ผ่านไปไม่นานเดือนแรกแห่งปี 60 ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วนะคะ นี่ก็ใกล้จะเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักอีกแล้ว สำหรับคนที่มีความรักอยู่แล้วก็คงจะ Happy มีความสุข แต่สำหรับคนที่ไม่มีคู่ เราไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงความรักต่อแฟนอย่างเดียว จริงๆ แล้วอิ้มคิดว่าเราสามารถแสดงความรักได้ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน ทำได้ทั้งนั้นเลยค่ะ แล้ววาเลนไทน์เกี่ยวอะไรด้วย เกี่ยวสิคะเพราะอิ้มมีโอกาสมาพักที่โรงแรม Dream Hotel Bangkok โรงแรมใจกลางกรุง ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท 15
การเดินทางสะดวกเพราะอยู่ใกล้แยกอโศก ใกล้กับ BTS และใกล้กับห้าง Terminal 21
ความพิเศษของรีวิวนี้ก็คืออิ้มมีโอกาสได้ถ่าย Valentine set menu ด้วยเดี๋ยวตามไปชมในรีวิวพร้อมๆกันนะคะ

ก่อนอื่นฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยนะคะ

https://www.facebook.com/psstorytrip

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นนะคะว่าทำเลที่ตั้งของ Dream Hotel Bangkok อยู่ใจกลางกรุงเทพ ซอยสุขุมวิท 15

สำหรับท่านที่สะดวกนำรถส่วนตัวไป ที่นี่ก็มีที่จอดรถให้อยู่ด้านหลัง Dream อาคาร 1 ที่ Dream hotel Bangkok จะมี 2 อาคารนะคะ ส่วนที่อิ้มพักจะอยู่ที่อาคารที่ 2 เราจอดรถเสร็จเดินข้ามถนนกลางซอยเข้ามาได้เลย มี รปภ พาข้ามถนน

หลังจาก เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นห้องพักกันค่ะ

ห้องที่อิ้มพักคือ Dream Nirvana Suite เป็น Highest Category โดยราคาเริ่มต้นประมาณ 15,800 บาท++

ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลานะคะ

Highest Category ภายในห้อง  Dream Nirvana Suite เป็นอย่างไร ภายในมีพื้นที่ใช้สอยขนาด 80 ตารางเมตรซึ่งค่อนกว้าง

ภายในประกอบไปด้วย ห้องนั่งเล่น มุมทานอาหาร ห้องนอน ถัดไปเป็นห้องน้ำ

แต่สำหรับอิ้ม อิ้มคิดว่าราคา Dream Nirvana Suite ค่อนข้างสูงเกินไปสำหรับราคาห้องพักในกรุงเทพฯ และราคาสำหรับคนไทยแต่ถ้าราคา Type อื่นก็เริ่มประมาณ 3000 ++ ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาเช่นกันนะคะ

มองย้อนกลับไปเราจะเห็นว่ามีพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหาร

ถัดมาอีกห้องจะเป็นห้องนอนกว้างขวางเช่นเดียวกัน มีมุมนั่งเล่น มีทีวี ตู้เย็น และมุมโต๊ะทำงานด้วยนะคะ

ส่วนสุดท้ายจะเป็นห้องน้ำค่ะ  มีทีวีและ bathtub  ภายในแบ่งแยกส่วนแห้งและเปียกได้อย่างชัดเจน

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำก็ค่อนข้างครบครัน

ด้านมินิบาร์มีหลากหลายและมีราคาชัดเจน แต่พวกชา กาแฟ ทานฟรีนะคะ

เสร็จจากชมห้องพักของอิ้มไปแล้ว เดี๋ยวมาชมส่วนถัดไปกันนะคะ

ส่วนของห้องพักที่จริงมีหลากหลาย Room type ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 3000 ++

มาพูดถึงความพิเศษของรีวิวนี้กันต่อ

รีวิวนี้อิ้มมีโอกาสได้ถ่าย Valentine set menu และบรรยากาศต่างๆ โดยรอบแต่อิ้มไม่ได้ชิมนะคะ เลยไม่สามารถบอกรสชาติอาหารได้

โดยจะจัดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 ที่  Flava Lite Pool & Bar ตั้งแต่เวลา 18.00 น.-22.00 น. ราคา set ละ 999 . (ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษี 7%) 

ใน Set ก็จะประกอบไปด้วย 4 Course ด้วยกัน

โดยจะเริ่มตั้งแต่ หอยลายอบเนยคู่กับขนมปังกระเทียม

ต่อมาจะเป็น ซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล

Main Course สามารถเลือกได้นะคะว่าจะเป็นกริลด์ปลาแซลมอนกับมันฝรั่งอบชีสซอสไวน์ขาว

หรือ

 เนื้อซี่โครงแกะย่างกับมันฝรั่งอบชีส

สุดท้ายเป็น สตรอเบอร์รี่มูสเค้ก

เชฟที่นี่คือ เชฟบุญเชิด แก้วปลั่ง เชฟใหญ่เจ้าของรางวัล Appetizers Champion Chef ค่ะ

บรรยากาศโดยรอบ

ใครสนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ +66 (0) 2254 8500 or email: info@dreambkk.com นะคะ

เสร็จจากด้านบนแล้วอิ้มจะพามาชม อาคารที่ 1 ของ Dream Hotel Bangkok กันค่ะ

ในส่วนของชั้นล่างก็จะเป็น Lobby

ไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้น 2 ชั้นสองชั้นเป็นร้านอาหารและบาร์

ส่วนแรกจะเป็น FLAVA RESTAURANT ให้บริการอาหารทุกวัน ตามเวลาดังนี้

ห้องอาหารฟลาว่า
06:30 – 11:00 น. (Breakfast)
11:30 – 23:00 น. (All-day dining)

ช่วงเย็นอิ้มทานอาหารที่นี่ค่ะ

จานแรกเป็น Signature Dish  Grilled Chicken Hip Skewer ราคา 290++

ตกแต่งได้ดีนะคะ แต่อาจจะเกะกะโต๊ะและทานยากไปหน่อย

Pizza primavera ราคา 350++

พิซซ่าแป้งบางกรอบรสชาติใช้ได้ค่ะ

จานต่อมาเป็น

Pan-fried Salmon ราคา 420++

จานนี้แนะนำให้สั่งนะคะ อร่อยทีเดียวเนื้อแซลมอนทำได้กำลังพอดี

Chicken Schnitzel ราคา 280++

สุดท้ายเป็น

Penne Carbonara ราคา 250 ++

 อีกส่วนหนึ่งก็คือ FLAVA BAR & LOUNGE ให้บริการตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็น ถึง 5 ทุ่มค่ะ

ค็อกเทล

แก้วนี้เป็น Blue Dream ราคา 250++

และ

Strawberry Martini ราคา 300++

ได้เวลากลับมาพักผ่อนที่ห้องกันแล้วค่ะ นี่คือส่วน Lobby ของอาคาร Dream2

บนห้องนอนพนักงานจะมา Turn Down ให้นะคะ เห็นว่าห้องที่เป็นแสงสีฟ้านี่จะช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น

นอนหลับฝันดีมาทั้งคืนแล้ว ตื่นเช้าเราก็มาทานอาหารเช้ากันที่อาคาร Dream 1 ค่ะ

อาหารเช้ามีมากมายหลายอย่าง ไม่มากจนเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป

มีสเตชั่นก๋วยเตี๋ยวด้วยนะคะ ก๋วยเตี๋ยวที่นี่เราบริการตัวเองได้เลยมีน้ำซุปให้เลือกเส้นและผักตามใจชอบ

ชีสและสลัดต่างๆ

เมนูจะสลับสับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน

ผลไม้ต่างๆ

Egg Station

ทานอาหารเช้าเสร็จก็กลับที่อาคาร Dream 2 ค่ะ มาชม Fitness กันค่ะ

สุดท้ายขอจบรีวิวนี้ด้วยภาพบรรยากาศ pool ในช่วงกลางวันนะคะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากๆ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ