ฮัลโหลลลล ปราจีนบุรี

แกรๆๆๆ ไปเที่ยวปราจีนกันไหม ??? คำถามนี้อิ้มเคยได้ยินจากเพื่อนมานาน

แล้วจำได้ว่า ตอนนั้นเคยปฎิเสธเพื่อนไป เพราะคิดว่าไม่มีอะไรเที่ยว

สำหรับอิ้มปราจีนบุรี เป็นเหมือนทางผ่านที่จะมุ่งหน้าไปยังสระแก้ว

เพราะแต่ก่อนเป็นสายช็อป (โรงเกลือ) 5555

ใครทันมั่งไม่รู้ แต่ก่อนโรงเกลือพีคมากกกกก

แต่เดี๋ยวนี้พอโต(แก่)ขึ้นก็ไม่ค่อยได้ไปอีกเลย

เพราะฉะนั้นปราจีนจึงเป็นจังหวัดที่ถูกลืม

จนเมื่อปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปกบินทร์บุรี

เห้ยยๆๆ ดูแล้วปราจีนมีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะมาก

แต่น่าเสียดายรอบที่แล้วมีเวลาน้อยจึงเที่ยวไม่หมด

“ปราจีนบุรี” ถือว่าเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ

ใกล้ปทุม(ฝั่งนครนายก) ใกล้บ้านอิ้มม๊ากกก

เชื่อไหมว่าจังหวัดปราจีนบุรี มีที่เที่ยวทั้งทางธรรมชาติ

ประวัติศาสตร์ ช็อปปิ้งคอมมูนิตี้ วัฒนธรรมประเพณี รวมถึงโบราณสถาน

เรียกว่าค่อนข้างครบเครื่องเลยนะ

ครั้งนี้จึงตั้งแต่ว่าลองทำทริป 2 วัน 1 คืน

ดูสิว่า ปราจีนบุรีจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ที่พักปราจีนบุรี ใกล้แหล่งท่องเที่ยว บรรยากาศดี ราคาถูก

หาง่ายจองง่ายกับ Traveloka ผู้ให้บริการจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน

> จองที่พักปราจีนบุรี ราคาพิเศษ กับ Traveloka <

https://www.traveloka.com/th/hotel/thailand/region/prachin-buri-10000224

พร้อมแล้วตามอิ้มไปเที่ยวปราจีนบุรีกันเล้ยยย

ก่อนจะไปชมรีวิวขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า

https://www.facebook.com/psstorytrip

สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สามารถโทรได้เบอร์นี้นะคะ TAT Call Center 1672

เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือทาง website ก็มีนาจา

http://www.tourismthailand.org

บ้านอิ้มอยู่สายคลองค่ะ ไม่บอกหรอกนะว่าคลองไหน อิอิ

อิ้มเลือกออกเดินทางในเวลาเช้าตรู่สักหกโมงนิดๆ

ใช้เส้นทางนครนายก ขับรถเปิดเพลงฟังเบาๆ ชิลสุดๆ

ขับไปแค่ไม่เกินสองชั่วโมงก็จะถึงจังหวัดปราจีนบุรีแล้วค่ะ

สถานีแรกที่อิ้มตั้งใจจะไปก็คือ จุดชมวิวผาหินซ้อน

ซึ่งตั้งอยู่ในวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้-อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

แต่เสียดายวันที่อิ้มไปทางเข้าปิด เพราะฝนตกหนักจึงไม่ได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม

ของจุดชมวิวผาหินซ้อน อิ้มเลยขับรถกลับออกมา

แต่ระหว่างเส้นทางภายในอุทยานนี้นอกจากเป็นสถานที่ชมธรรมชาติและพักผ่อน

ยังเป็นเส้นทางยอดฮิตของนักปั่นจักรยาน

ปั่นกันได้ยาวๆ ชิลๆ

เป็นอีกเส้นทางที่มีความสวยงามมาก

ภายในวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้-อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

เป็นสถานที่ชมธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศดี

และมีแหล่งท่องเที่ยวภายในหลายจุด

ระหว่างทางกลับอิ้มเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ๋

ขอไปสักการะสิ่งศักดิ์ก่อนนะคะ

ด้านบนนี้วิวสวยทีเดียวค่ะ

เสร็จแล้วระหว่างทางออกก็จะถึง อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

บริเวณนี้สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่มากางเต้นท์นอนได้นะคะ

จริงๆ หากขับรถเข้ามาอุทยานจะถึง”อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์”ก่อน

ถ้าไม่อยากขึ้นไปข้างบนต่อสามารถแวะอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ได้เลย

“อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์” เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่บริเวณเชิงเขาอีโต้

เส้นทางท่องเที่ยวบนอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์สามารถขับรถ เดิน

หรือปั่นจักรยานไปตามแนวสันเขื่อน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์

สามารถมาได้ทั้งในช่วงเช้า และเย็น

ช่วงเช้าอากาศดีเงียบสงบ ไม่ร้อน

และเค้าบอกว่าฤดูหนาวในช่วงเช้า ถ้ามากางเต้นท์นอน

จะได้สัมผัสกับไอหมอกเย็น ๆ อากาศสบาย ๆ

สูดอากาศและความสดชื่นให้เต็มปอด

หรือช่วงเย็น ๆ สัมผัสกับแสงอาทิตย์สีทองก็ดีมากๆ

ถือเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกมากเลยค่ะ

ที่สำคัญที่นี่เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ

จากอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์อิ้มเดินทางต่อออกมาอีกนิด

แวะมารับความสดชื่นที่น้ำตกเขาอีโต้ค่ะ

ถึงชื่อจะดูโหดแต่ภายในน้ำตกน่ารักมาก

น้ำตกเขาอีโต้เป็นธารน้ำที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่

ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ความสูงไม่มากนัก

สามารถลงเล่นได้สบายๆ คนไม่พลุกพล่าน

จากน้ำตกเขาอีโต้อิ้มก็มาหาอะไรทานที่อำเภอเมืองค่ะ

ขับรถผ่านมาก็สบตากับร้านนี้

ก๋วยเตี๋ยวเอกรส พิกัดอยู่แถวๆ หน้าบิ๊กซีปราจีนจ้า

ร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หมู เกาเหลา ติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา

ทีเด็ดของเค้าก็อยู่ที่ตัวลูกชิ้นเลยค่ะ อร่อยมาก

อิ้มทานเกาเหลา สักแป๊ปมีโต๊ะข้างๆ สั่งบอกว่าเอาลูกชิ้นอย่างเดียวไม่เอาผัก

คือเค้าให้เยอะมากพูนถ้วยเลย

เดี๋ยวมารอบหน้าอิ้มจะลองสั่งแบบไม่ใส่ผักดูบ้างค่ะ

ถ้วยนี้เป็นเกาเหลาลูกชิ้นเนื้อ นอกจากลูกชิ้นที่อร่อยมากแล้ว

น้ำซุปยังอร่อยมากกก หอมสุดๆ

อีกถ้วยเป็นเส้นหมี่ลูกชิ้น เนื้อสด เนื้อสดดีงามมมมม

ราคาชามละ 50 บาทถ้วนๆ จ้า

เสียดายอิ่มซะก่อน ยังไม่ได้ลองทานติ่มซำเลย

รอบหน้าเดี๋ยวมาแก้มือใหม่ อิอิ

จากร้านก๋วยเตี๋ยวเอกรสอิ้มเดินทางต่อไปที่ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

พิิกัดอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

จอดรถด้านนอกแล้วเข้าไปได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน

แต่เดิมอิ้มยอมรับเลยว่าเคยได้ยินผ่านหูแต่ไม่รู้ว่าภายในมีอะไร

วันนี้มีโอกาสจึงตั้งใจมาชมเอง

ตัวอาคารเป็นตึกสีเหลืองสไตล์เก่าย้อนยุค

อาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค (Barogue)

เป็นตึกสองชั้นมีมุขด้านหน้าตรงกลางเป็นโดมผนังด้านนอก

มีลายปูนปั้น ลายพฤกษาประดับ

ซุ้มประตูและหน้าต่างภายในตึกแบ่งออกเป็นหลายห้อง

ประวัติที่นี่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

อิ้มสรุปให้คร่าวๆ ก็คือ

ที่นี่เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2455

รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์เมื่อครั้งเสด็จมณฑลปราจีนบุรี

เมื่อท่านถึงแก่อสัญกรรมตึกหลังนี้กลายเป็นมรดกตกทอด

มาถึงพระยาอภัยวงศ์วรเศรฐ

และถวายเป็นของทูนพระขวัญ

ในวันอภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

กับ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6

(พระนามเดิมว่า เครือแก้ว อภัยวงศ์ ทรงมีศักดิ์เป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร)

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระราชทานบ้านและที่ดินทั้งหมดเป็นสิทธิ์ขาดแก่พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี

ต่อมาในปี พระนางเจ้าสุวัทนา

พระราชทานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนั้นแก่มณฑลทหารบกที่ 2

จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้เป็น โรงพยาบาลปราจีนบุรี

ต่อมาภายหลัง ได้พระราชทานนามใหม่เป็น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2509 โดยมีสมเด็จเจ้าภคินีเธอ

เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี

เสด็จฯมาทรงเปิดป้าย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

พร้อมทั้งทรงรับโรงพยาบาลแห่งนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ทั้งสองพระองค์

จนในปี พ.ศ. 2533

กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

เป็นโบราณสถานของชาติ

และได้มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ

โดยจัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร

เป็นศูนย์การรวบรวมอนุรักษ์ตำราไทย สมุนไพรไทย

การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรี

ด้านข้างๆ จะมีสวนปลูกสมุนไพรต่างๆ

อีกทั้งยังเป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้า วิจัยและเผยแพร่

ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น

ที่เกี่ยวข้อง กับสมุนไพรและการแพทย์ของท้องถิ่น

ชั้นล่าง จัดแสดงประวัติตึกเจ้า พระยาอภัยภูเบศร ตำนานหมอหลวง

และยังมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร

ในราคาย่อมเยาว์ชั้นล่าง ของโรงพยาบาล

ด้านบนการแพทย์แผนไทยแพทย์พื้นบ้าน

และตัวอย่างเครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์แผนไทย

เช่น ตู้ยา หินฝนยา หินชนวน มีดหมอ ชั้นบน

จัดแสดงสมุดข่อย หนังสือและตำรายา หินบดยา ในอดีตสมัยทวารวดี

ด้านบนนี้น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ

อิ้มเดินเพลินๆ แป๊ปเดียวหมดไปเกือบชั่วโมง

มีการทำเป็นตัวการ์ตูนเล็กๆ น่ารักเอาไว้อธิบายยาสมัยก่อน

ดูเข้าใจง่ายมากและน่ารักด้วย

หากสนใจมาชม

ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 08.30-20.30 น.หป โทร. 0 3721 1088

ต่อ 3166 หรือ http://www.abhaiherb.com

เสร็จแล้วมาชมที่พักของเรากันค๊าา

หนีไม่พ้นที่นี่ Kantary กบินทร์บุรี

โรงแรมในเครือนี้อิ้มไว้ใจนอกจากราคาถูกแล้ว

ยังรู้สึกว่าเหมือนพักอยู่ที่บ้านยังไงอย่างงั้น

เป็นตึกสีดูสะอาดตามีหลายชั้นทีเดียว

มีสระว่ายน้ำ และอ่างจากุซซี่ในร่มเหมือนแช่ออนเซ็นเลยค่ะ ดีงาม

ส่วนห้องที่อิ้มเข้าพักวันนี้เป็นห้อง One Bedroom Suite

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แม้แต่เครื่องซักผ้าก็มีด้วยนะคะ

มีห้องนั่งเล่นหนึ่งห้องและห้องนอนในตัว

ราคาเริ่มต้นที่ 2300 ++ เท่านั้น

แต่ Type Studio เริ่มต้นแค่ 1700 ++เท่านั้น

ถูกมากๆๆๆๆๆๆ

ด้านล่างของโรงแรมก็มีห้องอาหารด้วยนะคะ ชื่อว่า The California Steak

The California Steak ให้บริการแบบ all day dinning

ฟังชื่อว่าเป็น California Steak จริงๆแล้วไม่ได้มีแค่ Steak นะคะ

แต่แน่นอน Steak เป็นจุดเด่นที่มาเป็นอันดับ 1

ใครๆ มาก็ต้องมาลิ้มลอง

แต่นอกจากนั้นที่นี่ยังบริการอาหารไทย จีน ยุโรป ที่สำคัญมีอาหารญี่ปุ่น

ขนมหวานและเค้กต่างๆไว้บริการอีกด้วย

ช่วงบ่ายๆ อิ้มลองทานเบนโตะเซ็ตและ Sashimi Set

ปลาสดและรสชาติใช้ได้

อิ่มแล้วมาพักผ่อนต่อที่  Executive Lounge

เปิดแอร์เย็นฉ่ำ สบายๆ แขกที่มาพักใช้ Keycard เข้ามาพักได้เลยนะคะ

ภายในมีหนังสือให้อ่าน บรรยากาศเงียบสงบ

มี ชา กาแฟ คุ้กกี้และเค้ก ให้ทานฟรีทั้งวัน

มาถึงมื้อเย็นอีกละ อิอิ ชีสทอดสักจานเป็นไร

Penne aglio ของโปรด

Filet Mignon อร่อยมากกกก ถ้ามาที่นี่แนะนำนะคะ ต้องสั่ง ต้องสั่ง !!!!

นุ่ม ละลายในปาก อย่าลืมสั่งเป็น Import beef นะคะ

Sirloin Steak Import beef เช่นกันค่ะ

ราคาเสต็กที่นี่ไม่แพงนะคะ ถ้าเป็น Import beef ราคา 500 บาทขึ้น

แต่ไม่เกิน 700 บาทค่ะ ราคาน่าคบหามาก

ทานสเต็กเสร็จกลับไปนอน ตอนเช้าตื่นมาทานอาหารเช้าต่อ

มีหลากหลายและเป็นบุตเฟ่ต์อิ่มอีกแล้ววว

ทานข้าวเสร็จอิ้มก็เตรียมตัวเช็คเอาท์ค่ะ

และเดินทางต่อไปยัง The Verona ทับลาน

ที่นี่จะตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาเลียน

โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลี

เค้าเปิดเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ค่ะ

ภายในมีร้านค้า และร้านอาหารมากมาย

วันที่อิ้มไปไม่มีแดดเลยค่ะ เดินเพลินๆ มโนว่าเหมือนอยู่ท่ามกลางอิตาลี และมีขุนเขาล้อมรอบ

(เดี๋ยวๆ อิ้มไม่เคยไปอิตาลีเลยไม่ใช่เหรอ 555)

มีมุมถ่ายรูปมากมาย น่าจะถูกใจสาวๆ เช่นเคย

เสร็จจากถ่ายรูปสวยๆ อิ้มก็วนรถกลับไปที่อ่างเก็บน้ำทับลานกันอีกสักหน่อย

เก็บกักความสดชื่นไว้ให้เต็มปอด

หลังจากชมธรรมชาติเสร็จก็รู้สึกว่าเริ่มหิวอีกแล้วค่า 555

คนอ้วนก็แบบนี้อ่ะนะ

อิ้มมุ่งหน้าไปร้านขนมที่มีชื่อเสียงอย่างมากของปราจีนบุรี

ที่นี่คือ Cafe Kantary 304 โดยขับจาก Kantary กบินทร์บุรี

ไปประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

Cafe แสนน่ารัก รวมๆ ก็จะให้บริการอาหารฟิวชั่น

อาหารไทย ญี่ปุ่น ผสมผสานกันในหลายๆแบบ

แบ่งเป็นสองชั้นค่ะ ด้านล่างมีของที่ระลึกจำหน่ายเยอะแยะไปหมด

อิ้มมานั่งชั้นสองค่ะ คนไม่พลุกพล่านดี

แถมมีน้องมาร์ดี้ตัวใหญ่น่ารักๆ บนกำแพงให้ชมด้วย

เมนูมีทั้งคาวหวาน ราคาย่อมเยาว์

เริ่มที่  Iced Caramel Macchiato แก้วนี้ราคา 85 บาท

Mixs Berry Smoothie เติมความสดใสในช่วงบ่าย

“เกี๊ยวซ่าชีส”

เกี๊ยวซ่าหมูสับสุดนุ่มๆ ราดชีสครีมซอสหอมกรุ่น

ให้รสชาติกลมกล่อมลงตัวอร่อยมากๆ

ชีสเยิ้มๆ คนรักชีสสห้ามพลาด

จานนี้ราคา 185 บาท

ต่อมาเป็น

ข้าวหน้ากระเพราขาหมูเยอรมันทอดไข่ดาวกรอบ

เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป ราคา 165 บาท

สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนผัดพริก กระเทียม on top ด้วยไข่ปลาแซลมอน (ราคา 175 บาท)

จานนี้อิ้มชอบมากเป็นพิเศษ

มาต้องสั่งนะคะ แนะนำเลย

สุดท้ายของหวาน

เป็น Homemade Pancakes Strawberry Crumble ราคา 185 บาท

อร่อยมว๊ากกก

จาก Cafe kantary อิ้มก็ใช้เส้นทางหลัก นครนายก ปราจีนบุรี

ระหว่างทางต้องแวะเติมน้ำมันสักหน่อย

อิ้มเลือกใช้บริการสถานีน้ำมันของ ป ต ท ค่ะ

คือเรื่องของเรื่องอิ้มจะแวะร้าน ร้านประชารัฐสุขใจ SHOP

เผื่อซื้อของฝากให้ที่บ้าน

 ร้านประชารัฐสุขใจ SHOP สาขา ปราจีนบุรี อยู่ที่ปั๊ม ปตท อ.ประจันตคาม

สังเกตุหน้าปั๊มเป็นแบบนี้แล้วเข้าไปได้เลยค่ะ

มาซื้อสินค้า OTOP กันหน่อย

“ร้านค้าประชารัฐสุขใจ” เปิดในปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศไปแล้วจำนวน 143 แห่ง

ได้ก่อตั้งขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาสถานีริมทาง

เพื่อการส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวท้องถิ่นแห่งแรกอย่างเป็นทางการ

เป็นสินค้าจากชุมชนและชาวบ้าน

ผ่านมาแวะอุดหนุนกันด้วยนะคะ

ภายในมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือกซื้อหา

มีทั้งของกินของใชหลากหลายให้เลือกสรร

ได้ของกลับไปฝากที่บ้านแล้วค่ะ

เดี๋ยวเราเดินทางกันต่อไปยังสถานีสุดท้ายกัน

แท่น แทน แท๊นนน

ดาษดา แกลอรี่นั่นเองค่ะ จริงๆ ตั้งใจว่าจะแวะตั้งแต่ขามา

แต่อิ้มมาถึงเช้าเกินไปเค้ายังไม่เปิด

เลยปรับมาเที่ยวขากลับซะเลย

ดาษดา แกลเลอรี เป็นส่วนหนึ่งของที่พัก ดาษดารีสอร์ท

ตั้งอยู่ที่ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ที่นี่ถือเป็นอาณาจักรแห่งดอกไม้ที่ซ่อนตัวอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ

เป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความงามของดอกไม้

ซึ่งจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามเทศกาลและฤดูกาล

ยิ่งฤดูหนาวที่นี่จะสวยงามมากนะคะ

ด้านในจะเป็นฮอลแสดงดอกไม้ มี workshop

และกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย

มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เกร๋ๆ ว่าแล้วก็จัดสักหนึ่งภาพ

อ้อๆๆ มาที่นี่อย่าลืมใส่ชุดสวยๆ นะค๊าา

ของอิ้มชุดนี้มาจากร้าน hana dress by neung bonnie

สาวๆ คนไหน ชอบเสื้อผ้า ชิลๆ เดรสสวยๆ มีหลากหลายแบบเลย ตามลิ้งค์นี้ไปเลือกเลยจ้าาา https://www.facebook.com/HanaDress12/

บัตรเข้าชมผู่ใหญาราคา 100 บาทค่ะ

กิจกรรมต่างๆ ค่ะ น่าสนใจทั้งนั้นเลย

เพ้นท์กระเป๋า จัดสวนในขวดแก้ว และอีกมากมาย

ชมสวนไปเรื่อยๆ เพลินเชียวค่ะ

จากสวนดอกไม้จะมีสวนสัตว์ขนาดย่อมด้วยนะคะ

มีนกยูง กระต่าย และสัตว์เล็กๆ หลายชนิด

เสร็จแล้วล้างไม้ล้างมือมาทานขนมที่ La Lalla

ภายใน มีเบเกอรี่ เครื่องดื่ม และไอศกรีมซิกเนเจอร์ ของดาษดา

มีชา ขนม ไอศกรีมเป็นกลิ่นดอกไม้ต่างๆ สมเป็นเมืองแห่งดอกไม้จริงๆ

อิ้มลองทานเป็นไอศกรีมดอกไม้ จำชื่อไม่ได้ค่ะ แต่อร่อยมากก

ราคา Scoop ละ 75 บาทเท่านั้น

สนใจมาเที่ยวตามข้อมูลด้านล่างเลยค่ะ

ที่ตั้ง : 179 หมู่12 ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 25230
GPS : 14.194053,101.38322 หรือ +14° 11’ 38.5908″,+101° 22’ 59.5914
เบอร์โทรศัพท์ : 090-198-7581, 090-198-7582
เว็บไซต์ : http://www.dasada-happiness.com
เฟสบุ๊ค : dasada

เป็นไงบ้างคะปราจีนบุรีในมุมมองของอิ้ม

จริงๆ จังหวัดนี้มีอะไรให้เที่ยวอีกมากมาย

ไว้มีโอกาสอิ้มจะพาไปเที่ยวที่นี่อีกนะคะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์

เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ

ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ

อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ