เกาะสมุย
เกาะสมุย เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
เรียกได้ว่าเป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว
ไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้น
ชาวต่างชาติยังให้ความนิยมในการมาพักผ่อน
ที่เกาะสมุยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
ด้วยน้ำทะเลสีสวยใส
ใครๆ ก็เลยอยากปักหมุดจะมาสัมผัสบรรยากาศของชายทะเลสมุย
และที่สมุยเอง ก็มีชายหาดดังๆ อยู่ถึง 4 หาด
เริ่มตั้งแต่หาดเฉวง
นับว่าเป็นชายหาดที่โด่งดังที่สุดของเกาะสมุย
บรรยากาศคึกคักครื้นเครง
แถมถนนเส้นหน้าหาดยังเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและผับมากมาย
เป็นไฮไลท์และเพิ่มสีสันยามค่ำคืน
นอกจากนั้นยังมีหาดละไม หาดแม่น้ำ หาดบางปอ
ความสวยงามและความนิยมก็เรียงตามลำดับลงไป
สำหรับอิ้ม จะน่าอายไหม
ถ้าจะบอกว่าเป็นการมาสมุยเป็นครั้งแรก
แหมๆๆๆ เอาหน่า หยวนๆ กันไปแล้วกัน
แล้วการไปสมุยครั้งนี้ของอิ้มขอบอกว่าไม่ธรรมดานะจ้ะ
เพราะเป็นการไปพักผ่อนที่โรงแรมสุดหรูอีกโรงแรมหนึ่ง
นั่นก็คือโรงแรม Amari Koh Samui
ไปพักผ่อนกับคนรู้ใจกับแพ็คเกจสุดเกร๋
ที่มีชื่อว่า Heart shaped package
ที่เหมาะมากกกกสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อน
หรือมาฮันนี่มูนกับแบบ exclusive
นอกจากเป็นแพ็คเกจที่ดี๊ดีสำหรับคู่รักแล้ว
ราคายังน่าคบหาอีกด้วย
เอาหล่ะค่ะ เดี๋ยวรายละเอียด ราคาเป็นอย่างไร
และมีอะไรในแพ็คเกจ แล้วโรงแรมนี้สวยไหม
ติดหาดรึเปล่า คำตอบทั้งหมดอยู่ในรีวิวนี้แล้วค่ะ
นิยามแห่งความสุข @Amari Koh Samui
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://www.facebook.com/AmariKohSamui/
ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
อิ้มเดินทางจากกรุงเทพฯ และแน่นอนไปสมุย
ก็ต้องบินกับบางกอกถูกไหมคะ
บอกเลยว่าบางกอกมีความดีงาม
เพราะเค้ามีเที่ยวบิน ที่บินตรงไปสมุย ถึงวันเกือบ 20 เที่ยว
แถมเวลาบินกับบางกอกถ้าเป็นที่นั่งธรรมดาก็สามารถใช้บริการเลาจน์ได้
แต่ถ้าบินชั้นธุรกิจ (Business Class) ก็สามารถใช้บริการ Blue Ribbon Lounge ได้
ที่ผ่านมาอิ้มเคยรีวิวเลาจน์ปกติไปแล้ว
วันนี้อิ้มจะมารีวิวในส่วนของ Blue Ribbon Lounge กันค่ะ
มาเริ่มที่ Interior Design ค่ะ สวยงาม หรูหรา
มีสีฟ้าเป็นหลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบางกอกแอร์เวย์
มีที่นั่งหลายมุม เพียงพอ เป็นการผ่อนคลายที่ดีงาม
ก่อนการขึ้นเครื่องมากๆ
อย่างมุมนี้ก็เจ๋งนะคะ เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้า สามารถนั่งไป
ชมภาพยนต์เรื่องโปรดไปก็ดีงามไม่เบา
แต่จะให้ดีสั่งไวน์มาทานสักแก้ว
จะเพิ่มความอรรถรสเป็นอย่างมาก
ของอิ้มเลือกนั่งด้านนอกค่ะ พอเราได้ที่นั่งพนักงานก็กล่าวทักทายต้อนรับอย่างอบอุ่น
และยื่นเมนูอาหารมาให้
แน่นอนค่ะเช้าๆ หิวๆ แบบนี้ จัดใหญ่กันมาเลย
ของอร่อยทั้งน้านนน ไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวกุ้ง
ข้าวแกงเผ็ดเป็ดย่าง
และนอกจากในเมนูแล้ว
เค้ายังมีไลน์ อาหาร ขนม และน้ำดื่มต่างๆ
ที่เสิร์ฟบริการฟรีแบบไม่อั้น
อิ้มนี่แทบคลานขึ้นเครื่องเลยค่ะ
จริงๆ บนเครื่องก็มีเสิร์ฟอาหารอีกนะคะ
แต่ร่างกายไม่ไหวแล้ว 5555
โอเคค่า เดินทางสักแป๊ปเราก็ถึงสนามบินที่เรียกว่าสวยที่สุดในประเทศกันแล้ว
อิ้มรีบดิ่งไปที่ Avis Rent A Car
รถเช่าที่อิ้มเลือกใช้บริการในวันนี้ค่ะ
พอเซ็นเอกสารรับรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เราก็ออกมาตรวจเช็คสภาพรถไปพร้อมๆ กับพนักงานค่ะ
พร้อมแล้ว ไปกันเล้ยยยยย
ขับรถไม่กี่นาที ก็ถึงที่พักของเราคืนนี้กันแล้วค่ะ
อมารี เกาะสมุย
อมารี เกาะสมุย ตั้งอยู่ที่ชายหาดเฉวง
หาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ
ถ้าอากาศดีน้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ แบบนี้ค่ะ
บริเวณรีสอร์ทมีทั้งหมด 193 ห้อง
มีสองฝั่งทั้งที่ไม่ติดทะเล
เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ
และฝั่งติดทะเลสำหรับคนที่พักผ่อน ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
อย่างว่ายน้ำ อาบแดดริมทะเล
ทานอาหารริมทะเล เดินชิลริมทะเล
แบ่งเป็น 3 วิง ได้แก่ Thai village wing, garden wing
และสุดท้าย Beach wing
เลือกได้เลยค่ะว่าชอบสไตล์ไหน
ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการพักผ่อนแน่นอน
จะเห็นได้ว่าทั้งสองฝั่งห่างกันเพียงถนนกั้น
แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนะคะ
เพราะเค้ามียามดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ถึงแล้วก็ต้องเช็คอินกันก่อนนะคะ
โดยอิ้มพักห้อง Junior suite Beach wing ค่ะ
เห็นบรรยากาศด้านนอกเป็นไทยๆ แบบนี้
หลายคนอาจจะคิดว่าต้องดีไซน์เก่าๆ แน่ๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย
ภายในห้องพักจะดูโมเดิร์น มีความทันสมัย
เป็นไทยประยุกต์ที่ลงตัวมาก
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นนะคะ ว่าอิ้มจองมาในส่วนของ heart shaped package
Heart shaped package คืออะไร
Heart shaped package เป็นแพคเกจสำหรับคู่รัก
ที่ต้องการมา Honeymoon เป็นแพ็คเกจที่อิ้มว่าคุ้มมากๆ เพราะคุณจะได้รับ
1.รถรับส่งไป-กลับสนามบินสมุย
2.นวด Signature Mood – 60 นาที ที่ บรีซ สปา
3.การจัดห้องพักฮันนีมูน
ตกแต่งเตียงด้วยกลีบกุหลาบ, เค้กฮันนีมูน, ช่อดอกกุหลาบ และสปาร์คกลิ้งไวน์
4. การันตีเช็คเอาท์สาย ถึงเวลา 15.00 น.
5 .Dinner 1 มื้อ ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน Prego
เซ็ตดินเนอร์อาหารอิตาเลียน 3 คอร์ส
โดย มาสเตอร์ เชฟของทางโรงแรม
โดยราคาเริ่มต้นคืนละ 4,023 บาทเท่านั้น
(ราคาขึ้นอยู่กับห้องพักที่เลือกค่ะ)
ใครสนใจอยากพาคนที่คุณรักมา Honeymoon
แนะนำแพ็คเกจนี้นะคะรับรองประทับใจแน่ๆ
ภายในห้อง Junior suite Beach wing ค่ะ
ตกแต่งเรียบง่าย โดยใช้โทนสีฟ้าเป็นหลัก
และเพิ่ม Detail ความเป็นสมุย
โดยใส่ลวดลายของมะพร้าวลงไปตามจุดต่างๆ ของห้อง
เพิ่มความผ่อนคลายด้วยการใช้สีของไม้ทำให้ดูสบายตาขึ้น
บนเตียงนี่มีความหว๊านน ถึงขีดสุด
เพราะเค้าจะตกแต่งด้วยกลีบดอกกุหลาบ
ตอกย้ำความหวานด้วยการวางช่อดอกกุหลาบวางไว้บนเตียง
คุณแฟนนี่ดูเขิลๆ นะ เอ๊ะๆ สงสัยคิดอะไรอยู่ อิอิ
อย่าเพิ่งคิดไปไหนไกลค๊าา นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นเอง
สิ่งที่มีใน Heart shaped package ยังไม่หมดนะคะ
ที่วางไว้บนโต๊ะคือใช่หมด โอ้โห ตาวาวเลยค๊าา
มีทั้ง เค้กฮันนีมูน, ช็อกโกแลต เวลคัมฟรุ๊ต
และสปาร์คกลิ้งไวน์ คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ
นอกจากนั้นภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
มินิบาร์ มีราคาบอกชัดเจน
ส่วนชา กาแฟ ให้บริการฟรีค่ะ
amenity จะเป็นผลิตภัณฑ์ของ Breeze Spa ทั้งหมด
หอมมากกกและดีย์มากก
ด้านหน้าห้องมีระบียงพร้อมโซฟา เบด นั่งผ่อนคลาย ชมวิวทะเล
จากด้านหน้าห้อง
เราสามารถเดินออกมาด้านนอกได้สะดวกเชียวค่ะ
ด้านนอกมีมุมผ่อนคลายมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นลานหมากฮอตขนาดใหญ่
สระว่ายน้ำ และเก้าอี้ชายหาด
สระว่ายน้ำที่นี่น่าเล่นม๊ากกกค่ะ
สระว่ายน้ำสีฟ้าที่แบ่งแยกโซนเด็กและผู้ใหญ่ได้ชัดเจน
หรือจะนั่งชิลๆ รับลมทะเลที่มุมนี้ดีล่ะ
ช่วงกลางวันไปถึงตอนเย็นแขกส่วนมากมักจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ
เรียกว่าจับจองที่นั่ง นั่งกันยาวๆ ไปค่ะ
เดี๋ยวอิ้มพาข้ามฝั่งกันหน่อยไปชมห้องพักโซนอื่นกันบ้าง
เริ่มที่ Type เริ่มต้นของที่นี่ค่ะ เป็น Superior Garden Wing
พื้นที่ใช้สอยกำลังพอดีอยู่ที่ 42 ตารางเมตร
ภายนอกมีระเบียง นั่งชมสวน เหมาะกับคนที่รักความสงบ
ไม่ชอบความวุ่นวาย
ต่อมาค่ะ Deluxe Pool View
มาในพื้นที่ใช้สอยเบาๆ 39 ตารางเมตร
สำหรับคนที่ชอบสระว่ายน้ำ และสะดวกสบาย
ต่อมาเป็น Deluxe Thai Village
ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 37 ตารางเมตร
ตั้งอยู่ในโซนไทยวิลเลจ วิง
ห้องพักที่นี่ตกแต่งทันสมัย
และเรียบง่าย สวยงาม อย่าง Type นี้บรรยากาศสบายๆ น่าพักผ่อน
สุดท้ายค่ะ Deluxe Family Duplex ค่ะ
พื้นที่ใช้สอย 49 ตารางเมตร
Type นี้น่ารักมากกก มี 2 ชั้นด้วยกัน
ชั้นล่างเป็นห้องนอนหลัก มีสิ่งอพนวยความสะดวกครบครัน
ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนใต้หลังคา
เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากมาพักผ่อนใช้เวลาอยู่ร่วมกันโดยที่ไม่อยากแยกห้องนอน
เดินชมห้องพักกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มาหาขนมทานเล่นกันดีกว่าค่ะ
Amaya Cafe
Amaya cafe เปิดให้บริการทุกวัน
เริ่มตั้งแต่เวลา 11 โมงจนถึง 4 ทุ่ม
Cafe ตั้งอยู่ติดถนนเฉวง สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าพัก
ก็สามารถเข้ามาใช้บริการ cafe นี้ได้
ภายในตกแต่งน่ารักมีมุมชิคๆ เก๋ๆ
น่าถ่ายภาพหลายมุม สาวๆ ที่ชอบเซลฟี่น่าจะถูกใจ
ที่นี่ให้บริการอาหารและเครื่อมดื่มต่างๆ หลากหลายชนิด
วันนี้ลองทานแต่ขนมค่ะ โดยเริ่มที่เจ้า Chocolate ชิ้นนี้
เป็นช็อกโกแลตที่อร่อยมาก
หวาน นุ่ม ละมุนลิ้น
และขนมอีกสองชนิดซึ่งจำชื่อไม่ได้
แต่รสชาติ ติดตราตรึงใจมาก
ถูกปากทุกชิ้นเลยค่ะ
ทานเบาๆ ก็อิ่มแล้วค่ะ อิอิ เปล่าหรอก
เพราะช่วงเย็นอิ้มมีนัดทำสปา
จึงไม่อยากทานเยอะค่ะ
จาก Amaya cafe อิ้มขึ้นมายังชั้นบน
ก็พบกับ Voyager Lounge
ที่แขกผู้เข้าพักสามารถมาใช้บริการได้ทั้งวัน
จะนั่งเพลินๆ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ หรือรอเที่ยวบินกลับ
สามารถมาใช้บริการ Voyager Lounge ได้อย่างสบายมาก
หรือหากคุณเช็คเอาท์แล้ว แล้วต้องออกไปดำน้ำไม่ต้องห่วงนะคะ
ภายใน Voyager Lounge แห่งนี้มีห้องอาบน้ำ ล็อคเกอร์
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใส่ใจรายละเอียดจริงๆ
ด้านในของ Voyager Lounge ยังมี ฟิต เซ็นเตอร์
ฟิตเนสสำหรับคนรักสุขภาพ
ได้เวลาทำสปาแล้วค่ะ
Breeze Spa เป็น Brand Spa ชั้นนำ
ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งหมด 9 สาขา
ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟ์ บังกลาเทศ และกาตาร์
การมาทำสปาที่นี่มาจากแนวคิดเริ่มต้นจากคำว่า ความสุข
พื้นฐานง่ายๆ แต่ต้องให้บริการด้วยความจริงใจ
เพราะฉะนั้นคนมาใช้บริการ จะต้องกลับไปด้วยความสุข
ความผ่อนคลาย ความกระปรี้กระเปร่า และรอยยิ้ม
ที่นี่ประกอบไปด้วยสามห้องทรีตเม้นต์ด้วยกันค่ะ
เมื่อมาถึงแล้วเค้าจะเสิร์ฟ welcome drink
เพื่อเพิ่มความสดชื่นก่อนเข้าสปา
วันนี้อิ้มจะทำในส่วนของ ซิกเนเจอร์ มูด ทรีตเม้นต์ 60 นาที
ซึ่งรวมอยู่ในแพ็คเกจ Heart shaped package
เพราะฉะนั้นขอเวลาผ่อนคลายสักครู่นะคะ
หลังจากทำสปาเสร็จมีความสบายเนื้อตัวเป็นอย่างมาก
ออกมาชมบรรยากาศในช่วงเย็นๆ กันบ้างค่ะ
บริเวณด้านหน้า Lobby
บรรยากาศอมาญา คาเฟ่ ในช่วงเย็นๆ
เหมาะกับการมานั่งชิลมาก
ภายใน Lobby ค่ะ ช่วงเย็นคนจะน้อยหน่อยพอถ่ายรูปได้
โดย Lobby ที่นี่จะเป็น Open airs นะคะ
มองจากด้านหน้าไปจะมองเห็นทะเลได้เลย วิวดีสุดๆ
เดินผ่านกลับมามองเข้าไปยัง Lobby
ยิ่งช่วงค่ำ ไฟถูกเปิด แสงไฟตัดกับช่วงทไวไลท์
ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ฟ์มากยิ่งขึ้น
อีกอย่างที่อิ้มชอบที่นี่คือ การปลูกต้นไม้ค่ะ
ช่วยให้ดูร่มรื่นขึ้นมาก
มองจากสระว่ายน้ำไปก็สวยมากเช่นกัน
ช่วงค่ำ บรรยากาศโดยรอบจะเงียบสงบลง
แขกบางท่านก็เลือกจะนั่งชิลๆ ริมทะเล ที่ Amaya Bar
และสั่งเครื่องดื่มมาทาน
Amaya Barเปิดให้บริการทุกวันเริ่ม 10 โมงเช้าถึง 5 ทุ่มนะคะ
หรือบางท่านก็เติมความพิเศษไปในช่วงเวลาพิเศษ
ด้วยการทาน Romantic dinner
ทานอาหารอร่อยๆ กับคนรู้ใจ ปล่อยบรรยากาศรอบข้างขับกล่อม
มีทะเลกับสายลมอยู่เป็นเพื่อน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
นอกจากนั้นที่ Amari ยังมีอีกห้องอาหารนึงค่ะ
ชื่อว่า Amaya Food Gallery
ถือว่าเป็นห้องอาหารหลัก
ของทางโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ อมารี เลยนะคะ
นั่งได้ทั้งโซนนอกและโซนในบรรยากาศดีไม่แพ้กันค่ะ
เอาหล่ะค่ะ ถึงเวลาอาหารกันแล้ว
ขออธิบายในส่วนของ Amaya Food Gallery สักนิดนะคะ
Amaya Food Gallery
มีการนำเอาความเป็นสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในแต่ละภูมิภาค
และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทุกมุมโลก
มารวบรวมไว้ที่ Amaya Food Gallery
เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า
คุณจะได้ลิ้มรสอาหารที่ดีและเป็นที่นิยมแน่นอน
เริ่มต้นที่ เมนูทานเล่นและรสชาติไม่เล่นนะคะ อิอิ
จานนี้คอหมูย่างค่ะ เสริ์ฟคู่น้ำจิ้มแจ่ว รสชาติแซ่บเวอร์
ต่อมาปอเปี๊ยะ กับ ถุงทอง ทานเพลินๆ แป๊ปเดียวหมดไม่รู้ตัว
ต่อมาเป็นต้มข่าทะเลมะพร้าวอ่อนค่ะ เข้มข้นหอมมะพร้าว
จานนี้ผัดผักสี่สหายค่ะ ผักสด กรอบๆ สไตล์อาหารจีน
ต่อมาเป็นข้าวอบสับปะรดค่ะ
จานนี้หน้าตาแปลกๆ
แน่นอนค่ะเป็นอาหารชั้นนำของเพื่อนบ้านของมาเลเซีย
ชื่อของเค้าก็คือ Lamp Rendang
เป็นแกงเนื้อแกะรสชาติเข้มข้น จัดหนักเครื่องเทศ
เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสีเหลือง เป็นอีกเมนูนึงที่ควรมาลองนะคะ
ยังค่ะยังไม่หมดจะขาดอาหารยอดนิยมของไทยไปไม่ได้
จานนี้คือ Samui Saefood platter
ซีฟู้ดสดๆ จัดมาจานใหญ่มากก
เสิร์ฟพร้อมมะนาว น้ำจิ้มซีฟู้ด และเนยกระเทียม
จัดให้เต็มท้องกันไปเลย
ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง
หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อนค่ะ
พอกลับมาที่ห้องเค้าก็มา Turn down พร้อมวางเค้กจานโตไว้ให้ หวานได้อีก
ช่วงกลางคืนภายในห้องเวลาเปิดไฟก็สวยไปอีกแบบนะคะ
มาชมในห้องน้ำกันต่อค่ะ มี Bathtub
พร้อมโรยกลีบกุหลาบเพิ่มความโรแมนติก
ได้เวลาดื่มด่ำกับความสุขให้เต็มที่แล้วค่ะ
…
วันที่สองอิ้มตื่นเช้าหน่อยค่ะ มาสำรวจไลน์อาหารเช้ากัน
อาหารเช้าให้บริการตั้งแต่ หกโมงครึ่ง ถึง สิบโมงครึ่งนะคะ
ไลน์อาหารถือว่าเยอะพอควร แถมคุณภาพดีๆ ทั้งนั้น
ไปชมกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง
เป็นแค่ส่วนหนึ่งนะคะ ด้านนอกยังมี ก๋วยเตี๋ยว โจ๊ก
egg station ติ่มซำ
อาหารยอดฮิตจากฝั่งอินเดีย อย่างแป้งนาน
ซาโมซ่า
ทานคู่กับแกงกะหรี่ค่ะ
มาดูที่อิ้มเลือกทานกันบ้าง
อ้อ อย่าลืมทาน egg benedict นะคะ
เป็นเมนูอาหารเช้าขึ้นชื่อของเค้าเลย
มาเริ่มทานกันค๊าา
ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิ้มก็ออกไปตระเวนเที่ยวชิลๆ บนเกาะสมุย
ตามรอย Destination Amari
จุดแรกที่แวะก็คือ จุดชมวิวลาดเกาะ
Lad Koh Viewpoint Koh samui
จุดชมวิวนี้อยู่ตั้งอยู่บนเขาสูง
บริเวณระหว่างหาดเฉวงกับหาดละไม
เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมากันเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากว่าเป็นจุดที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม
เหมาะแก่การถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
อีกทั้งยังเป็นทางผ่านไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกด้วยนะคะ
เดี๋ยวๆ ทำไมไม่สนใจวิวกันเลย
อ้อๆๆ พอหันมาถึงเข้าใจ
นี่มันร้านไอศครีมมะพร้าวชื่อดังของเกาะสมุยนี่หน่า
จัดมาเบาๆ ทั้งแบบโคนและแบบแท่งอร่อยม๊าากพูดเลย
ต่อมาเราแวะไปที่ Lolamui Cafe ร้านกาแฟในสวน บรรยากาศสุดชิล
มีมุมให้เลือกนั่งมากมายเลยค่ะ
มาที่นี่ควรต้องสั่ง เค้กเผือกมะพร้าวอ่อน และบานอฟฟี่
งานดี งานอร่อยต้องบอกต่อ
ขับรถเที่ยวเพลินๆ เสร็จก็กลับมายังรีสอร์ท
มาเดินชิลรับลมทะเล
พร้อมชมภาพมุมสูงกันหน่อย
ช่วงค่ำเรามาทานอาหารกันที่ ห้องอาหารเปรโก้
เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนจ๋าๆ
ได้ยินมาว่าเชฟเป็นชาวอิตาเลี่ยนด้วยนะ
รับประกันความอร่อย คนรักอาหารอิตาเลี่ยนห้ามพลาด
ห้องอาหารเปรโก้ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโซนบีช วิง
มีที่นั่งทั้งโซนแอร์ และ open เปิดทุกวันเที่ยงวัน ถึง เที่ยงคืน
อิ้มจองในส่วนของ Heart shaped package มา เพราะฉะนั้น
มื้อพิเศษที่ห้องอาหารเปรโก้ก็จะรวมอยู่ในแพ็คเกจด้วยนะคะ
แต่จะเป็นเซ็ตดินเนอร์อาหารอิตาเลียน 3 คอร์สค่ะ
ห้องอาหารเปรโก้มีชื่อเสียงมากในการทำรีซอตโต และพาสต้าแบบโฮมเมด
และอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ พิซซ่าเตาถ่าน
เค้าใช้การอบความร้อนด้วยฝืนไม้ยูคาลิปตัส
ใช้ไฟและความร้อนที่ได้มาตรฐาน
ทำให้พิซซ่าทุกถาดมีความอร่อยและกรอบพอดี
สั่งพิซซ่ากันไปแล้วมานั่งรอด้านในที่เป็นโซนแอร์กันค่ะ
สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาทานกันดีกว่า
รับ Prosecco สักแก้วไหมคะ
นั่งไม่นานอาหารก็ทะยอยมาเสิร์ฟแล้วค่ะ
จานแรกจะเป็นสลัดผักสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนซีฟู้ด
รสชาติแปลกใหม่ แต่ถูกปากอิ้มมาก
ต่อมาเป็นจานใหญ่ที่รวบรวมของดีจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น
โคลด์คัทสไตล์อิตาเลี่ยน
แซลมอนจากนอร์เวย์ หอยแมงภู่นิวซีแลนด์
กุ้งลายเสือของไทย
และmozzarella cheese สดๆ ละมุนลิ้น
จานนี้เด็ดมาก ทานเพลินๆ ถูกใจอิ้มสุดๆ
ถ้ามากับเพื่อนหลายๆ คนสั่งจานนี้ แนะนำค่ะ
ต่อมาก็ต้องทานสเต็กค่ะ baby lamp
เนื้อดีงามชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่น อันนี้เริ่ดสุด
จานนี้เป็นกั้งสดๆ นำมากริล สไตล์ไทยๆ
จานสุดท้ายเป็น sirloin steak อร่อยมากกก
ปิดท้ายของหวานจากเชฟค่ะ
ทานอาหารเสร็จเราก็ไปเที่ยวต่อด้วยการไปดูคาบาเร่โชว์
ปิดท้ายความสุขและความสุขครบรสที่สมุย
ช่วงเช้าอิ้มพักผ่อนในรีสอร์ทอีกสักหน่อยก่อนจะเดินทางกลับ
ก่อนกลับขับรถเที่ยววนๆ ในเกาะสมุย อีกสักรอบ ก่อนนำรถเช่าไป ไปคืน
ของเอวิสเค้าจะทิ้งเบอรืโทรเจ้าหน้าที่เอาไว้
ก่อนจะนำรถไปคืนให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน เค้าจะมารอรับค่ะ สะดวกมากมาย
ขากลับเดินทางกลับ กับ บางกอกแอร์เวย์เช่นเคย
อีกหนึ่งข้อดีที่บินชั้นธุรกิจจากสนามบินสมุย นั่นก็คือ
เลาจน์ห้องแอร์ พร้อมอาหารน่าทานๆ มากมาย
ขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่แสนจะประทับใจ
นี่เป็นอีกทริปที่มีความพิเศษ และแฝงไปด้วยความสุข
ถือเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษจริงๆค่ะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
ดูรีวิวแล้วอยากไปสมุยเลยค่ะ นี่ตอนแรกจะจองบางกอกแอร์ไปช่วงเดือนพ.ย. แต่เห็นว่าช่วงนั้นเป็นมรสุมเลยต้องยกเลิกจองไปเลย
โรงแรมอมารีนี่หรูดีนะคะ มีครบทุกอย่างเลย ห้องก็น่านอน อาหารก็น่าทาน
ถูกใจLiked by 1 person
ตอนนี้ถ้าไปสมุย แนะนำอมารีเลยค่าสะดวกสบาย หรูหรา อาหารอร่อยม๊ากกก ลองดูโปรบินดีอยู่ดีนะคะ ราคาที่พักรวมตั๋วน่าจะประหยัดมาก แต่ต้องดูสภาพอากาศอีกทีค๊า ขอบคุณที่เข้ามาชมรีวิวนะค๊าา ❤❤❤
ถูกใจถูกใจ