Welcome 2 HuaHin Ka
หัวหิน สถานที่สุดคลาสสิกที่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ
เพราะด้วยการเดินทาง บรรยากาศ กลิ่นอายและความเป็นดั้งเดิม
ทำให้อิ้มชอบบรรยากาศหัวหิน ที่สำคัญก็คือ หัวหินไม่วุ่นวาย
ในหลายๆ ครั้งหัวหินจึงเป็นเมืองอันดับต้นๆ ที่อิ้มเลือกมาพักผ่อน
และช่วงเดือนที่ผ่านมา มีโรงแรมเปิดใหม่ ที่อิ้มบอกเลยว่าสายโรงแรมห้ามพลาด
หากคุณเป็นคนชอบเที่ยวโรงแรมสวยๆ หรูหรา และไฮเอนด์ คุณจะต้องรู้จักศรีพันวา
และหลายๆ ท่านคงได้ไปสัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษมาแล้ว
ศรีพันวา ไม่ได้เป็นแค่เพียง โรมแรม สวย หรู บรรยากาศดี ริมทะเลเท่านั้น
แต่ที่นี่ยังได้รับการยอมรับเรื่องมาตรฐาน และการบริการ
ให้เป็นโรงแรมที่มีคุณภาพอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
และข่าวดีที่อิ้มกำลังจะพูดก็คือ ตอนนี้ศรีพันวาได้ขยายแบรนด์โรงแรม
โดยเปิดใหม่ถึงสองแห่งด้วยกัน ที่แรก
บาบา บีช คลับ หัวหิน (Baba Beach Club Hua Hin)
และอีกหนึ่งที่ บาบาบีชคลับ ภูเก็ต (Baba Beach Club Phuket)
ส่วนที่อิ้มจะพูดถึงและพามาชมรีวิวกันในวันนี้นั่นก็คือ
บาบา บีช คลับ หัวหิน (Baba Beach Club Hua Hin) นั่นเองค่ะ
เรียกว่าแทบจะยกศรีพันวา มาวางไว้ที่หัวหินยังไงอย่างงั้น
อาจจะแพ้ตรงวิวไปบ้าง
แต่ก็มีส่วนอื่นมาทดแทนทำให้ที่นี่เป็น Beach club ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ที่ บาบา บีช คลับ หัวหิน (Baba Beach Club Hua Hin)
เปิดให้บริการทั้งส่วนโรงแรมและเรสซิเดนซ์
มาพร้อม Concept เกร๋ๆ Music Lover Hotel
ส่วนที่เริ่ดๆ คือ Entertainment Pool ติดชายหาด
และ Beach Club สุด Exclusive
เอาหล่ะค่ะเกริ่นมามากพอควรเดี๋ยวอิ้มพาไปรู้จักที่นี่พร้อมๆ กันกับรีวิวนี้นะค๊า
BaBa Beach Club Hua Hin โรงแรมเปิดใหม่สุดหรูในเครือศรีพันวา
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://th-th.facebook.com/BabaBeachClubHuaHin/
ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
รับชมแบบคลิปวีดีโอได้ที่นี่นะค๊าา อย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชมน๊าา
สำหรับการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยากเลยนะคะ
สามารถเสิร์ช Google map ได้เลย หรือจะสังเกตุป้ายตามทางก็ได้
มีบอกทางตลอดค่ะ
มาถึงแล้วสามารถจอดรถไว้ที่ลานจอด และจะมีพนักงานมารอรับประเป๋าค่ะ
เช็คอินแล้วรับ Welcome drink ทานให้ชื่นใจกันหน่อย
สำหรับการเข้าเช็คอินจะใช้บัตรเครดิต ในการ deposit ด้วยนะคะ
แต่หากใครไม่มีบัตรเครดิตก็ไม่ต้องกังวล สามารถใช้เงินสด 3,000 บาท
ในการ deposit แทนได้เช่นกันค่ะ
ขออธิบายในส่วนของโรงแรมสักนิดนะคะ
ตอนที่อิ้มเข้าพักโรงแรมเพิ่งเปิดได้เพียงสองวันเท่านั้น
ย้ำว่าสองวัน !!!!
ถือว่าใหม่มากกกกกกกก อย่างที่อิ้มเกริ่นไปว่า
ที่นี่เปิดให้บริการทั้งส่วนโรงแรมและเรสซิเดนซ์
ในส่วนของโรงแรมที่ติดกับวิวทะเล ห้องอาหารหลัก pool
เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว
ขาดแต่โซนเรสซิเดนซ์ หรือ Pool Villa ซึ่งอยู่ถัดไปด้านหลัง
เหลือเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จสมบูรณ์
เพราะฉะนั้นเรามาสำรวจในโซนโรงแรมด้านหน้าที่ติดทะเลกันก่อนนะคะ
จากภาพที่เราเห็นจะเป็นเป็นอาคารสีขาว 3 ชั้น
โดยจะแบ่งห้องพักออกเป็นสามแบบค่ะ
1. Beachfront Pool Suite (Ground Floor) จะอยู่บริเวณชั้นล่าง
ห้องพักประเภทแรกจะมีพื้นที่ด้านนอกกว้างกว่า
มีสวนเล็กๆ ทำให้ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่จะมาพักกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
2 . Beachfront Pool Suite
จะอยู่บริเวณชั้นสองและสาม เหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบความเป็นตัว
3. Beachfront Penthouse
จะตั้งอยู่ที่ชั้นสามบริเวณห้องมุมขวาและซ้าย
Penthouse จะมีขนาดกว้างขวางถึง 150 sqm
เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ที่ต้องการมาพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว
ส่วนวันนี้ อิ้มพักในโซน Beachfront Pool Suite อยู่บริเวณชั้นสอง
ราคาห้องพักจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 13000++ นะคะ
โอเคพอเราเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาในห้องพักกันเล้ยย
อย่างแรกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือเรื่องระบบแผงควบคุมไฟฟ้าของที่นี่
เหมือนศรีพันวาเป๊ะๆ
เลือกได้เลยว่าชอบไฟประมาณไหน มีทั้ง relax sexy night มีให้เลือกครบครัน
และแผงนี้ก็มีอยู่ทั้งในห้องน้ำ หัวเตียง สะดวกมากมายเชียวค่ะ
ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นตู้เสื้อผ้า Built in
ในส่วนของตู้เสื้อผ้า ชุดคลุมอาบน้ำ รองเท้า จะอยู่ตรงนี้นะคะ
แต่รองเท้าที่ใส่ภายในห้องที่นี่จะไม่ได้เป็น Slippers เหมือนทั่วไป
แต่จะเป็นรองเท้านวดเพื่อสุขภาพ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายให้กับผู้ที่เข้าพัก
สำหรับใครที่ไม่ชอบรองเท้าแบบนี้
สามารถแจ้งที่ front เพื่อรับ Slippers แบบปกติได้นะคะ
แต่สำหรับอิ้ม ใส่เดินสบายมากกกกก
บางทีอย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ Baba Beach Hua Hin เค้าจะให้ความสำคัญหมด
เพื่อให้ลูกค้าพักผ่อนอย่างผ่อนคลาย และมีความสุขมากที่สุด
เค้าช่างเลือกสิ่งที่ดีให้กับลูกค้าจริงๆ
ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนเปิดเข้ามาในห้องอิ้มนี่รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
ภายในเค้าตกแต่งด้วย Colonial Style
ให้เข้ากับบรรยากาศสุดคลาสสิกของหัวหิน
ด้วยเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งทั้งหมด ใช้วัสดุอย่างดี เกรดพรีเมี่ยม
ห้องนอน ใหญ่โตเวอร์วัง จนอิ้มมโนว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงยังไงอย่างงั้น
ตื่นค่ะ อิ้ม !!! ดีดนิ้วใส่หน้าตัวเองหนึ่งที แล้วเริ่มรีวิวต่อ 5555
ด้านนอกเราจะเป็นสระว่ายน้ำที่มองเห็น Sea View
แต่เอาจริงๆ นะ
แค่คุณนอนอยู่บนเตียงมองออกไปก็เห็น Sea View แล้วดีงามสุดๆ
มองจากหน้าระเบียงกลับไปยังภายในห้องค่ะ หรูหรา ดูดี
ถ้าเปรียบกับช่วงวัยอายุ คงเปรียบได้เหมือนกับผู้ชายวัยเริ่มเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่
ดู สุขุม นุ่มลึก น่าค้นหา
ส่วนด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว พอช่วงค่ำภายในโรงแรมจะเริ่มเปิดไฟ
จุดไฮไลท์ก็จะอยู่ที่สระว่ายน้ำซึ่งเป็น Entertainment Pool ติดชายหาด
เปลี่ยนสีสันหลากหลาย ไปตามจังหวะเสียงเพลง
ก็อย่างที่อิ้มเกริ่นไปข้างต้นนะคะว่า Concept ที่นี่คือ Music Lover Hotel
เพราะไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในโรงแรมคุณจะได้ยินเสียงดนตรีเพราะๆ
จาก Sound Cloud @ Baba Beach Club ตลอดทั้งวัน
นอกจากนั้นทางในทุกๆ Weekend
โรงแรมมีทั้ง DJ ที่เล่นเพลงแนว House & Lounge, วงดนตรีสด, saxophone
หรือช่วงพิเศษก็จะมี mini concert
จากศิลปินชั้นนำมาให้ชมกันด้วย (ต้องคอยติดตามกัน)
ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดถ้าคุณไม่อยากลงมาฟังข้างล่าง
คุณก็สามารถแช่น้ำชิลๆ จากสระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าห้องของคุณ
ฟังเพลงสบายๆ พร้อมมองวิวทะเล ในบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เช่นกัน
กลับมาชมภายในห้องกันต่อส่วนที่จะพาไปชมถัดไปนั่นก็คือห้องน้ำ
จริงๆ การวางรูปแบบห้องจะคล้ายๆ กับโซน Habita ที่ศรีพันวา
แต่การตกแต่งจะไม่เหมือนกันเลย
ภายในห้องน้ำกว้างขวาง อลังการ เช่นเคย
Bathtub ขนาดใหญ่ นอนแช่ตัวสบายๆ
เค้าจะมี Bath Foam วางไว้ให้เลยนะคะ เชิญตีฟองกันตามสะดวก
ผลิตภัณฑ์ภายในห้องเป็นแบรนด์ของ บาบาบีช ทั้งหมด
ออกมาด้านนอกมาสำรวจตู้เย็นค่ะ มินิบาร์นี่ทานฟรีทั้งหมดเลยน๊าาา
ถ้าพักสองคืน เข้าก็จะเติมให้เต็มทุกวัน
อิ่มแน่นพุงกันไปข้างนึง
ชมภายในห้องเสร็จแล้วมาชมบรรยากาศโรงแรมช่วงค่ำกันบ้างค่ะ
จากหน้าโรงแรมสวยงามทีเดียว
อาคารนี้จะเป็นอาคารที่พักนะคะ ด้านล่างที่เห็นจะเป็น Lobby ค่ะ
เดินออกมาด้านนอกก็จะเป็นโซน Baba Beach Bar
สั่งเครื่องดื่ม มานั่งชิลๆ ริมทะเล มันดีต่อใจสุดๆ
ส่วนนี้เป็น Entertainment Pool ติดชายหาด
สีในสระว่ายน้ำจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเสียงจังหวะดนตรี
แอบกระซิบว่า ถ้าทานข้าวเย็นเสร็จ
ให้ลงไปนั่งริมชายหาดพร้อมสั่งเครื่องดื่มมาสักแก้ว
ลมเย็นๆ ฟังเสียงเพลงเบาๆ เคล้าเสียงคลื่นๆ
ช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆ
ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้วค่ะ
ช่วงเย็นอิ้มเลือกทานอาหารที่โรงแรมเลย เพราะไม่อยากขับรถไปไหน
ด้านนอกคนเยอะ วุ่นวาย บางร้านก็แพง ราคาไม่ต่างจากโรงแรม
เพราะฉะนั้นลองชิมในโรงแรมดีกว่าค่ะ
สั่งเครื่องดื่มมาทานให้ชื่นใจกันก่อนน๊าา
ที่ห้องอาหาร Baba Beach Bar & Restaurant
ตอนนี้เป็นห้องอาหารหลักภายในโรงแรม
เปิดให้บริการแบบ All Day Dining โดยเริ่มตั้งแต่มื้อเช้า 07.00- 23.00 น.
ให้บริการอาหารหลากหลายแบบ
เป็นทั้ง ไทย ฝรั่ง อิตาลี ซีฟู้ด ฟิวชั่น และ Grill มีหมด
เย็นนี้อิ้มทานเป็นประเภท Grill ค่ะ
Starter ค่ะจานนี้ทานเพลินสุดๆ
สำหรับคนที่รักสุขภาพทานสลัดกันหน่อยดีไหมคะ
จานนี้เป็นเป็น Grilled Shrimp ตัวใหญ่ๆ ตอนเสิร์ฟมานี่หอมมากกกก
ต่อมาเป็นซี่โครง Grilled มาหอมๆ เสียดายแห้งไปนิด
ถ้าชุ่มฉ่ำหว่านี้จานนี้อร่อยโลกแตกไปเลย
เค้าเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว สไตล์ไทยๆ ทานคู่กัน อร่อย แซ่บเวอร์
จานนี้ออกจะไม่เข้าพวกสักหน่อย แต่มีความอยากกินอ่ะเน๊อะ
แล้วสั่งมาก็ไม่ผิดหวัง ผัดไทยกุ้ง เค้าดีงามมากกก
ตอนเค้ามาเสิร์ฟจะมีความงงนิดๆ เพราะกุ้งมาเต็มมาก
เส้นมองเห็นแค่นิดเดียวเอง จริงๆต้องเรียกกุ้งผัดไทนะถึงจะถูก 5555
หลังจากอิ่มหนำกับมื้อเย็นไปแล้ว
อิ้มก็กลับมาเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำส่วนตัว อย่างสนุกสนาน
และพักผ่อนนอนหลับที่ห้อง
พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็รีบคว้ากล้องหวังจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
น่าเสียดาย พระอาทิตย์คงขี้เกียจ มาให้อิ้มเห็นแสงแค่เบาๆ
เวลาเราอยู่ในห้องเค้าก็จะมีไอพอดพร้อมเพลงเพราะๆ
จาก Playlist ของ Baba Beach Club
มีทุกแนวดนตรีเพลง ไม่ว่าจะ Bossa Jazz Pop เปิดฟังเพลินๆ ภายในห้อง
ดนตรีเหล่านี้ช่วยขับกล่อมหัวใจได้ดีสุดๆ
จิบกาแฟแล้วนั่งชมวิวทะเลเพลินๆ
เดินลงไปด้านล่างรับไอแดดอุ่นๆ ยามเช้ากันค่ะ
ยามเช้าเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนมาก
อิ้มจะพามาชมอีกจุดนึงค่ะ ซึ่งเป็นอีกโซน จะเป็นร้านอาหารชื่อบ้านโชคค่ะ
ด้านนอกเค้าจะนำเบาะนั่งมาวางไว้แบบนี้
ให้อารมณ์เหมือนอยู่ที่ Baba Nest ของศรีพันวาภูเก็ต
แต่จุดนี้ อิ้มว่าที่นี่ก็มีข้อดีอีกอย่างเพราะถึงวิวไม่ได้พาโนราม่า
แต่วิวตรงนี้ใกล้ทะเลกว่า สามารถเดินลงชายหาดได้เลย
กลับมาที่ Pool กันต่อนะคะ ตรงเก้าอี้ชายหาดนี้
เค้าจะมีทรายที่สั่งมาจากต่างประเทศซึ่งเป็นทรายที่ดีและละเอียดมาก
เวลาเราเหยียบไปทุกสัมผัสจะมีแต่ความนุ่มและสบายเท้า
ในส่วนของ Pool เป็น Pool ขนาดใหญ่ที่ลายสวยงาม แถมกว้างน่าโดดสุดๆ
แนะนำให้เอาพวก ห่วงยางแฟนซีมาด้วยจะเพิ่มความเพลิดเพลินไปถึงระดับสิบ
ได้เวลาทานอาหารเช้าแล้วค่ะ
บรรยากาศห้องอาหารในช่วงเช้า แดดส่องเข้ามาเบาๆ
จากตรงนี้ก็มองเห็นวิวทะเลได้เช่นกันค่ะ
ในส่วนของอาหารเช้าเค้าก็จะมีไลน์ให้นิดหน่อย
และสั่งจากเมนูเป็น A la Carte
ในส่วนของอาหารในไลน์นั้น ก็จะเป็นพวก ขนมปัง สลัด ซีเรียลต่างๆ
ชมไลน์อาหารเสร็จแล้ว หาที่นั่งกันดีกว่า
ได้ที่นั่งแล้วพนักงานจะนำเมนูมาให้ทันที
เครื่องดื่ม ชา กาแฟ อาหารต่างๆ สั่งได้เลยนะคะ
อ้อ แนะนำ BaBa Style Eggs Benedict นะ
เป็นเป็น Signature ของโรงแรม
และอย่าลืม Waffle กับ French Toast ด้วยนะ อิอิ
อ้อๆๆ ชาเย็นก็อร่อยเริ่ดนะเทอ
มาแว้วววว Waffle , French Toast
BaBa Style Eggs Benedict Signature ของโรงแรมค๊าา
เลือก Side Dish ได้ตามใจชอบนะคะ
พร้อมแล้ว ทานเล้ย !!!
ทานอิ่มแล้วก็เดินชมบรรยากาศรอบๆ โรงแรมกันอีกหน่อยค่ะ
แดดดีๆ แบบนี้ น่าใส่บิกินี่นอนอาบแดด ซะจริง
เด่วๆ กล้าหราาา 5555
เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกันเน๊อะ อิอิ
มาชมภาพมุมสูงกันบ้างนะคะ
เอาหล่ะ ขอแว้บบมาชมในส่วนของ Resident กันหน่อย
ยังไม่เสร็จสมบูรณ์นะคะ หลังนี้เป็น 3 ห้องนอน ราคาห้องน่าจะอยู่ที่คืนละ 35000 ++
พักได้ 6 ท่าน เกินกว่านั้นเป็นราคา Extra Bed ค่ะ
หลังใหญ่เวอร์วัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีครัว มีห้องนั่งเล่น แยกเป็นสัดส่วน
เหมาะกับการมาจัดปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนมว๊ากกกก
ห้องนอนก็ประมาณนี้นะคะ นี่ยังตกแต่งไม่เสร็จดีนะเนี่ย
เสร็จแล้วกลับมาที่โซนโรงแรมนะคะ ไปดูห้องพักอีกประเภท
ห้องนี้คือ Beachfront Pool Suite (Ground Floor) จะอยู่บริเวณชั้นล่าง
ห้องพักประเภทแรกจะมีพื้นที่ด้านนอกกว้างกว่า
มีสวนเล็กๆ ทำให้ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับผู้ที่จะมาพักกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
การตกแต่งจะคล้ายกับห้องที่อิ้มพักเลยค่ะ
ต่างกันแค่โซนด้านนอกซึ่งห้องนี้จะมีมากกว่าแต่อาจจะเห็นวิวทะเลน้อยกว่านิดเดียว
ชมห้องพักเสร็จแล้วก็ไปชมฟิตเนสกันหน่อยนะคะ ใครชอบออกกำลังมาตรงนี้ได้เลย
อยู่ชั้นสองของห้องอาหารค่ะ
มื้อเที่ยงก่อนกลับอิ้มขอฝากท้องไว้ที่โรงแรมเช่นเคย
เริ่มที่เครื่องดื่มกันก่อนค่ะ
Power bunny (smoothies) @200++
(Carrot, Banana, Pineapple, Orange juice, Honey)
แก้วนี้เหมาะสำหรับสายเฮลตี้มากกกก ทานแล้วรู้สึกสดชื่น อร่อยค่ะ
ต่อมาเป็น
Baba Punch @120++
(Fresh Orange, Hibiscus Juice, Lime)
สดชื่น อร่อยไม่แพ้แก้วแรกเลย
มาถึงอาหารกันบ้าง ช่วงเที่ยงนี้ขอลองทานอิตาเลี่ยนดูสักหน่อย
เริ่มที่
Nero di Seppie Risotto @380++
(Black cuttlefish ink, shrimp, squid)
เป็น Risotto ที่ทานแล้วรู้สึกอร่อยนะ ปกติอิ้มไม่ค่อยอินกับ Risotto เท่าไหร่
แต่ที่นี่ทำออกมาได้ดีทีเดียว ไม่เละ ทานง่าย และรสชาติกลมกล่อม
ทำให้หมดไวอย่างไม่รู้ตัว 555
ต่อมาคือไฮไลต์พูดเลย !!!
Pizza Divola @380++
(Tomato sauce, mozzarella, Italian sausage, chilli, spicy salad, spicy salami)
Pizza แป้งบางกรอบ อร่อย หน้าอาจจะยังไม่ตู้มเท่าไหร่
แต่รสชาตินี่ตู้มมากกกก ที่สำคัญคือเค้าใส่พริกสดลงไปด้วย
เวลาที่กัดโดนพริก จะช่วยให้มีรสชาติเข้ม จัดจ้านมากขึ้น
แถมไม่เลี่ยนอีกต่างหาก อร่อยเริ่ดค๊าาา
สุดท้ายเป็น
Mixed seafood spca @480++
(Shrimp, mussels, clams, squid, with white sauce)
สายสปาเกตตี้ต้องมาโดนให้ได้นะคะ
จานนี้อิ้มนี่ถูกใจมาก อร่อย แถมเครื่องทะเลใส่มาแบบจัดเต็ม ทานได้เพลินๆ
แนะนำคนให้เข้ากันก่อนทาน รสชาติจะได้กลมกล่อม ทั่วทั้งจานค่ะ
ตบท้ายด้วยไอศกรีม มะพร้าว หวาน หอมมัน กำลังดี
ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ สองวันหนึ่งคืนช่างประทับใจจริงๆ
ถ้าทุกอย่างเสร็จลงตัวหมด โดยเฉพาะโซนเรสซิเดนซ์
ที่นี่น่าจะเป็นโรงแรมห้าดาวที่ครบสมบูรณ์แบบ
และยิ่งใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก
มีห้องพักหลากหลายแบบไว้รองรับลูกค้า
เรื่องของวิวอาจจะไม่อลังการเท่าศรีพันวาภูเก็ต
แต่อิ้มมองว่าที่นี่ Concept แตกต่าง
และเค้าได้ดึงความเป็น Music Lover Hotel มาแทน
ซึ่งอิ้มชอบในจุดนี้มาก เพราะไม่เหมือนใคร
ไม่ว่าจะเป็น Entertainment Pool ดนตรีสด DJ มินิคอนเสิร์ต มีร้านอาหารบ้านโชค
เรียกว่าครบจบในที่เดียว ครบครันทุกการพักผ่อน
ถ้าคุณมาพักที่นี่รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน
ไว้มีโอกาสอิ้มจะมารีวิวในส่วนของ เรสซิเดนซ์ ให้ชมกันอีกนะค๊าา
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ