แม่ฮ่องสอน
แม่ฮ่องสอน ดินแดนท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก
ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของจังหวัดก็จะมีภูเขาโอบล้อม
เป็นดินแดนที่คงความสวยงามของธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ยิ่งนับว่าการเดินทางกว่าจะมาถึงที่นี่ต้องผ่าฟันเป็นพันว่ากว่าโค้ง
หายจะเหนื่อยล้ากับการเดินทาง
แต่สำหรับอิ้ม การเดินทางไม่ได้ทำให้เหนื่อยล้าเลยสักนิด
เพราะตลอดสองฝั่งข้างทาง มีวิวสวยๆให้ชม
และมีร้านกาแฟ วิวสวยๆ ให้ได้แวะตลอดทาง
ถือเป็นเส้นทางที่สวยงามและบรรยากาศดีมาก
แม่ฮ่องสอนอากาศดีตลอดปี ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว
มองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียว ขจี สดชื่น
มีหมอกไหลผ่านแม้ในเวลากลางวัน
บางคนก็ให้คำจำกัดความของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเอาไว้ว่า
“เมืองหมอก 3 ฤดู” หรือ เมืองสามหมอก
เพราะไม่ว่าจะในฤดูหนาว ก็จะเจอกับหมอกน้ำค้าง
ฤดูร้อน หมอกควันจากการเผาไร่ของชาวบ้าน
และฤดูฝน ก็จะพบกับ หมอกในสายฝน
รีวิวนี้อิ้มจะพาทุกคนไปสัมผัสกับเมืองแห่งสายหมอก
และแฝงไปด้วยความโรแมนติกแห่งนี้กันค่ะ
รับรองว่าสามวันสองคืนของอิ้มจะทำให้ทุกคนประทับใจแน่นอน
พร้อมแล้วไปชมรีวิวนี้กันเลยค่ะ
การเดินทางอิ้มเริ่มต้นที่สนามบินดอนเมือง
ทริปนี้อิ้มเดินทางกับสายการบินนกแอร์เช่นเคย
อิ้มเลือกที่จะบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่
และเช่ารถขับต่อไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ
อิ้มไม่ต้องรีบร้อนมากมายเพราะว่าเช็คอินผ่าน application ของนกแอร์มาแล้ว
เหลือแค่โหลดกระเป๋าอย่างเดียว
ถ้าเพื่อนๆ เดินทางกับนกแอร์ก่อนขึ้นเครื่อง 1 วันสามารกเช็คอินออนไลน์
และสามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ
ถ้าเป็นที่นั่งปกติไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเลยค่ะ
จะเช็คอินผ่านเวบก็ได้ ผ่านแอพก็ได้ สะดวกทุกทาง
ส่วนใครที่ไม่ได้เช็คอินมา ก็ต้องรีบมากันหน่อยนะคะ
ท่องไว้ว่าต้องมาถึงสนามบินก่อนอย่างน้อยล่วงหน้าประมาณ 2 ชั่วโมง
อิ้มมาถึงเวลาประมาณนี้ เพราะเผื่อเวลาไว้ตลอดจะได้ไม่ตกเครื่อง
และต้องเค้าน์เตอร์จะปิด45 นาทีก่อนการเดินทางนะคะ
อิ้มเลือกนั่งฝั่งแถว 50 กว่าๆ เพื่อจะได้เห็นปีกกับวิวสวยๆ
เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกัปตันก็พาเรามาถึงสนามบินเชียงใหม่เรียบร้อยแล้วค่ะ
ครั้งนี้อิ้มใช้บริการรถเช่าจาก กินเที่ยวเร้นท์อะคาร
หรือกินเที่ยวเชียงใหม่รถเช่า
บริการดีมากกๆๆๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
แค่วางเงินมัดจำล่วงหน้าก็นำรถไปใช้ได้เลยค่ะ
รายละเอียดตามเฟสบุคไปเลยจ้า มีโปรใหม่ๆ ทุกเดือน
https://th-th.facebook.com/kinteawrentacar/
แถมเบอร์โทรให้ด้วย 082-1810011 084-1775554
095-448-8844 หรือ 053-271201
เวลาเรารับรถก็ต้องเซ็นเอกสารก่อนนะคะ ว่าเช่ากี่วัน คืนวันไหน
และก็ตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทางว่า มีส่วนไหนเป็นริ้วรอยอยู่ไหม
ซึ่งที่นี่น่ารักมาก เดินเช้คไปพร้อมๆ กับอิ้มเลย แล้วชี้จุดพร้อมๆ กัน
วันนี้อิ้มใช้ วีออส ค่ะ บอกเลยว่ารถใหม่ สะอาดมากกกกก
พร้อมแล้ววววตะลุยกันเล้ยย
การเดินทางจากเชียงใหม่ ไปปาย อิ้มใช้เส้นทางในการวนรอบ
เพื่อเดินทางจากแม่ฮ่องสอนแล้ววนไปยังปาย
เพราะฉะนั้นอิ้มจึงเลือกไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 108 และ 1263
จะผ่าน อ.จอมทอง อ.ฮอด อ.แม่แจ่ม อ.แม่สะเรียง อ.แม่ลาน้อย อ.ขุนยวม
เส้นทางนี้ถ้าใครได้มาเหมือนอิ้มก็จะถือว่า
เป็นผู้พิชิตเส้นทางในฝัน 2,070 โค้ง สู่เมืองแม่ฮ่องสอน…
และขากลับอิ้มจะใช้เส้นทางเส้นทางสุดโรแมนติก
1095 และ 107 ผ่าน อ.ปาย อ.แม่แตง อ.แม่ริม จนถึงเชียงใหม่
สำหรับเส้นทางนี้ก็จะผ่านทั้งหมด 1,864 โค้ง ด้วยกันค่ะ
เส้นทางนี้ใช้เวลาเดินทางนานพอดู อิ้มออกจากสนามบินเชียงใหม่ตั้งแต่ 9 โมง
มาถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเกือบบ่ามสามโมง
จุดแรกที่อิ้มจะแวะก็คือ วัดพระธาตุดอยกองมู
วัดพระธาตุดอยกองมู
ณ พระธาตุดอยกองมู เดิมชื่อ วัดปลายดอน ตั้งอยู่ที่ดอยกองมู อำเภอเมือง
ถือเป็นวัดและพระธาตุประจำจังหวัด
และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาช้านาน
พระธาตุดอยกองมู เป็นปูชนียสถานที่สำคัญมาก
ประกอบด้วย พระธาตุเจดีย์ ศิลปะไทใหญ่-พม่า จำนวน 2 องค์
และจากวัดพระธาตุ ดอยกองมูนี้เอง
เราสามารถมองวิวเขาและตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน
สวยงามมากทีเดียวค่ะ
ภายในบริเวณตัววัดถัดมาอีกหน่อยก็จะเป็นร้านกาแฟ
ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังมานานในเรื่องของวิวทิวทัศน์
และชื่อร้านที่เก๋ไก๋ว่า
ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา
ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา หรือ Before Sunset coffee
นอกจากเราจะได้ลิ้มรสเครื่องดื่มและกาแฟชั้นดีแล้ว
ยังเป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งแบบมีสไตล์ มีมุมน่ารักให้ถ่ายภาพมากมาย
สามารถจิบกาแฟพร้อมชมวิวและบรรยากาศชั้นดีไปด้วยเลยทีเดียว
วิวที่นี่สวยมาก อิ้มว่าในวันที่อากาศดี
เห็นพระอาทิตย์ตก ที่นี่คงจะสวยงามมากทีเดียวค่ะ
เสียดายที่อิ้มมีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน ก็ต้องเดินทางต่อไปสถานีถัดไปแล้วค่ะ
ขับรถต่อมาอีกประมาณ 8 กิโลเมตรก็จะถึงที่นี่ค่ะ
สะพานซูตองเป้
สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สะพานซูตองเป้ เชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะและหมู่บ้านกุงไม้สัก
ข้ามผ่านทุ่งนาและแม่น้ำสายเล็กๆ
สะพานแห่งนี้ใช้เวลาสร้างเพียง 2 เดือน
มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร
จากน้ำพักน้ำแรงและพลังศรัทธาของ ของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านกุงไม้สัก
ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ
หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ ซึ่งมีความเชื่อกันว่า
หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความสำเร็จใดๆ
ก็จะพบกับความสมหวัง
สะพานซูตองเป้ ถือว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ช่วงฤดูฝนไปจนถึงต้นฤดูหนาวจะไปพบกับทุ่งนาที่เขียวขจี
และที่นี่จะมีเสน่ห์และสวยงามมากในช่วงเช้า
เพราะพระสงฆ์จะเริ่มบิณฑบาตประมาณเวลา 06.00 น. ของทุกวัน
โดยท่านจะเดินจากสะพานฝั่งสวนธรรมภูสมะไปเรื่อยๆ จนสุดสะพานไปยังหมู่บ้าน
น่าจะเป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก มีโอกาสอิ้มจะมาช่วงเวลานั้นใหม่อีกครั้ง
เวลาเดินไปเร็วมากมองนาฬิกาอีกทีก็ใกล้จะค่ำแล้วค่ะ
วันแรกของการมาเที่ยวแม่ฮ่องสอน
อิ้มพักที่ปางอุ๋งค่ะ
ปางอุ๋ง หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง
มาที่นี่ก็คิดถึงพ่อหลวงในทันทีค่ะ แต่ก่อนบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา
และมีการบุกรุกทำลายป่าอยู่เสมอ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรบริเวณนั้นพร้อมกับพัฒนาความเป็นอยู่ของพวกเขา
ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ
และฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน
“โครงการของพ่อ ที่ทำเพื่อลูกเพื่อหลาน”
อิ้มมาถึงและพักที่นี่ 1 คืนค่ะ เป็นที่พักของรวมไทยเกสต์เฮ้าส์
ราคาเริ่มต้นคืนละ 500 บาท เป็นกระท่อมหลังเล็ก ห้องน้ำรวม
และราคา 900 บาทหลังใหญ่มาหน่อยห้องน้ำส่วนตัวแต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น
และราคา 1000 บาท ที่อิ้มพัก จะมีความส่วนขึ้นมาหน่อย
วิวจากหน้าบ้านเป็นทะเลสาบ มีห้องน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นในตัว
นำรถมาจอดหลังบ้านได้เลยค่ะ
สอบถามข้อมูลที่พักและโทรจองได้ที่ 053-611-244
อันนี้เป็นบ้านราคา 1000 บาทที่อิ้มพักนะคะ
ช่วงเย็นอิ้มเดินเล่นภายในปางอุ๋ง บรรยากาศและอากาศดีมาก
เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน อากาศเริ่มเย็นๆ แล้วค่ะ
อ้อแล้วสำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถมาเองเค้าก็มีรถบริการนะคะ
จากเชียงใหม่สามารถนั่งรถตู้ไปลงที่แม่ฮ่องสอน
-รถสองแถวจากแม่ฮ่องสอน->ปางอุ๋ง
-ขึ้นรถสองแถวสีเหลืองหลังตลาดสายหยุด
(ป้ายรถเขียนว่าปางอุ๋ง)/มีวันละ2รอบ/รอบ9.00&14.00น./ราคา 80 บาท/
เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ขากลับเข้าแม่ฮ่องสอนมี2รอบ05.30และ11.00น.
ช่วงHigh Season น่าจะมีเที่ยวรถถี่กว่าช่วงLow Season ค่า
ลองถามคนขับดูอีกทีทั้งเที่ยวรถจาก แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง ได้อีกทีนะคะ
ส่วนอาหารสามารถสั่งด้านนอกมาทานได้นะ
หรือจะออกไปทานด้านนอกก็ได้
มีร้านอาหารหลากหลายทั้งอาหารตามสั่งก๋วยเตี๋ยว
อาหารพื้นเมืองไปจนถึงหมูกระทะ
ส่วนอิ้มสั่งหมูกระทะมาทานหน้าบ้าน ราคาชุดละ 300 บาท
อิ้มสั่งร้านนี้ค่ะ นอกจากหมูกระทะ เค้าก็มีอาหารตามสั่ง
อิ้มสั่งข้าวผัดมาเพิ่ม และเห็ดหอมผัดน้ำมันหอย อร่อยมากกก
และก็ยังสั่งเครื่องดื่ม พวกโค้ก น้ำเปล่า น้ำแข็งมาทาน
อ้อๆ อย่าลืมขอแก้วน้ำมาด้วยนะคะ
พอสั่งเสร็จสรรพรอประมาณครึ่งชั่วโมงเค้าก็นำมาส่งให้ถึงที่ สะดวกมากๆ
ที่เห็นในภาพคือปกติเซ็ต 300 บาทจะได้หมู 1 ถุง ผัก น้ำซุป ผักดีนะ มีเห็ดด้วย
แต่อิ้มเพิ่มหมูต่างหากอีกถุง ราคา 120 บาทจ้า
น้ำจิ้มขอเพิ่มได้ เค้าไม่หวง น้ำจิ้มเค้าอร่อยเวอร์
ส่วนจานชามช้อนส้อมเค้าก็เตรียมมาให้เสร็จสรรพ
จากหน้าบ้านก็จะได้วิวประมาณนี้ค่ะ หมูกระทะพร้อม คนพร้อม ลุ้ย !!!!
เรียกว่าสะดวกมากๆ อากาศหนาวๆ มีหมูกระทะนี่ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
แต่ข้อเสียก็คือมีแมลงเยอะหน่อย
ใครแพ้แมลงควรเตรียมสเปรย์หรือยาแก้แพ้มาด้วยนะคะ
ส่วนเวลานี้ขอทานหมูกระทะให้อิ่มท้องกันสักก่อนแล้วกันค่ะ
เอาแบบเป็นคลิปมาให้ชมด้วย อย่าเปิด HD และชมตอน 5 ทุ่มนะ รับรองหิวมากกก
เช้าวันใหม่มีฝนตก อิ้มเลยไม่ได้เห็นหมอกสวยๆ ที่ลอยผ่านน้ำ
แต่อิ้มกลับรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อากาศเช้านี้สดชื่นมาก
มีพระมาบิณฑบาตรผ่านหน้าบ้านเลยค่ะ
หลังจากใส่บาตรเสร็จ อิ้มก็เดินเที่ยวรอบๆ
หากใครจะล่องแพก็ได้เลยนะคะ ลำละ 150 บาทน่ั่งได้สองคน
ส่วนอิ้มขอนั่งเงียบๆ ชมความสวยงามที่อยู่เบื้องหน้าก็พอแล้วค่ะ
จากนั้นอิ้มออกไปเที่ยวหมู่บ้านด้านหน้า ช่วงนี้ร้านรวงยังไม่เยอะเท่าไหร่
แต่ถ้าเข้าหน้าไฮแล้วน่าจะเยอะกว่านี้แน่นอน
แวะทานอาหารเช้าร้านนี้ค่ะ
อิ้มสั่งข้าวต้มเห็ดหอมร้อนๆ ไข่ลวก และจิบชาเขียวอุ่นๆ
ราคาอาหารเช้าเพียง 65 บาท อร่อยมากๆ
เป็นความสุขที่แสนจะเรียบง่าย ที่อิ้มอยากให้ทุกคนมาสัมผัสค่ะ
ทานอาหารเสร็จแล้วอิ้มก็เช็คเอาท์แล้วเดินทางต่อไปยังสถานีถัดไปนั่นก็คือ
ลีไวน์รักไทย
ลีไวน์รักไทยห่างจากปางอุ๋งไม่กี่กิโล แต่เส้นทางค่อนข้างแคบและคดเคี้ยว
ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังนะคะ
และเราก็มาถึงลีไวน์รักไทยรีสอร์ท บ้านดินสไตล์จีนยูนาน ท่ามกลางไร่ชา
อิ้มมาที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งที่แล้วมีโอกาสพัก 1 คืน ชิลมากเลยค่ะ
รีวิวที่พักลีไลน์รักไทย
https://psstorytrip.com/2015/02/24/leewinerukthairesort/
แต่ครั้งนี้ไม่ได้พักอิ้มก็มาทานชาชมบรรยากาศหมู่บ้านสวยๆ
ชาเขียวเย็นเสิร์ฟมาให้แก้วขนาดใหญ่ มีใบชาตกแต่งด้านบนน่ารักดีค่ะ
ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึงอยู่บนไร่ชา ก็ต้องอร่อยอยู่แล้วเน๊อะ
ตอนที่อิ้มมาครั้งก่อนยังไม่มีโซนด้านบนเลยค่ะ
มารอบนี้เห็นทำเสร็จเลยขึ้นมาชมบรรยากาศสักหน่อย
ปรากฎว่าสวยงามมากกกก บรรยากาศดีมากกก
ถ้าช่วงหน้าหนาวมีหมอกลอยผ่านคงสวยมากทีเดียว
เป็นวิวพาโนราม่า 180 องศาบรรยากาศโดยรอบทำให้อิ้มรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง
ก่อนกลับอิ้มแวะขึ้นไปชมบ้านดินสักหน่อยค่ะ
สวยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเค้าบอกว่าภายในปรับปรุงใหม่แล้ว
บอกเลยน่ามาพักผ่อนมากกกก
แต่ถ้าใครอยากมาพักที่นี่อาจจะต้องใช้เวลาในการจองนานหน่อย
ล่วงหน้า สามถึงหกเดือน แต่ถ้าได้มาพักแล้วรับรองว่าจะต้องประทับใจแน่นอนค่ะ
ครั้งนี้เช้ารถมากับกินเที่ยวเชียงใหม่ บอกเลยว่าถูกใจสุด
รถใหม่มากกก ขับสบาย คล่องตัว
หากใครกำลังมองหารถเช่าเชียงใหม่ ไม่เรื่องเยอะ
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ราคาไม่แรง รถคุณภาพดี บริการเริ่ด แนะนำเลยค่า
รับรองไม่ผิดหวัง
https://th-th.facebook.com/kinteawrentacar/
แถมเบอร์โทรให้ด้วย 082-1810011 084-1775554
095-448-8844 หรือ 053-271201
จากนั้นอิ้มก็ขับรถต่อออกมาเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่ปายค่ะ
และระหว่างทางเราก็จะผ่านน้ำตกผาสื่อ
แวะเข้าไปสักนิดนะคะ น้ำตกสวยงามมาก
เสร็จจากน้ำตกอิ่มก็มุ่งหน้าต่อมายัง ปายค่ะ
แต่อย่างที่บอกระหว่างทางมีจุดให้เราพักผ่อนมากมาย
และนี่ก็เป็นอีกจุดที่อิ้มแวะค่ะ
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่
ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจาโบ่ อยู่ที่อำเภอปางมะผ้า
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องมาแวะ ถ้าจะให้ดีควรมาช่วงเช้า
เราจะได้ทานก๋วยเตี๋ยวพร้อมไอหมอกที่ลอยผ่านหน้า
เส้นทางเป็นถนนลาดยางเดินทางง่าย คดเคี้ยวเล็กน้อยค่ะ
แต่อิ้มมาถึงช่วงเกือบเที่ยงคนก็เยอะมากเป็นพิเศษ
จริงๆ ก็กะว่าจะมารองท้องที่นี่พอดี อิอิ
วิวจากร้านก๋วยเตี๋ยวค่ะ เหมือนวิวจากรีสอร์ทดีๆ บางที่เลยนะคะ
บางคนก็มานอนโฮมสเตย์ที่นี่กันได้บรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ
จริงๆ อิ้มว่ามาแม่ฮ่องสอนต้องมาหลายๆ คืนถึงจะฟินค่ะ
2คืน3วันนี่น้อยลงไปถนัดตา
นั่งห้อยขามองวิวเพลินๆ ไปค่ะ
และแล้วก๋วยเตี๋ยวของเราก็มาถึงหน้าตาดูดีที่เดียวที่สำคัญราคาถูกมาก
เพียงแค่ชามละ 30 บาทเท่านั้น
รสชาติก็ดีมากกกกกกก โดยเฉพาะต้มยำอร่อยมากก
เบิ้ลไปคนละ 2 ถ้วยเลย อิอิ
พอสักพักเที่ยงปุ๊ปคนแน่นมาก แตอนแรกก็เหมือนจะหงุดหงิด
แต่พอได้นั่งพักและทานก๋วยเตี๋ยวชมวิวเพลินๆ
ความผ่อนคลายก็เริ่มขึ้น กลายเป็นแต่ละคนนี่หน้าพริ้มเลยค่ะ
ก่อนกลับก็แวะมาถ่ายภาพกับจุดเช็กอินบ้านจ่าโบ่กันหน่อย
ไว้โอกาสหน้าอิ้มจะมาตอนมีทะเลหมอกงามๆ อิิอิ
จากบ้านจ่าโบ่ก็เดินทางอีกนิดเดียวเราก็ถึงปายแล้วค่ะ
พอถึงปุ๊ปอิ้มรีบดิ่งเข้ามายังที่พักทันที
ครั้งนี้อิ้มมาพักผ่อนที่นี่ค่ะ
มาริปายรีสอร์ท
เหตุผลว่าทำไมมาพักที่นี่ ก็เพราะชิงช้านี้แหละค่า 555
เช็คอินกันแล้วก็มาที่ห้องพัก อิ้มเลือกบ้านรังนกไว้ค่ะ
เพราะตอนเช้าจากหน้าบ้านเราก็จะได้เห็นทะเลหมอกด้วย
ราคาบ้านคืนละ 1600 บาท มีแอร์ ตู้เย็น ห้องน้ำในตัวนะคะ
ภายในบ้านพักค่ะ น่ารักใช่ไหมล่ะ
ห้องน้ำค่ะ สะอาดสอ้าน แยกส่วนแห้งส่วนเปียกได้อย่างชัดเจน
พอตกเย็นอิ้มก็มาใช้เวลาอยู่ตรงนี้เหมือนเคย
มันรู้สึกมีความสุขเวลาที่อิ้มได้ทอดสายตาออกไปกว้างๆ
มองธรรมชาติ ภูเขา ท้องฟ้า มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
แต่ช่วงกลางวันจะมีนักท่องเที่ยวจีนเยอะหน่อนะคะ
เพราะเค้าเปิดให้เค้ามาถ่ายรูปฟรีๆ
ชิลกับรีสอร์ทเสร็จแล้วอิ้มก็ออกไปหาร้านชิลๆ นั่ง
ปรากฎว่าก็ไปเจอร้านนี้ค่ะ
Romance another story in pai
ที่นี่จะมีร้านกาแฟน่ารักๆ นอกจากนั้นยังมีรีสอร์ท
และฟาร์มสเตย์ให้เราเข้าพักและเข้าชมกันด้วย
ภายในฟาร์ม มี น้องแกะ น้องม้า กระต่าย และวัว
เปิดให้เข้าชมในราคา 50 บาท ต่อท่าน
แต่ถ้ามาทานกาแฟจะได้เข้าชมฟรี
บรรยากาาศดีมากกกก เสียดายไม่ได้พักที่นี่ รอบหน้ารับรองไม่พลาดแน่ค๊าา
บรรยากาศร้านกาแฟน่ารักมากๆ
ภายในร้านตกแต่งเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
อิ้มเลือกนั่งด้านนอกค่ะ ชมวิวทุ่งนาสีเขียว
กลับมาที่กาแฟ เครื่องดื่ม และเค้ก ต่างๆ บอกเลยว่าเริ่ดมว๊ากกกกก
โดยเฉพาะขนมที่นี่จัดว่าเด็ดสุดๆ
ทีเด็ดของเค้าอยู่ที่ชีสเค้ก คือดีงามมากกกกกกกก อร่อยมากกกกกกกกกก
และพวกนมต่างๆ โยเกิร์ตโฮมเมดก็เริ่ดไม่แพ้กัน
เลือกผลไม้เป็น topping ได้ด้วยนะคะ
ถ้ามาปายแล้วหาร้านกาแฟ หรือหาที่พักบรรยากาศดีๆ
อิ้มแนะนำที่นี่ค่ะ Romance another story in pai
รับรองประทับใจแน่นอน
พอทานขนมเสร็จสรรพก็ออกไปเที่ยวเล่นชมฟาร์มกันค่ะ
ถ้าช่วงที่ฝนไม่ตกเค้าจะปล่อยม้าออกมาเดินเล่น ถ้ามีหมอกจางๆ
มีม้าเดินเล่นกลางสนามใหญ่ คงเป็นบรรยากาศที่สวยงามน่าดู
มุมนี้เป็นน้องแกะค่ะ ขนปุกปุยน่ารักทีเดียว
งานให้อาหารแกะ ต้องมาสินะ !!!
พอใกล้ค่ำ อิ้มก็ออกจากที่นี่แล้วเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวถนนคนเดินค่ะ
ถนนคนเดินปาย
ถนนคนเดินปาย ถนนเล็กๆ แต่มีเสน่ห์มาก มีความน่ารักอยู่ตลอดเวลา
ที่นี่มีความเก๋ไก๋ผสมกับความสโลวไลฟ์
มีร้านรวงมากมายที่จะสามารถกระชากเงินในกระเป๋าของคุณได้ในพริบตา 555
ก็ที่นี่มีทั้งของกินของใช้ มากมายราคาย่อมเยาว์
เดี๋ยวๆๆ นี่ขายอะไรแจ้ะ อิอิิ
แวะฟังคุณลุงเล่นดนตรีให้ฟังสักหน่อย 😀
เดินไปเดินมาก็แวะไปเรื่อยเลยค่ะ ของกินตลอดทาง
อันนี้ข้าวปุกงาดำของกินยอดฮิตของถนนคนเดินราคา น่ารักชิ้นละ 20 บาท
เดินแล้วเหนื่อยก็แวะทานน้ำกระบอกได้น๊าา ราคา 30 บาทรวมกระบอก
แต่ถ้าเดินแล้วหิวอีก มาเติมได้ครั้งละ 10 บาทจ้า
อันนี้ไข่ป่ามค๊าา ของโปรดของอิ้ม อิอิ
เดินมาหน่อยก็โดนกลิ่นเกี๊ยวซ่าครอบงำ จัดไปสักหนึ่งชุด 20 บาทเองค่า
ด้านนี้สไตล์ปิ้งย่าง หม่าล่าก็มีนะแกร๊ !!
จะส่งโปสการ์ดหาคนที่คิดถึงก็ได้นะ อิอิ
แต่มาถึงเมืองเหนือก็อยากจะทานอาหารเหนือ
เราก็พุ่งไปที่ร้านนี้ค่ะ เฮือนขันโตก
อิ้มมาทานครั้งที่สองแล้วค่ะ
แต่อาหารเค้าไม่ได้มีหลากหลายมีแค่นี้จริงๆ
เค้าจะเสิร์ฟเป็นขันโตก มีกับประมาณ 7 อย่าง
เช่น น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แคปหมู แกงฮังเล ลาบคั่ว จอผักกาด
และ ผักสด ราคาขันโตกเล็กที่อิ้มทานเริ่มต้นที่ 300 บาท
อาหารรสชาติใช่ได้นะคะ แต่อิ้มว่าราคาอาจจะสูงไปนิด
ขอตัวทานก่อนนะค๊าาา
หลังจากเมื่อคืนกลับมาก็สลบทันที พอนาฬิกาปลุกดังขึ้น
ตอนแรกก็ว่าจะไปหยุนไหล ลังเลว่าจะไปไม่ไปดี
แต่พอเปิดประตูมาก็จะเจอวิวแบบนี้ ว้าวววว สวยงามทีเดียว
อิ้มรีบคว้ากล้องมาถ่ายภาพทันที
มาชมบรรยากาศจากชิงช้าสักหน่อย
ชมความสวยงามที่รีสอร์ทไปแล้ว อิ้มก็รีบอาบน้ำเดินทางไปหยุนไหลทันที
ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปซะแล้ววว แต่พอเห็นว่ามีหมอกหน่อยๆ เลยเปลี่ยนใจค่ะ
ทะเลหมอกยุนไหล
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มาปายแล้วต้องแวะมา
หยุนไหล ตั้งอยู่ในอำเภอปาย เลยหมู่บ้านสันติชลไปประมาณ 3 กิโลเมตร
บนจุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล สามารถมองเห็นตัวเมืองปาย
และสายหมอกที่รวมตัวกันเป็นก้อนจะไหลเหมือนดังสายน้ำท่ามกลางหุบเขาในอำเภอปาย
ได้อย่างงดงาม
การเดินทางมาที่นี่ก็คือเอารถมาจอดด้านล่าง ใกล้ๆ หมู่บ้านสันติชล
หลังจากนั้นจะมีรถรับส่ง ราคาคันละ 300 บาท ถ้ามาหลายคนคุ้มเลยค่ะ หารกันสะดวกดี
กลายเป็นสถานที่แห่งความโรแมนติกไปในตัว
ตรงนี้เป็นแลนด์มาร์กค่ะ ตอนอิ้มมาสายแล้ว หมอกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
แต่ได้ฟิลลลมากก
บนนี้มากางเต้นท์นอนได้ด้วยนะคะ
ขอสูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดสักหน่อย
เด่วๆ นั่นกัปตันแจ๊ดสแปร์โร่วนี่หน่า กิกิ พี่เค้ารับจ้างถ่ายภาพค่ะ
ใครอยากได้รูปสวยๆ แนะนำเลย อิ้มไปแอบดูมาพี่เค้าถ่ายสวยมากกก
ชมบรรยากาศไปสักพักเอ๊ะๆ ท้องเริ่มหิวแล้วนะ
ส่วนมากอีกกิจกรรมที่เค้าขึ้นมาทำที่นี่ก็คือ ทานข้าวต้ม พร้อมจิบชาร้อนๆ
สนนราคาข้าวต้มชามละ 20 น้ำชากาละ 20 ค่ะ
มันฟินมากนะพูดเลย
เสร็จจากชมหมอกด่านบนแล้วก็ลงมาเที่ยวที่หมู่บ้านสันติชลต่อค่ะ
เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านสันติชล ก็เหมือนเราได้ก้าวเข้ามาสู่ ประเทศจีนเลยนะ
เพราะว่าเค้าลำจองลักษณะของการตกแต่งสถานที่ภายในจะเป็นสไตล์จีนยูนานทั้งหมด
มีมังกรสีสดพันอยู่กับเสา ซี่งตั้งอยู่บนเนินหินสีเข้ม
ด้านหน้าของเนินหินมีอักษรภาษาจีน
เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับ บ้านดินสีส้มพลาสเทลสดใสตั้งเรียงรายอยู่
มีร้านของที่ระลึก เช่น รองเท้า เสื้อผ้า ชา ผลไม้ดองและอบแห้ง
มีมุมและซุ้มให้ถ่ายรูป มีชุดจีนยูนนานให้เช่าถ่ายรูปสวยๆ
มีอาหารแปรรูปชนิดต่างๆ จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว
และมีร้านอาหารจีนยูนานให้บริการด้วย ใครสายยูนนานบอกเลยว่าห้ามพลาด
เสร็จจากบ้านสันติชลอิ้มก็ขับรถชมบรรยากาศตัวเมืองปายในยามเช้าค่ะ
ส่วนมากยามเช้าเราจะไม่ค่อยเห็นใครมาเที่ยวเท่าไหร่
จะฮิตเดินในช่วงเย็นมากกว่า
แต่อิ้มบอกเลยว่าจริงๆ ตอนเช้าที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน
ยิ่งถ้าช่วงหมอกลงจัดๆ แบบนี้
มีภูเขาล้อมรอบเหมือนอยู่ในท่ามกลางเมืองแห่งหมอกเลยค่ะ
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เพิ่งกินข้าวต้มมา มาร้านโจ๊กอีกแล้วหราา
บรีสบอกว่าร้านนี้ต้องมากินให้ได้เพราะร้านนี้เป็นโจ๊กที่ไม่เหมือนใคร โอเค กินก็ได้
ร้านนี้ชื่อร้าน โจ๊กสมุนไพรลุงอ๊อด
อิ้มสั่งโจ๊กไข่เค็มไป 1 ถ้วย 35 บาท
เห็นร้านตรงข้ามขายปาท่องโก๋ด้วย คนเยอะเชียว
เอาซะหน่อยแล้วกัน ตัวละบาทเองค่ะ
ว้าวววว โจ๊กของเราก็มาพอดีนะ หน้าตาน่าทานทีเดียว
อิ้มใส่ปาท่องโก๋ลงไปอีกเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น
พอถ่ายเสร็จก็ได้เวลาทาน
พอโจ๊กเข้าปากเท่านั้นแหละ เฮ้ยยยยย คืองานดีมาก
แม่เจ้า ทำไมมันอร่อย มันมีความหวาน หวานแบบธรรมชาติ เป็นรสชาติที่หาไม่ได้จากที่ไหน
และอิ้มไม่เคยทานแบบนี้มาก่อน ลุงอ๊อดเจ้าของร้านก็หันมาบอกเราทันทีว่า
ร้านพี่ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ผงชูรส และน้ำซุปกระดูกหมู
ร้านนี้ไม่ใช้ผงชูรส และเครื่องปรุงรส ที่มีสารเลยจ้า
โอ้โห ถึงว่าคือมันดีมาก ถ้ามาแม่ฮ่องแนะนำกันไปอีกหนึ่งร้าน
รับประกันมันฟินเฟอร์
อิ่มพุงแล้วก็กลับมายังรีสอร์ทค่ะ วิวสวยงามทีเดียว
แต่ๆๆๆๆๆ พนักงานเดินมาถามว่ารับอาหารเช้าเลยไหมคะ
อิ้มนี่ขำเลย 555 เราไปกินมาซะเยอะขนาดนั้น
แต่เอาเถอะค่ะ จ่ายค่าที่พักรวมอาหารเช้ามาแล้ว
จะไม่ทานได้อย่างไร อิอิ
ที่โรงแรมอาหารเช้าจะเป็นเซ็ตนะคะ มีสามเซ็ตเห็นจะได้
มีอเมริกัน ข้าวต้ม และข้าวผัดค่ะ
เรียกว่าจุกไปถึงเย็นกันทีเดียวเชียว
เอาหล่ะ ได้เวลาที่อิ้มต้องเช็คเอาท์กลับกรุงเทพฯ แล้ว
ก่อนกลับที่ติดกับโรงแรมเลย ก็คือร้านกาแฟชื่อดังร้านนี้ค่ะ
Coffee in love
ที่นี่กลายเป็นอีก Destination ที่เมื่อมาปายต้องมาเยือน
นอกจากวิวดีมองเห็นทิวทัศน์เมืองปายอันสวยงามแล้ว
ทีเด็ดของที่นี่ยังมีอีกเพียบทั้งกาแฟหอมๆ และเค้ก
อร่อยๆ มีเบอร์เกอร์ และอาหารมากมาย ให้นั่งทานกันเพลินๆ
และมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ถูกใจสาวๆ แน่นอนค่า
จักรยานคันนี้ซิกเนเจอร์เลยนะแกร๊
ชอบวิวแบบนี้จัง
ในความอิ่ม เราก็ยังแบ่งกระเพาะไว้ทานของหวานเสมอๆ
อิ้มสั่งไอศกรีมโคนมาสองโคนค่ะ ราคา 30 บาท
แล้วลองเอามาถ่ายรูปแบบนี้ เห้ยยยย ฟิลญี่ปุ่นก็มานาจา
เสร็จจาก Coffee in love อิ้มก็มาต่อที่สะพานประวัติศาสตร์ปาย
ซึ่งมีความหมายทางด้านประวัติศาสตร์และสำคัญต่อที่นี่มากค่ะ
จากนั้นอิ้มก็เดินทางกลับโดยใช้ถนน 1095 เส้นทางโรแมนติก
ถนนสวยมากกกก มองวิวได้เต็มตา แต่ไม่มีภาพให้ชมนะคะ
ถ้าอยากรู้ว่าสวยแค่ไหนต้องไปเองค๊าา
ใช้เวลาพักนึงก็มาถึงสนามบินเชียงใหม่แล้ว
อิ้มนำรถเช่ามาคืนค่ะ โทรนัดเค้าได้เลย เค้าก็จะมารอเราที่ประตู 5
ตรวจรถเสร็จสรรพ อิ้มก็เข้ามาโหลดกระเป๋าค่ะ
ขากลับอิ้มก็กลับกับนกแอร์เช่นเคย บินสะดวกสบาย พนักงานน่ารัก ถูกใจค่ะ
สำหรับอิ้มแม่ฮ่องสอนถือเป็นจังหวัดที่น่าเที่ยวมาก มีหลายแห่งน่าสนใจ
อิ้มคงต้องใช้เวลาอีกหลายครั้ง กว่าจะสำรวขจังหวัดนี้หมด
3 วัน 2 คืนของอิ้ม ถือว่าเที่ยวได้พอสมควร หากเพื่อนๆ ไม่มีเวลามาก
ก็เที่ยวพอกรุบกริบแบบอิ้มก็ได้นะคะ
แล้วมีโอกาสค่อยกลับมาหาแม่ฮ่องสอนใหม่
เพราะที่นี่สวยงามเสมอ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์
เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ
ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ
อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
สวยมากเลยค่ะ ต้องตามรอยบ้างแล้ว รีวิวนี้มีประโยชน์มากเลยค่ะ
ถูกใจLiked by 1 person
ขอบคุณมากๆ นะค๊าาา ไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนกันค่ะ
ถูกใจถูกใจ