13 ตุลาคม วันฟ้าหม่น
เราทุกคน กลั้นน้ำตา ไว้ไม่ไหว
สวรรค์พราก พ่อหลวง สู่คาลัย
ในหัวใจ แทบสลาย ตรมในทรวง
พระบิดรแห่งสยามจากไปแล้ว
วอนพระแก้วจงรอรับพระพ่อหลวง
ธ ทรงเป็น มหากษัตริย์ ของทั้งปวง
ขอพ่อหลวง สถิตย์ที่ ดวงใจ ไทยนิรันดร์
ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้
ข้าพระพุทธเจ้า psstory และ ครอบครัว
ผ่านมาหลายเดือนที่อิ้มเชื่อว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่พรากหัวใจของคนไทยไปทั้งแผ่นดิน
7 เดือนแล้วที่เราได้สูญเสีย พ่อหลวง พ่อของแผ่นดิน
ผืนดิน ท้องฟ้า ทุกอย่างเหมือนหยุดเคลื่อนไหว ถึงพ่อได้จาก แต่รักที่มีให้พ่อจะไม่มีวันจบสิ้น
พ่อ ได้สูญเสีย สละ หยาดเหงื่อ แรงกาย ดูแลผสกนิกรของพระองค์ รวมถึงแผ่นดินที่พระองค์ทรง
ดำรงค์ไว้ให้ลูกหลาน เพื่อให้ลูกหลานมีแผ่นดินอยู่
ถ้าให้พูดเรื่อง พระองค์ พูดเป็นปีคงไม่มีวันจบสิ้น เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำไว้ มีมากมายเหลือคณานับ
พระองค์ ไม่ได้อยู่บนแผ่นดินอีกแล้ว แต่พระองค์ทรงกลับไปอยู่บนสวรรค์ มองพวกเราจากบนฟ้า
คำสั่งสอน ของพระองค์ จะยังสถิตย์ อยู่ในใจเราคนไทยทั้งผองเสมอ
วันนี้เป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง เพราะอิ้มมีโอกาสได้ไปชม
นิทรรศการ บรมกษัตริยาธิราช
ที่จัดขึ้น ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และกระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรมตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ พระเกียรติคุณปรากฏแผ่ไพศาลทั่วสากลประเทศ ในการที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐและทรงเป็นแบบอย่างแห่งการดำรงชีวิตที่ดีงาม
โดย นิทรรศการ บรมกษัตริยาธิราช
จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 28 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00-18.00 น.
ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ใครสนใจรีบไปชมนะคะ เพราะมีเวลาแค่ 1 เดือนเท่านั้น เดี๋ยวอิ้มจะพาไปชมบางส่วนว่าภายในงานมีอะไรบ้าง ตามไปชมในรีวิวนี้พร้อมๆ กันนะคะ
หัวหิน บ้านของพ่อ
นิทรรศการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประกอบด้วย เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชจริยวัตร ณ พระตำหนักที่ประทับในวังสระปทุมครั้งทรงพระเยาว์และพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล สถานที่เสด็จอยู่เมื่อปลายพระชนม์ชีพ อีกทั้งพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรมตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลไปในสากลประเทศ
อิ้มโชคดีมากที่มีโอกาสได้มาชมนิทรรศการนี้เพราะอย่างน้อยช่วงชีวิตนึง อิ้มก็ได้มาอยู่ในส่วนนึง ของวัลไกลกังวล สถานที่ที่พระองค์ทรงเสด็จอยู่เมื่อปลายพระชนม์ชีพ
การแต่งกาย ชุดสุภาพไว้ทุกข์ สวมเสื้อมีแขน สตรีสวมกระโปรง บุรุษสวมกางเกงขายาว
ประตูทางเข้า ตรงข้ามโรงเรียนวังไกลกังวล ซอยหัวหิน 35 เราจอดรถด้านนอกนะคะ
จะเห็นศาลาราชประชาสมาคม อยู่ด้านหน้า แจ้งทหารด้านหน้าว่าจะเข้ามาชมนิทรรศการ บรมกษัตริยาธิราช ได้เลยค่ะ
วันที่อิ้มไปเป็นวันที่ 3 ของการเปิดแสดงนิทรรศการ ผู้คนยังแน่นขนับและมากันอย่างไม่ขาดสาย
นิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” นี้จะจัดขึ้น ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยเป็นวังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จอยู่แห่งสุดท้ายในพระชนม์ชีพ และในอดีตยังเป็นสถานที่ประทับแรมในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรครั้งแรก ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 หลังจากพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ในวันที่ 28 เมษายน ศกเดียวกัน นอกจากนี้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาชนบทในพระราชดำริและโครงการด้านชลประทานแห่งแรกนับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ คือ โครงการก่อสร้างถนนสายห้วยมงคล ใน พ.ศ. 2545 ตำบลหินเหล็กไฟ (ปัจจุบันคือตำบลทับใต้) และอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน ใน พ.ศ. 2506 และโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ ในเวลาต่อมา
โดยภายในนิทรรศการแบ่งเป็น 4 ภาค ได้แก่
ภาคแรก ปฐมนิวาสราชสถิต
ภาคที่สอง พิพิธราชกรณีย์
ภาคที่สาม ราชสดุดีสรรพสกล
ภาคที่สี่ มหาภูมิพลปรมานุสาสน์
เข้ามาถึง เราจะลงทะเบียนก่อนแล้วเข้ามาชมในส่วนของภาคแรกกันค่ะ
ภาคแรก ปฐมนิวาสราชสถิต แสดงพระราชประวัติ พระราชจริยวัตร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในวังสระปทุมที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย
ด้านนี้เป็นเรื่องเล่าของ เจ๊กตู้ค่ะ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับของเล่นที่พระองค์ทรงโปรดปราณในวัยเยาว์
ภายในนิทรรศการ ยังมีการจำลอง เจ๊กตู้ เภาพโฮโลแกรม 3 มิติด้วยนะคะ
สินค้าจำลองที่มีขายใน เจ๊กตู้ค่ะ
ภาคที่สอง พิพิธราชกรณีย์ พระราชกรณียกิจนานัปการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และการถวายราชสดุดีพระเกียรติยศพระเกียรติคุณ
ในภาคที่ 2 นี้เราจะได้เห็นพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ทรงทำไว้ มีมากมายเหลือล้น บางอย่างเราเคยเห็น และบางอย่างก็ไม่เคยเห็น อ่านไปแต่ละจุด น้ำตาไหล นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ หาที่สุดมิได้ แต่ละโครงการ พระองค์ทรงทำด้วยพระทัย ที่นึกถึงเหล่าคนไทย ท่านทรงทำเพื่อประชาชนอย่างแน่แท้
ภาคที่สาม ราชสดุดีสรรพสกล การแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ
ภาคที่สาม จะแสดงถึงรางวัลที่องค์กรและหน่วยงานในต่างประเทศทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณ
ภาคที่สี่ มหาภูมิพลปรมานุสาสน์ แสดงพระราชดำรัส พระบรมราโชวาทที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ให้แก่
พสกนิกรชาวไทยทุกคน
อิ้มได้ฟังเกือบทุกพระราชดำรัสเลยค่ะ เสียดายที่มีเพียงจอเดียว พอคนอื่นต่อคิวแทบไม่อยากละหูฟังให้เลยค่ะ แค่ได้ฟังเสียงของพระองค์ ก็รู้สึกอุ่นหัวใจเหลือเกิน
ถัดมาก่อนสุดท้ายจะเป็น พระราชสาส์นและสาส์นแสดงความเสียพระทัย/เสียใจ จากพระประมุข และผู้นำประเทศต่างๆ
พระประมุขและผู้นำประเทศถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมิทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
และสุดท้ายภายในนิทรรศการยังมีการจำหน่ายของที่ระลึกจากมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และผัก ผลไม้ ขนม ปลอดสารพิษในราคาถูกมาก จากสวนเขากระปุก สวนตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย
อิ้มได้ติดไม้ติดมือมาหลายอย่างเลยค่ะ
หากใครสนใจหรืออยากมาชมนิทรรศการ บรมกษัตริยาธิราช สามารถมาได้ทุกวันตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 28 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00-18.00 น.
ณ ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นะคะ
หลังจากชมนิทรรศการเสร็จแล้ว อิ้มก็เดินทางต่อไปหาอาหารกลางวันทาน
เที่ยงวันนี้อิ้มเลือกที่นี่ค่ะ
Monsoon valley
เดิมที ที่นี่คือ หัวหินฮิลส์วินยาร์ด (Hua Hin Hills Vineyard) นั่นเองค่ะ แต่เนื่องจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จึงมีการรีแบรนด์ใหม่มาเป็น Monsoon valley
ภายในบรรยากาศดีมากค่ะ ถ้าช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะมีไร่องุ่นให้เราชมด้วย
ภายในมีกิจกรรมมากมาย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ
https://www.monsoonvalley.com/th/
ถ้าเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดยาว ควรโทรมาจองที่นั่งนะคะ เพราะที่นี่วิวสวยๆ มักจะถูกจองเต็มตลอด
มาถึงไร่องุ่น ก็ต้องสั่งน้ำองุ่นจริงไหมคะ น้ำองุ่นที่นี่อร่อยมาก เข้มข้น หอมหวาน
หรืออยากทานเป็น องุ่น สมูตตี้ก็มีเช่นกัน อร่อย ละมุนลิ้น
เสร็จแล้วก็มาถึงอาหารกันบ้างค่ะ จานนี้เป็นโปรโมชั่นประจำเดือน ชื่อเมนูจำไม่ได้แต่รสชาติ อร่อยมากทีเดียว
ต่อมาเป็นสเต็กหมู ซอสแอปเปิ้ล จานนี้ก็อร่อยมากเช่นกัน เชฟทำจานนี้ได้อร่อยลงตัวมาก
ต่อมาเป็น สปาเกตตี้ พริกแห้ง เบคอนค่ะ อิ้มรีเควสแบบเผ็ดมาก ถูกใจ
ที่นี่นอกจากอาหารอร่อย บรรยากาศดีแล้ว พนักงานบริการดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ประทับใจมาก แล้วจะกลับไปทานอีกแน่นอนค่ะ
ต่อมาสถานีสุดท้ายก่อนกลับ อิ้มมุ่งหน้าไปที่ “โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ” ค่ะ
“โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ” ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหนองคอกไก่ หมู่ที่ 5 ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เดิมบริเวณนี้เป็นพื้นที่แห้งแล้ง เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกพืชไร่ แต่ด้วยแนวคิดอันยิ่งใหญ่จากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้พลิกฟื้นผืนดินที่แห้งผากหวนคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร
พร้อมกันนี้ได้มีชาวบ้านนำมันเทศที่ปลูกมาทูลเกล้าฯ ถวายจึงได้ทรงมีพระราชดำริให้ปลูกแปลงทดลองมันเทศในที่ดินส่วนนี้ แต่เมื่อเสด็จกลับมิได้ทรงนำมันหัวนั้นไปด้วย ครั้นพระองค์เสด็จฯ กลับมาอีกครั้งทรงพบว่ามันหัวนั้นงอกเป็นต้น จึงมีพระราชดำรัสว่า “มันอยู่ที่ไหนก็งอกได้” จึงมีพระราชดำริให้จัดเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชต่าง ๆ โดยเน้นที่พืชท้องถิ่นของเพชรบุรี เช่น มะพร้าว, ชมพู่เพชร, มะนาว, กะเพรา, สับปะรด, ข้าวไร่พันธุ์ต่าง ๆ และพระราชทานพันธ์มันเทศ ซึ่งนำมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งภายในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ให้นำมาปลูกไว้ พร้อมกันนี้ยังทรงพระราชทานชื่อ “โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ” พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นศูนย์การเรียนด้านการปลูกพืชเกษตรในพื้นที่แห้งแล้งในปัจจุบัน
และ ส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้ให้ชาวบ้านเข้ามาศึกษาดูงาน นับเป็นโครงการส่วนพระองค์ที่แท้จริงรวมถึงเป็นพื้นที่ให้ศึกษาดูงานสำหรับ ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา มาได้เป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ โดยได้มีรถพานำชมทั่วไร่พร้อมวิทยากรบรรยายตามแต่ละจุด เปิดให้ชมตั้งแต่ 08.30 น. – 18. 00 น. นอกจากนี้ยังมีบริการจักรยานรองรับผู้เข้าชมและห้องชมวีดิทัศน์ของโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริจัดเตรียมไว้สำหรับให้ความรู้ด้านการเกษตร รวมถึงมีจักรยานให้ปั่นรอบโครงการ
หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-3247-2700-1
วันที่อิ้มเดินทางไปชม คนเยอะมากเช่นกันค่ะ ทางโครงการก็ได้จัดรถนำทัวร์ไว้บริการโดยจะมีวิทยากรคอยอธิบายในส่วนต่างๆ ของโครงการให้ฟัง แต่ถ้าหากใครมีเวลาเยอะแนะนำให้ปั่นจักรยานค่ะ เพราะภายในอากาศดีมาก
ขึ้นรถแล้วก็ชมส่วนต่างๆ กันเลยค่ะ
โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ มีเป้าหมายต้องการให้เป็นศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจของ อ. ท่ายาง เพชรบุรี
โดยเลือกพันธุ์พืชท้องถิ่นที่ดีที่สุดเข้ามาปลูก แล้วให้ภาครัฐและชาวบ้านร่วมดูแลด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดเป็นการบริหารทรัพยากรแบบบูรณาการ โดยใช้ทรัพยากร ที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด
โดยคาดว่าอนาคตจะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนโดยทั่วไปได้เข้าชม
มี พืช ผัก ผลไม้ต่างๆ ที่ปลูกสลับสับเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล
ที่นี่มีพ่อพันธุ์วัว เพียงตัวเดียวนะคะ เพราะเค้าใช้วิธีผสมพันธุ์แบบเทียม
พ่อพันธ์ุวัวคือ ตัวหลังค่ะ วิทยากรเล่าว่า พระองค์ทรงเลี้ยงพ่อพันธ์ุวัวตัวนี้ ด้วยพระหัตถุของพระองค์เอง
ถัดมาก็จะเป็นไร่ยางพารา
ตรงนี้คือแปลงมัน นะคะ จุดเริ่มต้นของโครงการชั่งหัวมัน ค่ะ
ช่วงเย็นปั่นจักรยานชม น่าจะเพลิดเพลินไม่น้อย
กังหันลมต้นละ 1.2 ล้าน เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้ในเองโครงการ
นั่งรถมาจนสุดทางก็ถึงแล้วค่ะ
บ้านของพ่อ
บ้านไร่ของในหลวง
บ้านไร่ ของในหลวงบ้านเลขที่ 1 เรือนทรงงานหลังเล็กส่วนพระองค์ในโครงการชั่งหัวมัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ถือโฉนดและมีชื่อในทะเบียนบ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 บ้านหนองคอกไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี โดยทรงขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรทำไร่
สิ่งนี้เองที่ทำให้ประชาชนระลึกถึงสิ่งที่ท่านบอกว่าทำว่า “พอเพียง”
ได้มีโอกาสมาเห็น บ้านของพ่อ ด้วยตัวเอง ปลื้มปลิ่มหัวใจมาก รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินไทย และได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อ
รถที่พระองค์ทรงใช้ทรงงานก็จอดอยู่ภายในบริเวณพระตำหนัก
หลังจากเยี่ยมชมโครงการแล้ว อิ้มก็อยากให้ทุกคนนำสิ่งที่พระองค์ทรงทำไว้ มาเป็นตัวอย่าง และเป็นหลักเกณฑ์ในการดำรงชีวิต เพราะสิ่งที่พระองค์ ทรงมอบให้คนไทย มันช่างยิ่งใหญ่เหลือคณานับ
อิ้มโชคดี ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ
ขอน้อมเกล้าฯ ถวายอาลัย
ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
psstorytrip.com
สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย TAT Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ http://www.tourismthailand.orgrad.html