แพ 500 ไร่

สถานที่ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะมาให้ได้สักครั้ง

ที่นี่แม้ไม่ใช่รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว สิบดาว

แต่มักจะต้องจองมากันตั้งแต่เนิ่นๆ

แพ 500 ไร่ ได้รับการขนานนามว่า

เป็นรีสอร์ทที่สวยงาม

ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

ที่คงความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

ยิ่งหน้าฝนแบบนี้

ระหว่างที่คุณไปพักผ่อน

คุณจะได้สัมผัสทั้งไอหมอก สายฝน

และแสงแดดที่เข้ามาทักทายในบางเวลา

เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดของแพ 500 ไร่เลยก็ว่าได้ค่ะ

แพ 500 ไร่ ตั้งอยู่ภายใน เขื่อนรัชชประภา

หรือที่เรียกกันว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงวันหยุด

โดยกิจกรรมภายในรีสอร์ทมีกิจกรรมให้ทำมากมาย

เรียกได้ว่าคุณจะได้พักผ่อนในสถานที่

ที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ

และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

เพราะที่นั่นจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มี wifi

มีแต่ภูเขา สายน้ำ หมอก และคนข้างๆ อร๊ายยย

แค่คิดก็เขิลแล้ว

และสำหรับใครที่มาคนเดียวแบบทริปล้างใจ

รับรองว่าธรรมชาติ

จะช่วยโอบกอดให้คุณลืมเรื่องทุกอย่างได้

แต่หากคุณมากับครอบครัว

คุณก็จะได้มีเวลาคุยกันมากขึ้น

มองหน้ากันมากขึ้น

และสุดท้ายหากคุณมากับเพื่อน

อันนี้เจ๋งมาก

คุณจะได้ทำกิจกรรมหลากหลาย รับรองมันส์แน่

หากใครกำลังหาข้อมูลที่นี่อยู่ล่ะก็

ตามอิ้มไปเที่ยวแพ 500 ไร่ด้วยกันนะคะ

ก่อนจะไปขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า

https://www.facebook.com/psstorytrip

สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม

กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สามารถโทรได้เบอร์นี้นะคะ TAT Call Center 1672

เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือทาง website ก็มีนาจา

http://www.tourismthailand.org

การเดินทางมาที่นี่สามารถทำได้หลากหลายค่ะ

แต่สำหรับทริปนี้ของอิ้ม อิ้มเลือกที่จะขับรถมา

เพราะระหว่างทางอิ้มจะได้ชมบรรยากาศและธรรมชาติ สวยๆ

พอมาถึงที่สุราษฎร์ไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่จอดรถนะคะ

เพราะเราจะขับไปจอดกันที่ออฟฟิศของแพ 500 ไร่กันก่อน

เพื่อทำเรื่องเช็คอิน

และเจ้าหน้าที่จะอธิบายเกี่ยวกับแพ็คเกจที่เราจองมา

เสร็จสรรพจอดรถไว้ที่นั่นได้เลย ปลอดภัย หายห่วงค่ะ

หลังจากนั้นจะมีรถตู้มาส่งเราที่บริเวณสันเขื่อน

ให้ถ่ายรูปและชมบรรยากาศค่ะ

อิ้มเดินทางมาเที่ยวหน้าฝน

เป็นฤดูที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดของแพ 500 ไร่เลย

ตอนแรกอิ้มก็ไม่เชื่อนะ แต่พอถึงสันเขื่อนและมองเข้าไป

คือรู้สึกแบบว่า เฮ้ย มันใช่อ่ะ ฟิลแบบนี้เลยที่ตามหา

สัมภาระทั้งหมดก็จะถูกยกมาไว้ที่เรือนี้พร้อมเราค่ะ

หลังจากนั้นก็ลงเรือออกเดินทางกันเลย

สภาพอากาศเย็นสบาย

และเบื้องหน้าที่เห็น

เรือกำลังพาเราเข้าสู่เขตกุ้ยหลินเมืองไทยแล้วค่ะ

เข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 25 นาที ก็จะถึง เขาสามเกลอ

ถือว่าเป็นไฮไลท์ในทริปเลยนะคะ

เสียดายอากาศไม่ค่อยเอื้ออำนวยสำหรับคนชอบถ่ายภาพ

แต่คนที่มาเที่ยวน่าจะชอบอากาศแบบนี้มากกว่า

เพราะถ้าร้อนไปก็คงไม่ไหว จริงมะ

เสร็จแล้วระหว่างทางเราก็ชมธรรมชาติมาเรื่อยๆ อีก 20 นาที

ก็ถึงที่พักค่ะ แพ 500 ไร่

โดยรวมเดินทางจากสันเขื่อนเข้ามาประมาณ 45 นาทีค่ะ

อิ้มมาถึงเย็นเกือบค่ำ

จึงตรงดิ่งเข้าไปยังห้องก่อนเลย

ภายในห้องพักค่ะ เป็นแพมีสองชั้น

มีทั้งแอร์และพัดลม

แอร์ที่นี่เปิดให้ใช้ได้ตอน 6โมงเย็น ถึง 9 โมงเช้า

แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ไม่ร้อนเลย

ช่วงกลางวันเปิดรับลมเย็นๆ อากาศดีๆ ได้สบายๆ

เพราะฉะนั้นการมาหน้าฝนที่แหละฟินที่สุด

คุณจะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็นสบาย

มีหมอกในยามเช้า แดดไม่แรง

และมีฝนตกตามฤดูกาล

ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

แต่ที่มันว้าวว ก็คือวิวหน้าบ้านนี่แหละค่ะ

ย้ำ ว่าวิวหน้าบ้านนะ

เชื่อไหมคะว่า

อิ้มใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานมาก

แต่ถ้าลองไปนั่งสัก 5 นาที

รับรองว่ามันจะกลายเป็นครึ่งชั่วโมงแน่ๆ

ในขณะที่เรานั่งมองภูเขา ยิ่งถ้ามีหมอกลอยผ่าน

ยิ่งจะทำให้ภาพที่อยู่ข้างหน้าเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

เหมือนเรากำลังนั่งดูทีวี แต่เป็นทีวีขนาดใหญ่มาก

ภาพคมชัด มีเพียงเสียงนก เสียงน้ำไหล

ยิ่งกว่าระบบ HD อีกค่ะ

ได้เวลาเริ่มค่ำลงก็เห็นจะมีแต่แสงไฟ ความเงียบสงบ ที่จะอยู่เป็นเพื่อนเรา

ถึงช่วงค่ำอิ้มก็เดินมาที่ Lobby ค่ะ ถ้าเราจองในแพ็คเกจมา

ราคาจะรวมอาหารไว้อยู่แล้ว

อย่างอิ้มมาสามวันสองคืน

ก็ได้ทานทั้งหมด 6 มื้อค่ะ

ในส่วนกลางจะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้วยเก๋ไหมล่ะคะ

แอบถามน้องๆ พนักงานว่าทำไมถึงต้องมีสระว่ายน้ำ

เพราะเท่าๆ ที่ดู ส่วนมากแขกก็จะกระโดดน้ำจากหน้าห้องกันอยู่แล้ว

น้องตอบมาว่าทางรีสอร์ทอยากตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม

บางท่านพาเด็กมาหรือไม่อยากเล่นน้ำหน้าแพ

ก็มาเล่นในสระว่ายน้ำได้

เรียกว่าใส่ใจในรายละเอียดลูกค้าจริงๆ

เข้าไปใน Lobby ค่ะ

นอกจากจะเป็น Lobby แล้วตรงนี้ยังเป็นห้องอาหารด้วยนะคะ

อาหารจะเป็นบุตเฟ่ต์ที่ยกเว้นเมนูพิเศษประจำวัน

เค้าจะเสิร์ฟแค่ครั้งเดียว

อย่างวันนี้เป็นปลากระพงทอดกระเทียม

ตัวใหญ่มากกกกก

ที่เหลือก็จะเป็นอาหารอีกหลากหลายเมนูเลยค่ะ

ตักได้ไม่อั้น

อิ่มท้องกันแล้วก็กลับมานอนค่ะ

แอบลุ้นให้ตอนเช้ามองเห็นหมอกบ้าง

แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

สวัสดีวันจันทร์ อิอิ

ตอนเช้าอากาศดีมากค่ะ

แต่จะบอกว่าเวลาที่มาพักแพ 500 ไร่

ไม่ต้องกลัวเหงานะคะ

เพราะเค้ามีกิจกรรมให้ทำกันแบบแน่นมาก

อย่างตอนเช้ากิจกรรมที่มีก็คือจะพาไปล่องเรือชมนก

และชมพระอาทิตย์ขึ้นเรือจะออกไปราวๆ เจ็ดโมง

และกลับมาก่อนแปดโมงเผื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารเช้าค่ะ

และระหว่างนั้น !!!!!!

อิ้มก็เห็นพี่โดม ภายเรือคายัคอยู่ตรงหน้า

แทบจะกรีสสสสสส ให้ลั่น พี่โดมน่ารักและเฟรนลี่มาก

ขนาดพี่โดมยังฟินกับหมอกตอนเช้าเลย

แต่อิ้มสิคะ ฟินทั้งหมอก ฟินทั้งพี่โดม

โอ้ยยมีความสุข

เอาหล่ะค่ะ ปรับโหมดให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติต่อ

กาแฟสักแก้วน่าจะดีมากในเวลานี้

ผ่านไปสักแป๊ปแดดเริ่มมาแล้วค่ะ

นี่แหละที่เค้าบอกว่าให้มาหน้าฝน

เพราะเราจะได้เห็นทั้งพระอาทิตย์ และสายหมอก

อิ้มเชื่อแล้วค่ะว่าสวยจริงๆ

เหมือนอยู่ภาคเหนือยังไงอย่างงั้น

ช่วงเช้าวิวตรงนี้สวยจริงๆ ค่ะ

จะว่าไปสระว่ายน้ำก็น่าโดดเหมือนกันนะเนี่ย

มีสระว่ายน้ำอยู่กลางเขื่อน

จะถ่ายรูปก็เริ่ด ถ่ายเสร็จโดดลงน้ำ

ฟินมากกก

มาถึงมื้อเช้าของเราในวันนี้

มื้อเช้าของเราในวันนี้เป็นมื้อที่มีความพิเศษมากๆ

เพราะเราจะล่องแพไปทานอาหารเช้า

พร้อมชมบรรยากาศสุดโรแมนติก

การนั่งแพ ไม่ได้รวมในแพ็คเกจนะคะ

แต่เป็นกิจกรรมที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้

การล่องแพจะมีทั้งเช้า เย็น และกลางคืน

โดยตอนเช้าสามารถนั่งแพไปทานอาหารเช้าได้

อาหารมีครบครัน และเค้าจัดแต่งแพได้สวยงามมากกก

ส่วนตอนเย็นจะมีบริการนั่งแพชมพระอาทิตย์ตก

ซึ่งค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่เราสั่งขึ้นไป

แต่ถ้าจะล่องแพเฉยๆ เค้าคิดค่าบริการท่านละ 350 บาทค่ะ

และช่วงกลางคืน ถ้าวันไหนอากาศดี จะเป็นการล่องแพชมดาว

เป็นกิจกรรมที่ถ้ามาแพ 500 ไร่แล้วต้องไปโดนให้ได้

ห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ

พร้อมในส่วนอาหารเช้าที่มีบริการไว้บนแพค่ะ

พร้อมแล้วอิ้มก็มานั่งชิลๆ ท้ายแพ ชมหมอกบางๆ ยามเช้า

ดูเหมือนข้าวผัดของอิ้มจะใหญ่ไปนะ 555

อิ่มท้องกันและล่องเรือไปได้สักพักก็ถึงเวลากลับค่ะ

พี่โดมจะเช็คเอาท์พอดีเลยขอแชะอีกสักภาพ

ช่วงสายๆ กลับมาที่ห้องพักเห็นวิวแบบนี้มันอุ่นหัวใจที่สุด

เปิดประตูรับอากาศบริสุทธิ์ซะหน่อย

จะเห็นได้ว่าหน้าบ้านพักแต่ละหลังจะมีเรือพายัคพร้อมไม้ภายไว้ให้

และมีเสื้อชูชีพให้ทุกหลัง

ควรสวมชูชีพทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

ไม่ว่าจะโดดน้ำหรือพายเรือคายัคนะคะ

แต่อากาศมักเปลี่ยนแปลงไวเสมอ

ไม่ทันไรฝนก็เทชุ่มฉ่ำลงมา

ระหว่างที่ฝนตกเราก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี

ว่าแล้วไปทานมื้อเที่ยงกันค๊าา

ช่วงเที่ยงอิ้มมาถึงเร็ว

ก็เลยมีโอกาสถ่ายไลน์อาหารมาให้ดู

ขอบอกว่าเป็นแบบนี้ทุกมื้อ

แต่ในส่วนของอาหารจะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จ

ฝนก็หยุดตกพอดี

เราก็เดินทางไปน้ำตกแปดเซียนกันต่อค่ะ

อย่างที่บอกค่ะ

แพ 500 ไร่เค้ามีกิจกรรมมากมาย

มาพักที่นี่ไม่เบื่อแน่นอน

อีกกิจกรรมที่บอกเลยว่ามันส์สุดๆ

สายแอดเวนเจอร์ห้ามพลาด

นั่นก็คือการไปน้ำตกแปดเซียน

หลายๆ คนอาจจะงง แค่น้ำตกจะมีอาร๊ายย

หึๆ เบะปากมองบน  ต้องไปเองถึงจะรู้จ้า

การเที่ยวน้ำตกที่นี่ไม่ธรรมดา

เพราะต้องปีนย้อนน้ำขึ้นไป

แต่น่าแปลกที่หินน้ำตกไม่ลื่นเลยสักนิด

แต่สำหรับคนใจเสาะอย่างอิ้ม

ได้แค่ชั้นแรกก็จอดแล้วจ้า

แต่แอบเสียดายเหมือนกัน เพราะเค้าบอกว่า

ถ้าเดินขึ้นไปถึงด้านบน

ก็จะเป็นเหมือนอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่

น้ำใส และเล่นน้ำสนุกมาก

เอาไว้มีโอกาสจะปีนใหม่แน่นอน

หลังจากกลับจากน้ำตกแปดเซียนอิ้มก็กลับมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

จนเกือบถึงช่วงเย็น

ช่วงเย็นวันนี้อิ้มจะล่องแพชมพระอาทิตย์ตกค่ะ

ส่วนใครไม่ได้ล่องแพ เค้าก็มีกิจกรรมอย่างอื่น

เช่นออกไปส่องสัตว์ ถ้าอากาศเราจะได้เห็นกระทิงอีกด้วย

เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ

แต่อิ้มก็สองจิตสองใจเน๊อะ

เพราะช่วงเช้านั่งแพไปแล้วบรรยากาศดี

แอบติดใจช่วงเย็นเลยต้องขอนั่งแพอีกรอบ

ชุดพร้อม รออะไรล่ะคะ

ล่องแพชมพระอาทิตย์ตกกัน

แต่น่าเสียดายวันนี้มองไม่เห็นพระอาทิตยืแต่อย่างใด

แต่ความสวยงามก็ไม่ได้ลดลงเลยนะ

เพราะรอบตัวอิ้มมีแค่สายน้ำ หมอก และภูเขา

อิ้มจึงขอเรียกช่วงเวลานี้ว่าล่องแพชมหมอกก็แล้วกันค่ะ

เอาเป็นว่าถ้าอากาศดีเห็นพระอาทิตย์ตก

บอกเลยว่าวิวงามและโรแมนซ์สุดๆ

หรือตอนเย็นหากพักที่นี่อยากดินเนอร์บนแพ

ก็สามารถแจ้งทางรีสอร์ทได้เลยเช่นกันจ้า

ราคาก็จะตามอาหารเลย

อยู่บนแพแล้วก็กดชัตเตอร์ไม่ยั้ง

วิวสวยมากกก

เคยไหมที่เราอยากนั่งเงียบๆ ในบรรยากาศสงบๆ

แต่ที่นี่มีให้มากกว่านั้น

สายลมโชยเอื่อยเบาๆ

เราสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด

ได้พักใจอย่างแท้จริง

เสร็จแล้วก็กลับมายังรีสอร์ทค่ะ

ช่วงเย็นมีฝนตกโปรยปรายพอให้ชื่นใจอีกหน่อย

ได้เวลามื้อเย็นแล้วค่ะ เป็นบุตเฟ่ต์เช่นเคย

อาหารเยอะมาก

อาหารพิเศษวันนี้จะเป็นปลาทับทิมนึ่งค่ะ

จะให้ดีต้องสั่งค็อกเทลมาทานด้วย

จะได้เข้ากันกับบรรยากาศ

ค็อกเทลและเครื่องดื่มไม่รวมในแพ็คเกจนะคะ

อิ่มจากมื้อค่ำ เช้าวันต่อมาเราทานอาหารเสร็จเห็นอากาศดี

เลยถ่ายภาพมุมสูงมาฝากอีกหน่อย

วิวทิวทัศน์ช่างกว้างขวางสุดลูกหูลูกตาจริงๆ

ก่อนกลับอย่าลืมแวะให้อาหารปลานะคะ

เวลาแห่งความสุข 3วัน2 คืนของอิ้มที่แพ 500 ไร่

หมดไปอย่างรวดเร็ว

เป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขมาก

เหมือนได้มาชาร์ตแบต

พักความเหนื่อยล้าต่างๆ นาๆ เอาไว้

สำหรับเรื่องราคาที่พัก

สามารถสอบถามได้ที่

https://www.facebook.com/500rairesort/

เพราะแต่ละช่วงเวลาราคาจะไม่เท่ากัน

ขึ้นอยู่กับฤดูกาลค่ะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ