สวัสดีค่า พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกท่าน
วันนี้ ps story จะเปลี่ยนแนวพาทุกท่านมาทานอาหารกันบ้างจ้า หลายๆคนคงมีอาหารที่ชอบอยู่ในใจกันอยู่แล้วหลากคน ก็หลากสไตล์ แต่วันนี้รู้สึกว่าอยากทานอาหารไทย บรรยากาศชิลๆ ขึ้นมา ก็นึกถึงร้านนี้พอดีเลย ร้านนี้มีชื่อเก๋ๆ ว่า steve cafe & cuisine in town ร้านนี้มีถึงสองสาขาด้วยกันค่ะ สาขาแรกตั้งอยู่ที่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่วันนี้จะพามาชิมอีกหนึ่งสาขาค่ะ สาขานี้เป็นสาขาใหม่ ตั้งอยู่ในซอยราชครู จะอร่อยแค่ไหน ตามมาชิมพร้อมๆกันเลยค๊าาา
ขอฝากอีกหนึ่งช่องทางในการร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว บ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของ ps story
https://th-th.facebook.com/pspatchieestory
การเดินทางที่นี่สะดวก สบายมากๆเลยค่า เพราะเดินทางได้หลากหลายช่องทาง
มาโดย BTS รถไฟฟ้า
ถ้าเดินทางมาโดยรถไฟฟ้า ให้ท่านลงที่สถานี อารีย์ แล้วเดินย้อนมาตรงซอยพหลโยธิน 5 แล้วเดินตรงเข้ามาประมาณ 100 เมตรจนเจอทางสามแยก แล้วเลี้ยงซ้าย เดินมาอีกประมาณ 20 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือของท่าน ซึ่งร้านเราแบ่งออกเป็นสองโซนคือ โซนล่างติดริมถนนซอย และชั้น 2 บนร้านอาหารญี่ปุ่น
มาโดยขับรถมาเอง
ถ้าขับรถเข้ามาทางถนนริมคลองประปาให้ท่านขับตรงผ่าน กระทรวงการคลัง แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนสุดทาง จะเป็นทางสามแยก ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นซอยราชครู แต่ให้ท่านเลี้ยวซ้าย ขับมาประมาณ 70 เมตรจะเห็นโรงเรียนสวนบัวซ้ายมือและตู้ไปรษณีย์สีแดงตั้งอยู่ ถัดมาคือประตูทางเข้าร้านครับ ท่านสามารถเลี้ยวเข้าไปจอดในบ้านได้เลย หรือถ้าที่จอดเต็ม ให้ท่านขับตรงไปเลี้ยวขวาตรงสามแยก ออกถนนใหญ่พหลโยธิน แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปเลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน ซอย 7 แล้วตรงเข้ามา 10 เมตรให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยอารีย์ 1 แล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จนเกือบถึงทางสามแยก ท่านสามารถจอดริมถนนในซอยอารีย์ 1 ได้เลย แล้วเดินมาที่ร้านอีกนิดค่ะ
ถ้าท่านขับมาทางถนนพหลโยธิน ให้ท่านเข้าซอย พหลโยธิน 5 แล้วขับตรงมาจนสุดทางสามแยก แล้วให้เลี้ยวซ้ายมาประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ขวามือของท่าน ซึ่งร้านเราแบ่งออกเป็นสองโซนคือ โซนล่างติดริมถนนซอย และชั้น 2 บนร้านอาหารญี่ปุ่น ท่านสามารถเลี้ยวเข้าไปจอดในบ้านได้เลยหรือถ้าที่จอดเต็ม ให้ท่านขับตรงไปซอยราชครู ท่านสามารถจอดริมถนนในซอยราชครู ได้เลย แล้วเดินมาที่ร้านอีกนิดจ้า
ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก เว็ปไซด์ทางร้านด้วยค่า http://www.stevecafeandcuisine.com
เดินทางมาถึงที่ร้านพอดีร้านเปิดเลยค่า แต่ไปถึงก็เริ่มมีแขกมาทานกันแล้ว
เวลาเปิด ปิด บริการ ดังนี้เลยค่า
จันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 14.30 และ 16.30 – 23.00 น. เปิดสองช่วงเวลาค่ะ
และ เสาร์-อาทิตย์ 11.00- 23.00 น.
ร้านนี้มีที่นั่ง แบ่งออกเป็นสามโซนด้วยกัน
1. โซนริมถนน ซึ่งจริงๆแล้วเหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุมาทานด้วยจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นบันได ค่ะ เพื่อความปลอดภัย แต่แขกบางท่านก็มักจะเลือกนั่งโซนนี้เพราะ ติดถนน ตกแต่งเก๋ไก๋ และสามารถ จัดเป็นมุมครอบครัวที่มาทานกันหลายๆคน สะดวกมากเลยค่ะ สำหรับโซนนี้
มาโซนที่ 2 กันค่ะ โซนที่สอง จะตั้งอยู่ที่ชั้นสอง ของอาคาร ภายในตกแต่งโปรงโล่งสบาย มีมุมตกแต่งน่ารักเก๋ไก๋ มุมนี้เหมาะกับ กลุ่มเพื่อน มานั่งคุยงานและทานอาหารไปด้วย จ้า
ในร้านมีไวน์ให้เลือกทานด้วยน้าค้า
เดี๋ยวเดินขึ้นไปดูชั้นสามกันค่า ชั้นสามนี่ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะเหมาะกับวัยรุ่น อย่าง จขกท เป็นที่สุด อิอิ แต่เสียดายกลางวันจะร้อนไปนิดค่ะ
แต่ถ้าช่วงเย็นมานั่งชิลกับกลุ่มเพื่อนๆ รับรองโดนใจแน่ค๊าาา
ก่อนจะมาดูเมนู เรามาทำความรู้จักร้านอาหารร้านนี้อีกสักนิดน้าค้า
ร้าน Steve Café & Cuisine เป็นลักษณะร้านอาหารไทยในแนวครอบครัว (Home Made) เหมือนท่านนั่งทานอาหารอยู่ที่บ้านโดยมีคุณแม่ หรือ คุณยาย ทำให้ทาน ซึ่งการบริการจะ ไม่ได้เริ่ดหรูเหมือนโรงแรม หรือร้านอาหารดังๆทั่วไป ทานอาหารที่นี่จะรู้สึกสบายๆ เหมือนทานอยู่ที่บ้านจริงๆค่ะ
อาหารทั้งหมดจะเป็นอาหารไทย รสจัดจ้านมากๆ เน้น จัดจ้านจริงๆค่ะ ทำด้วยคนไทย ซึ่งแม่ครัวใหญ่ที่นี่อายุมากแล้วค่ะ ดังนั้น รสชาติอาหารจึงดั้งเดิมมากๆ ไทยแท้สุดๆ ตอนไปทานแอบคิดถึงคุณย่าเหมือนกัน เพราะสมัยเด็ก ท่านจะทำอาหารสไตล์นี้ให้ทานตลอด แต่พอคุณย่าเสียไป แทบไม่ได้ทานอาหารรสชาติแบบนี้อีกเลยค่ะ โชคดีที่ได้มาเจอร้านนี้ แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ทานอาหารเผ็ดอยู่แล้ว ตอนแรกก็กังวลว่าจะทานได้รึเปล่า
เพราะที่นี่จะทำอาหารโดยที่ เป็นรสชาติเดิมๆ ถึงฝรั่งจะมาทานก็จะได้รับรสชาติแท้ๆกลับไป เพราะทางร้านอยากให้ได้รับรู้ถึงรสชาติ อาหารจริงๆ โดยที่ไม่ต้องทำรสชาติอ่อนๆ ซึ่งข้อนี้โดนเป็นอย่างมากค่ะ เพราะบางทีไปทานที่อื่น มันรู้สึกว่าไม่ถึงเครื่อง งานนี้เผ็ดก็สู้ค่ะ
มาเปิดเมนูไปพร้อมกันเลยจ้า
เริ่มกันที่จานแรกค๊าา ถ้วยนี้มีชื่อว่า “ใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด” ไม่ได้ทานกุ้งเหมือนเดิม แต่ชิมใบเหลียง ว้าววววๆๆๆๆ อร่อยเหาะเลยค่ะ ปกติไม่ค่อยได้ทานอาหารไทยแท้ๆแบบนี้ หาทานยากมากๆ เพราะใบเหลียง นำมาจากชุมพรเลยค๊าา
จานต่อมาค่าเป็นเมนูที่มีชื่อว่า “ปลากระพงสองน้ำ” ทีเด็ดจานนี้อยู่ที่ด้านนึงเป็นทอดกระเทียม ส่วนอีกด้านเป็นยำ รสชาติจัดข้านแซ่รบเวอร์มากๆจ้า
ต่อมาติดๆๆ กับจานต่อมาค่ะ “ยำส้มโอ” จะบอกว่าต้องมาลองน๊ะค๊ะ หน้าตาธรรมดา และรสชาติไม่ธรรมดาเลยสักนิด ด้วยความเปรี้ยวๆหวานพอดีๆ ของส้มโอ บวกกับความหอมของมะนาว กัดไปมีแต่ความกรุบกรับ ของถั่วฝักยาวหั่นซอย และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เข้ากันมั่กมาก จานนี้โดนอีกแล้วค๊า
มาถึงร้านอาหารไทย ก็ต้องมีน้ำพริก เป็นของคู่กัน วันนี้เลือกเป็น “น้ำพริกลงเรือ” จ้าา รสชาติ ไม่ต้องพูดถึง อร่อยค่ะ ทานคู่กับผัดสด เข้ากั๊นน เข้ากัน
อ๋อๆๆๆๆ ขาดอีกหนึ่งอย่างที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่กันเลย
“แกงเหลืองไหลบัวปลากะพง” ค๊าา ถ้วยนี้บอกเลยว่าเผ็ดมาก แต่อร่อยมากเช่นกันค่า กินไปซับเหงื่อไป 5555
เผ็ดๆๆๆๆๆ มาทานของหวานกันดีกว่าค่า เป็นไอศกรีม โยเกิร์ตบลูเบอร์รี่ กับไอศกรีมทีรามิสุค่า
บทสรุปโดยรวมของที่ร้านค่ะ
ข้อดี
1 อาหารอร่อย รสชาติจัดจ้าน ถูกปากมากเลยค่ะ
2 อาหารมีการนำเอาเมนูมาประยุกต์ใช้ มีเมนูให้เลือกหลากหลายดีค่ะ
3 ร้านมีที่นั่งให้เลือกหลายโซน
4 ที่นี่เหมาะกับมานั่งชิลยามเย็นด้วยค่ะ เพราะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้บริการ
ข้อเสีย
1 มีที่จอดรถค่อนข้างน้อย แต่พื้นที่ด้านนอกสามารถจอดได้ แต่ต้องถามทางร้านดูก่อนค่ะ
2 ที่นั่งด้านบน ช่วงกลางวันจะอากาศร้อน
3. น่าเสียดายที่วันธรรมดาเปิด สองช่วงเวลาค่ะ น่าจะเปิด ยาวๆไปเลย
ก่อนรีวิวนี้จะจบลง ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนมาถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกไลค์ ขอบคุณทุกแชร์ เป็นกำลังใจที่ดีในการทำรีวิวมากเลยค่ะ ถ้าชอบก็ฝากกดไลค์กดแชร์กันเยอะๆน้าค้า
แล้วพบกันใหม่สำหรับรีวิวหน้า ของ ps story ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง สวัสดีค่า