สวัสดีค่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกท่าน

ช่วงนี้อากาศทางภาคเหนือกำลังเย็นสบาย อิ้มจึงตั้งใจที่จะพาทุกท่านไปเที่ยวทางภาคเหนือกันค่ะ จังหวัดทางภาคเหนือของบ้านเรา อิ้มบอกได้เลยว่า น่าเที่ยวทุกจังหวัด เพราะทุกจังหวัดจะมีเสน่ห์แตกต่างกันไป แต่วันนี้ อิ้มพาทุกท่านไปสัมผัสดินแดนเหนือสุดแห่งสยาม จะเป็นที่ไปไม่ได้ นอกจาก จังหวัดเชียงรายค่ะ

จังหวัดเชียงราย นับได้ว่าเป็นจังหวัดที่อิ้มคุ้นเคยอย่างมาก เพราะคุณแม่เป็นคนเชียงราย ช่วงวัยเด็กอิ้มจึงได้ไปเที่ยวเชียงรายอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่ง คุณยายเสีย จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสกลับไปสักเท่าไหร่ หลายปีที่ผ่านมา อิ้มเองได้เห็นเชียงรายเพียงผ่านสื่อต่างๆ ยังคิดในใจว่า จริงๆ เชียงราย เป็นจังหวัดที่สวย และ น่าท่องเที่ยวมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะไปเที่ยวชมทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า ดอยผาตั้ง ชมดอกไม้สวยๆ ที่ดอยตุง หรือจะไปเที่ยวชมไร่ชาที่แม่สลอง หรือไร่ชาฉุยฟง แค่พูดชื่อสถานที่ขึ้นมาก็ทำให้ทุกท่าน คิดถึงความสวยงามของเชียงรายกันแล้วใช่ไหมคะ แต่วันนี้อิ้มจะพาไปเที่ยวเชียงรายในแบบชิลๆ ตามสไตล์ของอิ้ม ขับรถลัดเลาะริมโขงเที่ยวแม่สาย เชียงแสน เชียงของ ชมวิวทิวทัศน์ในอีกมุมมองหนึ่งของเชียงราย ผ่าน เรื่องราวดีๆจากอิ้ม psstory เชียงรายในมุมมองของอิ้ม จะประทับใจทุกคนหรือไม่ ตามไปชมในรีวิวนี้พร้อมๆกันเลยค่ะ

ขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ  ps story ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/psstorytrip

มีวีดีโอกันด้วยอย่าลืมปรับเป็น HD เพื่อความชัดในการรับชมนะคะ

มาเริ่มต้นทริปนี้ด้วยการเดินทางกันค่ะ อิ้มเลือกที่จะบินไฟล์ทเช้า เพื่อไปถึง เชียงราย ในเวลาสายๆ วันนี้อิ้มบินกับสายการบินนกแอร์ เดี๋ยวนี้ นกแอร์เค้าอำนวยความสะดวก กับผู้โดยสารมากขึ้น ที่ถูกใจกันมากที่สุด ก็น่าจะเป็นบริการนำจักรยานขึ้นเครื่องได้ท่านละหนึ่งคัน ที่สำคัญบริการนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย และเครื่องบินบางลำ ยังมีบริการ wifi ฟรี อัพเดทข่าวสารได้ทันใจสะดวกสบาย ไม่ขาดช่วงค่ะ

นั่งเครื่องมาเป็นเวลา ชั่วโมงนิดๆ สายการบินนกแอร์ ก็พาเรามาถึงสนามบินนานาชาติแม่ฟ้าหลวงกันแล้ว เมื่อลงเครื่องและรับกระเป๋าปุ๊ป อิ้มก็ตรงดิ่งมาที่บริการรถเช่าคู่ใจ อย่าง Avis rent a car  เพื่อมารับรถไปตะลอนทัวร์เชียงรายเป็นเวลา 3วัน2คืนค่ะ

ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร อิ้มก็มีทริคเล็กๆน้อยมาฝาก เวลาเราใช้บริการรถเช่า อย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถทุกครั้งก่อนออกจากที่รับรถ จะถ่ายภาพรถรอบคันเก็บไว้ด้วยก็จะดีมากเพราะเป็นช่วยเป็นการยืนยันเวลาที่เราคืนรถ เพื่อเซฟทั้งตัวเราและบริษัท

รับรถเสร็จแล้ว ก็ดิ่งตรงเข้ามายัง อ.เมือง เพื่อมาหาอะไรรองท้องกันก่อนค่ะ มาถึงเชียงรายแล้วก็ต้องมาทานอาหารเลื่องชื่อ นั่นก็คือ ต้มเลือดหมู เจ้าเก่าชื่อดัง อย่างร้านเจ๊สหรส

ร้านนี้หาไม่ยากค่ะ เพราะตั้งอยู่บริเวณ หอนาฬิกา ความพิเศษของร้านนี้ก็คือ ต้มเลือดหมูใส่ผักจิงจูฉ่าย

ภายในร้าน นอกจากเกาเหลาเลือดหมูแล้ว ก็ยังมีโจ๊ก ข้าวต้มเครื่องและก๋วยจั๊บน้ำใส ราคาเกาเหลาเลือดหมูอยู่ที่ชามละ 40 – 50 บาท ก๋วยจั๊บน้ำใส 40 บาท โจ๊ก 30 – 40 บาท ข้าวต้มเครื่อง 30 – 40 บาท

ข้าวเปล่า 10 บาท อร่อย และราคาไม่แพงค่ะ

ร้านเจ๊สหรสไม่ได้มีสาขาที่วงเวียนหอนาฬิกาเพียงที่เดียวนะคะ ยังมีอีกร้านนึงที่ถนนพหลโยธินด้วย สะดวกตรงไหน แวะทานได้เลยค่ะ

หลังจากทานต้มเลือดหมูเสร็จ ก็เดินมาอีกนิดจะเจอร้านกาแฟรถเหลือง กาแฟเจ้าดัง ของเชียงรายค่ะ

เมนูของร้าน ก็มีทั้งกาแฟสด กาแฟโบราณ ชา โกโก้ โอวัลติน และบริการอาหารเช้า เช่น ไข่กะทะ ไข่ลวก ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง

ระหว่างนั่งทาน เจ้าของร้านมายืนร้องเพลงและดีดกีตาร์ให้ฟัง  นั่งชิลๆ อากาศเย็นๆ จิบชาอุ่นๆ เพลินเลยค่ะ

มองดูนาฬิกา เวลาประมาณสิบโมง ยังไม่ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พัก อิ้มจีงตัดสินใจขับรถไปเที่ยวแม่สายก่อน ระหว่างทางไปแม่สาย ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแห่งถ้าแวะหมดคงเวลาไม่พอแน่ๆ ต้องเลือกเฉพาะที่อยากไป แล้วล้อก็หมุ่นมาบรรจบที่นี่ค่ะ ไร่ชาฉุยฟง

หลายๆท่านคงจะมีโอกาสแวะมาเที่ยวที่นี่กันแล้วนะคะ

นั่งไปสักพักอิ่มเอมกับบรรยากาศเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อแล้วค่ะ สถานีต่อไป แม่สาย

การมาเที่ยวแม่สาย สามารถเที่ยวได้ทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่านะคะ

แต่การที่เราจะข้ามไปฝั่งพม่าเราจะต้องไปทำหนังสือผ่านแดน
แวะทำบัตรผ่านแดน ก่อนถึง จุดผ่านแดน ประมาณ 1 กิโลเมตร นะคะ สังเกตุ ป้ายจะมีบอก ถ้าไม่ได้ทำ ก็จ้าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวด่านผ่านแดนไปทำได้ แต่จะให้ดีควรไปทำเองดีกว่าเพื่อความปลอดภัยค่ะ

ความแตกต่างระหว่างสองฝั่ง

ฝั่งไทย ส่วนใหญ่ พวก เครื่่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น จะถูกกว่าฝั่งพม่า

ฝั่งพม่า จะเป็นของcopy brand ต่างๆเยอะมากราคาไม่แพง สาวๆนักช็อปต้องถูกใจมากแน่ๆค่ะ

แต่อย่างว่านะคะ ซื้อของอาจจะต้องมีสติสักนิด ตาดีได้ ตาร้ายเสีย

สินค้ามีหลากหลายประเภทค่ะ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า เครื่องไฟฟ้า ของจุกจิก ยั่วใจยิ่งนัก

เดินได้สักพักดูเวลาก็เย็นย่ำ ได้เวลาให้กระเป๋าสตางค์ได้พักผ่อนกันแล้ว 55555 เวลาสมควรเดินทางกลับที่พักในตัวเมืองกันดีกว่าค่ะ สาเหตุที่กลับมาพักในตัวเมืองก็เพราะว่า คืนนี้อิ้มจะเดินเที่ยวไนท์บาซ่าร์ และตั้งใจจะไปทานอาหารร้านหนึ่งซึ่งอยู่ในตัวเมืองเชียงราย เดี๋ยวติดตามชมนะคะว่าจะเป็นที่ไหน ตอนนี้ได้เวลากลับมาที่พักกันแล้วค่ะ คืนนี้อิ้มพักที่ le patta  

https://www.facebook.com/Le-Patta-Hotel-Chiang-Rai-234810230003582/

le patta เป็นโรงแรมขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เลยห้าแยกพ่อขุนมาทางหอนาฬิกา โรงแรมตั้งบริเวณอยู่ริมถนน ใกล้ๆ ไนท์บาซ่าค่ะ

room type จะมี 3 ประเภท แบ่งออกเป็น

1 Superior – twin bed , double bed

2 Deluxe – twin bed , double bed

3 Suite

แบบแรกที่จะพาไปชมคือ Superior – twin bed

แบบที่ 2 คือแบบที่อิ้มพัก Deluxe – double bed

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องน้ำค่ะ

ชมภายในห้องกันแล้วมาชมบรรยากาสรอบๆโรงแรมกันบ้าง

main pool ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

โรงแรมมีพื้นที่ไม่มาก แต่สามารถจัดการพื้นที่ภายในได้ดีทีเดียวค่ะ

ด้าน lobby ช่วงหัวค่ำ

ชมบรรยากาศรอบๆโรงแรมแล้ว ขอเดินออกไปเที่ยวไนท์บาซาร์สักครู่นะคะ

ระหว่างทางเดินทางกลับ อากาศเริ่มหนาว เห็นร้านข้างทางมีต้มซุปเปอร์ขาย แหมๆๆ นั่งสิคะ รออะไร หม้อนี้ราคา 80 บาท ข้าวสวย ถ้วยละสิบบาท มื้อนี้ 100 บาทพอดิบพอดีรสชาติแซ่บ ถูกปาก ซดให้คล่องคอ รับอากาศหนาวๆ โล่งคอ อร่อยค่ะ

ร้านเมื่อกี้ไม่ใช่ร้านที่ตั้งใจมานะคะ ที่ตั้งใจมาทานคือร้านนี้ต่างหาก “71 celsius สุขกำลังพอดี“

https://www.facebook.com/71celsius

พระเอกเมนูหลักของร้านคือ “Pork Ribs” หรือ ซี่โครงย่าง ชุ่มซอสนุ่มๆ
ตอนแรกแอบคิดว่าราคาต้องแพงแน่ๆ แต่จริงๆแล้วไม่เลยค่ะ ดูในเมนูราคาไม่แพงอย่างที่คิด จานแรก สลัดปูนิ่ม ราคา น่าจะ 150++ ถ้าจำไม่ผิด แต่ไม่เกิน 200 แน่นอน อาหารที่นี่พูดเลยว่าเสิร์ฟมาได้จานใหญ่มากๆ ที่สำคัญอร่อยมากค่ะ

และพระเอกของวันนี้ก็คือนี่เลยค่ะ  Pork Ribs  ความพิเศษของซี่โครงย่างคือเนื้อนุ่มทานง่ายมากๆ แค่เอามีดแซะเบาๆเนื้อก็หลุดออกมา รสชาติหวานเค็มกำลังดี หอม เนื้อนุ่มชุ่มซอส ส่วนน้ำจิ้มทำออกมาได้ดีมากเลยค่ะ มี 2 อย่างให้เลือกทาน แบบแรก คือซอสมะเขือเทศ แบบที่สองคือน้ำจิ้มเผ็ด น้ำจิ้มเผ็ดแอบคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดนะคะ ตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ถูกใจมาก มาทานแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ

ซี่โครงสามารถสั่งได้ทั้งแบบขนาด S 199฿ และขนาดใหญ่ L 319฿ ของอิ้มเป็นขนาด Size L นะคะ ซี่โครงจะเสริฟพร้อมเครื่องเคียง สามารถเลือกได้ 2 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น สลัด / ไก่นักเก็ต / ข้าวผัดมันกุ้ง / มันฝรั่งทอด /

 พิกัดถนนจากสี่แยกประตูเชียงใหม่ตรงไปทางแยกเด่นห้า ร้านอยู่ขวามือตรงข้ามกับร้านหมูกะทะ หรือจะให้สะดวกสบายสามารถ คลิกดูGPSที่เช็คอินได้เลย ไม่หลงแน่นอนจ้า

 มื้อนี้สั่งน้ำอัดลมไปอีกสองกระป๋อง ราคาอยู่ที่ ห้าร้อยกว่าๆ จะบอกว่าคุ้มมากๆนะคะ เพราะอาหารที่ออกมาคุ้มค่าจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ ปริมาณ หน้าตา และความตั้งใจ

อิ่มแล้วก็กลับโรงแรมเตรียมตัวเดินทางเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ

หลังจากตื่นตอนเช้าอิ้มทานมื้อเช้าที่โรงแรม กว่าจะออกมาก็เวลาประมาณสิบโมงกว่าๆ อิ้มก็มุ่งหน้าขับรถไปเที่ยว สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งปลายทองของอิ้มวันนี้จะอยู่ที่ อ.เชียงของ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 10 เมื่อผ่านอ. แม่จันเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1016 (แม่จัน-เชียงแสน) ระยะทาง 29 กิ โลเมตร ก่อนถึงกำแพงเมืองเก่า เชียงแสนมีสี่แยกบายพาส เลี้ยวซ้ายมีป้ายบอกทางไปสามเหลี่ยมทองคำ ชัดเจนค่ะ

เที่ยววันธรรมดามักจะโชคดีแบบนี้ นักท่องเที่ยวไม่มาก สามารถจอดรถได้ด้านหน้าเลยไม่ต้องเดินไกล

สามเหลี่ยมทองคำ ในสมัยก่อนนั้น ถือว่าเป็นดินแดนที่มีชายแดน 3 ประเทศติดต่อกัน นั่นก็คือ ไทย ลาว พม่า แต่เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดค้าฝิ่นที่ใหญ่เกือบที่สุดในโลก การค้าขายบริเวณนั้นมีความคึกคัก เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงเรียกที่นี่ว่า สามเหลี่ยมทองคำ ต่อมาหลังจากมีการกวาดล้างยาเสพติดในช่วงหลัง สามเหลี่ยมทองคำ แห่งนี้ จึงถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

เมื่อมาถึงที่นี่ สิ่งแรกที่ควรทำนั่นก็คือ สักการะพระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ ซึ่งประดิษฐานกลางแจ้ง ณ สามเหลี่ยมทองคำ พระพุทธนวล้านตื้อองค์นี้เป็น พระเชียงแสนสี่แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติฯ องค์สีทองอร่าม สวยงาม ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขงนั่นเองค่ะ

หลังจากสักการะ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน เรียบร้อยแล้ว ก็มาชมวิวทิวทัศน์โดยรอบกันบ้างนะคะ อ่อ ที่นี่มีความพิเศษอีกหนึ่งอย่าง ก็คือ เมื่อเดินทางมาถึงเราสามารถ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขง
นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือเที่ยวชมทิวทัศน์จุดบรรจบของพรมแดนไทย ลาว และพม่า ค่าเช่าเรือประมาณ 300-400 บาท จุได้ประมาณ5- 6 คน ที่สามเหลี่ยมทองคำจะมีท่าเรือไว้บริการหลายท่า ถ้าต้องการนั่งชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงไป ไกลถึงเชียงแสนและเชียงของ ก็สามารถหาเช่าเรือได้ ค่าเรือขึ้นอยู่กับระยะทางว่าใกล้หรือไกล จากที่นี่ มาครั้งเดียวสามารถไปเที่ยวได้หลายที่ และสามารถข้ามไปเที่ยวยังฝั่งเพื่อนบ้านได้อีกด้วยค่ะ

วิวฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

จากจุดนี้เราจะมองเห็นวิวฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่าและลาวค่ะ

ก่อนกลับบริเวณฝั่งตรงข้ามก็มีของที่ระลึกไว้จำหน่าย สินค้าก็มีอะไรมากมายหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ

จากสามเหลี่ยมทองคำอิ้มก็แวะมาไหว้ต่อที่ วัดพระธาตุผาเงา  ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของตัวอำเภอเชียงแสนประมาณ 3 กม. หรืออยู่ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 15 กม.

ชื่อของวัดนี้มาจากชื่อของพระธาตุผาเงาที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา  (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา” ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า “วัดสบคำ” ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม แต่วันที่อิ้มไปมีการจัดงานด้านล่าง จึงไม่ได้ถ่ายภาพในส่วนของพระธาตุผาเงามาให้ชมกัน

อีกส่วนหนึ่งในบริเวณด้านล่างค่ะ

 หอพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติ  หลังจากไหว้พระในวิหารแล้วเดินมาอีกด้านหนึ่งตรงกันกับหน้าวิหารเราจะมองเห็นซุ้มหลังคาแบบล้านนาที่สวยงาม ซ่อนหอไตรไว้ด้านหลัง หอไตรหลังนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2550 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

ขับรถขึ้นมาชมพระอุโบสถกันต่อค่ะ เสียดายที่บูรณะอยู่ เลยถ่ายภาพมาได้แค่ด้านนอก

พอเราเข้าไปไหว้พระที่วิหาร เข้าไปชมหอไตรปิฎกสวยๆ งามๆ กันแล้วนะคะ อิ้มจะพากันขึ้นมาบนยอดเขาเล็กๆ ของวัดพระธาตุผาเงากัน ซึ่งความกว้างขวางของวัดทำให้มืพื้นที่รอบเขาแทบทั้งลูก จากวิหารขึ้นมาสามารถขับรถมาได้เลย ทางแคบนิดหน่อย แต่ไม่อันตรายค่ะ

บนยอดเขาจะมีเจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน

ในเจดีย์วัดพระธาตุผาเงา มีพระพุทธรูปสำคัญของไทยหลายองค์ เมีพระภิกษุนั่งอยู่ประจำสำหรับคนที่อยากถวายสังฆทาน ด้านหนึ่งจะมีตู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เรียกว่ามาที่เดียวได้ทำบุญเกือบครบ และยังได้ชมวิวสวยๆด้วยค่ะ

จุดชมวิววัดพระธาตุผาเงา

ออกจากวัดพระธาตุผาเงา ก็ช่วงบ่าย 3 ได้เวลาหิวพอดี อิ้มยังใช้เส้นทางลัดเลาะริมแม่น้ำโขง ไปทานข้าว กลางวันกันที่ ไร่แสงอรุณค่ะ  เป็นการทานอาหารกลางวันที่มีความสุขมาก เพราะวิวที่เห็นเบื้องหน้า สวยงาม และสงบ ลมพัดเย็นสบาย

ระหว่างรออาหารก็เก็บภาพบรรยากาศรอบๆให้ชมกันค่ะ

รออาหารไม่นาน ก็มาเสิร์ฟกันแล้ว เริ่มที่จานแรก ยำส้มโอ จานนี้ได้ความเปรี้ยวหวานของส้มโอ คลุกเคล้าด้วยพริกเผา และสารพัดเครื่องยำ ใส่ปลากรอบเพิ่มความกรุบกรอบ จานนี้ชอบมากอร่อยค่ะ

แหนมซึ่โครงทอด เสิร์ฟพร้อมผักสด

ผัดผักกาดขาวใส่เห็ดหอม

ต้มจืดซี่โครงอ่อน

อาหารที่นี่อร่อยค่ะ ผักที่นี่ปลูกเอง และไม่สารพิษ ทำให้ช่วยชูรสอาหารได้ดียิ่งขึ้น น่าเสียดายที่ไม่ได้พักที่นี่ ขนาดวันธรรมดาแขกแน่นเชียวค่ะ ไว้มีโอกาสจะกลับมาพักแน่นอน

อิ่มท้องกันแล้วก็ได้เย็นพอดี พระอาทิตย์กำลังจะตก แสงสีส้มอ่อนๆ ตัดกับวิวภูเขาสีเขียว ผสมกับเส้นทางริมฝั่งโขงเรียกว่า เป็นเส้นทางสายโรแมนติกได้เลยนะคะเนี่ย

มาถึงโรงแรมก็ช่วงค่ำพอดี คืนนี้อิ้มพักที่ เชียงของ ทีค การ์เด้น ในโซนอาคารใหม่ค่ะ

ที่พักที่นี่เพราะตอนนี้เป็นช่วงโปรโมชั่น ราคาถูกมากแถมห้องพักเพิ่งเสร็จใหม่ๆ

ห้อง River view sweet ราคา1,800฿.
ห้อง River view standard 1,600฿
ห้อง Garden view 1,250฿

ก่อนทางเข้าห้องมีมุมนั่งพักผ่อนเก๋ๆ

เข้ามายังห้องพักค่ะ ห้องที่พักคือ River view sweet

แต่ละชั้นห้องพักจะไม่เหมือนกัน ชั้นที่อิ้มพักเป็น style ชินิโปรตุกิส

ความพิเศษของห้องพัก  River view sweet นี้ก็คือ มีอ่างอาบน้ำบริเวณระเบียง

วิวแบบนี้ ห้องพักแบบนี้ ราคา 1,800 บาท อิ้มว่าคุ้มมากๆเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำ

ชมบรรยากาศภายในห้องแล้ว มาชมด้านล่างกันบ้างนะคะ ที่นี่จะมีห้องอาหารไว้บริการ สองห้อง ด้านซ้ายมือที่เห็น คือห้องอาหาร ไอ เลิฟ ยู ให้บริการตั้งแต่ช่วงเช้า ถึงประมาณ สามทุ่ม ส่วนอีกห้อง จะพาไปชมพรุ่งนี้พร้อมกับทานอาหารเช้านะคะ

สระว่ายน้ำเป็นแบบหินอ่อน

ว่ายน้ำไปมองฝั่งเห็นวิถีชีวิตฝั่งเพื่อนบ้านไกลๆ แสงไฟ ของฝั่งเพื่อนบ้านก็ทำให้เรามองเห็นว่าประเทศเค้าก็ค่อนข้างคึกคักไม่แพ้ฝั่งบ้านเราเลยค่ะ

เดี๋ยวออกมาด้านนอกโรงแรมหาอะไรทานกันดีกว่า เดินจากโรงแรมมาไม่ไกล ก็เห็นร้านอาหารร้านนึงน่ารัก บรรยากาศดี มีชื่อร้านเก๋ๆว่า 7he Vow ด้านบนเปิดเป็นโฮสเทลชั้น2และ3 ภายในร้านตกแต่งได้น่ารัก และมีอาหารหลากหลายประเภท แต่ละเมนูแปลกใหม่ไม่ค่อยซ้ำใคร รสชาติก็อร่อยมากด้วย ถ้าแวะมาเชียงของบอกเลยนะคะ ว่าห้ามพลาดร้านนี้

https://www.facebook.com/7heVow/

ขอทานเบาๆแล้วกันนะคะ เพราะยังอิ่มๆ จากไร่แสงอรุณอยู่เลย มาเริ่มที่จานแรกค่ะ “เกี๊ยวห่อชีส”

เฟร้นฟรายด์จ้า

จานนี้เป็นไก่กรอบ

ถัดมาจานนี้เลิฟมากค่ะ สปาเก็ตตี้เห็ดย่าง อร่อยมากกกก

ตบท้ายด้วยของหวาน อย่าง ฮันนี่โทสต์ค่ะ

เมนูอาหารที่ร้าน 7he Vow รสชาติและหน้าตาไม่ธรรมดาเลยค่ะ ทุกจานที่เสิร์ฟออกมา เห็นถึงความใส่ใจ ความละเมียด ความครีเอท ความตั้งใจ ราคาก็ไม่แพง เป็นอีกร้านที่ขอแนะนำ เมื่อมาเที่ยวเชียงของนะคะ

อิ่มท้องแล้วก็ขอตัวกลับมานอนก่อน เพราะอากาสด้านนอกเริ่มหนาว นาฬิกาปลุกตอนหกโมงเช้าพอดี ออกมาบริเวณระเบียง ก็มองเห็นภาพแบบนี้ค่ะ

เดินลงมาด้านล่าง คนที่นี่ตื่นเช้ามากนะคะ เราจะพบเจอผู้คนได้มากก็ในตอนเช้านี่แหละค่ะ เพราะแต่ละบ้านจะตื่นกันประมาณตีสี่ ออกมาตลาด และใส่บาตร พอตกสายหน่อย คนก็เริ่มซา ตลาดก็เริ่มวายแล้วค่ะ

วิถีชิวิตของผู้คนที่นี่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน

ขับรถออกมาชมบรรยากาศยามเช้ารอบๆ อ.เชียงของกันค่ะ

ถึงเวลาผ่านไป ก็ยังเหลือความดั้งเดิม บรรยากาศเก่าๆ การใช้ชีวิตด้วยความเรียบง่ายของผู้คนที่นี่ ทำให้อิ้มแอบอิจฉานะคะ เพราะเวลาเราอยู่กรุงเทพ ต้องแข่งขันกับเวลาอยู่ตลอด ในบางทีก็แอบเหนื่อยกรุงเทพเหมือนกัน เข้าใจละที่ใครๆ ชอบบอกว่าภูมิแพ้กรุงเทพ 😀

จากนั้นอิ้มขับรถมาอีกนิดเพื่อมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ แหล่ง แพร่พันธุ์ ปลาบึก ของอำเภอ เชียงของ

เป็นวิวยามเช้าที่ทำให้สดชื่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

เต็มอิ่มกับบรรยากาศอันเงียบสงบ และสวยงามของ อ.เชียงของกันไปแล้ว ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ อิ้มขอกลับมาที่โรงแรมเพื่อเติมพลังให้ร่างกายก่อนที่ห้องอาหารรับตะวัน ห้องอาหารอีกห้องของ เชียงของทีค การ์เด้นค่ะ

ห้องอาหารรับตะวัน เป็น open air เหมือนกัน สามารถมองวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา ทำให้อากาศหนาวๆ อุ่นขึ้นในทันที

อาหารเช้ามีในระดับมาตรฐานทั่วไปเลยค่ะ ไม่เยอะ แล้วก็ไม่น้อยจนเกินไป

อิ่มแล้วก็ขึ้นมาเก็บกระเป๋า เพื่อเดินทางไปอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของอ.เชียงของกันค่ะ

ด่านพรมแดนเชียงของ ที่พึ่งสร้างเสร็จไม่นานนี้ ใครที่จะเดินทางไป สปป ลาว สามารถใช้เส้นทางนี้ได้เลยค่ะ

ขับเลยด่านมาสักนิด มาถึงแลนด์มาร์คสำคัญของเชียงของ ที่อิ้มคิดว่าน่ามาเที่ยวมากๆ เพราะถ้าคุณหลงรักปางอุ๋ง อิ้มว่าที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ

ที่นี่ก็คือ วนอุทยานห้วยน้ำช้าง อยู่ในท้องที่ หมู่ 5 ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย

ที่สำคัญคือที่นี่ใกล้บ้านอิ้มมากค่ะ 5555

ที่นี่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำม้าและป่าน้ำช้าง มีอ่างเก็บน้ำที่มีทิวทัศน์สวยงาม อยู่ใกล้แหล่งชุมชน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของในท้องถิ่น ทุกๅปีจะมีนักท่องเที่ยวจากตำบลใกล้เคียงและต่างอำเภอเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างเช่นลอยกระทง ชาวบ้านบริเวณนี้ก็จะมาจัดงานที่นี่ด้วย แอบจำได้ว่าหลายปีก่อนคุณป้า ก็ได้มาประกสดนางนพมาศที่นี่ในช่วงเทศกาลลอยกระทงด้วยค่ะ

จากด้านหน้าขับรถเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะพบอ่างเก็บน้ำ อากาศดีมากๆ ยามเช้าตรู่ถ้าสนใจนอนค้างอ้างแรมที่นี่ก็สามารถทำได้โดยการนำเต้นท์มากาง โดยแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

วนอุทยานห้วยน้ำช้าง
ต.สถาน อ. เชียงของ จ. เชียงราย
โทรศัพท์ 0 5371 1402 อีเมล reserve@dnp.go.th

  วนอุทยานห้วยน้ำช้าง มีความหลากหลายทางธรรมชาติ  มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์  เป็นแหล่งกระจายพันธุ์พืชที่สำคัญ  ทั้งพันธุ์พืชหายาก  พันธุ์พืชสมุนไพร  เป็นต้นกำเนิดของห้วยน้ำช้าง  เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด  มีทั้งสัตว์ใหญ่หายาก  และสัตว์ทั่วๆ ไป  เป็นแหล่งชมนก  นอกจากนี้ยังมีห้องเรียนธรรมชาติที่นิสิต นักศึกษา  นักเรียน  และประชาชนทั่วไป  สามารถเข้าไปศึกษาพันธุ์พืชและธรรมชาติได้ตลอดทั้งปีอีกด้วยค่ะ

บรรยากาศเงียบสงบ มีท้องฟ้ากับภูเขาอยู่เป็นเพื่อน ในเวลาแค่นี้ได้เท่านี้ก็มีความสุขมากแล้วค่ะ

น่าเสียดายจริงๆ ที่บางจุดยังไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ ไม่เช่นนั้นที่นี่ก็จะน่าเที่ยวมากขึ้นไปอีก

ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วนะคะ เวลา 3วัน2 คืน ผ่านไปเร็วมาก

ระหว่างทางภายใน อำเภอ เชียงของ อำเภอเล็กๆ ที่แฝงไปด้วยเสน่ห์มากมากที่รอให้ใครๆได้มาสัมผัส และอิ้มก็เชื่อว่าทุกคนจะต้องหลงรักที่นี่ เหมือนที่อิ้มหลงรักค่ะ

ขากลับอิ้มยังใช้เส้นทางเลียบโขงเช่นเคย เพื่อขับรถชมบรรยากาศ และเก็บภาพความประทับใจอีกสักนิดก่อนเดินทางกลับไปสู่ความวุ่นวายที่กรุงเทพ

จุดชมวิวห้วยทรายมาน

อีกหนึ่งสถานที่ชมวิวทิวทัศน์นำโขงและประเทศเพื่อนบ้าน

ได้เวลาเดินทางกลับจริงๆแล้วค่ะ สำหรับทริปนี้ เสียดายเวลาน้อยไปนิด ถ้ามีเวลาคงได้เที่ยวอีกหลายที่แน่นอน เชียงราย จังหวัดที่ตั้งอยู่สูงสุดของดินแดนสยาม ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น ต้องขอบคุณสถานที่ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำโขง แม่สลอง ภูชี้ฟ้า ดอยผาตั้ง และอีกหลากหลายที่

การเดินทางมาเที่ยวเชียงรายสำหรับอิ้มในครั้งนี้ ได้อะไรมากกว่าการท่องเที่ยว นั่นก็คือการได้เดินทางกลับบ้าน  อบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมา อิ้มหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รีวิวนี้จะทำให้ทุกท่านรู้จักและหลงรัก จังหวัดเชียงราย เหมือนที่อิ้มเป็น แต่อย่าเชื่อในรีวิวนัก จนกว่าคุณจะได้มาสัมผัสเชียงรายด้วยตัวของคุณเอง

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง   ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ  ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ อัพเดทเรื่องกิน เช็คอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง  แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะค๊าา สวัสดีค่ะ