นี่ก็เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์แล้วนะคะ หน้าหนาวกำลังจะหมดไป summer ก็กำลังจะเข้ามาแทนที่

summer มาแล้ว อิ้มว่าหน้าร้อนก็ดีไปอีกแบบนะคะ เพราะว่าเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ไม่ต้องกลัว ฝนตก รถติด หรือหลายคนเวลาหน้าหนาวอาจจะหนาวไม่กล้าอาบน้ำ 5555 แต่สำหรับอิ้ม อิ้มเองก็ชอบหน้าร้อนนะคะ เพราะรู้สึกว่าเราจะได้ไปเที่ยวทะเลแล้ว ทะเลช่วงพีคสุดก็ต้องหน้าร้อนแหละเน๊อะโดยเฉพาะทะเลหัวหินซึ่งเป็นสถานที่ๆ น่าเที่ยวที่สุดเลย

 วันนี้อิ้มมีรีสอร์ทอีกแห่งมาแนะนำค่ะ เรียกว่าเหมาะสำหรับการไปพักผ่อนครอบครัว หรือมากับคู่รักก็ดีงามอย่างมาก ที่นี่คือSheraton Hua Hin Resort And Spa หลายคนร้องอ๋อกันเลยทีเดียว บางคนเห็นว่าเป็น Sheraton Hua Hin Resort And Spa ราคาที่พักอาจจะสูงจนไม่อยากเอื้อมคว้า แต่จริงๆ ราคาที่นี่ไม่แพงเลยค่ะ เริ่มที่สามพันกว่าๆ เท่านั้น

หากจองกับ Traveloka จะได้ราคาที่ถูกลงด้วย สามารถเชคราคาโรงแรมในหัวหินได้ที่ลิ้งค์นี้ >> https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/city/hua-hin-district-10005425

ใครมองหาที่พักแถวๆ หัวหินช่วง Summer นี้ อิ้มแนะนำที่นี่เลยค๊าา เดี๋ยวรายละเอียดเพิ่มเติมไปชมในรีวิวพร้อมๆ กันเล้ยย

พูดถึง Sheraton Hua Hin กันหน่อย นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่นะคะ เพราะเป็นโรงแรมอันดับต้นๆ ของหัวหินที่มาพร้อมความหรูหรา อลังการ แต่หลายๆ คนก็เกรงๆ เรื่องราคาเพราะคิดว่าที่นี่ราคาอาจจะสูง จริงๆ แล้วไม่เลยนะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3000 กว่าๆ (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและช่วงเวลา)

หลังจากที่อิ้มมาพัก ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นโรงแรมในฝันของหลายๆคน เพราะภายในเวอร์วัง อลังการดาวล้านดวงมาก Sheraton Hua Hin ประกอบไปด้วยห้องพัก 240 เมตร ห้องพักเป็นแบบกลุ่มอาคาร ความสูง 2 ชั้นมีทั้งหมด 9 อาคาร มีห้องอาหารถึง 5 ห้อง และสระว่ายน้ำ เป็นแบบแบบลากูนความยาว ประมาณ 500 เมตร

แม่เจ้า ยาวมากกกกก

นี่ยังไม่หมดนะคะ เพราะยังมี“สตาร์ คลับ” คลับแสนสนุกที่เปิดให้บริการพิเศษเฉพาะสำหรับคุณหนู ๆ อายุระหว่าง 4-12 ปี Fitness และ Shine Spa for Sheraton ที่มีห้องทรีตเมนต์ที่ถึง 12 ห้อง อะไรจะเวอร์วังขนาดนี้

มาดูการเดินทางสักเล็กน้อยค่ะ

การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพราะสะดวกมากมายสำหรับการเดินทางทั้งรถประจำทางและรถยนต์ส่วนตัว เพราะ Sheraton Hua Hin อยู่ติดถนนใหญ่มาถึงมีป้ายชัดเจนเลยค่ะ

สำหรับใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาสามารถจอดที่อาคารจอดรถได้เลยนะคะแต่อาคารจอดรถอาจจะไกลจากส่วน Lobby ไปสักนิด แต่สามารถใช้บริการรถกอล์ฟได้ค่ะ

เข้ามายังบริเวณ Lobby

อิ้มมาถึงช่วงค่ำพอดีค่ะ Lobby เปิดไฟสว่างไสวสวยงาม ตกแต่งเป็น Open airs นะคะ บริเวณ Lobby มี wifi ให้บริการฟรีด้วยค่ะ

บรืเวณ Lobby จะมองเห็นทัศนีย์ภาพภายในโรงแรมได้ชัดเจน

ด้านนี้เป็นโซนนั่งเล่นด้านนอกค่ะ นั่งรับลมเย็นๆ ชิลๆ ได้สบายๆ

โอเคค่ะ เช็คอินเสร็จเรียบร้อย เตรียมตัวเข้าห้องพักกันนะคะ อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าที่นี่มีห้องพัก 240 ห้อง ซึ่งมีทั้งหมด 7 Room Type ด้วยกันดังนี้

1.  Garden View

2. Garden Terrace

3. Lagoon View

4. Lagoon Access

5. Ocean Front

6. Lagoon Suite

7. Ocean Suite

ให้ดูแผนที่ดีกว่า โซนที่อิ้มพักจะอยู่ที่ ตึก 5 ค่ะ ติด Lobby เลย ข้อดีคือใกล้ห้องอาหาร ใกล้สปา ข้อเสียอาจจะไม่ค่อยส่วนตัวเพราะคนจะเดินผ่านค่อนข้างเยอะแต่ถ้าสาวๆ คนไหนหุ่นดีอิ้มแนะนำห้องนี้นะคะ โชว์เชฟได้สะใจมากแต่อวบอั๋นอย่างอิ้มขอเผ่นดีกว่า 5555

ห้องที่อิ้มพัก คือ  Lagoon Access สองห้องที่เปิดไฟอยู่นะคะ ครั้งนี้อิ้มพาคุณแม่และน้องชายไปด้วย ทางรีสอร์ทจึงเลือกเป็นห้อง Connecting room ให้ เริ่ดสุดๆ ด้านหน้าห้องพักมีกระจกกั้นไว้ระหว่างระเบียงกับสระว่ายน้ำ สำหรับใครมาพักผ่อนแล้วมีเด็กเล็ก ส่วนกระจกกั้นนี้ช่วยป้องกันได้ดีทีเดียว

ภายใน Lagoon Access ค่ะ พื้นที่ใช้สอยมีพอควร ห้องแรกเป็นเตียง Twin แต่เป็น Twin ที่เตียงใหญ่มาก อิ้มว่านอน 4 คนได้สบายๆ

มองกลับเข้าไปยังห้องพัก ก็จะมีทีวี โซฟา และห้องน้ำ มีประตูกั้นนะคะไม่ต้องกังวลว่าจะเซ็กซี่เกินไป 55555

ภายในห้องน้ำค่ะ มีอ่างอาบน้ำและแยกส่วนแห้งส่วนเปียกได้ดี

อีกห้องเป็น เตียง King ค่ะ บนเตียงมีหมอนให้ 4 ใบ จริงๆห้องพักที่นี่ตกแต่งคล้ายๆ กันนะคะ จะต่างกันตรงที่วิวเท่านั้น แต่ห้องที่อิ้มพักแบบ Lagoon Access ถือว่าเป็น Room type ที่ขายดีสุดๆ ของ  Sheraton Hua Hin เค้าเลยค่ะ

จะเห็นได้ว่าตกแต่งคล้ายกันมาก

ภายในห้องน้ำ ถ้านอนแช่ตัวในอ่างก็เปิดชมทีวีได้ แต่อย่าลืมปิดม่านที่ระเบียงนะคะ อิอิ

ชา กาแฟ ให้บริการ ฟรี น้ำดื่มมีให้ 2 ขวด น้ำแข็งสามารถโทรขอได้ค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ภายในตู้เย็น มีราคาบอกไว้ชัดเจน

ถ่ายภาพครอบครัวสักหน่อย 😀

ชมบรรยากาศห้องพักไปแล้ว อิ้มจะพาไปทานอาหารกันต่อนะคะ วันนี้เริ่มต้นที่ห้องอาหาร InAzia (อินเอเซีย)

ห้องอาหาร อินเอเชีย เป็น  Signature Restaurant ของ Sheraton Hua Hin Resort & Spa   ภายในตกแต่งแบบผสมผสานของศิลปะแบบอินโด-ไชนีส เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ร่วมสมัย  สามารถเลือกนั่งได้ทั้งบริเวณนอกห้องอาหารติดสระว่ายน้ำ หรือภายในห้องปรับอากาศ

เปิดบริการวันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 18:00 – 22:30 น. หรือเฉพาะมื้อ Dinner นั่นเองค่ะ

อิ้มเลือกนั่งด้านในนะคะ เพราะด้านในบรรยากาศสวย ไม่ร้อน และที่มองเห็นติดกันคือ เท็น ดีกรี ไวน์เซลลาร์ (10 Degree Wine Cellar) ห้องเก็บไวน์และแชมเปญนานาชนิดรวมทั้งไวน์ในคอลเล็กชั่น ไวน์ ออฟ เดอะ เวิล์ด

ส่วนครัวเป็น Open Kitchen ค่ะ สามารถนั่งสบตากับเชฟได้ 5555

ห้องอาหาร อินเอเชียจะเน้นอาหารอินเดียเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารญี่ปุ่น อาหารจีนและอาหารไทย

แต่จากที่ทาอาหารอินเดียมา อิ้มมั่นใจว่าที่นี่อร่อยมาก ปกติไม่ชอบทานอาหารอีนเดียนะคะ แต่ลองทานที่นี่โอเคเลย

วันนี้ที่สั่งมารวมๆ มีหลายอย่าง เรียกว่าเป็นมื้ออาหารนานาชาติเลยก็ว่าได้

มาเริ่มที่จานแรกกันนะคะ หน้าตาสวยงาม จานนี้คือ

ผัดหอยเชลล์และหมูกรอบซอสเสฉวนทานคู่กับหมั่นโถวร้อนๆ  ราคา 690 บาท

ต้องบอกว่าไม่ได้สวยแค่หน้าตา รสชาติดีงาม หอยเชลล์ตัวโตเต็มคำแต่ทีเด็ดอยู่ที่หมูกรอบ หมูกรอบอร่อย นิ่ม ทานคู่กับซอสเสฉวนอร่อยลงตัว

ข้าวปั้นตับห่านซอสเทอริยากิ ราคา 590 บาท

ตัวข้าวปั้นทำออกมาได้ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป บวกด้วยความอร่อยของตับห่าน ราดซอสเทอริยากิเบาๆ จนทำให้จานนี้ถูกใจอิ้มมาก จานนี้อร่อยมากจนต้องเบิ้ลเลยค๊าา

หนึ่งในอาหารอินเดียที่ทานง่ายและอร่อยถูกปากอิ้มก็คือ ซาโมซ่าไก่ ราคา 260 บาทเสิร์ฟคู่กับซอสชัทนีย์สีเขียวและซอสมะขาม

แกงกระหรี่ไก่ ทานคู่กับนาน ราคา 320 บาท

จานนี้กลิ่นเครื่องเทศไม่มากจนเกินไป ตัวแกงเข้มข้น นานมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งนาน นานใส่เนย นานใส่กระเทียม เลือกทานได้ตามใจชอบเลยจ้า

แซลมอนไซเคียว ราคา 380 บาท

จานนี้ salmon lover ห้ามพลาด เพราะเค้าทำเป็นข้าวปั้นพอดีคำ เซียปลาแซลมอนให้สุกขึ้นมาเล็กน้อย และตามด้วยใส่ miso peanut butter ซอส เพิ่มรสชาติให้หอมหวาน อร่อยอีกแล้ว

ซุปเสฉวนทะเล ราคา 390 บาท

ยกเครื่องทะเลสดๆ กุ้งตัวโต หอยเชลล์ตัวโต และเนื้อปู ซดร้อนๆ ชุ่มคอ กลมกล่อม

สลัดหอยเชลล์ญี่ปุ่นเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดพอนซึ  ราคา 490 บาท

จานนี้ก็อร่อยค่ะ ส่วนตัวชอบทานหอยเชลล์อยู่แล้ว ทานคู่กับผักสด และ topping ด้วยไข่กุ้งเวลาเคี้ยวกรุบๆกรอบๆ

ซาชิมิ ไซส์เล็กราคา 540 บาท

ปิดท้ายด้วย ยำแซลมอน ราคา 360 บาท

จานนี้รับประกันความแซ่บ เปรี้ยวเผ็ด ดีงาม

หลังจากนั้นก็กลับไปปนอนหลับฝันดี ช่วงเช้าอิ้มตื่นเช้ามาสำรวจไลน์อาหาร เพราะเค้าบอกว่าไลน์อาหารที่นี่เวอร์วัง อลังการ กว่าที่ Sheraton ที่อื่น เราทานอาหารเช้ากันที่ THE DECK

ห้องอาหาร เดอะ เดค ให้บริการบุฟเฟต์อาหารเช้า และเมนูอาหารตามสั่งสำหรับอาหารกลางวันและอาหารค่ำ มีให้เลือกทั้งอาหารไทย และอาหารนานาชาติ สามารถเลือกนั่งได้ทั้งภายในห้องปรับอากาศหรือที่ระเบียงริมสระว่ายน้ำ
โดยอาหารเช้า เวลา 06.30 – 10.30 น.อาหารกลางวัน เวลา 11.30 – 14.30 น.

โต๊ะมีเยอะมาก เลือกนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ

มาเริ่มสำรวจไลน์อาหารเช้ากันค่ะ มีหลากหลายมากๆ และวัตถุดิบก็เป็นชั้นดี

ผลไม้มีหลากหลายมาก

มุมสลัดสำหรับคนรักสุขภาพ

ไข่ต้มใบชา ก็มีนะคะ

ข้าวต้มก็มีสลับสับเปลี่ยนไปทุกวันค่ะ บางวันอาจจะเป็น ปลา ไก่ หรือกุ้ง

ส่วนใครชอบทานข้าวต้ม แบบมีเครื่องเคียงก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน

มุมซูชิกันบ้าง

ซุปมิโสะกับข้าวญี่ปุ่นค่ะ

ขนมปังจัดเต็ม

ซีเรียล

นม และน้ำผลไม้ต่างๆ

Egg station

มุมนี้จะเป็นข้าวซอย

อาหารไทยๆ ปรับเปลี่ยนทุกวันเช่นกันค่ะ

ติ่มซำก็มีด้วย

ลูกชิ้นปิ้งก็อร่อยนะคะ

ด้านนอกก็มีอีกนะคะ จะเยอะไปไหนเนี่ย มี Waffle และ ก๋วยเตี๋ยว ด้านนอกก็จะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน อย่างเช่นก๋วยเตี๋ยว บางวันอาจจะเป็น ก๋วยเตี๋ยว เป็ด ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ประมาณนี้ค่ะ

เรียกว่าเกือบจะอิ่มไปถึงเย็นเลยก็ว่าได้ 5555

อิ่มแล้วมาชมโซนถัดไปค่ะ ซึ่งอยู่ติดกับห้องอาหารเลยนั่นก็คือ

“สตาร์ คลับ” คลับแสนสนุกที่เปิดให้บริการพิเศษเฉพาะสำหรับคุณหนู ๆ อายุระหว่าง 4-12 ปี

เปิดบริการ 9.00 น. – 18.00 น.

 สตาร์ คลับ กว้างขวางมากค่ะ ในบ้านรูปทรงลูกเต๋าสีสดใสขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยสนามหญ้าสีเขียว

มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กๆ ด้วยนะคะ

มุมนี้ตอนเด็กๆ อิ้มชอบมาก บ้านบอลนั่นเองค่ะ 555

ย้อนกลับมาในอาคารเดียวกัน มาชมฟิตเนสค่ะ

อีกอย่างนึงที่มาถึง Sheraton Hua Hin แล้วจะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ

Shine Spa for Sheraton

ที่ประเทศไทยจะมีเฉพาะ Sheraton Hua Hin ที่เดียวเท่านั้นค่ะ

Shine Spa for Sheraton เปิดบริการ 9:00 – 21:00 น.ทอง ภายในตกแต่งด้วยการผสมผสานของโทนสีส้ม สีครีมและสีทองแดงก่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และพร้อมสำหรับการทำสปา

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในสปานะคะ แต่กลิ่นที่เป็น Signature จะเป็นกลิ่นส้มแมนดารินและมินต์ค่ะ

ห้องทรีตเมนต์ที่มีให้เลือกถึง 12 ห้องทั้งห้องทรีตเมนต์แบบสวีทและห้องจูเนียร์สวีท

วันนี้ส่งแม่เข้าห้องทรีตเม้นต์ก่อนค่ะ คุณแม่อิ้มนวดในห้อง Suite

ภายในห้อง Suite กว้างขวาง สวยงาม

ภายในมีโต๊ะเครื่องแป้ง 2 ตัวและ ตู้เสื้อผ้า มีห้องน้ำและซาวน่าครบครัน

มีอ่างจากุซซี่ภายในห้องทรีตเม้นต์ด้วยค่ะ

คุณแม่ ทำสปาเป็น Signature  ซึ่งจะมีทั้งนวดประคบ อโรม่า ใช้เวลา 2 ชั่วโมงค่ะ

หลังจากปล่อยให้คุรแม่เพลิดเพลินกับการทำสปาแล้ว อิ้มก็จะพามาเดินเล่นรอบๆ บริเวณรีสอร์ทนะคะ เสียดายวันที่อิ้มไปฟ้าไม่เป็นใจเอาซะเลย อาจจะทำให้บรรยากาศอึมครึมไปสักนิด

อีกอย่างนึงที่อิ้มชอบมากๆ คือมุมนั่งเล่นริมสระน้ำมีหลายมุมนะคะ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนอ่านหนังสือสักเล่ม

ตรงนี้เป็น Elephant Pool นะคะ น้องๆ หนูๆ เล่นน้ำโซนนี้ได้สบายค่ะ

สระว่ายน้ำจะเชื่อมต่อกันจนมาถึงบริเวณ   InfinityPool ด้านหน้า

ถ้าคนชอบเล่นน้ำแนะนำที่นี่นะคะ ไม่ผิดหวังเลย

ยามบ่ายก็มาถึงอย่างรวดเร็ว ช่วงบ่ายนี้อิ้มฝากท้องไว้อีกหนึ่งห้องอาหารที่มีชื่อว่าลูนา ลาไน LUNA LANAI

ลูนา ลาไน เป็นห้องอาหารและบาร์เปิดโล่งริมทะเล ถ้าอากาศดีๆ อิ้มว่า LUNA LANAI จะเป็นมุมที่สวยมาก และน่านั่งทานอาหารเป็นที่สุด เพราะ LUNA LANAI อยู่ติดกับชายหาด มองทะเลฟังเสียงคลื่นและทานอาหารอร่อยๆ ใครๆ ก็หลงรักค่ะ

LUNA LANAI ให้บริการอาหารไทย อาหารทะเลสดใหม่ และเครื่องดื่มนานาชนิด

เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.30 น.

จานแรกฉู่ฉี่ปลาแซลมอน ราคา 540 บาท

จานนี้เสิร์ฟแซลมอนชิ้นโตเต็มคำรสชาติกลมกล่อมและไม่เผ็ดมาก อร่อยถูกใจ

ถ้วยนี้เป็นต้มข่าไก่ค่ะ ราคา 240 บาท ถ้วยนี้รสอ่อนไปนิด รสชาติออกไปทางแกงเหลืองมากกว่า

จานสุดท้ายของมื้อกลางวันเป็น ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย ราคา 380 บาท

ปูนิ่มทอดกรอบกำลังดีโรยกระเทียมมาอย่างจุใจ อร่อยค่ะ

อิ่มท้องกันแล้วเดินย่อยสักหน่อยนะคะ ไปชมห้องพักประเภทอื่นๆ กันบ้างดีกว่า

Room typeแรกจะเป็น  Garden Terrace

อย่างที่อิ้มบอกไปตั้งแต่ต้นนะคะ ว่าห้องพักจะตกแต่งเหมือนกันต่างกันที่วิวภายนอกแบบ Garden Terrace ก็จะมีสวนเล็กๆ อยู่ที่ระเบียง Room type แบบนี้ก็ดีนะคะ เงียบสงบ เปิดผ้าม่านออกมาก็รู้สึกสดชื่นและเป็นส่วนตัวกว่า Lagoon Access

ต่อมาเป็น Lagoon Suite เป็นห้องพักขนาด 98 ตารางเมตรกว้างขวางทีเดียว ภายในมี 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน มุมโต๊ะทำงาน ห้องน้ำขนาดใหญ่ และตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ค่ะ

ห้องน้ำอลังการ กว้างขวางเวอร์วังมากเลยทีเดียว

ระเบียงห้องค่ะ สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นเดียวกัน ห้อง Lagoon Suite นี้เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อนวาเลนไทน์นี้ถ้าใครมองหาที่พักให้คนรักอยู่จองเลยนะคะ อิอิ

ต่อมาเป็น Ocean Front ค่ะ ตกปต่งคล้ายกันเช่นเคย แต่วิวทางนี้สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงาม

ภายในห้องนะคะ

มองออกมาด้านนอกจะเป็นวิวทะเล ใครที่ชอบความสงบ Room type นี้ก็เหมาะนะคะ

Room type สุดท้ายที่จะพามาชมนั่นก็คือ Ocean Suite ค่ะ

Room type นี้มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวางขนาด 98 ตารางเมตร

การตกแต่งคล้าย Lagoon Suite ภายในมี 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน มุมโต๊ะทำงาน ห้องน้ำขนาดใหญ่ และตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in

ต่างกันที่วิวเช่นเคยค่ะ

ไม่นานก็เริ่มค่ำค่ะ แสงทไวไลท์เริ่มมาเยือนเป็นช่วงเวลาที่อิ้มชอบที่สุด

มาชมบรรยากาศรีสอร์ทในช่วงค่ำกันบ้างนะคะ

INFINITY POOL ในช่วงทไวไลท์

ในทุกๆ วันศุกร์ ที่ Luna Lanai จะมี BBQ Buffet ขนอาหารทะเลสดๆ มาย่างกันริมทะเล ในราคาท่านละ 1,490 บาท บรรยากาศดีมากอาหารอร่อยและมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะคะ

ไลน์อาหารก็มีหลากหลายอย่าง

มุมนี้เด็ดมาก วันที่อิ้มไป ปลาหมึกสดมากๆๆ เดินวนหลายรอบเชียวค่ะ 5555

เลิฟจานนี้สุดๆ

ดนตรีสด ที่มาเล่นให้ฟัง สร้างความชิลและสร้างสีสันให้มื้อ Dinner นี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ก่อนจากกันในรีวิวนี้ขออวดแม่สักหน่อยนะค๊าา อิอิ

โดยรวมอิ้มชอบที่นี่มากค่ะ สำหรับอิ้ม อิ้มคิดว่าที่นี่เหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อนแบบครอบครัว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและยังตอบโจทย์ลูกค้าโดยมีห้องพักหลากหลายแบบให้ได้เลือกพัก หากใครมองหาที่พักที่หัวหินลองเลือกมาพักที่ Sheraton Hua Hin Resort And Spa นะคะ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ