กาฬสินธุ์ เที่ยวทะเลถิ่นแดนอีสาน เบิกบานชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์

กาฬสินธุ์

หนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดกาฬสินธุ์ก็ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรม อารยธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น อีกทั้งยังมีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์ กาฬสินธุ์ยังเป็นแหล่งขุดค้นซากไดโนเสาร์ที่มีชื่อเสียง มีพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกได้แค่ฟังก็ร้องว้าวกันเลยใช่ไหมคะ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีหาดดอกเกด ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ชายหาดของคนอีสาน ช่วงวันหยุดจะมีผู้คนทั้งมาแบบครอบครัว มาเดี่ยว มาเป็นกลุ่ม มาเป็นคู่ มุ่งหน้าสู่หาดดอกเกด เพื่อใช้เวลากับครอบครัว กับเพื่อน กับคนรัก ในช่วงวันหยุดพักผ่อน เรียกว่าเป็นอีกจังหวัดนึงที่น่าท่องเที่ยวเลยใช่ไหมคะ

เพราะฉะนั้นอิ้มจะพาทุกท่านไปรู้จักจังหวัดกาฬสินธุ์ให้มากขึ้น อาจจะไม่ครบทั้งหมดแต่รับรองว่าคุณจะเริ่มหลงรักจังหวัดนี้ไม่แพ้อิ้มแน่นอนค่ะ

ก่อนชมรีวิวนี้อิ้มขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว

บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ อิ้ม ด้วยนะคะ

https://www.facebook.com/psstorytrip

และถ้าหากอยาก สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สามารถโทรได้เบอร์นี้นะคะ TAT Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือทาง website ก็มีนาจา http://www.tourismthailand.org

0

จากรุงเทพฯ อิ้มขับรถชิลๆ มุ่งหน้าสู่กาฬสินธุ์ใช้ระยะเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงออกจากรุงเทพสักตีห้าขับรถชิลๆ ถนนหนทางดีค่ะ มีป้ายบอกชัดเจน อิ้มชอบจังหวัดที่มีการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังนะคะ เพราะป้ายบอกทางสำคัญมากกับนักท่องเที่ยว

สถานีแรกที่อิ้มมุ่งมาถึงนั่นก็คือหาดดอกเกดค่ะ

หาดดอกเกด อยู่ริมฝั่งเขื่อนลำปาวทางด้านทิศตะวันออกของเรือนรับรองโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เป็นหาดเนินดินลดหลั่นลงเขื่อน มีบริเวณกว้างขวางพอสมควร มีหาดที่เป็นทรายทอดยาวได้ระดับนึงต่อมาได้รับการปรับปรุงให้เป็น ที่พักผ่อนโดยจัดศาลาพักร้อนซุ้มดอกเห็ด เหตุที่ได้ชื่อว่า “หาดดอกเกด” ก็เพราะมีต้น”การะเกด” ซึ่งเป็นไม้พื้นเมืองปลูกปะปนกับต้นไม้อื่นเป็นกลุ่มๆ เมื่อเวลาออกดอกจะส่งกลิ่นหอม จึงเป็นที่มาของชื่อ “หาดดอกเกด” นั่นเองค่ะ ที่หาดแห่งนี้ในวันสุดสัปดาห์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนเป็นจำนวนมากและยังมีสินค้ามาขายกันเต็มไปหมดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของชาวกาฬสินธุ์เค้าเลยค่ะ

ตอนแรกเข้ามาถึงจะมีลานจอดรถอิ้มไปจอดไม่มีการเสียค่าจอดรถใดๆ นะคะ และโชคดีที่คนไม่เยอะที่จอดรถกว้างขวาง พอลงรถปุ๊ปจะมีแม่ค้ามาแนะนำว่าจะรับเสื่อไหมบริการฟรีแต่ต้องสั่งอาหารร้านเค้านะ อิ้มก็โอเคนะคะ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะเรามาถึงก็ตั้งใจที่จะทานอาหารกลางวันที่นี่พอดี แต่ราคาอาหารเห็นแล้วก็มีอึ้งๆ นะคะ แม่ค้าบอกว่าร้านอาหารในนี้ขายเท่ากันหมด รู้สึกเหมือนพลาดที่ไม่ได้ซื้อของเข้ามาทานแต่แรก 5555 แต่ไม่เป็นไรค่ะ ลองทานดูเผื่อจะโอเค

 หลังจากสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อย ทางร้านก็จะขอเบอร์โทรศัพท์เราเผื่อนำอาหารมาส่งค่ะ จากจุดจอดรถเดินมาประมาณ 500 เมตรก็จะเห็นป้ายนี้ค่ะ

1

ว้าววว แว้บแรกที่เห็นคือเฟี้ยวเหมือนกันนะนี่ ไม่ยักรู้ว่าที่กาฬสินธุ์ก็มีที่เที่ยวเก๋ๆ แบบนี้ด้วย

2

ที่เราเห็นเป็นร่มๆ นั่นก็คือที่นั่งค่ะ เราได้เสื่อมาแล้วก็เลือกจับจองได้เลย แต่มีค่าบริการอีก 50 บาทนะคะ นั่งได้ยาวๆ ไม่จำกัดชั่วโมง

34

โอ้โห มีบานาน่าโบ๊ทด้วยดีงามสุดๆ กิจกรรมเค้าก็คล้ายๆ กับทางทะเลทั่วๆไปค่ะ  ทำได้ดีมากๆ

567

อิ้มเลือกที่นั่งได้แล้ว ตรงนี้ลมพัดชิลๆ เย็นๆ สบายๆ

89

ส่วนมากก็จะเป็นคนท้องถิ่นที่มาเที่ยวนะคะ แล้วก็มีจังหวัดใกล้เคียงนิดหน่อย

มองจากตรงนี้เด็กๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทำเอาอิ้มอยากลงไปเล่นเลยค่ะ 5555

10-110-210-310-4

มีเรือขายซาลาเปาด้วยนะคะ

10-5

เด็กๆ ดูจะสนใจมากทีเดียว

10-6

ไม่นานอาหารที่สั่งก็มาถึงค่ะ ราคามีปาดเหงื่อเหมือนกัน ส้มตำไทย 50 บาท อันนี้ราคารับได้เพราะให้เยอะนะคะ แต่รสชาติไม่ค่อยเท่าไหร่

11-1

ปลาเผาตัวนี้ 200 บาทค่ะ ราคาโอเคปลานี่อร่อยนะคะ สด หวานหอม น้ำจิ้มก็อร่อย เมนูนี้ผ่านฉลุยค่ะ

11-2

สุดท้ายลาบหมู 150 บาท คุณพระ แพงมาก

11-3

รวมๆค่ะ มีเป๊ปซี่อีก 1 ขวด น้ำแข็ง 1 ถุง ราคารวมมื้อนี้ 510 บาท โหดเน๊อะ

อิ้มหันไปมองข้างๆ หลายครอบครัวเอาครกมาตำส้มตำกันเอง บางคนก็เอาอาหารมาทานเอง อิ้มก้แนะนำอย่างนั้นนะคะเพราะประหยัดกว่ากันเยอะ แล้วรสชาติก็ค่อนข้างถูกปากมากกว่า แล้วอย่าลืมเอาเสื่อมาด้วยนะคะ 5555

11-4

นั่งชิลๆ ได้สักพักอิ้มก็มุ่งหน้าต่อมาที่เขื่อนลำปาวค่ะ จริงๆอยู่ใกล้กับหาดดอกเกดมาก แต่ช่วงกลางวันคนจะนิยมเที่ยวหาดดอกเกดมากกว่า เขื่อนลำปาวก็ดูจะเงียบเหงาไปสักหน่อย แต่เห็นว่าช่วงเย็นก็จะมีร้านอาหารมาเปิดให้บริการนะคะ ช่วงเย็นๆมานั่งชิลๆ ชมพระอาทิตย์ตกก็น่าจะโอเคอยู่

12-112-2

มองไกลๆ จากเห็นหาดดอกเกตุด้วยค่ะ

12-312-412-512-712-812-9

เสร็จจากเขื่อนลำปาวและหาดดอกเกดแล้ว อิ้มก็มุ่งหน้ามาตามล่าไดโนเสาร์ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร กาฬสินธุ์ ขับรถมาเรื่อยๆ เลยนะคะมีป้ายบอกตลอดทางไม่ต้องกลัวหลง

พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ เดิมคือศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติงานศึกษาวิจัย อนุรักษ์เก็บรวบรวมตัวอย่างซากไดโนเสาร์

พิพิธภัณฑ์สิรินธรเรียกชื่ออีกอย่างนึงว่า พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว เป็นพิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยเกี่ยวกับไดโนเสาร์ ที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

พิพิธภัณฑ์สิรินธรตั้งอยู่ที่เชิงอำเภอภูกุ้มข้าว อำเภอสหัสขันธ์ สามารถเดินทาง โดยใช้เส้นทางกาฬสินธุ์-สหัสขันธ์ (ทางหลวง 227) ประมาณ 28 กิโลเมตร (ก่อนถึงสหัสขันธ์ 2 กิโลเมตร) มีทางแยกขวาไปอีก 1 กิโลเมตร บริเวณภูกุ้มข้าว ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ของวัดสักกะวัน เป็นสถานที่ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์จำนวนมาก รวมทั้งโครงกระดูกไดโนเสาร์ ทั้งตัวที่สมบูรณ์ที่ฝังอยู่ในพื้นดินและ ได้รับการขุดแต่งโดยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี

ด้านหน้าจะมีไดโนเสาร์พันธุ์ต่างๆ รอต้อนรับค่ะ

13-1

พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในเขตวัดสักกะวันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์โดยเมื่อปี พ.ศ. 2513 พระครูวิจิตรสหัสคุณ เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน ได้พบกระดูกชิ้นใหญ่ในบริเวณวัด แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์และได้นำกระดูกที่พบเก็บรักษาไว้ที่วัด ในปี พ.ศ. 2521 นักธรณีวิทยาและคณะจากกรมทรัพยากรธรณีได้เดินทางมาสำรวจธรณีวิทยาบริเวณนี้ พบกระดูกดังกล่าวจึงได้แจ้งว่าเป็นซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 คณะสำรวจธรณีวิทยาไทย-ฝรั่งเศสได้นำกระดูกเหล่านั้น 3 ท่อนไปศึกษาพบว่าเป็นส่วนกระดูกขาหน้าของไดโนเสาร์ซอโรพอด (Sauropod) จนกระทั่งปี พ.ศ. 2537 จึงได้ทำการสำรวจขุดค้นและอนุรักษ์อย่างเป็นระบบ พบซากไดโนเสาร์จำนวนมากในชั้นหินเสาร์ขัว ยุคครีเตเซียสตอนต้น อายุประมาณ 130 ล้านปี แหล่งขุดค้นแห่งนี้พบกระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชจำนวนมากกว่า 700 ชิ้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของไดโนเสาร์ประมาณ 7 ตัว นอกจากนี้ยังมีซากปลาโบราณพันธุ์ใหม่ของโลกอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นปลาน้ำจืดมีชื่อว่า “เลปิโดเทส” ยาวประมาณ 30–60 เซนติเมตร อยู่ในยุคมีโซโซอิค หรือ 65 ล้านปีที่แล้ว คาดว่าบริเวณที่พบคงเป็นบึงขนาดใหญ่แล้วเกิดภัยแล้งทำให้ปลาตายและถูกซากโคลนทับไว้กลายเป็นฟอสซิลจนถึงปัจจุบัน นับว่าภูกุ้มข้าวเป็นแหล่งที่พบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์แหล่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย

ขอบคุณข้อมูลจาก http://thai.tourismthailand.org/

13-213-313-413-5

อิ้มเป็นผู้ใหญ่ยังตื่นเต้นเลยนะคะ ถ้าเป็นเด็กคงสนุกมาก เดี๋ยวไปซื้อบัตรเข้าชมก่อนค่ะ

พิพิธภัณฑ์สิรินธร เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 9.00-17.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 4387 1014
ค่าเข้าชม : คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท
ชาวต่างประเทศ เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท

ด้านในแอร์เย็นฉ่ำสบายมาก ถือว่าราคาถูกมากนะคะแค่คนละ 40 บาท

13-6

ได้ตั๋วมาแล้วก็จะเจอ สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส อยู่ด้านหน้าทางเข้า

โดยนักโบราณชีววิทยา ได้ขุดพบฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ในประเทศไทยถึง 16 ชนิด ในจำนวนนี้เป็นไดโนเสาร์ชนิดใหม่ สกุลใหม่ของโลก 7 ชนิด และได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของบุคคลหรือสถานที่ที่ขุดพบ และหนึ่งในนั้นสยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิสก็เป็นหนึ่งในฟอสซิลระดูกไดโนเสาร์ที่ขุดพบในประเทศไทย

สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส ถูกพบกระดูกเป็นครั้งแรกที่หลุมขุดค้นที่ 9 ที่ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติภูเวียง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น

สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส : เป็นไดโนเสาร์เทอโรพอดที่เดินด้วย 2 ขาหลัง ส่วน 2 ขาหน้ามีขนาดเล็ก ในยุค

ครีเทเซียสตอนต้น ประมาณ 130 ล้านปี ความยาวประมาณ 6.5 เมตร นับว่าเป็นบรรพบุรุษของ ไทรันโนซอรัส เร็กซ์

ที่พบในอเมริกาเหนืออีกด้วยค่ะ

13-7

มาชมด้านในกันค่ะมีฟอสซิลของสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่สมัยยุคดึกดำบรรพ์

13-8

ภายในจะจัดการแสดงในอาคารแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การกำเนิดโลก ส่วนที่ 2 การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตซึ่งรวมถึงไดโนเสาร์ จนถึงการกำเนิดมนุษย์ ส่วนที่ 3 เป็นนิทรรศการหมุนเวียน

13-913-1013-1113-12

แต่ละชนิดจะมีแจ้งพันธุ์ต่างๆ ชิ้นส่วนที่พบ และสถานที่ค้นพบ

13-1313-1413-1513-16

13-24

13-1713-1813-1913-2013-21

 

ไม่น่าเชื่อว่าเสียเงิน 40 บาทอิ้มจะได้รับรู้ข้อมูลและความรู้ต่างๆ มากมายขนาดนี้ อิ้มแนะนำเลยนะคะว่าถ้ามีโอกาสต้องแวะมาชม ภายในมีแหล่งเรียนรู้มากมาย มีภาพยนต์ให้ชม ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ เท่านั้น ผู้ใหญ่ก็ควรมาเรียนรู้ได้ค่ะ

และนี่ก็คือ ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ที่ขุดพบบริเวณภูกุ้มข้าว

13-2213-2313-25

เต็มอิ่มกับสาระแล้วนะคะ จริงๆ ด้านบนมี หลุมแหล่งขุดค้นแห่งนี้พบกระดูกไดโนเสาร์ ใครสนใจขับขึ้นไปชมได้เลยนะคะ ระยะทางใกล้กันมากแต่อิ้มมีเวลาจำกัดก็เลยไม่ได้ขึ้นไปชม

ต่อมาอิ้มขับรถไปที่อำเภอกมลาไสยเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์

นั่นก็คือ พระธาตุยาคู

 ภายในของพระธาตุองค์นี้ ชาวบ้านเชื่อกันว่า มีอัฐิของพระเถระที่ชาวเมืองเคารพนับถือบรรจุอยู่ ใครที่แวะมากาฬสินธุ์ อย่าลืมมาสักการะพระธาตุยาคูเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันนะคะ

14-1

โดยบริเวณเดียวกันยังมีเมืองฟ้าแดดสงยาง เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มีความอุดมสมบูรณ์ในสมัยเก่า ปัจจุบันเหลือแต่ซากอิฐปนดิน มีคูเมืองสองชั้น มีลักษณะเป็นท้องน้ำ จึงไม่ค่อยเห็นเด่นชัดเท่าไหร่แล้วค่ะ

14-2

ช่วงเย็นอิ้มเข้ามาที่ตัวเมืองเพื่อสักการะ อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร (ท้าวโสมพะมิตร)

อนุสาวรีย์พระยาพิชัยสุนทร ผู้ซึ่งเป็นเจ้าเมืองกาฬสินธุ์คนแรก โดยอนุสาวรีย์ดังกล่าวสร้างขึ้นจากการสละทรัพย์ของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อแสดงกตเวทิตาต่อผู้ให้กำเนิดเมืองกาฬสินธุ์เรียกว่าอนุสาวรีย์แห่งนี้ เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองกาฬสินธุ์แทบทุกคน รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ที่มักแวะเวียนเข้ามากราบไหว้ หรือบนบานศาลกล่าวอธิษฐานต่อองค์อนุสาวรีย์กันอย่างไม่ขาดสาย เมื่อมาถึงกาฬสินธุ์แล้วจึงควรมาสักการะอนุสาวรีย์พระยาพิชัยสุนทร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตค่ะ

15

เที่ยวตะลอนมาทั้งวันก็ถึงช่วงเย็น เวลานี้อิ้มลองมาทานโคขุนโพนยางคำ ค่ะ อิ้มสั่งชุดเนื้อใหญ่ ราคา 519 บาท ราคาแอบแรงอีกแล้ว

16-116-2

หนึ่งชุดก็จะเนื้อจานใหญ่ให้หนึ่งจาน พร้อมผักและน้ำซุปค่ะ น้ำจิ้มก็รสชาติใช้ได้ แต่อิ้มว่าราคาสูงไปนิดเพราะเทียบกับในกรุงเทพฯ เป็นแบบบุตเฟ่ต์ก็ค่อนข้างคุ้มกว่าท้งความอิ่มแล้วก็ราคา

16-3

ทานอาหารเสร็จแล้วก็เข้าที่พักค่ะ นอนที่  Tong Tin Tat Residence View ราคาคืนละ 500 บาท

ห้องพักสะอาดสะอ้าน มีที่จอดรถ สะดวกสบาย และปลอดภัย โอเคมากๆ ค่ะ

17-117-217-317-4

เช้าวันนี้อิ้มเก็บของเพื่อที่จะเดินทางกลับแต่ก่อนกลับก็แวะไปทานอาหารที่ร้าน แตงอาหารเช้า เป็นร้านดั้งเดิมของชาวกาฬสินธุ์มีโจ๊ก ต้มเลือดหมู ไข่กะทะ ชา กาแฟ ไว้บริการ

18-0

ร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลยนะคะราคาก็ถูกด้วย อิ้มแนะนำเลย

ชานมร้อยแก้วนี้อร่อยแข้มข้นจนต้องสั่งเบิ้ล

18-1

ไข่กะทะ เครื่องน้อยไปนิด แต่หอมเนยมากอร่อยสุดๆ

18-2

ต้มเลือดหมุเครื่องแน่นทีเดียวค่ะ

18-3

โจ๊กใส่กากหมูเคี้ยวเพลิน กรุบๆ กรอบๆ

18-5

ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์ หมดนี่มีไข่กะทะด้วย หมดไปประมาณ 100 กว่าบาท จุกท้องเลยจ้า

18-619

ก่อนกลับแวะมาที่นี่ค่ะ Cafe de supak

20

ที่จอดรถสามารถจอดหน้าร้านได้เลยนะคะ ด้านบนมีโรงแรมด้วยใครชอบความสะดวกสบายพักในตัวเมืองอิ้มแนะนำนะคะเห็นว่าราคาไม่แพงด้วยห้องพักน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท

21

เป้าหมายสุดท้ายก่อนกลับ อิ้มอยู่ที่นี่ค่ะ หึๆ Cafe de supak

22

ว้าววว ภายในตกแต่งสวยมากใช้ไม้และสีน้ำตาลเป็นหลัก สีโปร่งโล่งสบายเหมาะสำหรับมานั่งชิลๆ ทานกาแฟ มากๆ

23

มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่งนะคะ

242526-0

แผนที่ตัวเมืองอธิบายได้น่ารักทีเดียว

26-1

Cafe de supak จำหน่ายเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ อาหารคาว และอาหารคลีนด้วยนะคะ ดีงามมากๆ

26-2

ได้เวลาเติมของหวานให้ร่างกายแล้วว อิ้มสั่ง matcha green tea latte เค้าทำมาไม่หวานนะคะ มีน้ำเชื่อมให้เติมตามใจชอบ แก้วนี้หอมหวานอร่อยค่ะ

26-326-4

อีกแก้วเป็น นมสดเมล่อน รสชาติหวานไปนิด แต่หอมเมลอน กลมกล่อมใช้ได้

26-5

ขนมปังหน้า nutella Top ด้วยไอศกรีมหนึ่งก้อน

26-7

จัดหนักด้วย Honet toast ทิ้งท้ายค่ะ

โดยรวมชอบบรรยากาสร้าน Cafe de supak นะคะ เพราะตกแต่งร้านน่ารัก มีอาหารให้ทานหลายอย่างนั่งชิลๆ ได้

ทริปกาฬสินธุ์ของอิ้มก็จบลงแล้วค่ะ ใครสนใจมาเที่ยวกาฬสินธุ์ 2วัน1คืน สามารถตามรอยอิ้มได้นะคะ ไม่ผิดหวังและถ้ามีโอกาสอิ้มจะมาเที่ยวกาฬสินธุ์อีกครั้งเพราะยังพลาดร้านอาหารหลายร้าน และสถานที่ท่องเที่ยวอีกนิดหน่อยค่ะ

26-8

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s