สวัสดีค๊าาทุกท่าน เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาหลายท่านคงได้ไปเที่ยวพักผ่อน กลับไปพบญาติผู้ใหญ่ และเที่ยวกันอย่าง หนำอกหนำใจ แล้วใช่ไหมคะ กลับมาคงมีแรงทำงานเพราะว่าชาร์ตแบตได้อย่างเต็มที่ แต่ psstory ไม่ได้ไปไหนกับเค้าหรอกค๊าา ทุกปีก็จะเป็นแบบนี้ตลอดเลือกเที่ยวหลังจากสงกรานต์ พูดถึงสงกรานต์ก็ต้องนึกถึงเดือนเมษายน พูดถึงเดือนเมษายน ก็ต้องนึกถึงสภาพอากาศที่ร้อนจับใจ เมื่อนึกถึงสภาพอากาศที่ร้อนจับใจ คงหนีไม่พ้น ที่จะต้องไปทะเลใช่ไหมค๊าาา  ทะเลไทยมีที่ ที่สวยงามหลากหลายแห่ง แต่ที่เห็นจะขึ้นชื่อ ก็จะเป็นแถบทะเลทางอันดามัน ปีที่แล้ว psstory มีโอกาส ได้ไปเกาะตาชัย ยังนึกถึงบรรยากาศที่สวยงาม ไม่หาย ปีนี้จึงตัดสินใจ เก็บกระเป๋าออกเดินทางอีกครั้ง แต่คราวนี้ ไม่ได้ไปตาชัยนะคะ แต่จะไปเกาะที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ เกาะสิมิลัน นั่นเองค่ะ จะสวยงามขนาดไหน ตาม psstory              ไปหนีร้อนไปนอนฟังเสียงเกลียวคลื่น@สิมิลันเกาะสวรรค์ของทะเลไทย กันเลยค๊าาา 😀

                 ก่อนอื่น ขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว                                                     บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ  ps story ด้วยนะคะ                                          https://www.facebook.com/psstorytrip

หรือจะรับชมเป็นคลิป VDO ก็มีนะค๊าา 😀

มาทำความรู้จัก สิมิลัน กันสักนิดนะคะ

“อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” หมู่เกาะกลางทะเลอันดามันที่เป็นเลิศในด้านความงามของปะการังใต้ท้องทะเล ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2525

สำหรับคำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า เก้าหรือหมู่เกาะเก้า ทั้งนี้ หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกระโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ที่เกาะเมี่ยงเพราะเป็นเกาะที่มีน้ำจืด หมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก เช่น กระเบนราหู ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาไหลมอนเร่ ปลาการ์ตูน และอีกหลากหลายชนิดเลยค่ะ แต่สำหรับใคร ที่ไม่ดำน้ำ ที่เกาะสิมิลันแห่งนี้ ยังมีทรรศนีย์ภาพ และบรรยากาศที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนเป็นที่สุดเลยค๊าาา

ทริปนี้อิ้มเดินทางจากกรุงเทพ โดยสายการบิน bangkok airways บินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่สนามบินนานาชาติภูเก็ตค่า 😀

ได้เวลาเช็คอินกันแล้ว เวลาเราบินกับ Bangkok airways เราสามารถมาก่อนเวลาได้เลย โดยที่ไม่กลัวจะมานั่งเคว้งคว้าง เพราะหลังจากเราทำการ เช็คอินแล้ว ที่จะเล้าจ์ไว้บริการด้วยค่ะ

 ถ้าถามผู้โดยสารร้อยละร้อยว่าติดใจอะไรในBangkok แน่นอนค่ะหลายๆท่านคงจะติดใจห้องรับรองของสายการบิน ที่มีเอาไว้บริการสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน และมีให้บริการในเกือบทุกเส้นทางบินที่ Bangkok airways ทำการบิน เพราะบางทีการนั่งรอนานๆ ก็ทำให้เราเบื่อได้ในบางครั้ง ซึ่งบางกอกแอร์เวย์ตอบโจทย์ผู้โดยสารข้อนี้ได้ตรงจุดพอดี  เพราะมีที่นั่งสะดวกสบาย มีมุมเล็กๆสำหรับเด็ก มุมหนังสือพิมพ์ของคนรักการอ่านข่าวตอนเช้า  นอกจากนั้นยังมีปลั๊กไฟ หลายจุด เอาไว้บริการชาร์ตแบตอีกด้วยค่ะ

ตอนเข้ามา ยื่น boarding pass ให้เจ้าหน้าที่ จากนั้นจะได้ wifi passwords มาค่ะ

ภายในเล้าจ์ มีทั้งบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี และ เครื่องดื่ม ชา กาแฟ นม ผลไม้ snack ขนมขบเคี้ยว ทานเล่น เช่น ข้าวต้มมัด  ข้าวโพดคั่ว แซนด์วิช ครัวซองต์  เรียกว่าเพลิดเพลินอิ่มเบาๆ เพลินพุงกันเลยทีเดียวค่า

มาแล้วค๊าาา ข้าวต้มมัดในตำนาน

และระหว่างที่นั่งในเล้าจ์ ไม่ต้องกลัวว่าเราจะไม่ได้ยินเสียงประกาศขึ้นเครื่องนะคะ  เพราะภายในเล้าจ์ได้ยินประกาศชัดเจน ไม่ต้องกลัวเลยค๊าา ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้ว หลังจากเครื่องขึ้นได้ไม่นาน ก็บริการอาหารร้อนให้ด้วย โอ้โห จุใจจริงๆ  เมนูวันนี้ เสิร์ฟเป็น ข้าวผัดกับไส้อั่ว ค่ะ

ผ่านไปไม่นาน Bangkok airways ก็นำเรามาถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นอิ้มได้เข้าพักที่ casa de la flora ซึ่งจะมารีวิวให้ตอนหน้านะคะ ตอนนี้ก็มุ่งหน้ารีวิว เกาะสิมิลันกันก่อนเลยค่ะ

ครั้งนี้อิ้มเลือกเดินทางไปเกาะสิมิลัน กับเลิฟอันดามันเช่นเคย เพราะติดใจกับครั้งที่แล้วพนักงานและน้องๆทุกคน ดูแลเอาใจใส่เราเป็นอย่างดีเยี่ยม ตอนเช้าเวลาประมาณ 07.30 นาที จะมีรถรับไปรับเราที่หน้ารีสอร์ท ซึ่งสะดวกมากๆเลย ถ้าใครจะมาเที่ยวตาชัย หรือ สมิลัน  แนะนำให้พัก ที่เขาหลักนะคะ เพราะการเดินทางจะใช้เวลาแค่แป๊ปเดียว แต่ถ้าเราพักในภูเก็ต จะต้องตื่นเช้ามากๆ ซึ่งอาจจะทำให้เหนื่อยล้าจากการเดินทางได้ค่ะ  รถบริการจะนำเรามาสู่ ท่าเรือทับละมุ เพื่อ เช็คอิน  ขนาดมาวันธรรมดา คนยังเยอะมากเลยนะคะเนี่ย

เมื่อมาเช็คอินแล้ว เราจะได้ wristband คนละ 1 อัน เพื่อจะใช้เป็นสัญลักษณ์เวลาเราไปเกาะไหนนั่นเองค่ะ

ถ้าใครยังไม่ได้ทานอะไรมา ที่นี่ มีขนมคบเขี้ยวไว้บริการด้วย นอกจากนั้นยังมีกล้องให้เช่า หรือ บริการเช่าภาพ และยังมีเสื้อผ้า หมวก แว่นตา กระเป๋ากันน้ำ ครีมกันแดด ครบทุกอย่าง ถึงลืมเอาอะไรมา ที่นี่มีครบค่าา

ได้เวลาขึ้นเรือกันแล้ว เย้ๆๆๆ

นั่งเรือมาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที  เรือของ love andaman ก็พาเรามาส่งที่เกาะสี่หรือเกาะเมี่ยงนั่นเองค่ะ นาทีแรกที่เห็น เกาะสี่ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที รีบวิ่งปรี่ลงเรือ เพื่อพาร่างกายไปรับไอทะเลที่โหยหามานาน น้ำสวย สีฟ้าสดใส ชื่นใจจริงๆค่ะ

มาถึงตอนที่ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนทะเลเป็นของเรายังไงอย่างงั้น

“เกาะเมี่ยง” หรือ “เกาะสี่” เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่รองจากสิมิลัน เกาะนี้เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เพราะมีแหล่งน้ำจืด บนเกาะสี่จะมีสัตว์ที่หาดูได้ยาก เช่น ปูไก่  ปูเสฉวน ที่มีมากมายหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ นับเป็นอีกเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากทีเดียวค่ะ

แดดอ่อนๆในยามเช้า ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าสดใส นี่คือความสุขที่ตามหาจริงๆค่ะ

เสียดายที่วันนี้คลื่นแรงไปนิด ถ้าไม่มีคลื่น น้ำจะนิ่ง ราวกับกระจกใสเชียวค่ะ

ในระหว่างที่คนอื่นๆออกดำน้ำกัน แต่อิ้มกลับขออยู่ที่เกาะ เพื่อซึมซับบรรยากาศที่สวยงามและเงียบสงบ เป็นตัวเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง สำหรับคนที่อยากมานอนฟังเสียงคลื่น ได้ดีเลยค่ะ

น่าจะได้เวลาที่ไกด์นัดไว้แล้วค่ะ เดี๋ยวเราไปทานข้าวเที่ยงกันดีกว่า เลิฟอันดา เค้าก็มีอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้บริการ ทานให้อิ่มกันไปเลยค๊าา เพราะ เค้าจัดเป็น Buffet จ้าาา ไปดูไลน์อาหารวันนี้กันค๊าา

สปาเกตตี้ ก็มี

ปลาผัดซอสก็มา

หรือจะปลาทอดก็มีนะคะ

หรือจะเป็นต้มซุปร้อนๆ ให้คล่องคอ ก็อร่อยไปอีกแบบ

จัดหนักจัดเต็ม เติมพลังให้ร่างกายก่อนจะเดินทางไปในช่วงบ่ายค๊าา

อิ่มท้องกันแล้ว เดินย่อยกันอีกสักหน่อย

อยู่ที่นี่ไม่แปลกใจเลยค่ะ ไม่ว่าหันไปทางไหน ก็พบกับรอยยิ้มของผู้คนมากมาย หรือการผ่อนคลายร่างกายใน อิริยาบถ ต่างๆ

ได้เวลาอำลาเกาะสี่กันแล้วค่ะ เชื่อว่าหลายคน คงสัมผัสถึงความสุข และอยากเก็บนาทีนี้ไว้ให้นานที่สุด

ออกเดินทางกันต่อไป เกาะ 9 สำหรับช่วงบ่ายนี้ เรามีดำน้ำตื้นที่เกาะบางู (เกาะ 9) ที่ (Christmas Point) จุดไฮไลท์ของนักดำน้ำตื้นที่มี ปะการังที่น่าดูชมและความหลากหลายของเหล่าปลาหลากสี จุดนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมนะค๊าา เพราะแอบไปดำน้ำดูปะการังมา สวยงามทีเดียวค่ะ

จากเกาะ 9 เราเดินทางต่ออีกนิด ก็มาถึงไฮไลท์ในวันนี้ นั่นก็คือ เกาะ 8 นั่นเองค่ะ ซึ่งเกาะ 8 เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่มาของชื่อ สิมิลัน ด้านหน้า มีชายหาดที่สวยงามและสมบูรณ์ เมื่อเราลงเรือแล้วมองด้านขวา เราจะมองเห็น หินรูปเรือใบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างของเกาะนี้ค่ะ

ถ้าหลายคนสังเกตุดีๆ ด้านบนของหินรูปเรือใบ จะมีคนยืนอยู่เต็มไปหมด

ไม่ต้องแปลกใจนะคะ เพราะบริเวณด้านบนเป็นจุดชมวิวของ เกาะ 8 นั่งเองค่ะ เดี๋ยวเราเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 10-15 นาที อิ้มจะพาทุกคนไปชมวิวสวยๆพร้อมๆกันเลยค๊าา 😀

พอเดินทางถึง ก็หายเหนื่อยทันที

วิวด้านหน้าทำให้รู้สึกว่า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ช่วงบ่ายนี้ฟ้าไม่เข้าข้างเท่าไหร่ ทะเลก็มีคลื่น ทำให้มองเห็นทรรศนีย์ภาพด้านนล่างไม่ดีเท่าที่ควร

แต่ยังไงก็ตาม ทุกอย่างที่พูดมาก็ไม่ทำให้ความสวยงามของที่นี่ลดลงเลยค่ะ

หลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนในมุมสงบ

ได้เวลาเดินทางกลับแล้วค่ะ น่าเสียดายยที่เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน

แล้วฉันจะกลับมาหาเธอใหม่นะ “สิมิลัน”

ก่อนจะจบรีวิว ขอขอบคุณ เลิฟอันดามัน และ Bangkok airways สำหรับทริปดีๆแบบนี้นะคะ

โดยรวม  มากับเลิฟอันดามัน ประทับใจไกด์มาก เพราะไกด์ดูแลอย่างเต็มที่ มีอาหารให้ทาน

อิ่มหนำสำราญจุใจ ตั้งแต่ก่อนขึ้นเรือ อาหารกลางวัน และก่อนกลับ จะมีขนมขบเคี้ยวให้ทาน

มาเที่ยวครั้งนี้ รับความประทับใจกลับไปเต็มๆเลยค่ะ

ก่อนรีวิวนี้จะจบลง  ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ  ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ พบกันใหม่ในรีวิวหน้า สวัสดีค่ะ