ชัยนาท…
จังหวัดที่ได้ยินชื่อบ่อย แต่ก็รู้ว่ามีอะไรด้านใน
หลายครั้งขับรถผ่าน ก็ไม่เคยแวะไปสักที
ใครจะไปรู้เมืองที่เราคิดแค่ขับรถผ่าน…
กลับกลายเป็นเมืองที่เราอยากกลับมาเที่ยวอีกบ่อยๆ ครั้ง
ชัยนาทเป็นเมืองที่เงียบสงบ ผู้คนไม่วุ่นวาย
อาหารการกินราคาถูก ผู้คนใจดี
และเป็นเมืองสโลวไลฟ์มีร้านเก๋ๆ ตั้งอยู่ริมน้ำเต็มไปหมด
รอบนี้อิ้มก็เลยทำเป็นรีวิว One Day trip
เที่ยวชัยนาทฉบับเบาๆ มาฝาก
รับรองว่าคุณจะรู้จักจังหวัดนี้มากขึ้นแน่นอน
ถ้าพร้อมแล้วไปชมรีวิวนี้กันเล้ยยยย
Slow Life ชัยนาท
วันนี้เราออกจากรุงเทพแต่เช้าเพื่อจะเดินทางไปถึงชัยนาทในเวลาที่ไม่สายมาก
การเดินทางจากกรุงเทพฯ จะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงนิด
สถานีแรกที่อิ้มจะไปเที่ยวก็คือสวนนกชัยนาทค่ะ
แต่เห็นข้างๆ ทางมีร้านก๋วยเตี๋ยว
เลยขอแวะลงไปทานซะหน่อยเพราะเริ่มหิวข้าวพอดี
ร้านนี้ชื่อร้านกินเส้นค่ะ อยู่ตรงข้ามสวนนกชัยนาทเลย
ด้านในมีที่นั่งเยอะ และมีที่จอดรถเพียงพอ ไม่ต้องจอดริมถนนค่ะ
เมนูส่วนใหญ่จะเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำอย่างของอิ้มจะเป็นต้มยำถั่วพู พริกเผา
รสชาติอ่อนไปนิดแต่น้ำซุปกลมกล่อม บะหมี่นุ่มกำลังพอดี
ต่อมาเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำไก่ฉีก
และจานนี้ต้องมาลองนะคะ ข้าวหน้าหมูตุ๋น อร่อยมากกกกกกกกกก
ตัวหมูตุ๋นนุ่มจนเปื่อย เปื่อยยันกระดูก ดีงามมากกก
หลังจากอิ่มท้องจนจุกพุงแล้วอิ้มก็กลับรถแล้วไปลุยสวนนกชัยนาทกันต่อ
บัตรราคาคนละ 30 บาทถูกมากกกก
เข้าไปด้านในกันเล้ยยยยย
สวนนกชัยนาทมีขนาดกว้างขวางพอสมควร
มีแหล่งเรียนรู้หลายแห่งอิ้มว่าราคา 30 บาทนี่คุ้มมาก
สวนนกชัยนาทมีขนาด 248 ไร่ อยู่ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ 4 กิโลเมตร
สวนนกชัยนาทแห่งนี้นับเป็นสวนนกที่รวบรวมเอานกพันธุ์ไทย
และต่างชาติหลากหลายพันธุ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมมากถึง 63 กรง
บรรยากาศร่มรื่นมีต้นไม้ตลอดทาง มีเรือให้ปั่นชิลๆ
และไฮไลท์ของเค้าจะอยู่ที่กรงนกใหญ่ที่สุดในเอเชียเพราะมีขนาดถึง 180x240x24 เมตร
ที่ภายในมีนกหลากหลายสายพันธุ์
มีให้อาหารปลาด้วยนะคะ
ถัดมาอีกโซนนึงค่ะ จุดนี้ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์เช่นกัน
Space Water Park หรือสวนน้ำอวกาศ
Space Water Park สวนน้ำอวกาศ (SPACE WATER PARK)
ตั้งอยู่ในสวนนกชัยนาท บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
แต่จุดนี้จะมีค่าเข้าชม 30 บาทนะคะ
ถอดรางเท้าวางไว้ชั้นด้านนอกเค้าจะให้เป็นคีย์การ์ดมาแล้วหยอดเข้าที่ตู้ได้เลย
อย่างที่บอกไปว่าสวนน้ำราคาเข้าเพียง 30 บาท !!!!!!!
แถมเล่นได้ตลอดวันด้วยนะ
เสียดายอิ้มก็ไม่ได้เตรียมตัวไม่ได้เอาชุดมา และมีเวลาน้อย
แต่อยากเห็นเลยเข้าไปดูสักหน่อย
จ่ายค่าเข้าเสร็จสรรพก็เข้าไปข้างใน เห้ยยยยยมันก็พอโอเคนะ
ส่วนสำหรับใครไม่ได้เอาชุดมาเค้าก็มีให้เช่า
นอกจากนั้นมีห่วงยาง แว่นตากันน้ำ หมวก ชูชีพ
อุปกรณ์ครบครันมีให้เช่าทุกสิ่งอย่าง
แต่ด้านในห้ามนำอาหารเข้ามาทาน เพราะเค้ามีขายอยู่แล้วจ้า
อย่างแรกที่เห็นคือน้ำสะอาด มีเครื่องเล่นหลายจุด
ไฮไลท์ที่สำคัญคือเจ้าหุ่นยนต์ NAKA ROBOT
สำหรับเล่นสไลเดอร์ ซึ่งมีจำนวน 5 ราง
ตรงกลางสามรางและในแขนข้างละ 1 ราง และมีความสูงประมาณตึก 4 ชั้น
นอกจากนั้มีแยกโซนผู้ใหญ่และเด็ก ราคาแค่ 30 บาทเล่นได้ทั้งวัน โครตคุ้ม !!!
ปล.อิ้มไปถึง 10 โมงเช้าวันธรรมดา คนไม่เยอะ
แต่พออิ้มเดินออกมา คนเริ่มต่อแถวคิวยาวเลยจร้าาา
ด้านในมีเจ้าหน้าที่ดูและทุกจุด หมดกังวลเรื่องความปลอดภัย
แต่ถ้ามีเด็กเล็กก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิดนะค๊าาา
เพลิดเพลินกับสวนน้ำเสร็จก็ออกมาชมด้านนอกกันต่อค่ะ
เดินออกมาเราจะเจอกับพิพิภัณฑ์ไข่นก
บางจุดทรุดโทรมไปหน่อยค่ะ อย่างตรงน้ำตกจำลองก็ไม่ได้มีการปล่อยน้ำมาแต่อย่างใด
เดินมาสักพักก็ถึงจุดไฮไลท์ค่ะ
กรงนกใหญ่ที่สุดในเอเชียเพราะมีขนาดถึง 180x240x24 เมตร
ด้านในกว้างขวางค่ะ มีนกหลายชนิด
แต่บางชนิดก็มองไม่เห็นเพราะเค้าจะหลบตามกิ่งไม้
ได้ยินเพียงแต่เสียงเท่านั้น
แต่ที่จะได้เจอจริงๆ ก็จะเป็นนกยูงกับนกกระยางค่ะ
มองไปบนต้นไม้เห็นแม่นกกำลังเลี้ยงลูกอยู่น่ารักมากๆ
เป็นภาพที่อิ้มไม่ค่อยได้เห็นเลยค่ะ
โว้ววววว เดินมาอีกหน่อยเราเจอเจ้ากิ้งก่ายักษ์
จริงๆ ตัวใหญ่มากนะอิ้มยืนอยู่ไกลเลยเอาเลนส์เทเลซูม
ก็เห็นเค้านอนอาบแดดสบายตัวเชียว
มุมนี้จะเป็นนกกระยางค่ะ
แล้วก็สุดทาง อิ้มก็งงๆ เอ๊ะ มีแค่นี้เองเหรอ
นี่สวนนกนะ !!!
แล้วก็มีนางฟ้าใจดีทั้งสามคนประหนึ่งว่าเป็นสามสาว เฟย์ ฟาง แก้ว
ยืนมองหน้าอิ้มแบบ งงๆ
ในใจน้องคงคิดว่า ป้าๆ มาทำอะไรที่นี่ 5555(สายตาน้องก็เค้าฟ้องมาแบบนั้น)
แล้วน้องก็ถามว่า พี่คะ จะไปตรงไหนต่อเหรอ
หูยยยยยย ดีงามมาก เรียกพี่ด้วย 5555
อิ้มก็เลยถามว่านกเค้ามีแค่นี้เองเหรอ
สามสาวเลยบอกว่า ไม่ใช่ค่ะ มีอีกเป็นกรงอยู่ด้านนู้น
เดี๋ยวนุ๋พาไป
โอ้โห เด็กๆ น่ารักและมีน้ำใจมาก
ขอบคุณทางโรงเรียนและคุณครูที่สอนน้องมาอย่างดี
อิ้มถามน้องเค้าว่าเรียนที่ไหน แต่ก็ลืมจนได้ เอาเป็นว่าดูชุดพละแทนนะคะ
พอเด็กๆ มาส่งถึงก็ขอตัวกลับเพราะมีคิวไปเล่นสวนน้ำต่อ
อิ้มก็แหงะไปดู เอิ่มมม ป้ายเขียนไว้ตัวเบ้อเริ่มเลย
ถ้าเป็นงูคงฉกไปแล้วมองไม่เห็นได้ไง 5555
พอมาถึง ณ จุดๆ นี้ค่ะ (สำเนียงพริตตี้) 5555
เด่วๆ ไม่ใช่ละ มาถึงจุดนี้จะมีนกมากมาย อิ้มก็ไม่ได้สันทัดเรื่องนกขนาดนั้น
รู้แต่ว่าแต่ละตัวสวยงามทั้งนั้นเลย แต่ไม่รู้จักชื่อค่ะ
ชมนกเสร็จก็ได้เวลาเดินทางกลับ นี่ไงแผนที่ขนาดใหญ่
จริงๆ เค้ามีบอกหมดแล้วแต่เราไม่สังเกตุเอง หึหึ
ตอนเราออกมาจะมีตุ๊กตาและของฝากขายมากมายและค่ะ
เสร็จจากสวนนกอิ้มก็แวะไปเขื่อนเจ้าพระยา
แต่เสียดายไม่มีที่จอดรถ จึงไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก
กลับมาจากชมเขื่อนไปอิ้มก็ตั้งใจว่าจะไปหาร้านกาแฟทาน
ในชัยนาทมีร้านกาแฟหลายร้านนะคะ
แต่อิ้มก้ไปสะดุดที่ร้านนี้ Milk Bar
ร้าน Milk Bar อยู่ที่ซอยเทศบาล 14 ตรงเข้าไปสุดซอย
Tel : 056 412 106
เปิด 09.00-17.00 ร้านปิดทุกวันจันทร์นะคะ
Milk Bar ร้านกาแฟเก๋ๆ มีความอาร์ตเบาๆ
ผสมผสานของการตกแต่งวินเทจ มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก น่าจะถูกใจสาวๆ
ตอนแรกพออิ้มไปถึงปุ๊ปคือแบบเฮ้ยยยยยยย
คือมีร้านแบบนี้ในชัยนาทด้วยเหรอ คือดีย์ต่อใจสุดๆ
นอกจากเมนูกาแฟและเครื่องดื่มอร่อยๆ แล้ว
เค้ายังมี พิซซ่าโฮมเมด ครัวซอง สปาเก็ตตี้
แต่อิ้มทานข้าวจากข้างนอกมาแล้วเลยมีความอิ่ม
แต่ก็แอบสั่งเมนู”ข้าวไข่เจียวราสชีส” มาลองชิม อยากจะร้องว้าววววว
คืองานดี ชีสดี ใส่ชีสเยอะมากตู้มมมมมมมมาก
ข้างในมีไส้กรอกและแฮมหนักเครื่องสุดๆ ราคาจานละ 59 บาท ถูกเฟอร์
ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็เริ่มต้นไม่แพง
ขนมปังแผ่นละ 15 บาท ใช้ได้เลยค่ะ
เป็นอีกร้านนึงที่อิ้มปักหมุดให้เลยว่าถ้ามาชัยนาทต้องลองมาชิมนะคะ
อ้อๆๆ อีกอย่างนึงเจ้าของอัธยาศัยดีน่ารักเป็นมิตร
ถ้าชอบของชิ้นไหนในร้านถามเค้าได้เลยเค้าขายค่า
ทานกาแฟเสร็จอิ้มก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดชัยนาท
วัดธรรมามูลวรวิหาร สร้างอยู่บนไหล่เขา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อธรรมจักร”
ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้าน คู่เมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ
มีเรื่องราวปาฎิหารย์ต่างๆ ของหลวงพ่อธรรมจักร อยู่มากมาย
เรื่องราวต่างๆ เหล่านั้นทำให้ชาวบ้านศรัทธาในหลวงพ่อธรรมจักรมาก
จึงจัดงานสมโภชต่อเนื่องมาทุกปีไม่เคยขาด ปีละ 2 ครั้ง
วันขึ้น 4-8 ค่ำ เดือน 6 และแรม 4-8 ค่ำ เดือน 11
ใครที่มาเยือน “ชัยนาท” ต้องแวะไปสักการะหลวงพ่อนะคะ
พุทธลักษณะ…เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
ประทับยืนบนฐานรูปดอกบัว
พระหัตถ์ขวาทรงยกขึ้นเสมอพระอุระหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ
หรือจะเดินไปด้านบนก็ได้ค่ะมีบรรไดขึ้นไป 565 ขั้น
งานนี้อิ้มส่งบรีสขึ้นไปแทน
โดยส่วนตัวของบรีสเค้าจะนับถือหลวงพ่อธรรมจักรมากอยู่แล้ว
เวลาเค้ากลับบ้านที่อุทัยจะแวะมาทุกครั้ง
แต่ก็ไม่ทุกครั้งที่ขึ้นไปด้านบนนะคะ
ด้าบบนจะมีวิหารพระนาคให้ได้สักการะ
เดินขึ้นไปข้างบนแนะนำให้เดินช้าๆ
และพกน้ำเปล่าขึ้นไปทานด้วยจะได้หายเหนื่อยค่ะ
ระหว่างรอบรีสก็ถ่ายรูปวิวมาฝาก
เสร็จจากวัดธรรมามูล ก็มาต่อกันที่วัดหลวงปู่ศุข หรือวัดปากคลองมะขามเฒ่า
วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตั้งอยู่ที่อำเภอวัดสิงห์
ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งวัดที่ผู้คนนิยมมากสักการะเป็นอย่างมาก
ด้วยตำนานที่ยังเล่าขานกันสืบมาในเรื่องของวิชาอาคม
และเครื่องรางของขลัง
ความนิยมในพระเครื่องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
ยังมีอยู่สูงมากในปัจจุบัน แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2466
แต่ความเคารพศรัทธานั้นไม่เคยเสื่อมคลาย
หลวงปู่ศุขยังได้สร้างพระเครื่องที่เรียกว่า “
หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า”
ซึ่งประชาชนนิยมนำไปสักการะบูชา
ถ้าเล่าประวัติน่าจะยาวพอสมควร
มีเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์มากมายคล้ายๆ หลวงพ่อธรรมจักรเลยค่ะ
ถ้ามาชัยนาท ต้องมาสองวัดนี้นะคะ
เป็นสัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองและน่ามาสักการะบูชาเป็นอย่างมาก
ด้านหน้าวัดจะติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา
มีเรือบริการนั่งชมแม่น้ำด้วยนะคะ ถ้ามีเวลาควรค่ามาก
ดูวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำที่สวยงามและสงบ
หลังจากเที่ยววัดกันแล้วมาต่อที่นี่ค่ะ
ฟาร์มจระเข้วัดสิงห์ หรือฟาร์มจระเข้วสันต์
ตอนแรกที่มาที่นี่เพราะตั้งใจมาดูกวาง ดูเสือค่ะ
จระเข้นี่เป็นแค่ส่วนประกอบ 555
แต่พอถึงไม่ใช่อย่างที่คิด คือตอนนี้สัตว์อื่นๆ เค้านำออกไปหมดแล้วค่า
เหลือแต่จระเข้อย่างเดียว
จากการสอบถามจริงๆ ที่นี่ไม่ใช่สวนสัตว์ฟรุ้งฟริ้งค์
แต่ที่นี่คือฟาร์ม ฟาร์มจระเข้โดยแท้ทรู
มีการเพาะพันธุ์ ผสมพันธุ์ วางไข่ เลี้ยงเผื่อจำหน่าย
คือบรรยากาศแบบจริงจังมาก อิ้มนี่ขาสั่นกลัวมันหลุดออกมา 5555
จากนั้นก็มีพี่คนนึงเดินมาสอบถาม
เราก็บอกว่ามาเที่ยวเพราะเห็นแต่ในรูปมีเสือ มีกวาง
พี่เค้าก็บอกว่าตอนนี้ไม่ได้เลี้ยงแล้วเพราะไม่มีเวลา
เจ้าของสนใจดูจระเข้อย่างเดียวอย่างอื่นเลยขายไปหมด
หลังจากนั้นพี่เค้าก็แนะนำเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง
ได้ความรู้ไปเยอะเลยค่ะ
ด้านล่างซ้ายมือคือเจ้าเหลืองอายุเกือบ 50 ปี หนักเกือบ 200 โล
น่าจะเป็นตัวใหญ่ที่สุดในฟาร์ม
มองจากในภาพอาจจะไม่ใหญ่มากแต่ของจริงนี่ใหญ่สุดๆ น่ากลัวมากเลยค่า
นอนอ้าปากกันสบายใจเชียว
เจ้าเหลืองแบบใกล้ๆ อะหื้อออ น่ากลัวชะมัด
เห้อออออ ขอถอนให้ใจให้ที่เที่ยวมื่อกี้ค่า มีความขาสั่นมาก
ใครสนใจเกี่ยวจระเข้แวะไปเที่ยวได้นะคะ
แต่บอกก่อนว่ามันไม่ได้เหมือนที่เที่ยวหรือสวนสัตว์
แต่เป็นฟาร์มที่เค้าเลี้ยงเพื่อค้าขาย เพราะฉะนั้นด้านในจะดิบๆ เลยค่ะ
ต่อมาอิ้มกลับเข้ามายังอำเภอเมือง
มาร้านกาแฟอีกร้านชื่อว่า Krutid cafe
ร้านนี้หาง่ายค่ะ อยู่สามแยกศาลากลางชัยนาท
ครูติ๊ดคอฟฟี่เฮ้าส์ (Krutid Coffee House) เป็นร้านกาแฟ
ขนาดใหญ่พอสมควร มีที่นั่งหลายมุม มีเครื่องดื่มและเค้กหลากหลาย
ในส่วนของเค้กก็มีหลากชนิด อาทิ สตรอเบอร์รี่ครีมชีส, เค้กเผือก เนื้อนุ่มๆ
วอฟเฟิล โรตีและเมนูอร่อยๆ อีกหลากหลายรายการ
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
ด้านในมีความอาร์ตเบาๆ
เสร็จจากร้านกาแฟครูตี๊ด อิ้มก็มานั่งชิลริมน้ำที่ร้านหมูจุ่มโพธิ์เงินค่ะ
บรรยากาศดีมากกกก
จะนั่งในร้านก็ได้หรือนั่งฝั่งตรงข้ามก็ได้นะคะ
ฝั่งตรงข้ามก็จะมีวิวประมาณนี้
แน่นอนค่ะ อิิ้มเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามเพราะจะได้ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วย
น้ำจิ้มที่นี่จัดว่าเด็ดค่ะ
ชุดหมูจุ่มใหญ่ 159 บาท มีผัก 1 ตะกร้า หมู 1 จาน ไข่ 1 ฟอง
ได้เวลาลวกกแว้ววว
สั่งลาบกับคอหมุย่างมาทานเพิ่มค่ะ อร่อยเหาะ
1 วันในชัยนาทหมดไปอย่างรวดเร็ว
มีอีกหลายสถานที่มากที่อิ้มไม่ได้แวะไปเที่ยว
ชัยนาทมีอะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ
ความสุขของคนเราในบางครั้งมันก็อยู่แค่เอื้อมมือ
ไม่ต้องไปไขว่ขว้าไกลๆ ให้เหนื่อย
ความสุขจริงๆ แล้วมันอยู่รอบๆ ตัวเราทั้งนั้น
เหมือนกับคำที่บอกว่าเรียบง่ายแต่มีความสุข
วิถีชัยนาท วิถีสโลไลฟ์ วิถีความสุขแบบเรียบง่ายที่รอให้ทุกคนมาสัมผัส
หนึ่งวันในชัยนาท วันง่ายๆ สบายๆ
ของอิ้มหวังว่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะคะ
ถ้ามีเวลาหรือผ่านมา ลองเลี้ยวเข้ามาสักนิดแล้วจะหลงรักชัยนาทค่ะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ