เวลา เป็นสิ่งมีค่าสำหรับทุกๆ คน สำหรับอิ้มอยากให้วันนึงมีสัก 48 ชั่วโมง ยิ่งเวลาที่เราได้พักผ่อนในบรรยากาศที่แสนประทับใจ และมีคนที่เรารักอยู่ใกล้ๆ ยิ่งอยากให้เวลาเดินผ่านไปอย่างช้าๆ
เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ควรค่ากับการไปเที่ยวทะเลเป็นอย่างมาก แน่นอนล่ะค่ะ อิ้มเลือกไปไกลๆ หน่อยแบบไปพักผ่อนชิลๆ แต่สามารถขับรถไปเองได้ ระหว่างทางเปิดเพลงฟังสบายๆ ยังได้ชมธรรมชาติที่สมบูรณ์ระหว่างสองข้างทาง
อิ้มเลือกไปพักผ่อนที่ เกาะกูด หนึ่งในเกาะที่สวยงามของจังหวัดตราด เกาะกูดยังมีชื่อเรื่องความสวยงาม และเงียบสงบอันตับต้นๆ ของทะเลฝั่งอ่าวไทย เกาะกูดเป็นเกาะสุดท้ายในทะเลทางฝั่งตะวันออกของไทย ที่นี่จึงยังไม่มีความเจริญ มากมายใดๆ นัก แม้แต่รถก็ไม่สามารถขับไปได้เหมือนเกาะช้างนะคะ แต่กระนั้นเองบนเกาะก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสถานพยาบาล สถานีตำรวจ โรงเรียน ฯลฯ
ชาวบ้านบนเกาะกูดยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมชาติบนเกาะจึงยังคงสวยงามอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเกาะกูด ยังเต็มไปด้วยท้องทะเลที่สวยงาม เงียบสงบ น้ำทะเลสวยใส มองเห็นพื้นทะเลได้อย่างชัดเจน เกาะกูดจึงทำให้อิ้มหลงรักได้อย่างง่ายดาย
รีวิวนี้อิ้มจะพาทุกท่านไปพักยังรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเกาะกูด ที่นี่คือ Away Koh Kood ค่ะ
เป็นรีสอร์ทที่หลายๆ คนพูดถึง ฟังจากหลากหลายเสียงก็ไม่สู้ได้เข้าพักผ่อนเองจริงไหมคะ
เดี๋ยวมาชมกันค่ะ ว่าที่นี่จะชิลสมคำร่ำลือไหม ตามไปชมรีวิวนี้พร้อมๆกันเลยค่ะ
ปล่อยเวลาให้เดินช้า @ Away Koh Kood Resort
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท
https://www.facebook.com/AwayKohKoodResort/
ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
มีแบบเป็นคลิปเพื่อความเพลิดเพลินอย่าลืมกด HD เพื่อความชัดในการรับชมด้วยนะคะ
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ค่ะ อิ้มขับรถไปเองและไปจอดยังจุดรับฝากรถ ราคาฝากรถคันละ 50 บาทค่ะ อิ้มตื่นเช้าหน่อยออกจากบ้านราวๆ ตีห้า ขับรถชิลๆ ชมวิวระหว่างทางและไม่ต้องรีบร้อน เพื่อมาถึงท่าเรือแหลมศอกสักประมาณ 11 โมงครึ่ง ครั้งนี้อิ้มจะเดินทางไปเกาะกูด โดยใช้บริการเรือเฟอร์รี่ของเกาะกูดเอ็กซ์เพรส ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่เที่ยวละ 350 บาท ไป-กลับก็อยู่ที่ 700 บาท
เส้นทางจากท่าเรือแหลมศอกไปเกาะกูดใช้เวลาประมาณ 60-70 นาที
ที่สำคัญ *** เรือมีวันละรอบเท่านั้น*** รักษาเวลากันหน่อยนะคะ ไม่งั้นอาจจะตกเรือแน่นอน
ขึ้นมาบนเรือแล้ว อิ้มแอบงีบไปด้วยแหละ ก็บนเรือแอร์เย็นสบายที่สู้ดดด
พอเดินทางมาถึงก็จะรถรับส่งของทางเกาะกูดเอ็กซ์เพรสมาส่งเราถึงหน้ารีสอร์ทเลยค่ะ สะดวกมากมาย
มาถึงแล้วก็ต้องดิ่งไปยัง Reception ก่อนเลยค่ะ
พนักงานที่นี่น่ารักมาก บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พออิ้มนั่งปู๊ป Welcome Drink เย็นๆ ชื่นใจ ก็มาเสิร์ฟถึงที่
เช็คอินเสร็จแล้วก็ไปเข้าห้องพักกันดีกว่าค่ะ
ที่นี่จะมีห้องพักอยู่ 3 Room Type ด้วยกันนั่นก็คือ
1. Duplex Bungalow
2. Deluxe Ocean Facing Bungalow
3. Oceanfront Bungalow
ซึ่งอิ้มพักที่ Oceanfront Bungalow อยู่ด้านหน้าของรีสอร์ท มีอยู่เพียง 10 หลังเท่านั้น
หน้าตาของ Oceanfront Bungalow ค่ะ เป็นเหมือนบ้านเดี่ยวหลังขนาดกำลังพอดี ด้านหน้าปลูกต้นไม้แทนแนวขอบรั้วให้ดูมิชิดขึ้น
ด้านหน้าบ้านจะมีเปลให้นอนทิ้งตัว สบายๆ
ถัดจากหน้าบ้านไปจะมีศาลามุงจาก มีหมอนให้สองใบนอนฟังเสียงทะเล
อิ้มมัวแต่ตื่นเต้น กับฉากหน้าที่มีทะเล และบรรยากาศที่แสนจะเหมาะกับการพักผ่อนอยู่พักใหญ่ คุณแฟนก็เรียกขึ้นมาเก็บข้าวเก็บของ แหมมม กำลังอินกันเลยทีเดียวค่ะ คุณณณณณ
เดินมาด้านบน จะเจอมุมพักผ่อนก่อนเลยค่ะ ด้านนอกนี้จะมีชานด้านข้างบ้าน มีโซฟาเบด มีชั้นวางหนังสือเล็กๆ และโต๊ะไม้ตั้งอยู่ด้านข้าง สามารถนั่งทานข้าวที่มุมนี้ก็ได้เช่นกัน
หันด้านซ้ายก่อนเข้าห้อง จะมีชานระเบียงไม้เล็กๆ ยามเช้าอิ้มนั่งจิบกาแฟและนั่งทอดสายตามองทะเลที่เงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่อิ่มเอมกับการได้พักผ่อนจริงๆ ค่ะ
เข้ามาในห้องเป็นเตียง มีเตียงขนาด king size 2 เตียง เป็นเตียงใหญ่นอนเตียงละสอง สาม คนยังสบายๆ
ด้านบนเป็นหลังคาโปร่ง ตกแต่งด้วยการมีมุ้งให้ดูเก๋ยิ่งขึ้น
ส่วนของห้องน้ำ แอบเซ็กกซี่นิดๆ
ชมในส่วนของห้องพักไปแล้วเดินออกมาชมบรรยากาศด้านนอกกันบ้างนะคะ อากาศเย็ยสบาย เดินรับลมทะเลในช่วงเย็น เพลิดเพลินมาก อิ้มเลือกเดินทางมายังจุดไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ
สะพานไม้ที่ทอดยาวไปในทะเล มองจากตรงนี้น้ำใสมาก
เห้ยยยย แกร ฮิปเตอร์สักรูปมะ เห็นเค้าฮิตเลยลองดูบ้าง อิอิ
ด้วยความใสของน้ำทะเล ทำให้เรามองเห็นปลาตัวเล็กๆ แหวกว่ายมาทักทายเราอยู่ไม่ขาดสาย
จะมีสักกี่เวลาที่เราจะได้นั่งเงียบๆ ฟังเสียงทะเล ปล่อยตัวสบายๆ เอนกายนั่งมองทะเล อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆ
เผลอไปแป๊ปเดียวเวลาของวันแรกก็กำลังจะหมดลงไป ช่วงเย็นๆ ที่นี่ยิ่งเงียบสงบค่ะ หากคุณต้องการมาชาร์ตแบตพักผ่อนให้ร่างกาย ลองเลือกที่นี่เป็นอันดับต้นๆ ดูนะคะ ตอบโจทย์ได้เกือบทุกข้อเลย
Oceanfront Bungalow ในช่วงค่ำค่ะ
เย็นแล้วเดี๋ยวเราไปทานอาหารค่ำกันค่ะ อยู่ที่นี่ทานอาหารในรีสอร์ทตลอดเลย อิ่มท้องและอร่อยราคาไม่แรง
แต่ถ้าอยากคุ้มกว่านี้ต้องจองเป็นแพ็คเกจค่ะ รวมค่าห้องและอาหาร ดีงามสุดๆ บอกเลยจองมากับแพ็คเกจคุ้มมากทีเดียว
หิวแล้วเดินไปทานข้าวกันดีกว่านะคะ ระหว่างทางมีไฟตลอดไม่ต้องกลัวจะมืดเลยค่ะ
เดินผ่านมุมโปรดของอิ้ม มุมนี้ถ้าอยากเพิ่มความหวานให้คนพิเศษ เค้ามีจัดโรแมนติกดินเนอร์ มุมนี้ด้วยนะคะ โรแมนติกสุดๆ
มองกลับไปยังรีสอร์ทค่ะ ส่วนที่เรามองเห็นจะเป็น Lobby และห้องอาหาร Escape ห้องอาหารหนึ่งเดียวของที่นี่ค่ะ
อาหารโดยทั่วไปก็จะเป็น อาหารไทย และนานาชาติ
แนะนำอาหารไทยนะคะ ถูกปาก และอร่อยมาก อย่างจานแรกนี้เป็นผัดฉ่าทะเล เครื่องแน่นมาก ซีฟู้ดสดๆ เข้มข้น เต็มรส เข้ากันอย่างลงตัว
ต่อมา ยำเนื้อย่างค่ะ เนื้อย่างหอมๆ ย่างมาพอดีๆ ไม่เหนียว ชิ้นกำลังพอดี คลุกเคล้าน้ำยำรสชาติจัดจ้าน หอมมะนาว แซ่บเวอร์
ต้มยำกุ้งน้ำข้น ถ้วยนี้อร่อยดี ซดตอนร้อนๆ คล่องคอ
กุ้งทอดกระเทียม กุ้งสดๆ ทอดกระเทียม ทานเพลินๆ แป๊ปเดียวหมดจาน
ยามเช้าอิ้มแนะนำให้ตื่นเช้าหน่อย มารับอากาศดีๆ ก็แหมมาพักผ่อนทัั้งที อย่ามัวแต่หลับอยู่ในห้องนะคะ เพราะถ้าจะมาหลับนอนอยู่บ้านก็ได้ไหมอ่ะ 5555
มาทานอาหารที่ Escape Restaurant เช่นเคย
อิ้มเลือกที่นั่งด้านริม เพราะจากตรงนี้เราสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ชัดเจน
ไลน์อาหารมีไม่มากแต่ก็ครบถ้วนค่ะ
ผลประกอบการเช้านี้ของอิ้ม
ทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินเล่นสำรวจรีสอร์ทกันต่อ
ที่นี่มีสระว่ายน้ำด้วยนะคะ แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก พอว่ายเพลินๆ ได้
กิจกรรมอีกอย่างที่เรียกว่าฮิตสุดๆ สำหรัยที่นี่นั่นก็คือการพายเรือ คายัคนั่นเอง ต้องอธิบายสักเล็กน้อยนะคะ
ที่ Away เกาะกูดนี้ด้านหน้าเป็นหินไม่เหมาะกับการเล่นน้ำทะเล ดังนั้น นักท่องเที่ยวต้องพายเรือคยัคไปเล่นน้ำที่หาดคลองเจ้า ซึ่งอยู่ห่างกันไม่กี่อึดใจ พายแป๊ปเดียวก็ถึง
เห็นหลังขาวๆ อุ้ยไม่ใช่ ทรายขาวๆ นั่นไหมคะ นั่นแหละค่ะ หาดคลองเจ้า เล่นน้ำทะเลตรงนั้นฟินสุด
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะนั่งชิลริมสระ หรือพายคายัคไปหาดคลองเจ้า
และนอกจากคายัค นี่คือกิจกรรมทั้งหมดที่นี่มี เยอะแยะไปหมด มีทั้งดำน้ำ ชมปะการัง ไปดูน้ำตก บลาๆ
เดินไปเดินมาก็มาบรรจบอยู่ที่เดิม ก็วิวตรงนี้คือมันดีมาก ต้องมาเห็นกับตาจะรู้ แล้วจะรู้สึกว่าโดนมนต์สะกดเหมือนอิ้ม
ร้อนแบบนี้หาเครื่องดื่มเย็นๆ มาทานกันหน่อย ชื่นใจจริงจัง ฤดูนี้ต้องยกให้ มะม่วงฟีเวอร์เท่านั้น
ช่วงบ่าย พาชมห้องพักกันหน่อยดีกว่านะคะ ส่วนนี้จะอยู่ด้านหลังสุดของรีสอร์ท อิ้มค่อนข้างชอบกับดีไซน์ Room Type นี้
Roomtype คือ Duplex Bungalow รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ อยู่ใจกลางธรรมชาติ
ตกแต่งได้ชิล มาก ด้านในมีสองชั้นนะคะ ถ้ามี Family ที่มีเด็กอายุราวๆ 10 ปีขึ้นไป จะเหมาะกำลังพอดี
ขึ้นไปชั้นสองกันค่า บันไดแคบนิดๆ ขึ้นลงด้วยความระมัดระวังนะคะ
ด้านบนมีเตียงสองเตียง มีพื้นที่นั่งเล่นนิดหน่อยค่ะ
มองลงมายังด้านล่าง
มาชมกันอีก 1 Roomtype ค่ะ นั่นก็คือ Deluxe Ocean Facing Bungalow
เป็นบ้านที่อยู่บนเนินเขามองเห็นวิวทะเลเล็กน้อย
ภายในตกแต่งได้น่ารักดีนะคะ ใช้สีขาว ตัดกับสีน้ำตาล ดูสบายตา เพิ่มลุกเล่นด้วยของแต่งห้องอย่างโมไฟ และตู้เสื้อผ้าเก๋ๆ เพิ่มความน่ารักของห้องนี้ไปอีก
ในส่วนของห้องน้ำค่ะ
ด้านนอกจะมีชาน คล้ายๆ กับ Oceanfront Bungalow แต่พื้นที่ใช้สอยจะแคบกว่านิดหน่อย
ได้เวลาหิวอีกแล้ว มาทานอาหารกลางวันกันค่ะ ยำวุ้นเส้นทะเล เบาๆ รับมื้อบ่าย
ของอิ้มเป็นเสต็กปลา
และคุณชาย ทานสเต็กไก่ค่ะ
อิ่มท้องแล้วไปชมภาพบรรยากาศมุมสูงของที่นี่กันบ้าง เห็นเป็นต้องร้องว้าว
ขอนางแบบสุดสตรองสักภาพแล้วกันนะคะ แหมมม เห็นแบบนี้นึกถึง America’s Next Top Model หราาา
แต่ขอบอกว่าพอลุกนี่หน้ามึนกันเลยทีเดียว แดดแรงเวอร์
เอามุมสวยๆ ธรรมดากันดีกว่าน่าจะดูดีกว่าแบบที่มีนางแบบ อิอิ
มองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่า Away Koh Kood เป็นรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดูเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ
เวลาช่วงเย็น ก็มาถึงอีกแล้ว สองวันสามคืน ไม่เคยพอจริงๆ ทะเล สายลม และความสงบ
หลากหลายปัจจัยที่ ที่อิ้มเลือกมาพักผ่อนที่นี่ แล้วอิ้มก็คิดว่าอิ้มเลือกไม่ผิดจริงๆ
ตัดภาพมาอย่างรวดเร็วเพราะเรากำลังจะเข้าสู่โหมด ของกินค่ะ เย็นนี้ทานอะไรกันดี เรื่องของกินนี่ขอให้บอก 555555
อิ้มถามคุณแฟนว่าจะทานแบบไหนดี
และนี่คือสิ่งที่เค้าเลือกให้ค่ะ Romantic Dinner
เป็นช่วงเวลาที่มีแค่เรา เป็นเวลาที่มีความพิเศษสำหรับอิ้มจริงๆ
สั่ง Cocktail มาจิบให้เข้ากับบรรยากาศ แก้วนี้คือ Sunset เป็นแก้วที่เหมาะกับบรรยากาศในเวลานี้มากมาย
อีกแก้วเป็น Twilight ช่างเป็นชื่อ Cocktail ที่สามารถอธิบายช่วงเวลาได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ อย่างพร้อมเพรียง อย่างแรกเป็น BBQ Seafood Set ภายใน Set จะเสิร์ฟพร้อมข้าวผัดเนย และน้ำซีฟู้ดสุดแซ่บ
เวลาดีๆ แบบนี้ และได้ทานอาหารพิเศษ กับคนพิเศษ ก็คงไม่มีอะไรจะพิเศษไปกว่านี้แล้วค่ะ
ทะเลผัดฉ่า ติดใจเมื่อวานจึงสั่งมาทานอีก
ปิดท้ายด้วยต้มยำกุ้งค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็เสิร์ฟ ผลไม้สดๆ ให้ทาน ปิดท้ายมื้อพิเศษ
เห็นไหมคะว่า เวลา นั้นเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับคนเราแค่ไหน ยิ่งถ้าเรามีเวลาพอคนที่เรารักไปพักผ่อนชาร์ตแบตเพิ่มความสุขให้ชีวิต เวลานั้นจะยิ่งรู้สึกมีค่าคูณสองเข้าไปอีก และพอเราได้เข้าไปอยู่ในช่วงเวลาเหล่านั้น เราจะรู้สึกอยากจะปล่อยเวลาให้เดินช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนที่อิ้มได้มาพักที่ Away Koh Kood ค่ะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ