลิ้งค์นี้นะค๊าา
https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
สำหรับคนมาเที่ยวที่ goshikinuma บางคนอาจจะเลือกพักเมืองไกลๆ
อย่างเช่น Aizu wakamatsu
แต่อิ้มเลือกที่จะพักบริเวณใกล้ๆ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อยๆ
และจริงๆ ใน Inawashiro ก็มีที่พักน่าสนใจหลายที่เลยนะคะ
ส่วนอิ้ม เลือกพักที่ Hotel listel inawashiro
หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมถึงเลือกพักที่นี่เพราะที่นี่ไกลจากสถานีมากเลยนะ
หมดกังวลไปได้เลยเพราะโรงแรมนี้เค้ามี Shutter Bus รับส่ง
จากสถานี Inawashiro มาโรงแรมและจากโรงแรมมายังสถานี Inawashiro ค่ะ
แต่จะมีเวลาเป็นรอบๆ นะ สามารถเช็คกับทางโรงแรมอีกที
เพราะว่าเค้าอาจจะมีปรับเปลี่ยนตารางค่ะ
โอเคค๊าาาา ถ้าพร้อมแล้วตามอิ้มไปตะลุยฟุกุชิมะ : DAY 2 ชมใบไม้เปลี่ยนสี
และเดินป่าท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามที่บึงน้ำ 5 สี Goshikinuma กันเลยค๊าา
สามารถรับชมเป็นแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่ อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชม
แล้วอย่าลืมกดติดตาม กด subscribe กดไลก์ กดแชร์ได้เลยนะค๊าาา
หลังจากที่เมื่อคืนเราพักกันที่ Apa Fukushima Ekimae เช้านี้เราต้องรีบออกเดินทาง
เพราะอิ้มกลัวไปถึงสายแล้วคนจะเยอะ
แต่อากาศก็แสนจะสบายทำเอาเกือบตื่นเกือบสาย
ดีนะที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เหอะเหอะ
พอตื่นมาก็รีบเก็บข้าวของมองเห็น Doughnut bag วางอยู่สองใบ
มีความลังเลจะใช้ใบไหนดี รักพี่เสียดายน้อง
จะใช้ Macaroon Lavender X rose สีหวานสดใส
Size classic: 28cm
หรือ จะใช้ Woodland Small bo-he Special
ดูเท่ห์ขึ้นมาอีกนิด Size: 27.5cm
เอาเป็นว่าเดี๋ยววันนี้อิ้มเดินป่า
ขอเลือกใช้ Woodland Small bo-he Special ดีกว่าเพราะดูจะทะมัดทะแมง
กว่า Macaroon อิอิ
เสร็จธุระอิ้มก็เช็คเอาท์ในช่วงเวลาประมาณเจ็ดโมงครึ่ง
เพื่อเดินทางต่อไปยัง Inawashiro
การเดินทางไป Inawashiro สามารถไปได้จากหลายเส้นทาง
ถ้ามาจากโตเกียว ให้นั่ง Shinkansen มาลงที่ Koriyama
จากนั้นนั่งสาย Ban Etsu West Line ไปลง Inawashiro
แต่สำหรับอิ้มเดินทางจาก Fukushima ก็ต้องไปลงที่ Koriyama เช่นกัน
และนั่งสาย Ban Etsu West Line ไปลง Inawashiro
ถ้าจะให้ดีอิ้มว่านอน Koriyama หนึ่งคืนน่าจะสะดวกกว่า
จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามากมาย
เช้าๆ แบบนี้กดตู้เครื่องดื่มดีกว่า เป็นกิจกรรมที่อิ้มทำบ่อยมากเวลาอยู่ญี่ปุ่น
Morning Tea ขวดนี้เห็นใครๆ ก็ฮิตกัน
พอลองทานก็รู้สึกดีนะ มันมีกลิ่นชา อร่อยดี แต่มันก็ไม่สู้กินชาจริงๆ อ่ะนะ
เนื่องด้วยสภาพอากาศวันนี้อยู่ราวๆ สิบองศาและไม่มีแดด
อิ้มกับบรีสจึงเลือกเสื้อผ้าหนาๆ ใส่แล้วอบอุ่น เน้นใส่สบายเป็นหลัก
วันนี้จึงเลือกใส่เสื้อผ้าของ Uniqlo Winter Collection
นอกจากแบบถูกใจ ราคายังน่าคบหา
เสื้อผ้าออกใหม่ทู้กฤดู เรียกว่ากลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าประจำตู้ไปแล้วค่ะ
เอาหล่ะได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว
จาก Fukushima อิ้มนั่ง Shinkansen
ไปลงที่ Koriyama ก็จะใช้เวลาเพียง 14 นาที
และจากนั้นก็นั่งสาย Ban Etsu West Line ไปลง Inawashiro
รถไฟสายนี้เป็นสายหวานเย็น ก็จะชิลๆ ใช้เวลานานหน่อยประมาณ 39 นาที
มาถึงสถานี Inawashiro แล้วอิ้มก็ฝากกระเป๋าในตู้รับฝาก ราคาตู้ละ 600 เยนค่ะ
Inawashiro เป็นสถานีเล็กๆ ขนาดกระทัดรัด
บรรยากาศหน้าสถานี Inawashiro ฝนตกแบบนี้ดูเงียบจุง
ก่อนเดินทางอิ้มก็มาที่ Tourist information ตึกนี้
ออกจาสถานีมาอยู่ด้านซ้ายมือ
อิ้มก็มาขอตารางเวลารอบรถทั้งขาไปและกลับค่ะ
เราจะต้องนั่งรถบัสเอกชนของบริษัท Bandai Toto Bus
ไปอีก 25 นาที (ราคาเที่ยวละ 770 Yenต่อคน) ไปลงที่สถานี Goshiki-numa Iriguchi
ได้ข้อมูลตารางรอบรถมาแล้วค่ะ
ใบแรกจากสถานี Inawashiro นะคะ รถจะออกจากสถานี 10.40 น.
และถึง Goshiki-numa Iriguchi เวลา 11.11 นาที
ส่วนใบนี้เป็นจากลับค่ะ ออกจาก
Goshiki-numa Iriguchi มีตั้งแต่รอบ 12.52 – Inawashiro 13.18
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 12.52 – Inawashiro 13.18
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 13.25 – Inawashiro 14.00
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 14.25 – Inawashiro 14.51
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 14.45 – Inawashiro 15.20
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 16.00 – Inawashiro 16.35
จากGoshiki-numa Iriguchi รอบ 17.00 – Inawashiro 17.35
เสียดายที่อิ้มมัวแต่โม้อัดคลิปไปนิดจึงทำให้ขึ้นรถรอบ 09.15 ไม่ทัน
เลยต้องรอไปอีก ชม กว่า แต่ไม่เป็นไรถือว่าได้เดินเล่นชมเมืองไปพลางๆ
ว่าแล้วก็แชะภาพกับท้องถนนประหนึ่งว่าตัวเองเป็นนางเอกมิวสิกวิีดีโอสักหน่อย 555
เดินนานๆ ไม่ไหวค่ะเพราะอากาศเริ่มหนาว
เราก็เข้าไปรอรถในสถานีพอได้เวลาปุ๊ป Bandai Toto Bus
ก็ดริฟมาจอดที่ช่องจอดที่ช่องแรก
หากไม่แน่ใจก็ถามเค้าก่อนขึ้นรถนะคะ
บอกว่าเราจะไป goshikinuma
เพราะว่าจากตรงนี้มีรถบัสอื่นๆ มาจอด สีคล้ายๆ กันดูให้ดีเดี๋ยวจะขึ้นผิดนาจา
เอาหล่ะค่ะพอขึ้นรถมาแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องตั๋วนะคะ
เพราะเค้าจะให้เราจ่ายบนรถเลย
เราขึ้นจากตรงไหนก็ดูหมายเลขเอาว่าเราขึ้นมาหมายเลขอะไร
พอไปถึงป้ายที่หมายระบบก็จะแสดงตัวเลขและค่ารถให้เราดู
ก็จ่ายไปตามนั้นเลยค่ะ อย่างมาลงที่สถานี Goshiki-numa Iriguchi
ราคาก็ตกเที่ยวละ 770 yen ต่อคน ไปกลับก็อยู่ที่ 1540 yen
หลังจากที่ลงรถมาแล้วเราก็ต้องเดินเท้าต่อเข้าไปยังบึงแรก
Bishamon-numa
ขออธิบายรายละเอียดสักเล็กน้อยนะคะ
บึง 5 สี หรือ Goshikinuma
ประกอบไปด้วยบึงน้อยใหญ่ 8 บึงโดยทั้ง 8 บึง
ตั้งอยู่เรียงรายกันตามเส้นทางเดินธรรมชาติระยะทางยาวราวๆ 4 กิโลเมตร
จากปากทางเข้า Goshikinuma-Iriguchi ไปจนถึงปากทางเข้า Bandai-kogen
อิ้มมีภาพประกอบให้ด้วยค่ะ
หรือบางท่านอาจจะเดินมาจาก Bandai-kogen ก็ได้เช่นกันนะคะ
ก็จะเจอบึงแรกเป็น Yanagi-numa ก่อน แล้วมาสุดที่บึง Bishamon-numa
สามารถเดินได้ทั้งสองเส้นทาง
แต่สำหรับวันนี้ อิ้มเลือกเดินตั้งแต่
Bishamon-numa ซึ่งเป็นบึงที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดค่ะ
นับหนึ่งตั้งแต่บึงแรกก็จะเรียงได้ตามนี้ค่ะ
1 Bishamon-numa
2 Aka-numa
3 Midoro-numa
4 Tatsu-numa
5 Benten-numa
6 Ruri-numa
7 Ao-numa
8 Yanagi-numa
พอทราบข้อมูลคร่าวๆ เราก็เดินทางต่อนะคะ
เดินมาไม่นานก็ถึงบึงแรก น่าเสียดายอย่างมากทีวันนี้ไม่มีแสงแดดให้เราเห็น
แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะมีใบไม้แดงสวยๆ ให้เราชมแทน
บึงน้ำ 5 สีเกิดหลังจาก Mt. Bandai ระเบิด ทำให้เกิดทะเลสาบน้อยใหญ่
และทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา
เพราะว่า พอ Mt. Bandai ระเบิด
ผืนดินละแวกนี้จึงเต็มไปด้วยสารแร่ธาติที่มาจากลาวา
มากมายจำพวกหินปูน แคลเซียม แมกนีเซียม คอปเปอร์ ฯลฯ
แร่ธาติเหล่านี้ได้ตกตะกอนสะสมอยู่ในก้นของบึงน้ำแต่ละบึง
ทำให้สีของแร่ธาตุแต่ละบึงไม่ซ้ำกันและจะสวยงามมากขึ้นถ้ามีแสงแดดกระทบกับน้ำ
เราจะมองเห็นความแตกต่างและสีสันที่สวยงามของแต่ละบึง
จนที่นี่ได้ถูกเรียกชื่อว่า Goshikinuma
ซึ่ง Goshiki แปลว่า 5 สี, Numa แปลว่าบึง นั่นเองค่ะ
ซึ่งบึงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดก็คือบึงนี้ค่ะ
บึงที่ 1 Bishamon-numa
ถ้าเวลาแดดดี ฟ้าใส เราจะมองเห็นสีน้ำเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์
พอตัดกับช่วงใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงแบบนี้
คงจะสวยมากเลยทีเดียว
เพราะขนาดไม่มีแดดภาพที่อยู่ตรงหน้าอิ้มสวยงามไม่ใช่น้อย
ถ้าเวลาอากาศดีๆ เค้าจะมีเรือให้พายด้วยค่ะ ถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตเลยทีเดียว
ขอแชะภาพไปอัพโปรไฟล์เฟสบุกซะหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง อิอิ
ลงมาด้านล่างกันค่ะ เรือเค้าน่ารักดีนะ มีรูปหัวใจด้วย
เผลอแว้บๆ ไปยืนเป็นพระเอกหนัง AV อุ้ยไม่ใช่พระเอกมิวสิก MV ต่างหาก อิอิ
โอ้โหหหห นี่อยู่ญี่ปุ่นนะคะ ไม่ใช่เกาหลี แหมมมมทำหน้าอินไปอี๊ก !!
หลบไปเลยชั้นขอถ่ายบ้าง อิอิ
ตรงนี้เห็นคนมุงกันเยอะอิ้มก็เลยเดินมาดูบ้าง
โอ้โห มีปลาคราฟตัวใหญ่มากๆ เลยใหญ่กว่าขาอิ้มอีกนะ
แต่ถ่ายรูปมาดูไม่ใหญ่มาก สงสัยต้องเอาขาอิ้มไปเทียบซะละ 5555
ได้เวลาเริ่มเดินทางเข้าไปในบึงต่างๆแล้วค่ะ
ระหว่างมีเก้าอี้ให้นั่งตลอดเส้นทางดีเดินง่าย
ผสว (ผู้สูงวัย) ญี่ปุ่น เดินกันเยอะมากไม่ต้องกลัวอันตรายนะคะ
ประหนึ่งว่าเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เหอะ เหอะ
พอมีแดดนิดๆ เราก็มองเห็นน้ำในบึงเปลี่ยนเป็นเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สวยงามมากกกก
แดดมาให้เราดีใจไม่ถึงสองนาทีแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไปอย่างไร้ร่องรอย
เย้ๆๆๆ เดินมาสักพักก็ถึงบึงที่สองค่ะ
บึงที่สอง Aga-numa
บึงนี้สีออกจะเขียวๆ หน่อย
เดินต่อไปไม่ไกลเราก็จะถึงบึงที่สามค่ะ
บึงที่สามคือ Midori-numa
บึงนี้ดูจะคล้ายๆ กับบึงที่สองเลยนะ
ถ้าไม่อ่านป้ายก็ไม่เห็นแน่นอนว่าเป็นบึงที่สาม
สีในบึงยังมีความเขียวๆ เช่นเคย
คิดว่าถ้าแดดดีๆ สีน่าจะสวยกว่านี้เยอะเลยค่ะ
ระหว่างทางเราก็จะผ่านบึงที่สี่ไปอย่างเสียดาย
บึงที่สี่ Tatsu-numa
คาดว่าเค้าคงไม่ได้ตัดต้นไม้ เลยถ่ายภาพไม่ได้ค่ะ
ใครอยากเห็นบึงที่ 4 ใบดูในคลิปอิ้มได้เลยนะคะ ถ่ายไว้นิดนุง
เอาหล่ะมาถึงบึงที่ 5 ฟ้าคงเริ่มส่งสารส่งแดดมาให้หน่อย
บึงที่ 5 คือ Benten-numa
สีฟ้าๆ เขียวๆ สวยมาก
นั่งท่องเที่ยวบางคนเค้าห่อข้าวมานั่งกินด้วยนะ
ชิลกับบรรยากาศสุดๆ
บึงนี้ถือว่าเปนบึงที่มีความสวยงามเป็นอันดับสองรองจาก Bishamon-numa ค่ะ
เดินกันต่อค่ะระหว่างทางเห็นใบไม้ร่วงหล่นตามพื้น
จึงนึกเสียดาย เพราะก่อนอิ้มเดินทางมาถึง ที่นี่โดนพายุไปสองครั้ง
ทำให้ใบไม้ยังไม่ทันได้ผลัดใบเต็มที่ ร่วงหล่น เน่า ตาย ลงพื้น
บางใบก็เน่าคาต้น น่าเสียดายเป็นอย่างมากเลยค่ะ
บรรยากาศเส้นทางการเดินชมบึงน้ำ 5 สีทั้ง 8 บึง
เป็นเส้นทางที่สวยงามมาก ระหว่างทางมีทั้งใบไม้เปลี่ยนสี
มีลำธารเล็กๆ น้ำใสๆ มีเสียงน้ำไหลให้ได้ยินตลอดทาง
จึงทำให้อิ้มแวะตลอดทางเพื่อถ่ายภาพเช่นกันค่ะ 5555
เอาหล่ะมาถึงบึงที่ 6 กันแล้วนะคะ
บึงนี้จะต้องเดินขึ้นธารน้ำตกเล็กมาหน่อย
บึงที่ 6 Ruri-numa
บีงนี้จะมองเห็นวิวภูเขาไกลๆ
สวยงามไปอีกเค้าทำแท่นขึ้นมาเพื่อให้ชมความสวยงามของบึงให้มากขึ้น
จริงๆ ส่วนตัวอิ้มก็ชอบบึงนี้นะ
พอเวลาเมฆลอยผ่านเราจะเห็นภูเขาลูกใหญ่ซึ่งมีหิมะปกคลุมเบาๆ
เหมือนโปสเตอร์ภาพถ่ายสวยๆ ที่อิ้มเคยเห็น ตราตรึงใจมาก
เดินทางกันต่อมาถึงบึงถัดไปค่ะ
บึงที่ 7 Ao-numa
Ao Numa เป็นบึงขนาดพอดีค่ะสีออกฟ้าๆ กึ่งอมเขียวๆ สวยงามใช้ได้ค่ะ
และเราก็ได้เดินทางมาถึงบึงสุดท้ายกันแล้ว
บึงที่ 8 Yanagi-numa
บึงนี้สีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ค่ะ แต่บึงใหญ่พอดูบึงนี้นี่ได้ใบไม้เปลี่ยนสีช่วงไว้แท้ๆ อิอิ
การผจญภัยในดินแดน Goshikinuma ของอิ้มก็จบลง 4 กิโลสวยๆ
ปกติคนอื่นเข้าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
แต่อิ้มโอ้เอ้ถ่ายภาพ เลยใช้เวลาไปราวๆ สามชั่วโมง
ถือเป็นเส้นทางที่สวยงามมากอีกเส้นหนึ่งค่ะ
เค้าบอกว่าถ้าเป็นช่วงฤดูใกล้จะหนาวๆ มีหิมะหน่อยๆ
ฟ้าสวยๆ อากาศดีๆ และมาเช้าๆ เราจะได้เห็นหมอกลอยอยู่เหนือน้ำ
เราจะได้เห็นทั้งวิวภูเขาที่มีหิมะปกคลุมอย่างสวยงาม
รวมถึงหมอกที่ลอยอยู่เหนือน้ำ
แค่คิดก็ทำให้อยากมาสัมผัส Goshikinuma อีกครั้งแล้วค่ะ
เดินทางมายาวไกลก็ต้องเติมพลังกันสักหน่อย
สุดทางจะมีป้ายรถเมล์ ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก และร้านอาหาร
อิ้มรีบพุ่งตัวเข้าไปด้านในเลยค่ะ เข้ามานอกจากความอบอุ่นที่ได้รับแล้ว
ยังได้กลิ่นราเมนหอมๆ ยิ่งทำให้กะเพราเริ่มโครมคราม
ว่าแล้วก็จัดมาคนละถ้วยค่ะ
อากาศแบบนี้ได้ราเมนร้อนๆ มันช่างเข้ากับบรรยากาศยิ่งนัก
ถ้วยแรกเป็น Kitakata Ramen หรือราเมนซุปโชยุ
ส่วนอีกถ้วยเป็น Shio Ramen หรือราเมนซุปเกลือค่ะ
ส่วนตัวอิ้มว่าซุปเกลืออร่อยกว่า
ส่วนถ้วยบนที่เค้าบอกว่าเป็น Kitakata Ramen นั้น
อิ้มเฉยๆ นะ อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าไม่ได้เป็นร้านดั้งเดิม
น้ำซุปกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่ม แต่หน่อไม้กลิ่นแรงไปนิด
หมูชาชูงานดีนุ่มมาก
พอพูดถึง Kitakata Ramen
แอบไกด์นิดๆ ว่าพรุ่งนี้ Day 3 อิ้มจะพาไปกิน Kitakata Ramen
แบบต้นตำหรับที่เมือง Kitakata
เลยดูสิว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือไหม อิอิ
ทานราเมนเสร็จอิ้มก็เดินมาชมความสวยงามของทะเลสาบ Hibara
บรรยากาศสวยงามแต่เฆมฝนก็เริ่มจับตัวและในขนาดเดียวกัน
อากาศก็หนาวมาก ลมพัดแรงจนยืนแทบไม่อยู่
จึงถ่ายภาพมาฝากได้แค่ประมาณนี้ค่ะ
ไม่นานรถก็มา อิ้มเดินทางกลับมายังบึงแรกอีกครั้งเพื่อเก็บภาพอีกหน่อย
และเผื่อจะเห็นแสงแดดสุดท้ายของวัน
เอาหล่ะ พระอาทิตย์ออกมาให้เห็นแล้วอิ้มรีบถ่ายภาพอย่างไวเลยค่ะ
และพระอาทิตย์ก็จากเราไปภายในไม่ถึงนาที
ว่าแล้วก็กินไอติมปลอบใจดีกว่า
เด่วๆ เกี่ยวไหมนี่
มาที่บึง 5 สีก็อย่าลืมลองชิม ไอศกรีมรส Goshikinuma นะคะ
สีเขียวสดใส รสชาติมีความิ้นท์ๆ Sea Salt อร่อยดีค่ะ
แวะกดน้ำอีกแย้ววว แฟนต้ารสพีช อร่อยเหาะ
ได้เวลานั่งรถเที่ยวกลับค่ะ นี่ไงตารางบนรถที่อิ้มบอกหน้าตาแบบนี้ค่ะ
ระหว่างทางเห็นโรงแรมที่เราไกลๆ ดูใหญ่โตเวอร์วังมากกก
คืนนี้อิ้มพักที่ Hotel Listel Inawashiro
พอมาถึงสถานีปุ๊ปปรากฎว่ามาถึงช้าไป
ไม่ทัน Shutter Bus ฟรีเที่ยวสุดท้ายของโรงแรม
เสียใจหนักมากกกกก
จริงๆ ถ้าอากาศไม่หนาวก็รอรถไฟนั่งจากสถานี Inawashiro Station
ไปหนึ่งสถานีไปลงที่ Kawageta Station
แล้วเดินเท้าต่อไปประมาณกิโลนิดๆ หรือเดินประมาณ 15 นาทีก็จะถึงโรงแรม
แต่ตอนนั้นหนาวมากกกกกและคือแค่ห้าโมงเย็นเริ่มมืดแล้ว
อิ้มก็เลยนั่งแท็กซี่เข้ามา ประมาณ 5 กิโล 10 นาที
โดนไป 2300 กว่าเยน จากอากาศที่หนาวก็กลายเป็นอุ่นขึ้นทันที 5555
ตัดภาพมาที่ห้องพักค่ะ อิ้มพักส่วน Honkan ราคาห้องก็จะเบาลงหน่อย
เริ่มต้นประมาณ 3500 ++ ห้องใหญ่ดีค่ะ มีห้องครัว
แต่ข้อเสียของโซน Honkan
คือตึกจะดูงงๆ ทางเข้าดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนนิดๆ
ที่พักที่นี่เพราะวิวด้านนอกสวยและอิ้มอยากประมาณว่าเที่ยวที่ไหนพักที่นั่น
จะได้ไม่เหนื่อยมาก
จริงๆ ที่นี่เป็นโรงแรมใหญ่มาก แผนที่กว้างมากกกก
มีสระน้ำขนาดใหญ่ ออนเซ็น มีสกีให้เล่นด้วยน๊าา
กิจกรรมแน่นเวอร์
Amenity นะคะ ให้เป็นแบบซองดูงกๆ ไปนิด แต่ขอเพิ่มได้ค่ะ
สำหรับใครที่ต้องใช้ไดร์เป่าผมให้แจ้งที่ฟร้อนได้เลยนะคะ
เค้าจะให้เราทันที เพราะในห้องไม่มีนาจา
ตอนแรกก็แอบเซ็งๆ นะว่าบริเวณโรงแรมไม่มีร้านอาหารเลย
พอถามพนักงานเค้าก็แนะนำให้เรานั่งทาน izakaya ในโรงแรม
ตอนแรกก็กลัวแพงนะ ก็เลยขอเมนูมาดูก่อน
ปรากฎว่า เห้ยยยราคาก็โอเคนะพอรับได้
อย่างเซ็ต Hamburg Steak ราคา 1600 เยน
และข้าวต้มไข่ปลาแซลมอนเริ่มต้น 800 เยน จัดมาให้ไวเลยค่ะ
และจะบอกว่าพอทานไป คือแทบจะกรีสสสสสดังๆ
Hamburg Steak อร่อยมากกกกกก คุ้มมาก ไม่เสียดายเงินเลยค่ะ
ข้าวต้มไข่ปลาแซลมอน หอมอร่อยมากกกก ถูกใจสุดๆ
สำหรับทริปวันที่สองก็จบลงอย่างสนุกสนาน
ประทับใจอิ้มมากๆ เพราะบึง 5 สี เป็นอีกทริปในฝันเลยค่ะ
สำหรับ Day 3 อิ้มจะเที่ยวเบาๆ พาไปตะลุยเมืองราเมน Kitakata
และเข้าพักที่หมู่บ้าน Higashiyama Onsen
หมู่บ้านออนเซ็นชื่อดังของเมือง Aizu Wakamatsu
แต่จะเป็นเรียวกังที่ไหนขออุปไว้ก่อนนะค๊าา
แล้วติดตาม ตะลุยฟุกุชิมะ : DAY 3 ของอิ้มได้ในรีวิวหน้านะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ</p