– ส วั ส ดี หั ว หิ น Trip 3 –
ยังอยู่หัวหินเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนรีสอร์ท
ครั้งนี้อิ้มย้ายมานอนที่ la a natu bed & bakery ค่ะ
la a natu bed & bakery รีสอร์ทนี้ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานานแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของที่พักที่บรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงเสียงลม เสียงคลื่น และแสงดาวอยู่เป็นเพื่อน หรือจะ afternoon tea เริ่ดๆที่ ใครผ่านไปแวะมาเป็นต้องถ่ายภาพเช็คอินให้แอบอิจฉากันอยู่บ่อยๆ และวันนี้อิ้มได้มีโอกาสมาพักที่นี่ (สักที555) ในที่สุดชั้นก็ได้มาแล้ว (หัวเราะเสียงนางมารร้าย) เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ที่อยู่ในใจอีกที่หนึ่งของอิ้มเลยก็ว่าได้ค่ะ ครั้งนี้มีเวลาพักผ่อนอยู่ที่ 3 วัน 2 คืน จะฟิน จะชิล แค่ไหนตามไปชมรีวิวนี้พร้อมๆกันเลยจ้า
นอนฟังเสียงคลื่น ตื่นรับเสียงลม@ “la a natu bed & bakery”
และขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว
บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ อิ้ม ด้วยนะจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip
ส่วนใครอยากชม VDO la a natu bed & bakery ในมุมมองของอิ้มคลิ๊กเบาๆที่ลิ้งค์นี้ได้เลยจ้า
การเดินทางมาที่นี่ไม่ยากเลยค่ะ สามารถเปิด google map มาได้สบายมาก ส่วนตัวอิ้มเองแถวๆนี้บ่อย ขับรถเลียบชายหาดปราณบุรีเข้ามาชิลๆ ฟินมาก ทะเลที่นี่เงียบสงบค่ะ ถึงน้ำทะเลจะไม่ค่อยใสเท่าไหร่ แต่ความเงียบสงบบอกเลยชนะเลิศ พอถึงแล้วจอดรถไว้ด้านนอกนะคะ บริเวณที่จอดรถจะมีรถกอล์ฟบริการรับ-ส่ง แต่ถ้าใครอยากออกกำลังกาย เดินเข้าเล่นๆ ชิลๆ ก็ได้เหมือนกันค่ะ
la a natu เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านทั้งหมด 10 หลังจะแบ่งเป็น 3 สไตล์
แบบแรกเป็น Tropical Village ถ้ามองจากภาพจะมี 4 หลัง หลังคาสีน้ำตาล
แบบที่ 2 เป็น Tropical Cottage เป็นบ้านติดหน้าหาด มีอยู่ 3 หลัง
แบบที่ 3 เป็น Loft Suites ตั้งอยู่บริเวณตึกด้านล่างซ้ายมือ
ภายในเงียบสงบมาก ภายในรีสอร์ทเราจะได้ยินเสียงคลื่นตั้งแต่เดินมาถึง Lobby เลยค่ะ
ด้านหน้า ก่อนถึง Lobby จะมี Vespa คลาสสิกมากๆ มาแล้วต้องมาถ่ายภาพตรงนี้นะ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
พอเรามาถึงจะมีทางเดินเล็กๆเข้ามาที่ Lobby ค่ะ ก่อนเดินเข้ามาจะมีพนักงานถือผ้าเย็นมารอตรงทางเดิน รับผ้าเย็นแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะถึง Lobby ค่ะ
la a natu อย่างที่เกริ่นไป มีบ้านพักทั้งหมด 10 หลังแบ่งออกเป็น 3 สไตล์ แบบแรกที่อิ้มจะพาไปชมก็จะเป็นในส่วนที่อิ้มเข้าพักนั่นก็คือ บ้าน Vanilla Pool Villa หลังเดียวของ la a natu
Vanilla เป็นบ้านแบบ Loft Suites
Loft Suites เป็นอาคารสไตล์ Modern มีสองชั้นและ 3 หลัง อีกสองหลังจะตกแต่งเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ vanilla มีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่า และมี Pool ส่วนตัว
ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น ด้านนอกบ้านจะมีอ่างจากุชชี่ และ Pool ส่วนตัว ชั้นบนเป็นห้องนอน มีห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่าง
รอเช็คอินไม่นานก็มาที่ห้องค่ะ Welcome drink จะมาเสิร์ฟให้ที่ Villa แต่อิ้มขอ present ทางเดินตรงนี้นะคะ เพราะสามารถเดินเชื่อมไปห้องอาหาร และ สระว่ายน้ำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ขอเข้า Villa ทางนี้นะคะ แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เข้ามาจะเป็นชั้นที่สองค่ะ
ประตูที่มองเห็นคือประตูห้องนอน
มองลงไปด้านล่างจะเป็นห้องนั่งเล่นมีประตูเป็นบานเลื่อน สามารถลงสระน้ำได้เลย คือดีงามมาก
เดินลงมาชั้นล่างนะคะ Pool ส่วนตัวกว้างขวางพอสมควร
ถัดมาจากห้องนั่งเล่นจะมีชั้นติดพนังวางข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเอาไว้
เครื่องดื่มต่างๆจะมีราคาเขียนบอกไว้หมดเลยค่ะ ส่วนน้ำเปล่ามีให้วันละ 6 ขวดทานได้ฟรี ตรงนี้ชอบมากๆ เพราะบางครั้ง 2 ขวดไม่พอจริงๆ
ห้องน้ำด้านล่างค่ะ แบ่งแยกส่วนแห้งและเปียกได้อย่างชัดเจน
มาชมด้านนอกกันบ้างนะคะ
เปิดบ้านพับไม้ออกมาแค่นี้ก็มองเห็นทะเลแล้ว ว่ายน้ำไป มองทะเลไป มีความสุขอะไรเช่นนี้
มองจากหน้าบ้านนะคะ ด้านขวามือจะเป็น จากุซซี่
เอาแล้วล่ะสิ ชั้นจะแช่ตรงไหนดี 5555
ถ่ายจากด้านบนแยกเป็นสองฝั่งค่ะ ฝั่งซ้ายจะเป็นจากุซซี่
ฝั่งขวาจะเป็น Pool ส่วนตัว ถ้ามาที่นี่ แนะนำมาพัก สักสองคืนสามวันนะคะ จะคุ้มค่ากับการมาพักผ่อนมาก
ช่วงบ่ายอิ้มใช้เวลาพักผ่อนอยู่ใน villa ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอางานมานั่งทำชิลๆ แต่ทำไมก็ไม่รู้กลายเป็นขี้เกียจไปซะอย่างนั้น บ่ายแก่ๆ ตามเสียงร่ำลือ ว่า set Afternoon tea ที่นี่เค้าเด็ด จัดมาสิคะรออะไร สั่งมาทานที่ห้องได้เลย
แต่ละชิ้นขนาดน่ารัก พอดีคำ
และที่สำคัญที่สุดคือ เค้กที่นี่อร่อยทุกชิ้น ชอบมาก ส่วนใครผ่านมาแถวนี้แต่ไม่ได้มาพัก ก็สามารถเข้ามาทานอาหารได้ด้วยจ้า
ทานอิ่มๆ เผลอแป๊ปเดียวก็ได้เวลาคว้ากล้องไปสำรวจส่วนต่างๆกันต่อ อิ้มดิ่งมาที่ชั้นสองบริเวณห้องนอนก่อนค่ะ
ไม่มีเตียงนอน แต่เป็นฟูกใหญ่นุ่มๆ นอนมองทะเลได้สบายๆ
ห้องน้ำในชั้นที่สองค่ะ
ด้านบนมีน้ำดื่มให้สองขวด
สำรวจด้านบนเสร็จแล้วลงมาข้างล่างกันต่อนะคะ มองจากในห้องนั่งเล่นออกไปเห็นทะเลกว้างๆ บรรยากาศเป็นเลิศ
ช่วงเย็นฝนตกลงมาค่อนข้างหนักค่ะ พื้นบางส่วนเปียก
ออกมาจาก Villa (กันบ้าง) มาชมส่วนของวิลล่า แบบที่ 2 กันค่ะ
แบบที่ 2 นี้คือ Tropical Cottage จะมี 3 หลัง มีชื่อว่า ต้นหอม ตะไคร้ ใบมะกรูด
ส่วนนี้เป็น Loft Suites ที่อิ้มพัก Vanilla คือหลังด้านริมสุดขวามือ ตอนเช็คอิน พนักงานจะพาเราเดินมาทางนี้ค่ะ
ทางเดินรอบๆรีสอร์ท ตกแต่งไฟทางด้วยการเอาสุ่มไก่มาครอบเป็นไอเดียที่ดี
เดินมาชม Villa แบบสุดท้ายของ La a natu กันดีกว่า เดินตัดมาทาง Lobby
ตรงนี้เป็นทางเดินสวยๆ ที่เข้ามาจากด้านนอกค่ะ
ส่วนนี้จะติดกับ Lobby เป็นโซนแรกเมื่อเข้ามาถึง จะเป็นส่วนของ Tropical Village บ้านสไตล์เก๋เก๋ มีทั้งหมด 4 หลัง เป็นเรือนไม้ ยกใต้ถุนสูง มีนาข้าวล้อมรอบบ้าน แต่บ้านนี้ไม่ใช่ธรรมดานะจ้ะ เพราะด้านล่างมีจากุซซี่และเดย์เบด ช่วงกลางวันสามารถมานั่งทำงานชิลๆ หรือรับลมเย็นๆได้สบายๆ
มาชมสระว่ายน้ำกันต่อค่ะ
Chocolate Pool สระว่ายน้ำสีน้ำตาลขนาดกระทัดรัด
ถ้าอากาศดีๆ ฟ้าเปิดเราจะเห็นดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า
นั่งดูดาวๆข้างๆทุ่งนาและทะเล จะมีที่ไหนอีกไหมเนี่ยที่จะฟินขนาดนี้
ค่ำลงก็ได้เวลาทานข้าวเย็นค่ะ เค้าว่าที่นี่อาหารอร่อย อิ้มก็เชื่อนะ เพราะตอนกลางวันทานเค้กก็อร่อยมากๆ
อาหารโดยรวมก็จะเน้นเป็นอาหารไทยค่ะ มียุโรปนิดหน่อย
อย่างแรกอิ้มเลือกทาน ต้มข่าไก่ แทบจะว้าวออกมา เพราะ ต้มข่าไก่ที่นี่ ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อธิบายได้เป็นคำพูดว่าอร่อย เข้มข้นมาก ถ้าอยากรู้ลองมาชิมดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง
ฉู่ฉี่กุ้ง เครื่องแกงแน่นมาเต็ม อร่อยมาก หอมเครื่องแกงเน้นๆ
ปลาหมึกทอด อันนี้ปกติค่ะ
จานสุดท้ายเป็นสเต็กเนื้อ อร่อยมากเช่นกันค่ะ
กลับมาที่ห้องเตรียมตัวนอน พนักงานก็มา turn down พร้อมกับวางน้องควายเอาไว้ให้นอนกอด
หลังจากที่หลับสบายไปทั้งคืนแล้ว อิ้มรีบตื่นมาตอนเช้าเพื่อรอพระอาทิตย์ขึ้น แต่ดูเหมือนฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่
แต่ในเวลาแบบนี้ อิ้มรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ทุกอย่างเงียบสงบ มองดูคลื่นซัดสาดเบาๆ เรือลำเล็กลำน้อย แล่นผ่านไปมาอย่างช้าๆ เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย Slowlife สุดๆ
เก้าอี้ตัวเปล่า ในเช้าวันใหม่
ถ่ายไปถ่ายมาชักเหงา ไปปลุกน้องควายตื่นมาถ่ายรูปดีกว่า 1 2 3 แชะ !!!
ตื่นเช้ามา เห็นวิวแบบนี้รู้สึกว่าดีต่อใจเหลือเกิน
เพลิดเพลินไปกับวิวยามเช้าแล้วนะคะ เดี๋ยวเราไปทานอาหารเช้ากันต่อดีกว่า
อาหารเช้าที่ la a natu นี้ไม่ได้เป็นบุตเฟ่ต์นะคะ ที่จะมีอาหารให้ตักได้ตลอดก็คือ สลัดกับผลไม้ นอกนั้นเราสามารถสั่งจากเมนูกระดาษนี้ได้เลย อาหารเช้าเริ่มตั้งแต่ 7 โมง ถึง 10 โมงเช้าค่ะ
เริ่มสั่งกันเลยดีกว่า
ขนมปังปิ้ง
มาที่นี่ ห้ามลืมสั่ง waffle เด็ดขาด เพราะอร่อยมากกกก
ข้าวหมู/ไก่ กระเทียมก็มีนะจ้ะ
ข้าวต้มหมูร้อนๆ
เมนูไข่ต่างๆ อย่าง omelet
หรือจะทานอะไรง่ายๆอย่างไข่ดาว ก็โอเค
อิ่มท้องแล้วเดินย่อยบริเวณรอบๆดีกว่าเริ่มต้นที่ Chocolate Pool
บรรยากาศในช่วงกลางวันสวยไปอีกแบบ
อีกอย่างที่อิ้มรู้สึกว่าชอบที่นี่เพราะว่า เค้าสามารถผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นของเรามาประยุกต์ใช้กับศิลปะสมัยใหม่ เช่นนาข้าวใกล้ทะเล แบบนี้ก็ได้ด้วย ดูลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
เดินมาชมในส่วนของ Tropical Village ในช่วงกลางวันบ้าง
ย้อนกลับมาที่ชายหาด
Loft Suites ช่วงกลางวัน
แต่ชายหาดที่นี่ทรายไม่ค่อยละเอียดนัก และมีเปลือกหอยเยอะควรใส่รองเท้าเดินลงมาชายหาดนะคะ
Tropical Cottage ในช่วงกลางวัน
เดินออกจาก Villa นิดเดียวก็ถึงทะเลแล้วววว
เที่ยงพอดีรออะไรล่ะคะ มาทานอาหารกลางวันกันดีกว่า
เอาแบบง่ายๆ เลย ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ รสชาติปกติทั่วไป
จานที่สองยำเนื้อริบอาย ชอบมากกกก เนื้อไม่สุกกำลังดี เนื้อนุ่ม รสชาติยำแซ่บมากกก
ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ คืออร่อยมาก รสชาติเข้มข้นอีกแล้ว
ผัดฉ่าตุ้ง เอ๊ย ผัดฉ่านุ่ง เย้ย ผัดฉ่ากุ้ง เฮ้ย ถูกแว้ววว !!! เล่นเองขำเอง 5555
อิ่มท้องแล้วมาถ่ายภาพกันต่อค่ะ คราวนี้ชมภาพมุมสูงกันบ้าง
หากใครถามว่าที่นี่ติดทะเลไหม อิ้มขอให้ภาพเป็นคนเล่าเรื่องแล้วกัน
เป็นรีสอร์ทที่มีทั้งภูเขา ทะเล และท้องนา หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ณ เวลานี้
ขอทิ้งท้ายความสุขไปด้วยภาพนี้นะคะ อยู่ที่นี่ผ่อนคลาย สบายใจมาก มีความสุขมาก แล้วสัญญาว่าจะกลับมาใหม่ รักเธอนะ La a natu
สุดท้ายก่อนจะจากกันขอสรุปข้อดีข้อเสียของ La a natu แห่งนี้กันก่อนนะคะ
ข้อดี
1 เป็นรีสอร์ทที่มีสไตล์มีความชัดเจนและเป็นตัวเองสูง
2.เหมาะกับการมาพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
3.ภายในรีสอร์ทเงียบสงบมาก
4.อาหารอร่อยมากกกกกก
5.พนักงานทุกคนบริการดี น่ารักมาก ใส่ใจรายละเอียดดีค่ะ
ข้อเสีย
1 . ถนนด้านหน้าทางเข้าค่อนข้างแคบขับรถมาควรระวังนะคะ
2.ใน บ้าน Vanilla ที่อิ้มพัก บันได ไม่มีราวกั้น ถ้ามีเด็กๆ มาด้วยควรดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ อัพเดทเรื่องกิน เช็กอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะค๊าา สวัสดีค่ะ