ชุ่มฉ่ำหัวใจไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ในดินแดนขุนเขาและสายหมอก @ ASHCARYA BOUTIQUE RESORT สวนผึ้งราชบุรี

สวัสดีค่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกท่าน
และแล้วก็เข้าหน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ เรียกได้ว่าอากาศช่วงนี้กำลังดีฝนตกเบาๆ เย็นสบาย เลยรู้สึกว่าอยากไปพักผ่อนใกล้ๆกรุงเทพสักนิด ถ้าใกล้กรุงเทพแล้วอากาศดีๆ ต้องที่นี่เลยค่ะ สวนผึ้งราชบุรี ดินแดนขุนเขาและสายหมอก ตรอกธารและทุ่งหญ้า

สวนผึ้ง เป็นจุดหมายปลายทางที่ไปได้ง่าย ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ แค่ 2-3 ชั่วโมงโดยการขับรถ ก็จะพบกับเมืองเล็กๆ ที่แสนจะโรแมนติก ปัจจุบัน สวนผึ้งมีรีสอร์ทมากมาย ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่สำคัญ สวยๆทุกที่เลยค่ะ แต่วันนี้มีอีกหนึ่งที่มาแนะนำกัน นั่นก็คือ  ASHCARYA BOUTIQUE RESORT  รีสอร์ทสุดชิค บรรยากาศดีมาก โอบล้อมไปด้วยภูเขา เงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อน ส่วนการเดินทางครั้งนี้ ขอบอกเลยว่ามีสายฝนและสายหมอก อยู่เป็นเพื่อนตลอดทริป  จะอินและฟินแค่ไหน ตามมาเที่ยวพร้อมๆกันเลยค่า 😀

ขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ  ps story ด้วยนะคะ
https://th-th.facebook.com/pspatchieestory

มาชมการเดินทางกันก่อนนะคะ

  1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
    – ทางหลวงหมายเลข 4 (เส้นถนนเพชรเกษม) ผ่านพุทธมณฑลนครชัยศรี เมืองนครปฐมเมืองราชบุรี แล้วเลี้ยวขวาแถวเขางู ผ่าน อ.จอมบึง ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 3087 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง
    – ทางหลวงหมายเลข 35 (เส้นถนนพระราม 2 – ธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เลี้ยวขวาเข้า อ.ปากท่อ ผ่านเมืองราชบุรี เขาแก่นจันทร์ แล้วแยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3208 มุ่งหน้าสู่ อ.สวนผึ้ง
    รถโดยสารประจำทาง 
    บริษัท ราชบุรี กลุ่ม 76สาย 9915 กรุงเทพฯ-จอมบึง ป.1วันละ 7 เที่ยว จากกรุงเทพฯ มีเวลา 06.20 09.00 11.00
    13.00 15.00 17.00 และ 19.00ลงที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีจากนั้น นั่งรถโดยสารต่อมายังอำเภอสวนผึ้ง โดยรถประจำทางสายจอมบึง – สวนผึ้ง (คันสีน้ำเงิน)

แผนที่ภายในสวนผึ้งค่ะ

ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/goratchaburi

เมื่อมาถึงสวนผึ้งแล้ว ก็ขอเติมพลังให้ร่างกายสักนิดกับร้านอาหารชื่อดังประจำสวนผึ้ง เรียกว่า ใครมาสวนผึ้งถ้าไม่ได้ทานถือว่ามาไม่ถึง หลายคนคงร้องอ๋อแล้วใช่ไหมคะ

แน่นอนต้องร้านนี้ค่ะ  ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำสูตรคุณยาย สวนผึ้ง ร้านเป็นชายคาหลังใหญ่โล่งโปร่งสบาย เมนูเด็ดของที่นี่คือ ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น หมูสะเต๊ะ และยังมีข้าวราดแกงสำหรับผู้ที่ไม่ชอบทานเส้น เรียกว่าครบครันสุดๆเลยนะคะ

รสชาติก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ นํ้าซุปรสจัดพอประมาณทานกับไข่มะตูมหวานมันอร่อยมาก

ถ้วยนี้ ต้องมีเบิ้ลค่ะ

ข้าวราดแกง ขอเป็นเมนูไข่พะโล้ ง่ายๆ แต่อร่อย

เติมเต็มความอร่อยให้ครบสูตรด้วย หมูสะเต๊ะเนื้อแน่นๆ กันค่ะ

อิ่มพุงกางกันแล้ว เดินทางกันต่อนะคะ ดูแผนที่ASHCARYA BOUTIQUE RESORT กันอีกครั้งค่ะ การเดินทางเข้าไปจะใช้เส้นทางเดียวกับ scenery นะคะ ASHCARYA BOUTIQUE RESORT จะอยู่ห่างจาก scenery เพียง 5 กม เท่านั้นค่ะ

ระหว่างทางก็อดไม่ได้ ที่จะแวะถ่ายรูป ที่นี่ Swiss Valley Hip Resort   ยังคงสวยงามเหมือนครั้งแรกที่มาเที่ยวสวนผึ้ง และได้เข้าพักที่นี่อีกด้วยค่ะ

ขับเลยมาอีกนิด ก็อดที่จะแวะเวียนเยี่ยมน้องแกะ ที่ scenery ไม่ได้ ขอเข้าไปเยี่ยมชมสักนิดนะคะ

ได้เวลาเข้าที่พักของเรากันแล้วค่ะASHCARYA BOUTIQUE RESORT เป็น รีสอร์ทที่เพิ่งเปิดเมื่อปลายปี 55  ถือว่ายังเป็นรีสอร์ทน้องใหม่ในสวนผึ้ง  ที่สำคัญที่นี่ บรรยากาศดีมากๆโอบล้อมด้วยทิวเขาซ้อนกัน ดูแล้วผ่อนคลายมากๆ มาถึงแล้วแวะเช็คอินสักครู่ค่ะ

ระหว่างทางเดินออกไปที่ห้องพัก มีดอกพวงโกเมน เป็นพวงระย้า สีสดบาดตา บานสะพรั่ง โชคดีที่มาเวลานี้ เพราะดอกพวงโกเมน จะออกดอกเพียงแค่ สามเดือน เท่านั้นค่ะ

เดินต่อไปอีกสักครู่ จะพบป้ายบอกเส้นทางต่างๆภายในรีสอร์ทค่ะ

Ashcarya Boutique Resort รีสอร์ทบรรยากาศสบายๆ สไตล์การตกแต่งเรียบง่าย มีสไตล์เป็นของตัวเองค่อนข้างชัดเจน คือเป็นบูติกรีสอร์ท วิลล่า แต่ละหลัง ตั้งลดหลั่นกันอยู่บนเนินเขา บริเวณโดยรอบมีสวนและต้นไม้ สร้างความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี

วิลล่าที่นี่มีเพียง 12 หลัง ทำให้รู้สึกส่วนตัว เหมาะกับการพาคนรักและครอบครัวมาพักผ่อน วิลล่าที่นี่ ประกอบไปด้วย แบบต่างๆ ดังนี้ค่ะ

Ashar (Garden view villa)

Taru (Jacuzzi type)

Bhojbhuri (Pool villa)

Tamu (4 Bedrooms)

Bajika (2 Bedrooms)

วันนี้เราเข้าพัก ในส่วนของ Jacuzzi Villa  ตัววิลล่าภายนอกจะเป็นสีเทาดำ แต่พอเปิดเข้าไปในห้อง จะตกแต่งด้วยสีดำและสีแดง ภายใน ตกแต่งสบายๆ จากประตูห้องหันด้านขวามือ จะ เป็น หันมาทางขวา เป็นเตียงนอนเดี่ยวขนาดควีนไซส์ สำหรับสองท่าน ด้านขวามือเป็นผนังกระจกใส จากมุมนี้สามารถชมทัศนียภาพภายนอกได้อย่างชัดเจน

ทางด้านซ้ายมือเป็นบานไม้ ปรับหมุนได้เพื่อ ปิด-เปิด มุมมองระหว่างเตียงนอน กับ อ่างอาบน้ำ และเป็นเส้นอาณาเขต กั้น ระหว่างส่วนห้องน้ำกับห้องนอน

มีโต๊ะทำงานที่ด้านบน เป็นหลังคาที่ส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส

เก็บของกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวพาไปชมห้องพักอีกแบบค่ะ   แบบที่จะพาไปชมนี้ เป็น Garden view villa การตกแต่งจะเป็นสีดำและแดงเช่นกัน แต่จะชัดเจนกว่าแบบ Jacuzzi Villa    แต่ขนาดห้องจะเล็กกว่า

มองจากเตียง จะเห็นโต๊ะทำงาน และด้านบนเป็นหลังคาที่ส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส  เอาไว้นั่ง นอนชมท้องฟ้า ชมเดือน ชมดาว  แต่สำหรับตอนกลางวันแดดอาจจะแรงไปสักนิด รีสอร์ทจึงนำดอกไม้ปลอมมาประดับไว้ ทำให้ดูร่มรื่นขึ้น ถือเป็นไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของวิลล่าที่นี่เลยค่ะ

เสร็จจากวิลล่าแล้ว ไปทาน ของว่างยามบ่ายกันค่ะ

เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ หันไปทางซ้าย แทบจะหยุดเคลื่อนไหว กับความสวยงามที่อยู่เบี้องหน้า ไอหมอกจางๆ นึกถึงเพลงๆนี้เลยค่ะ

หมอกจางๆและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้
อยากจะถามดู ว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน

ตรงนี้เป็น main pool ของรีสอร์ทค่ะ

ที่นี่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หันไปทางไหนมีแต่ความสดชื่น

ในส่วนของห้องอาหารค่ะ

ทานของว่างยามบ่าย กันค่ะ เริ่มเติมความสดชื่นด้วยชาเขียวapple

ปกติเราจะเคยทานเฉาก๊วยนมสด แต่ที่นี่แปลกใหม่ ด้วยเฉาก๊วยมอลต์ หอมมัน อร่อยไม่เหมือนใคร

เต้าฮวยนมสด เสิร์ฟในแก้วมาอย่างสวยงาม

มองดูนาฬิกา ผ่านมาครึ่งค่อนวันแล้ว ความสุขผ่านไปเร็วเสมอ แต่การเดินทางของเราในวันนี้ยังไม่จบง่ายๆ เวลา บ่าย 3 โมง เราจะขึ้นไป จุดชมวิวห้วยคอกหมู กันค่ะ

จุดชมวิวห้วยคอกหมู ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สูงจากระดับน้ำทะเล 867 เมตร ในฤดูแล้งอากาศเย็น ฤดูฝน ฝนตกชุก ในส่วนของฤดูหนาว อากาศค่อนข้างจะหนาวมาก อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยวัดได้ประมาณ 3 องศาเซลเซียส

เส้นทางอาจจะค่อนข้างสมบุกสมบัน กว่า 8 กิโลเมตรที่เป็นถนนลูกรัง ยิ่งหน้าฝนแบบนี้แล้ว ค่อนข้างอันตราย ไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไปเองนะคะ เพราะการเดินทางขึ้นไปนั้นค่อนข้างลำบาก แต่ไม่ยากมากมายเท่าเขากระโจม ครั้งนี้จึงขึ้น จุดชมวิวห้วยคอกหมู

กับพี่กลุ่มรักษ์เขากระโจม ซึ่งเราสามารถติดต่อผ่านรีสอร์ทได้เลยค่ะ เราขึ้นไปด้วยรถคันนี้เลยค่ะ

อากาศเย็นสบาย ลมค่อนข้างแรง ด้านบนมีแต่ไอหมอกค่ะ

เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 พื้นที่เป็นป่าไผ่ อุดมสมบูรณ์ หน้าฝนช่างชุ่มช่ำเหลือเกินค่ะ

เหนื่อยนักแวะนั่งพักหน่อยไหมคะ

อากาศเย็นสบายมากๆเลยค่ะ

จุดชมวิวห้วยคอกหมู เป็นพื้นที่ชายแดนไทยติดกับประเทศพม่า มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนระหว่างประเทศ ทางทิศตะวันตก โดยติดกับพื้นที่จังหวัดมะริด ประเทศพม่า จุดชมวิวห้วยคอกหมูเป็นพื้นที่ที่เป็นสันเขาตะนาวศรี ที่แหลมยื่นเข้าไปติดกับชายแดนของประเทศพม่า ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2539 พื้นที่ช่องทางห้วยคอกหมู จึงเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการความรับผิดชอบของตำรวจตะเวนชายแดน 137 ในการเฝ้าตรวจและควบคุม ภูมิประเทศที่สำคัญในช่องทางห้วยคอกหมู เป็นต้นมา

ในปี พ.ศ.2549 องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี ร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 137 ได้พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งทัศน์ศึกษา ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่สามารถเที่ยวชมมองเห็นภูมิทัศน์และอณาเขตประเทศไทยกับพม่า  ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกในเวลาเช้าและเย็น ได้อย่างสวยงาม และมีอากาศหนาวเย็นมากในฤดูหนาวสามารถชมทะเลหมอก ได้อย่างงดงามอีกด้วย

จุดชมวิวห้วยคอกหมู เป็นพื้นที่ชายแดนไทยติดกับประเทศพม่า มีเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนระหว่างประเทศ ทางทิศตะวันตก โดยติดกับพื้นที่จังหวัดมะริด ประเทศพม่า จุดชมวิวห้วยคอกหมูเป็นพื้นที่ที่เป็นสันเขาตะนาวศรี ที่แหลมยื่นเข้าไปติดกับชายแดนของประเทศพม่า

ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2539 พื้นที่ช่องทางห้วยคอกหมู จึงเป็นที่ตั้งฐานปฏิบัติการความรับผิดชอบของตำรวจตะเวนชายแดน 137 ในการเฝ้าตรวจและควบคุม ภูมิประเทศที่สำคัญในช่องทางห้วยคอกหมู เป็นต้นมา

ปี พ.ศ.2549 องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี ร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 137 ได้พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งทัศน์ศึกษา ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่สามารถเที่ยวชมมองเห็นภูมิทัศน์และอาณาเขตประเทศไทยกับพม่า  ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกในเวลาเช้าและเย็น ได้อย่างสวยงาม และมีอากาศหนาวเย็นมากในฤดูหนาวสามารถชมทะเลหมอก ได้อย่าง งดงามอีกด้วย

ได้เวลาเดินทางกลับแล้วค่ะ ลืมบอกไปว่า ด้านบนนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะคะ

สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอด ก่อนกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อทานอาหารเย็นค่ะ

กลับมาถึงรีสอร์ทในช่วงเย็น เย็นนี้เราทาน dinner ที่รีสอร์ท มื้อนี้เป็นบาร์บีคิวค่ะ

เพิ่มข้าวผัดปูอีกจานนะคะ

เขียวหวานทะเลผัดแห้งราดบนไข่เจียว กรอบๆ

อิ่มท้องกันแล้ว เดี๋ยวเราไปชมห้องพักในเวลาค่ำคืนกันบ้างดีกว่าค่ะ ค่ำคืนที่นี่สวยงามมาก

ฝนตกปรอยๆ ชุ่มช่ำหัวใจจริงๆค่ะ

ชมบรรยากาศรอบๆนะคะ รู้สึกเหมือนร่างกายถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา

ถ้าอากาศดี เราคงจะมองเห็นดวงดาวได้อย่างชัดเจน

แต่ถึงไม่เห็นดวงดาวก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอากาศแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นได้ไม่น้อยเลยค่ะ

จะให้ดีต้องหาอะไรดื่มกันสักหน่อยนะคะ

ข้อดีของที่นี่อีกอย่างหนึ่งก็คือการที่มีบาร์และ cocktail อร่อยๆให้เราทานอีกด้วยค่ะ  ขอนอนพักเอาแรงเพื่อลุยต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยน้ำส้มกับนมอุ่นๆสักแก้วนะคะ

มื้อเช้าถ้าเป็นวันธรรมดา ทางรีสอร์ทจะจัดเสิร์ฟอาหารแบบนี้เลยค่ะ

ที่เห็นในหม้อเป็นข้าวต้มเห็ดหอม อร่อยมากๆเลยค่ะ

สลัดสดๆค่า

จะเป็นซีเรียลก็มีนะคะ จะเติมความอร่อยกับนม หรือโยเกิร์ต ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ

ข้าวต้มเห็ดหอมสุดอร่อย  อิ่มท้องแล้ว พักผ่อนสักแป๊ป ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วค่ะ

เผลอแป๊ปเดียวดูนาฬิกาจวนเจียนจะเที่ยง แวะไปทานข้าวที่ครัวม่อนไข่กันต่อนะคะ

ร้านอาหารครัวม่อนไข่ ซึ่งเป็นร้านที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้เคยมาเที่ยว ณ อำเภอสวนผึ้ง ของจังหวัดราชบุรีแห่งนี้  เพราะความอร่อยของเค้ามีชื่อมายาวนานกว่า 20 ปี เลยทีเดียวค่ะ แต่เดิมจากร้านอาหารเล็กๆ จนมาถึงปัจจุบันได้ขยายพื้นที่รับรองลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น ร้านกว้างขวางขึ้นแยะ แต่ก็ยังเห็นว่าไม่เพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดยาวหรือเสาร์-อาทิตย์แล้วหล่ะก็แน่นตลอด เป็นต้องโทรจองโต๊ะล่วงหน้ากันเลยทีเดียวนะคะ ไม่รอช้าสั่งอาหารมาเลยดีกว่าค่ะ

จานแรก พระเอกของร้านใครมาก็ต้องสั่ง ยำผักกูดทรงเครื่อง ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ รสชาติผักกูดกรุบกรอบ อร่อย เผ็ด เปรี้ยว หวาน กลมกล่อมกำลังดีอร่อยมากๆเลยค่ะ

 เห็ดโคนญี่ปุ่นน้ำมันหอย รสชาติดีที่ไม่ควรพลาด ด้วยความสดของเห็ดและฝีมือการปรุงแล้ว อร่อยเลิศค่ะ

ลาบไข่ต้ม  รสชาติมาแรง อร่อยง่ายๆ ไม่ซ้ำใคร

ต้มยำปลาคังน้ำใส  ซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอทีเดียวค่ะ

สุดท้าย ปลาคังผัดฉ่า รสชาติโดนใจทุกจานเลยค่ะ

จานนี้เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ ข้าวผัดขมิ้น ค่ะ

ยังๆๆ  ทริปนี้ยังไม่จบนะคะ ไปเดินย่อยพุงกันต่อที่ Veneto กันค่ะ

 ตลาดน้ำสวนผึ้ง หรือชื่อโครงการภาษาอังกฤษว่า Veneto เป็นสถานที่ชอปปิ้ง ถ่ายรูปแห่งใหม่ของสวนผึ้ง ท่ามกลางบรรยากาศวิวภูเขา และทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 20 ไร่ มีร้านค้าขายของกว่า 50 ร้าน รูปแบบของตลาดน้ำสวนผึ้ง หรือ ตลาดน้ำ Veneto จะจำลองบรรยากาศมาจากเมือง Venice ประเทศอิตาลี และผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแนวกรีซโบราณ แบบ Santorini ถ้าใครได้เคยไป Santorini หัวหิน จะนึกออกเลยว่าใช้โทนสี ฟ้า – ขาว แต่บรรยากาศที่นี่ไม่เหมือนกันนะคะ เพราะที่นี่อยู่ท่ามกลางขุนเขาถ้ามาช่วงหน้าหนาวนี่คงโรแมนติกไม่เบาเลยค่ะ

การเข้าชมในตลาดน้ำสวนผึ้งต้องซื้อบัตรเข้าชมนะคะ ราคา 50 บาท / คน

และผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปสามารถเข้าชมได้ฟรีค่ะ

เข้ามาแล้วจะเห็นร้าน ร้านรฤกถึงสวนผึ้ง จำหน่ายเสื้อยืด ของที่ระลึกทั่วไป

มุมเล็กๆน่ารักเหมาะสำหรับสาวๆ ไว้ถ่ายรูปฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง

มุมไฮไลต์ของตลาดน้ำสวนผึ้ง อยู่ที่ทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 20 ไร่ มีวิวภูเขาเป็นฉากหลัง สวยงามมาก ต้นไม้ก็ดูเขียว สดชื่นสบายตา แต่เสียดายวันนี้อากาศครึ้มไปหน่อยค่ะ

อีก โซนนึงที่เพิ่งเปิดสดๆใหม่ๆร้อนๆ นั่นก็คือ Veneto flower land เป็นสวนดอกไม้เล็กๆ

ราคาเข้าชม ท่านละ 10 บาทค่ะ

แต่ดอกไม้ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ หน้าหนาวปีนี้น่าจะโตทันค่ะ

ก่อนจากกันวันนี้ทิ้งท้ายด้วยภาพกระต่ายน้อยแสนน่ารัก มีให้ชมใน Veneto flower land แห่งนี้ด้วยนะคะ

สุดท้าย ข้อสรุปข้อดีข้อเสีย ของ ที่นี่กันค่ะข้อดี
1. เป็นรีสอร์ทบรรยากาศดีมาก เรื่องวิวที่นี่โดดเด่นมากๆเลยค่ะ
2. อาหารอร่อย พนักงานดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
3. สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน
4. ภายในรีสอร์ทร่มรื่น คงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ดี

ข้อเสีย

1 ภายในห้องพัก ในส่วนของห้องน้ำ ด้านบนโปร่ง ตอนกลางคืน อาจจะรู้สึกโล่ง ใบไม้ร่วงลงตลอด และเวลาฝนตกน้ำฝนก็สาดเข้ามาได้ค่ะ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ ที่พักสวยๆ ASHCARYA BOUTIQUE RESORT ประทับใจในบรรยากาศ มีโอกาสจะกลับไปเยือนอีกแน่นอนคะ
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง  ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ  ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์กันเยอะๆน้าค้า

แล้วพบกันใหม่สำหรับรีวิวหน้า ของ ps story  ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง สวัสดีค่ะ

59 thoughts on “ชุ่มฉ่ำหัวใจไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ในดินแดนขุนเขาและสายหมอก @ ASHCARYA BOUTIQUE RESORT สวนผึ้งราชบุรี

    1. ที่นี่อากาศดี บรรยากาศดีมากๆด้วยค่ะ วันไหนว่างๆ แวะไปพักผ่อนชาร์ตแบตร่างกายสักคืนสองคืน รับรองกลับมาสดชื่น พร้อมลุยงานต่อได้เลยค่ะ ขอบคุณที่แวะมาชมนะคะ 😀

      ถูกใจ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s