สวัสดีค่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกท่าน

นี่ก็เข้าสู่เดือนกันยายนอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ ใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวเข้าไปทุกที ทุกที หน้าฝนที่ผ่านมาอิ้มได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวหลายที่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา น้ำตก หรือทะเล สิ่งนึงที่ทำให้อิ้มสัมผัสได้

นั่นก็คือ ช่วงเวลาหน้าฝน หรือ หน้าโลว์ซีซั่น ไม่ได้น่าเบื่อ อย่างที่คิดเลย จริงๆแล้วอิ้มเป็นอีกคนนึง

ที่ชอบเที่ยวหน้าโลว์ค่ะ ทำไมน่ะเหรอคะ ?? เหตุผล เยอะใช้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน ราคาถูกลง

คนก็น้อย ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยว สงบ และสมกับการมาพักผ่อนค่ะ

ยิ่งตามเมืองใหญ่ๆแล้ว เที่ยวหน้านี้ก็ฟินไปอีกแบบนะคะ

และครั้งนี้อิ้มจะไปทุกคนมาเที่ยวภูเก็ต แต่มาคราวนี้ไม่ได้พักในเมือง ขับรถมานิดหน่อย มาพักโรงแรมแห่งนี้ Eastin yama phuket  อยู่ใกล้ๆกับหาดกะตะ ที่นี่เปิดได้ราวๆเกือบปีค่ะ ถือว่าเป็นโรงแรมเปิดใหม่ ที่น่าประทับใจ  แถมราคา ถูกสุดๆ จะเป็นอย่างไร ตามไปชมรีวิวนี้พร้อมกันเลยค๊าา

ขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ  ps story ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/psstorytrip

ได้ข่าวว่าช่วงนี้ใกล้งานไทยเที่ยวไทย Eastin maya phuket แห่งนี้ ก็มีโปรโมชั่นเริ่ดๆ มาฝากกันด้วย ราคาที่นี่ถูกมากกกกกกก  คุณภาพเกินคุ้ม รีบไปติดสอยมาเลยนะคะ

3-6 กันยายน 2558  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จ้า

แน่นอนค่ะ ก่อนออกเดินทางไปภูเก็ต อิ้มก็เลือกที่จะใช้บริการ ทางเครื่องบิน เพราะนอกจากประหยัดเวลาแล้ว ค่าใช้จ่ายก็ยังใกล้ๆกัน แถมบางทีมีโปร ยิ่งคุ้มกว่ามากๆ และสายการบินที่ยอดฮิต ติดใจและบินเป็นประจำ ก็คือ หางแดง แอร์เอเชียค๊าา บินคุ้มคุณภาพครบ

แสงแดดอ่อนยามเช้า ปลุกให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ตื่นเต้น สำหรับการเดินทางครั้งใหม่

 

ใช้เวลาไม่นาน เราก็ใกล้จะถึงแล้ว มองเห็นเกาะแก่งน้อยใหญ่ เต็มไปหมดเลยค่ะ

 

และแล้วก็ถึงถูเก็ต ในเวลาราวๆ สิบโมง

มาถึงแล้ว คราวนี้ อิ้มเลือกที่จะใช้บริการรถเช่าค่ะ มีหลากหลายบริษัทเลย แต่ทว่าบริษัทที่บริการดีและน่าไว้วางใจ ก็มีอยู่ไม่กี่ที่ และหนึ่งในนั้น ก็คือ Thai rent a car นั่นเองค่ะ เคาท์เตอร์สีฟ้าสดใส

ที่เลือกใช้บริการรถเช่าในครั้งนี้ เพราะภูเก็ตมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย คิดแล้วว่าขับรถไปน่าจะสนุก และคงสะดวกกว่าการนั่งรถตระเวนไปตามที่ต่างๆ แนะนำนะคะ มาเที่ยวทั้งทีเช่ารถดีกว่า เพลินแน่นอนจ้า

ว้าวๆๆๆ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นซะด้วย เรทราคารถ ดูได้ตามโปรโมชั่นเลยค่ะ

แสดงเอกสารยืนยันตัวตนเสร็จแล้ว ก็ออกมารับรถด้านนอก อิ้มเลือกใช้เป็น Mitsubishi Pajero เพราะนั่งสบายแถมจุของได้เยอะด้วยค่ะ ก่อนออกเดินทาง เจ้าหน้าที่จะให้เราตรวจเช็คสภาพรถไปพร้อมๆกัน เราสามารถถ่ายรูปรอบๆรถเก็บไว้เองด้วยก็ได้นะคะ จะได้ รู้ว่ารถมีรอบตรงไหนบ้าง แต่ทางเจ้าหน้าที่เค้าก็เช็คละเอียดอยู่ค่ะ เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะยื่นเอกสารการรับรถให้เรา เก็บเอกสารให้ดีนะคะ เพราะขากลับเราต้องใช้คืนให้เจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ

ล้อหมุนปุ๊ป ท้องก็ร้องปั๊ป เปิดหาร้านอาหารในภูเก็ต ก็มีหลาหลายร้านน่าทาน แต่เสียดาย ไม่ทันได้ไปทานติ่มซำ ไม่เป็นไรเดี๋ยวไว้ทริปหน้าว่ากันใหม่ เปิด google ดู วันนี้มาเริ่มที่ร้านนี้กันก่อน มีชื่อร้านว่าหมี่ต้นโพธิ์ร้านนี้เปิดกิจการมานานกว่า 60 จนได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารพื้นเมืองร้านหนึ่งประจำจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว ใครไปใครมาก็เห็นว่าต้องมาลอง ร้านหมี่ต้นโพธิ์ขายหมี่ผัดแบบฮกเกี้ยน และอาหารอีกหลายๆอย่าง มาถึงกันแล้ว ก็เริ่มสั่งเลย จานแรกเป็น ทอดมันภูเก็ต ทอดมันเนื้อแน่น เครื่องแกงเหลืองรสจัด อร่อยใช้ได้ค่ะ

 ต่อมาเป็นจานหลัก ผัดหมี่ฮกเกี้ยนเส้นเหลืองใส่ไข่ใส่เนื้อปลา ซึ่งหมี่ฮกเกี้ยนนี้จะมีลักษณะเป็นเส้นหมี่เหลืองกลม มีขนาดใหญ่กว่าเส้นหมี่ธรรมดา ลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับเส้นโซบะของญี่ปุ่น หมี่ฮกเกี้ยนที่ขายกันมีทั้ง หมี่ฮกเกี้ยนน้ำ และแห้ง แต่ที่นิยมกันมากก็คือ หมี่ฮกเกี้ยนผัก โดยผัดแบบมีน้ำขลุกขลิก พร้อมกับใส่เนื้อหมู ปลา ปลาหมึก และไข่ เวลารับประทานให้ใส่เครื่องจำพวกหอมแดงและพริกป่นลงไปด้วย โดยรวมใช้ได้ รสชาติออกจืดๆ มัน ๆ แต่เข้มข้น  อร่อยใช้ได้ค่ะ

อิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาเดินทางมุ่งหน้าไปยังจุดหมายของเราวันนี้ นั่นก็คือ Eastin yama phuket ค่ะ

การเดินทาง จากสนามบินนานาชาติภูเก็ตมาที่โรงแรมจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที
ซึ่งตัวโรงแรมตั้งอยู่บริเวณหาดกะตะ ทางเข้าหายากนิดนึง ถ้ามาตาม google map จะให้เข้าอีกทาง แต่อิ้มแนะนำทางนี้ดีกว่าค่ะ ถ้ามาจากถูเก็ตจะเป็นฝั่งนู้น ไม่มีป้ายบอกชัดเจน ให้สังเกตุตึกไว้ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามาเลยค่ะ

อิสตินยามา เปรียบดั่ง “สวรรค์ชั้นมายา” การเดินทางเข้ามาที่นี่ แค่นี้ก็สัมผัสได้ถึงความสุข แล้วค่ะ

เดินเข้ามาใน lobby บนเพดานจะมีโคมไฟดอกยามาขนาดใหญ่ โรงแรม อีสติน ยามา พื้นที่บริเวณโรงแรมนั้นตั้งอยู่บนเชิงเขา สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างกว้างไกล วิวทิวทัศน์ของเมืองภูเก็ต มองไกลๆเป็นชายหาด  Concept ที่นี่เปรียบได้กับ “สวรรค์ชั้นยามา” หรือสวรรค์ชั้น 3  ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดาผู้ปราศจากความทุกข์ อีกทั้งคำว่า “ยามา” แปลว่า ปราศจากความทุกข์และพร้อมไปด้วยความสุขอันเป็นทิพย์  ภายในพื้นที่โรงแรมและห้องพักทุกห้อง จะถูกประดับด้วย “ดอกยามา” ดอกไม้ในจินตนาการเต็มไปด้วยความสุขแห่งสวรรค์ชั้นยามา ที่จะเบ่งบานเพื่อบอกเวลาว่าช่วงนั้นเป็นช่วงค่ำคืน และมอบความสุขให้แก่ผู้คนที่ได้พบเห็น

Lobby ที่นี่เป็น Open air เปิดโล่ง และมองเห็น main pool ด้วยค่ะ

จิบ welcome drink เรียกความสดชื่นซะหน่อย

เราพักที่นี่แล้วอยากไปเที่ยวทะเล ทางโรงแรมก็มีบริการฟรี รถรับ-ส่ง ไปหาดกะตะ ดูช่วงเวลาเที่ยวรถได้บริเวณ Lobby ได้เลยค่ะ

ส่วนของ Lobby ส่วนนี้ สำหรับแขกที่เข้าพักสามารถเล่น internet ได้ฟรีนะคะ

ได้เวลาขึ้นไปชมห้องพักกันแล้วค่ะ ที่ Eastin yama แห่งนี้ มีห้องพักไว้บริการถึง 104 ห้อง

แบ่งตาม roomtype ต่างๆ ถึง 6 ประเภทด้วยกัน แบบที่อิ้มเข้าพักวันนี้ เป็น Sweet Sea View Suite

          เสียดายที่ห้องพักประเภทอื่น แขกเข้าพักเต็ม เลยมีโอกาสถ่ายรูปมาให้ชมได้แค่ห้องที่พักนะคะ

มาเริ่มกันเลย Sweet Sea View Suite  จะแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำ โดยภายในห้องเดินผ่านถึงกันหมด

จากห้องนั่งเล่นมองไปยังห้องนอน

นั่งพักผ่อนสบายได้เลยค่ะ โซฟากว้างเอนหลังได้สบายๆ

welcome fruit

มินิบาร์ค่ะ

ความพิเศษอีกอย่างนึง ของ  Sweet Sea View Suite ก็คือ มีระเบียงกว้างขวางมากสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ไกลๆ

มีชุดเก้าอี้อยู่ตรงระเบียง นั่งพักผ่อนจิบชา กาแฟ ก็ผ่อนคลายไม่น้อยเชียวค่ะ

ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเทา สีเขียว และใช้ไม้มาเป็นส่วนประกอบ ทำให้ สีภายในห้องสบายตา เรียบง่าย

ภายในห้องน้ำและห้องแต่งตัว จะอยู่ที่เดียวกัน แยกสัดส่วนชัดเจนค่ะ

เสร็จจากภายในห้องแล้ว ไปสำรวจรอบๆกันบ้างนะคะ

main pool ส่วนกลาง ช่วงกลางวัน ยังคนน้อยอยู่ ถ่ายรูปได้สบายค่ะ

ภายในโรงแรมเดินสะดวกมากเพราะแต่ละส่วนถึงกัน โดยมี Lobby  เป็นส่วนกลาง ด้านนี้เราเดินทะลุออกจาก Lobby ช่วงบ่ายอากาศแจ่มใสมีแดดมาทักทาย

ติดกับโรงแรมก็เป็นเนินเขาล้อมรอบ มีต้นไม้ทำให้ดูสดชื่น

ด้านที่เราเห็นเป็น ห้อง Superior Pool Access เปิดประตูปุ๊ป ก็ลงสระได้เลยค่ะ

ได้เวลามาเติมพลังช่วงบ่ายกันอีกครั้ง ที่นี่มีห้องอาหารแห่งเดียว คือ ห้องอาหาร  SENZEES เปิดบริการเป็นแบบ All day dining ค่ะ

สั่งอาหารกันแล้ว ก็นั่งมองวิวรอบตัว พื้นที่ไม่ต้องกว้างขวางมากมาย ไม่ต้องใหญ่เลิศหรู แต่ก็สามารถทำให้เรามีความสุขกับสิ่งที่อยู่รอบตัว

เริ่มที่เครื่องดื่มกันก่อน แก้วแรกสีฟ้าสดใสมีชื่อว่า Blue hawaii ปลุกความสดชื่นในช่วงบ่ายได้ดีทีเดียวค่ะ

แก้วต่อมาพูดเลยว่าหลงรัก Chunky monkey อร่อยมากกกกกกก มาที่นี่ต้องสั่งค่ะ

แก้วสุดท้าย น้ำมะม่วงปั่นของโปรด

มาถึงอาหารแล้วค่ะ สปาเกตตี้คาโบนาร่า

Beef steak

caesar chicken salad

อิ่มท้องช่วงบ่ายก็เตรียมตัวลงสระได้เลย เพราะอยู่ติดกันพอดีค่ะ

นั่งตรงนี้มองเห็น lobby ด้านบน

ไปเดินทางสำรวจส่วนอื่นๆอีกนิดค่ะ

ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน มีฟิตเนส kid room teenage room ตอบสนองความสุขของทุกเพศทุกวัย

เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน มองดูนาฬิกาใกล้ค่ำ ได้เวลาอาหารอีกแล้วสิ  เรามาที่

“ห้องอาหารเซนซี” (ZENZEES) ที่เดิม ค่ะ

มี starter ให้ทานเล่นเป็นข้าวเกรียบ

มาเริ่มที่จานแรก ยำเนื้อย่าง ด้านข้างจาน มีส้มตำเป็นกับแกล้มด้วย เข้าก๊านน เข้ากัน

มาถึงภูเก็ต ก็ต้องลองชิมอาหารพื้นเมืองกันหน่อย หมูฮ้อง นั่นเองค่ะ

แกงส้มปลาแซลมอน

แซลมอนชิ้นหนา เต็มคำ

ปิดท้ายด้วย ปลากระพงทอด ราดน้ำยำ

อิ่มแล้ว เดินสำรวจรอบๆอีกครั้งค่ะ แขกส่วนใหญ่ ส่วนมากก็จะอยู่ในบริเวณโรงแรม หาความสุขเล็กๆในพื้นที่เงียบสงบ บางคนก็ชมพระอาทิตย์ตกอยู่บริเวณระเบียงห้อง บางคนก็เลือกมาทานอาหารเย็น และนั่งชิลๆ กับบรรยากาศรอบๆ

lobby เปิดไฟสว่างไสว

มองหันกลับไป ก็เห็นแขกหลายๆคน ลงมานั่งชิลบริเวณ “Sip Pool Bar”

สั่งเครื่องดื่มมานั่งทานริมสระว่ายน้ำ

เดินย้อนกลับไปที่ Lobby เพื่อจะกลับเข้าห้องพักก็อดไม่ได้ที่จะบันทึกภาพ เพราะแสงในเวลานั้น

สวยเหลือเกิน

พอขึ้นมาถึงบริเวณ lobby กลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนยิ่งสวยมากกว่าหลายเท่า โคมไฟดอกยามา ถูกเปิดขึ้นสว่างไสว มองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองในช่วงเวลาย่ำค่ำ

เวลาผ่านไปหมดช่วงหนึ่งวัน กลับมาเพิ่มพลังนอนหลับให้เต็มตื่น ที่ห้องพักค่ะ

ห้อง type นี้ กว้างขวาง อยู่สบาย มุมไหนก็นั่งพักผ่อนได้ค่ะ

ส่วนของห้องน้ำกว้างขวางมาก แบ่งสัดส่วนชัดเจน ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ด้านซ้ายและขวามือ แบ่งแยกส่วนแห้งและเปียกได้อย่างชัดเจน ตรงกลางเป็นอ่างอาบน้ำ ไว้แช่ตัวให้ผ่อนคลาย

ส่งทุกท่านเข้านอนด้วยภาพนี้นะคะ

เช้าวันใหม่ เริ่มต้นด้วยความสดใส มาอาหารเช้าทานก่อนเตรียมตัวเดินทางกลับกันค่ะ ไลน์อาหารเช้าที่นี่มีเยอะมากพอ มาตรฐานถือว่าดีมาก ในราคาห้องพักขนาดนี้ ราคาที่พักเบากระเป๋าสุดๆ

เต็มอิ่มกับมื้อเช้าแล้ว เช็คเอาท์ออกจากรีสอร์ท ก่อนค่ะ อิ้มจะพาทุกคนไปเที่ยวกันต่อ จริงๆแล้วขับรถจากรีสอร์ทมานิดเดียวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อิ้มจะพาไปชมสถานที่ที่อยู่รอบๆรีสอร์ท มาถึงทะเลก็ต้องไปเที่ยวทะเลสักหน่อยจริงไหมคะ

อากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก ชายหาดกะรนบริเวณนี้ก็เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน

ฟ้าสวยทะเลใส ความสุขที่ใครก็สัมผัสได้ นี่ขนาดหน้าโลว์นะคะ สวยไม่แพ้หน้าไฮเลยใช่ไหมล่ะคะ

เสร็จแล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่  จุดชมวิวสามอ่าว หรือ Karon View point เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทางฝั่งตะวักตก เมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วไม่ควรพลาดมาจุดชมวิวนี้เลยนะคะ

จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิวหาดกะตะน้อย กะตะ กะรน เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เกาะปู

จากรูปด้านล่างหาดที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเป็นหาดกะตะน้อย ตรงกลางเป็นหาดกะตะ ไกลสุดเป็นหาดกะรน ส่วนเกาะเล็กๆ ชื่อเกาะปู

จากมุมนี้ เห็นแนวภูเขาได้อย่างชัดเจน เห็นการไล่โทนสีของน้ำทะเลตั้งแต่เขียวอ่อนบริเวณใกล้ชายหาด และเป็นสีน้ำเงินเข้มขึ้นเรื่อยๆ ที่ตั้งของจุดชมวิวสามอ่าว อยู่ริมถนน 4233 เส้นที่มุ่งหน้าไปแหลมพรหมเทพ การเดินทางไปไม่ยากเลยค่ะ

เลยจากจุดชมวิวสามอ่าว มาไม่นาน ก็ถึงแหลมพรมเทพ จุดที่ใครๆก็ต้องแวะมา เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้มาชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น ไม่อย่างนั้นน่าจะได้ภาพสวยๆกลับไปแน่ๆ

ออกมาจากแหลมพรมเทพ ขับรถเพียง 10 นาที ก็จะพบกับ หาดยะนุ้ย เป็นอ่าวเล็กๆ อยู่ทางทิศเหนือของแหลมพรมเทพ

มาถึงรู้สึกหลงรักหาดยะนุ้ยมากๆเลยค่ะ เพราะเป็นชายหาดที่คนน้อย เงียบสงบ ไม่มีกิจกรรมมากมายทางทะเล

เท่าที่เห็นก็จะมีเพียงนักท่องเที่ยวที่มาอาบแดด พักผ่อนเบาๆ ถึงแม้ทรายที่นี่จะไม่ขาวละเอียดนัก ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของที่นี่ลดลงเลย

ได้เวลาบอกลาความเงียบสงบ ไปเที่ยวกันต่อในตัวเมืองก่อนเดินทางกลับกันค่ะ

แวะมาซอย ซอยรมณีย์ 

เดินชมตึกเก่าสไตล์อาคารตึกแถวเก่าที่มีรูปแบบเดิมๆเกาะกลุ่มกันอยู่เป็นจำนวนมาก

เมืองภูเก็ตนี่สวยงามและมีเสน่ห์ซ่อนอยู่มากมายจริง มีโอกาสอิ้มจะต้องกลับมาใหม่

เพราะยังเที่ยวไม่ครบจริงๆ

มาถึงตัวเมือง ก็ต้องมาลองร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออีกร้านนีง นั่นก็คือ ร้านวันจันทร์ นั่นเองค่ะ

ภายในร้านตกแต่งได้คลาสสิกมาก ได้ฟิลสุดๆ มาถึงก็ลงมือสั่งอาหารกันเลย รอไม่นานแต่ละจานก็ทะยอยเสิร์ฟมาที่โต๊ะแล้วค่ะ จานแรกเป็น ปีกไก่ทอดน้ำปลา

จานที่สอง

หมูฮ้อง  จานนี้แทบจะกรีสสสสสสสสส หมูละลายในปาก อร่อยมากค่ะ ถูกใจสุดๆ

จานพระเอก ก้ามปูผัดมะนาว รสชาติดีมาก หอมมะนาวสุดๆ

ข้าวสวยร้อนๆเสิร์ฟมาในโถเล็กๆ พอดีอิ่มค่ะ

เสร็จสรรพกับของคาว แวะไปต่อของหวานกันสักหน่อย จริงๆมีหลายร้านน่าสนใจ แต่ท้องและตัวจะแตกไปมากกว่านี้ วันนี้อิ้มเลือกร้าน Factory cafe ที่นี่มีทั้งอาหารคาวและหวานไว้บริการ แต่ระดับเลเวลความอิ่มตอนนี้ ได้แค่ของหวานเท่านั้นค่ะ อิอิ

ทีเด็ดของร้านมีหลากหลายอย่างด้วยกัน บ่ายวันนี้ อิ้มขอลองชิมชามะนาว ซึ่งเจ๋งมากๆ ก้อนน้ำแข็งทำมาจากชา เพิ่มเติมความเปรี้ยวได้ด้วยตัวคุณเอง เกร๋มากกกก

อีกแก้วเป็นกาแฟ signature ของทางร้าน เราเลือก syrup ได้เองเลยค่ะ อย่างวันนี้อิ้มเลือกเป็น caramel กลิ่น caramel ออกจางๆ หอม ละมุน อย่าบอกใคร ที่สำคัญสามารถชงได้ตามใจชอบ

ปิดท้ายด้วย Half Toast

 ในเมนู เห็นเป็นรูปไอซ์ซิ่งตาเท่ง โรยข้างๆ ขนมปัง แต่พอมาเสิร์ฟเป็นรูปน้องหมี น่ารักไปอีกแบบค่ะ

ขนมปังกรอบนอก นุ่มใน สั่งแบบ Half Toast ไป อิ่มพอดีเลยค่ะ

ได้เวลา เดินทางกลับจริงๆแล้วค่ะ ขากลับฝนเทกระหน่ำ อิ้มรีบคืนรถเสร็จแล้วก็รีบมาเช็คอินทันที ถ้าจะให้ดีอิ้มแนะนำให้เช็คอินจากหน้าเวบมาเลยจะสะดวกและเร็วมากค่ะ

จากจุดนี้มีบริการเสริมต่างๆให้เลือกมากมาย ใครชอบแบบไหนลองดูนะค๊าา 😀

โบกมือลาภูเก็ต อย่างจริงจัง รู้สึกว่าความสุขช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ถึงเวลาอิ้มคงได้กลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งและจะใช้เวลาเพิ่มอีกหลายวัน เก้บเกี่ยวความสุขให้มากที่สุด

สุดท้ายก่อนจะจากกันขอสรุปข้อดีข้อเสียของ Eastin yama phuket กันค่ะ

ข้อดี

1 สวยงาม และมีดีไซน์ทันสมัย ลงตัว ชัดเจน มีเอกลักษณ์ของตัวเองสูง

2 เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน

3 ราคาเหมาะสม สบายกระเป๋า

4 สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน

ข้อเสีย

1 ห่างไกลจากสนามบิน แต่สามารถใช้บริการรถเช้าได้ค่ะ

2 ทางเข้าหายากถ้ามากลางคืน อาจจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง   ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ  ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ อัพเดทเรื่องกิน เช็คอินเรื่องเที่ยว ได้ที่นี่ psstory เรื่องราวดีๆในการเดินทาง  แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะค๊าา สวัสดีค่ะ